ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 48
บทที่ 48
ไม่นานนัก หลี่เสว่ยังพอใจสร้อยที่ใช้เพชรมรกตเป็นหลักเส้นหนึ่ง ทั้งเส้นก็มีแค่เพชรมรกตเพียงเม็ดเดียว รอบๆ แต่งด้วยโลหะฝังเพชรเม็ดละเอียด ดูใจกว้างทั้งยังสวยมีระดับ
แต่เมื่อเหลือบไปเห็นราคาอีก “หนึ่งแสนแปดหมื่นแปดพัน! นี่……”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินเสียง ก็หันไปมอง อันนี้ก็ไม่เลวเลย แล้วก็เหมาะกับนิสัยของหลิวจื่อหยุนด้วย ก็พูดกับพนักงานขาย “เอาอันนี้แหละ ใส่กล่องเลยครับ!”
“ได้ค่ะ คุณผู้ชาย” พนักงานขายเองก็ตะลึงเล็กน้อย เพราะดูพวกเขาสวมใส่เสื้อผ้าเหมือนคนธรรมดา ไม่คิดเลยว่าจะตัดสินใจซื้ออย่างตรงไปตรงมาขนาดนี้
ต้องรู้ว่า มรกตถูกเรียกว่าเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดอัญมณี ราคาก็ต้องไม่ต่ำอย่างแน่นอน ชิ้นนี้ที่ไป๋ยี่เฟยซื้อ เป็นมรกตจากธรรมชาติที่ค่อนข้างบริสุทธิ์พอดี มีเพียงแค่สองกะรัต ก็ราคาแสนกว่าแล้ว
หลี่เสว่รีบรั้งไป๋ยี่เฟยไว้ พูดเสียงเบา “เดี๋ยวก่อนค่ะ อันนี้ไม่แพงไปหรือ?”
ไป๋ยี่เฟยเห็นหลี่เสว่ทำท่าทีกังวล กล่าว “ไม่เป็นไร แค่แสนกว่าๆ เอง เชื่อสิว่าแม่ต้องชอบแน่ๆ”
“แต่ว่า….”
หลี่เสว่โตขนาดนี้ยังไม่เคยซื้อเครื่องเพชรแพงขนาดนี้มาก่อน ราคาพันกว่าสำหรับเธอก็นับว่าแพงแล้ว
“เสว่เอ๋อ อยากลองสวมเส้นนั้นไหม?” ไป๋ยี่เฟยรีบพูดเปลี่ยนเรื่อง
หลี่เสว่มองตามไป เป็นชุดที่เธอเพิ่งดูไปเมื่อกี้ ในใจก็รู้สึกจั๊กจี้เล็กหน้อย แค่ลองคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง?
“ค่ะ”
ไป๋ยี่เฟยพูดกับพนักงานขาย “พวกเราอยากลองอันนี้”
“ได้ค่ะ คุณผู้ชาย” พนักงานขายยิ้มแล้วเอาเครื่องประดับออกมา แล้วสวมให้หลี่เสว่ทีละชิ้นทีละชิ้น
เพชรพลอยคู่กับสาวงาม ชั่วขณะ ไป๋ยี่เฟยก็มองเหม่อเล็กน้อย
“เป็นยังไงบ้าง?” หลี่เสว่เอ่ยถามด้วยความกระวนกระวาย
ไป๋ยี่เฟยดึงสติกลับมา พยักหน้าไม่หยุด “ดูดี ภรรยาฉันดูดีที่สุด!”
หลี่เสว่อดขำไม่ได้ หันไปมองกระจกอยู่หลายที เหมือนกับจะจดจำมันไว้ในสมองลึกๆ
ตอนนี้หลี่เสว่ชื่นชมจนพอใจแล้ว พอถอดออกอย่างอาลัยเล็กน้อย ก็ได้ยินไป๋ยี่เฟยกล่าว “ชุดนี้ก็เอาครับ”
“นี่………” หลี่เสว่ที่อยู่ข้างๆ งงงันเล็กน้อย
มองหลี่เสว่ที่กำลังงงงวยอยู่ ไป๋ยี่เฟยรู้สึกตลกขบขัน “เป็นอะไรไป? ไม่ชอบเหรอ?”
หลี่เสว่ส่ายหัว “ชอบค่ะ…แต่ว่า นี่ นี่มันแพงไปหรือเปล่า?”
เธอชอบมากจริงๆ แต่ไป๋ยี่เฟยซื้อสร้อยแสนแพงเส้นนั้นให้แม่ไปแล้ว แล้วซื้ออีกชุดให้ตัวเองอีก แพงเกินไปจริงๆ
ไป๋ยี่เฟยมองเธออย่างไม่เข้าใจ “ยังโอเค ไม่แพง”
กลางใจหลี่เสว่สั่นคลอนเล็กน้อย คิดอยู่ครู่ ก็ยังกล่าว “ช่างมันเถอะ! ฉันไม่ได้ชอบมันเท่าไหร่”
สิ้นเสียง ไป๋ยี่เฟยก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าหลี่เสว่เธอชอบหรือไม่ชอบกันแน่
พนักงานขายที่เห็นสถานการณ์ก็พูดขึ้น “คุณผู้ชาย คุณผู้หญิงท่านนี้ชอบอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ! เพียงแต่ว่ากลัวท่านใช้จ่ายสิ้นเปลืองเกินไปเท่านั้น ช่างใส่ใจจริงๆ เลยค่ะ!”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินก็เข้าใจในทันที โบกมือไปตรงๆ “งั้นใส่กล่องเลยครับ”
ขณะเดียวกัน ก็มีคนสองคนเดินเข้ามา เป็นคู่ชายหญิง ผู้ชายสวมชุดสูทราคาแพง ส่วนผู้หญิงก็สวมชุดกระโปรงเข้ารูปเซ็กซี่ แต่งหน้าจัดทั้งยังสวยเพริศพริ้ง ดูยั่วยวนเป็นอย่างยิ่ง
หญิงสาวเดินมาที่ตู้โชว์ ถามพนักงานขาย “สร้อยทำอะความารีนที่ฉันมาดูตอนนั้นยังอยู่หรือเปล่า?”
เพิ่งพูดจบ หญิงสาวก็เห็นเครื่องประดับชุดนั้นพอดี “ยังอยู่ งั้นรบกวนคุณห่อให้ที ฉันซื้อเลย”
พนักงานขายลำบากใจเล็กน้อย “นี่….”
ไป๋ยี่เฟยมองด้วยสองตา “ขอโทษทีครับ ชุดนี้พวกเราจะซื้อก่อนแล้ว”
“คุณเป็นใครน่ะ?” หญิงสาวพูดเสียงหวีดแหลมเล็กน้อย “ชุดนี้ฉันชอบก่อนชัดๆ ก่อนหน้านี้ฉันก็เคยมา แล้วก็บอกเขาให้เก็บไว้ให้ฉัน!”
“คุณยังไม่จ่ายเงินก็ไม่นับว่าเป็นของคุณ” ไป๋ยี่เฟยเอ่ยเสียงเรียบ
“ชิ!” หญิงสาวไม่สนใจ “เรื่องเงินนั่นเป็นเรื่องไม่ช้าก็เร็ว คุณพูดอะไรก็ฟังไม่ขึ้นทั้งนั้น! สร้อยเส้นนี้เป็นของฉัน!”
หลี่เสว่ที่เห็นเหตุการณ์ขมวดคิ้ว ถึงเธอจะรู้สึกว่าไป๋ยี่เฟยไม่ควรจ่ายเงินซื้ออะไรแพงแบบนี้ แต่ผู้หญิงคนนี้ก็ช่างไร้เหตุผลเกินไปแล้ว
“ถ้ายังไม่ได้จ่ายเงิน ใครก็สามารถซื้อได้ คุณมีสิทธิอะไรบอกว่านี่เป็นของคุณ?”
หญิงสาวได้ยินก็มองหลี่เสว่ “ไม่ใช่ของฉันแล้วเป็นของคุณอย่างนั้นหรือ? คุณซื้อไหวหรือเปล่าล่ะ?”
นิสัยของหลี่เสว่และไป๋ยี่เฟยค่อนข้างเงียบๆ ถึงตอนนี้ตำแหน่งจะไม่ธรรมดาแล้ว ก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ว่าต้องใส่เสื้อผ้าแบรนด์อะไร
ดังนั้นเมื่อหญิงสาวมอง ก็นึกว่าทั้งสองคนแค่มาดูเฉยๆ ไม่มีเงินมาซื้อ
ตอนนี้ ชายคนนั้นมองหลี่เสว่และไป๋ยี่เฟยอย่างไม่สบายใจนัก ในใจงงงวย เหมือนกับคุ้นตาเล็กน้อย ครู่หนึ่งก็ยังนึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหนมาก่อน
“เจียวเจียว อย่ามัวพูดอะไรไร้สาระกับเขาเลย รีบซื้อเถอะ ตอนดึกฉันจองร้านอาหารไว้”
“รู้แล้วค่ะ ที่รัก” หญิงสาวยิ้ม พูดกับพนักงานขาย “รบกวนใส่กล่องให้ฉันหน่อยนะ”
ไป๋ยี่เฟยเห็นก็ดึงตัวหลี่เสว่ไว้ ปกป้องไว้ด้านหลังตัวเอง “ใครบอกว่าฉันซื้อไม่ไหว? พวกเรามาก่อน คุณไม่ได้จ่ายเงิน ฉันก็ซื้อได้”
พูดจบไป๋ยี่เฟยก็ควักบัตรคิงออกมา “รูดบัตร”
พนักงานขายลำบากใจมากจริงๆ ชายและหญิงคนนี้เธอพอนึกออกนิดหน่อย เหมือนว่าเป็นผู้จัดการใหญ่อะไรสักอย่าง ทำให้ไม่พอใจไม่ได้ แต่ไป๋ยี่เฟยสองคนนี้ เธอไม่เคยเจอมาก่อน แต่จะพูดยังไงพวกเขาก็เป็นลูกค้า และก็มาก่อนจริงๆ เผชิญหน้ากับลูกค้าจะทำตัวไร้เหตุผลขนาดนี้ก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?
เมื่อเห็นพนักงานขายลำบากใจ ผู้หญิงคนนั้นก็พูดเสียงแหลม “คุณหมายความว่ายังไง? ก่อนหน้านี้ฉันบอกแล้วไงว่าอีกสองวันฉันจะมาอีกรอบ ร้านคุณไม่มีความน่าเชื่อถือขนาดนี้เลย?”
พูดจบ หัวข้อสนทนาก็เปลี่ยนไปที่ไป๋ยี่เฟย มองบัตรที่ไม่รู้จัก “นี่บัตรอะไรเนี่ย? ตอแหลหรือไง?”
ด้วยเหตุฉะนี้ หลี่เสว่ที่อยู่ข้างๆ โกรธจัด เธออยากออกไปเจรจาด้วย แต่กลับถูกไป๋ยี่เฟยรั้งไว้
“ช่างโง่เขลา แม้แต่บัตรนี้ยังไม่รู้? ก็ใช่ บัตรชนิดนี้ไม่ใช่ชนิดที่คุณระดับพวกคุณจะสามารถรู้จักได้”
“คุณพูดอะไร? พวกเราระดับไหน คุณระดับไหน? สวมชุดขายตามแผงลอยอย่างกับพวกบ้านนอกล่ะสิ! เอาบัตรออกมาแล้วก็มาแกล้งทำที่นี่!”
ผู้ชายเห็นดังนั้นก็กวาดตามองไป๋ยี่เฟยด้วยสายตาดูหมิ่น บัตรนั้นเขาก็ไม่เคยเจอเหมือนกัน ก็เลยไม่ได้ใส่ใจ
“ที่แบบนี้ไม่ใช่ที่ที่พวกคุณควรมา”
ไป๋ยี่เฟยหัวเราะเบาๆ เล็กน้อย “คำพูดนี้ฉันขอคืนให้พวกคุณทุกประการเลย”
หญิงสาวได้ยินก็หน้าครึ้ม “เหอะ คนบ้านนอกจนๆ ยังมีหน้ามาพูดคำนี้หรือ?”
“พวกคุณที่นี่ทำงานกันยังไง? ทำไมยังให้คนพวกนี้ขึ้นมาได้?” ผู้ชายหันไปทำให้พนักงานขายลำบากใจ
จริงๆ แล้วพนักงานขายไร้คำจะพูดมาก มีความทรงจำไม่ดีนักเกี่ยวกับสองคนนี้
“คุณผู้ชาย ที่นี่สามารถเข้าออกได้อย่างอิสระค่ะ”
ที่นี่คือห้างสรรพสินค้า มีใครกำหนัดด้วยหรือว่าคนแบบไหนเข้าไม่ได้? คนแบบไหนเข้าได้?
ผู้ชายสีหน้าแข็งทื่อ ไม่พูดอะไรแล้ว
ผู้หญิงกลับพูดขึ้นว่า “ข้าออกได้อิสระ แต่พวกคุณทำธุรกิจกันไม่เป็นเสียเลย รู้ๆ อยู่ว่าพวกบ้านนอกสองคนนี้ซื้อไม่ไหว ยังจะมาเสียเวลาที่นี่อยู่อีก!”
หลี่เสว่ทนไม่ไหวแล้ว พูดด้วยความโกรธ: “ใครบอกว่าฉันซื้อไม่ไหว? สามี พวกเราซื้อเลย!”
ไป๋ยี่เฟยส่งบัตรยื่นตรงไปอย่างแน่นอนอยู่แล้ว “รูดบัตร แล้วมรกตเมื่อกี้ด้วย จ่ายพร้อมกัน”
พนักงานขายเห็นดังนั้นก็ลังเลครู่หนึ่ง กัดฟัน ยื่นแขนออกไปรับบัตรมา “ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะคุณผู้ชาย”
ทัศนคติของสองคนนี้แย่เกินไป พนักงานขายเองก็ไม่ได้มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ แล้วมามองสองท่านนี้ ทั้งทัศนคติและนิสัยก็ดีมากๆ ไม่แน่อาจจะน่ายกย่องกว่าสองคนนี้อีก
ผู้หญิงและผู้ชายล้วนชะงักนิ่ง
พวกเขาก็เป็นลูกค้าประจำ ตามหลักแล้วพนักงานขายก็ควรรู้จักพวกเขาด้วย แต่ตอนนี้กลับหักหน้าพวกเขาเสียแล้ว!
“ฉันก็อยากจะรู้นัก ว่าบัตรของคุณคืออะไร?” ผู้หญิงดึงสติกลับมาได้ก็พูดขึ้นอย่างไม่สนใจ
ผู้ชายร้องเหอะเบาๆ กล่าว: “เจียวเจียว คุณชอบอันไหนอีกหรือ? ฉันซื้อให้คุณทั้งหมดเลย”
“ที่รักคะ ก็เค้าอยากได้แบบนั้นนี่~” ผู้หญิงพูดเสียงออดอ้อน
ผู้ชายโอบเอวของผู้หญิง ยิ้มกล่าว: “ครับ คุณอยากได้อะไรฉันจะซื้อให้หมด”