ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 503
บทที่ 503
“บัตรเชิญ?บัตรเชิญอะไร?” หลี่เสว่วางบัตรเชิญลง เปิดอ่านเสร็จก็อ้าปากค้าง “การเลือกตั้งประธานสหพันธ์ธุรกิจ”
จางหรงพยักหน้าหงึกๆ เขาก็ไม่ได้จงใจจะเปิดดู ตะลึงไปชั่วขณะ รีบหุบปากลง เขาอยู่ในเมืองเทียนเป่ยมานาน ก็ต้องรู้ถึงฐานะและตำแหน่งประธานสหพันธ์นี้
เพียงแต่คิดไม่ถึงว่า หลี่เสว่จะถูกเชิญให้ลงเลือกตั้งในสหพันธ์ธุรกิจครั้งนี้ ซึ่งเป็นเรื่องแทบไม่น่าเชื่อเลย
บริษัทฝูรุ่ยของพวกเขาเป็นแค่บริษัทเล็กๆ ไม่มีคุณสมบัติในการลงเลือกตั้งหรอก ในเมื่อปัญหามาแล้ว บัตรเชิญใบนี้ใครเป็นคนให้หลี่เสว่กัน?
หลี่เสว่ก็คิดถึงปัญหาข้อนี้ เธอก็รู้จากไป๋ยี่เฟยว่าแต่ละมณฑลก็มีสหพันธ์ธุรกิจของตัวเอง และสหพันธ์ก็เหนือกว่าองค์กรทุกองค์กร
ดังนั้นประธานสหพันธ์ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
“นี่……ส่งผิดเหรอเปล่า?” หลี่เสว่กะพริบตาปริบๆ ไม่ค่อยจะเชื่อ
จางหรงส่ายหน้า “นี่ส่งให้ประธานหลี่จริงๆ ยังเจาะจงหมายเหตุไว้ว่า ต้องมอบให้กับผู้จัดการใหญ่หลี่”
หลี่เสว่ก็ยิ่งสงสัย “ฉันจะมีคุณสมบัติไปลงเลือกตั้งได้อย่างไร?”
จางหรงอยากพยักหน้าคล้อยตาม แต่ก็เปล่า เพียงแต่แนะนำว่า: “หรือผู้จัดการใหญ่หลี่จะลอง คิดดู?”
หลี่เสว่ขมวดคิ้ว “ฉันรู้แล้ว คุณไปทำงานเถอะ!”
“ครับผม ผู้จัดการใหญ่หลี่” จางหรงมองดูหลี่เสว่ ไม่รู้ว่าหลี่เสว่ตัดสินใจว่าไป หรือไม่ไป?
แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาเป็นห่วง เขางานของตัวเองให้ดี มีเงินใช้ก็พอ
หลี่เสว่มองดูบัตรเชิญแล้วก็จมเข้าสู่ห้วงความคิด……
……
หัวค่ำ หลี่เสว่กับไป๋ยี่เฟยรับประทานมื้อเย็นด้วยกัน พอกลับมาที่ห้อง หลี่เสว่ก็พูดกับไป๋ยี่เฟยว่า: “ที่รัก ฉัน……มีเรื่องอยากจะบอกคุณ”
ไป๋ยี่เฟยหยุดชะงัก กำลังเตรียมตัวไปอาบน้ำ ถือชุดนอนอยู่ในมือ “มีเรื่องอะไร?”
หลี่เสว่เอาบัตรเชิญลงเลือกตั้งประธานสหพันธ์ธุรกิจในกระเป๋ายื่นให้ไป๋ยี่เฟย “ไม่รู้ว่าใครเอามาให้ฉัน ฉันดูแล้ว สุดท้ายตัดสินใจว่า ไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องไปดูสักตั้ง”
หลังจากไป๋ยี่เฟยมองดูบัตรเชิญที่คุ้นเคย ก็ทิ้งชุดนอนที่อยู่ในมือลงบนโซฟา รีบยื่นมือเข้าไป พบว่าเป็นบัตรเชิญลงเลือกตั้งสหพันธ์ธุรกิจจริงๆ อึ้งเล็กน้อย เงยหน้ามองดูหลี่เสว่ “คุณจะไปเหรอ?”
“ถูกต้อง” หลี่เสว่พยักหน้า “ฉันรู้ว่าบริษัทเราคุณสมบัติไม่พอ แต่ฉันอยากไปรู้จักคนให้มากขึ้น ไม่แน่ อาจจะคุยเรื่องความร่วมมือสำเร็จบ้าง บริษัทของเราจะได้ดีขึ้น”
“ที่รัก……คุณไม่ต้องทำอย่างนี้หรอก ตอนนี้ก็ดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเหนื่อยอย่างนี้” ไป๋ยี่เฟยปวดใจแทนหลี่เสว่ ไม่อยากให้เธอต้องเสียแรงใจ
หลี่เสว่ส่ายหน้า “เราเป็นครอบครัวกัน ใครหาเงินก็เหมือนกัน ตอนนี้คุณไม่สะดวก อย่างนั้นก็ให้ผมเอง นี่ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเป็นหรือ?”
……
ด้านนอกวิลล่า เพิ่งจะสิ้นสุดการสังหารหมู่ไป
ในถุงสีเขียว มีชายหนุ่มสามคนนอนปิดผนึกอยู่
และที่ข้างกายของพวกเขา มีหญิงสาวสองคนยืนอยู่ข้างๆ คนหนึ่งสวมเสื้อโค้ตสีเข้ม อีกคนสวมชุดสีดำทั้งชุด สิ่งเดียวที่เตะตาของเธอก็คือผมสั้นที่เรียบร้อย
“อาจารย์” เหลียงยู่กวาดตามองคนทั้งสามที่อยู่บนพื้น “ฆ่าตายหมดแล้ว”
หญิงสาวในเสื้อโค้ตพยักหน้า “อืม ทำได้ดี”
จบประโยค เธอก็มองดูเหลียงยู่ ถอนใจเล็กน้อย “เสี่ยวยู่ เธออยากล้างแค้นไหม?”
“อาจารย์……” เหลียงยู่ไม่มองไปยังหญิงสาวสวมเสื้อโค้ท แต่เหลียวศีรษะไปเล็กน้อย
หญิงสาวในเสื้อโค้ตเห็นเข้า ก็พูดเบาๆ ว่า: “บางครั้ง เราจะมองเรื่องราวแค่ผิวเผินไม่ได้”
“หมายความว่าอย่างไร?” เหลียงยู่แน่นิ่งไป
หญิงสาวในเสื้อโค้ตส่ายหน้า พูดเสียงราบเรียบว่า: “เธอน่าจะทายออก”
เหลียงยู่ยังคงแน่นิ่ง หญิงสาวในเสื้อโค้ตก็พูดขึ้นว่า: “ประธานสหพันธ์ธุรกิจของเมืองหลวงคือผู้นำลัทธิ ผลออกมาแล้ว”
“อะไรนะ?” เหลียงยู่ยังไม่ตอบสนองจากการแน่นิ่งไปจากเมื่อครู่ ก็มีข่าวให้ต้องชะงักอีกแล้ว “ไม่ใช่ว่าจะเลือกจากสี่ตระกูลใหญ่เหรอ?เกี่ยวอะไรกับผู้นำลัทธิด้วย?”
หญิงสาวในเสื้อโค้ตพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ : “ประธานสหพันธ์ธุรกิจเมืองหลวงหากเป็นคนใดคนหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ เช่นนั้น สามตระกูลที่เหลือก็จะถูกตรึงในระดับที่ต่างกัน ความเท่าเทียมของสี่ตระกูลใหญ่ก็จะไม่มีอีกต่อไป”
จบประโยค เหลียงยู่ก็ได้สติในทันที
หญิงสาวในเสื้อโค้ตพูดอย่างพูดอย่างครุ่นคิด: “เธอไปในเมืองหลวงเถอะ จับตาดูไว้”
……
เวลาผ่านไปรวดเร็ว พริบตาเดียวก็ถึงวันเลือกตั้งประธานสหพันธ์ธุรกิจเป่ยไห่
เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้เกี่ยวข้องกับผู้คนและองค์กรที่เข้าเลือกตั้งในการประชุมปกติมากกว่าทุกที ฉะนั้นเพื่อการบรรจุผู้คนจำนวนมากในครั้งเดียว จึงจัดสถานที่ในการเลือกตั้งบนเรือสำราญ
นี่เป็นเรือสำราญที่ใหญ่มากลำหนึ่ง มีทั้งหมดห้าชั้น สองชั้นล่างเป็นชั้นควบคุมเรือกับห้องสินค้า ชั้นกลางเป็นดาดฟ้าและหอประชุม ดาดฟ้าและหอประชุมจุคนได้มากกว่าพันคน ชั้นบนสุดอีกสองชั้นเป็นห้องพัก มีห้องอยู่หลายห้อง เพียงพอที่จะให้คนเหล่านี้พัก
การประชุมต้องใช้เวลาและขั้นตอนต่อเนื่องถึง 3 วัน จากการคัดเลือกถึง 3 รอบ รอบแรกเป็นการแนะนำตัวเอง จากนั้นคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมมา 100 คนเพื่อเข้าสู่รอบที่สอง
รอบที่สองมาจากการหย่อนบัตรลงคะแนนของทุกคน เลือกมา 20 คน เพื่อเข้าสู่รองที่สาม
รอบที่สามเลือกจากคนที่เหมาะสมที่สุดมา 20 คน และเป็นคนที่มีความสามารถที่สุดมาดำรงตำแหน่งประธานสหพันธ์ธุรกิจเป่ยไห่
ในขั้นตอนที่ยาวนานเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่เรือสำราญจะจอดเทียบท่า เที่ยวนี้จึงมีการวางแผนเส้นทาง ไม่เพียงได้เนินการเลือกตั้ง ยังได้ชมวิวบนท้องทะเลด้วย
กำหนดการสำคัญในวันแรกเป็นการประชุมกลุ่ม จากนั้นก็ประกาศกฎเกณฑ์ ต่อมาก็เป็นการเลือกตั้งรอบแรก ผู้สมัครคัดเลือกมีจำนวนมาก ขั้นตอนนี้จึงยาวนาน กำหนดการพื้นฐานของวันแรกได้กำหนดไว้แล้ว
เวลา 8 นาฬิกา ไป๋ยี่เฟยกับหลี่เสว่ก็มาพร้อมกัน ที่มากันยังมีโจวฉวี่เอ๋อ เฉินห้าว ไป๋หู่และสวีลั่ง
ในเวลานี้เอง ไป๋ยี่เฟยมีหลายครั้งที่อยากบอกหลี่เสว่ว่าเขาเองก็ลงสมัครคัดเลือก พอถึงริมฝีปาก ก็ไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากอย่างไร คิดไปคิดมา ให้ถึงสนามก่อนค่อยว่ากันดีกว่า。
ฉะนั้น หลี่เสว่ยังคงคิดว่าไป๋ยี่เฟยมาเป็นเพื่อนเธอ
ส่วนโจวฉวี่เอ๋อ หลี่เสว่เป็นคนให้เธอมา โจวฉวี่เอ๋อดูแลฉินหัวอยู่ที่โรงพยาบาลมาตลอด พอนานเข้า ก็ไม่ดีต่อเธอ สู้ออกไปเดินเล่น ผ่อนคลายบ้างดีกว่า
คนเหล่านี้พอถึงเรือสำราญ ก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบนเรือสำราญขวางไว้ “ช่วยแสดงบัตรเชิญด้วยครับ”
หลี่เสว่พยักหน้า เอาบัตรเชิญตัวเองออกมา ยื่นให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
พอเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูเสร็จ ก็คืนให้หลี่เสว่ แต่พอเห็นคนรอบข้างเธอเยอะเช่นนี้ ก็รีบเตือนขึ้นว่า: “คุณผู้หญิง บัตรเชิญใบเดียว มีคนติดตามได้เพียง 3 คน ซึ่งนับรวมคุณแล้วเป็นสาม คนที่เหลือไม่อนุญาตให้ขึ้นเรือได้ครับ”
หลี่เสว่ฟังเสร็จก็หันไปมองไป๋ยี่เฟย ถ้า3คน ก็พอดีเป็นเธอ ไป๋ยี่เฟยและก็โจวฉวี่เอ๋อ สามคนที่เหลือก็ไม่สามารถเข้าไปได้แล้ว
ไป๋ยี่เฟยก็ไม่ได้แยแส เขารู้ข้อนี้อยู่แล้ว ฉะนั้นคนที่มาก็พอดี ไม่มากไม่น้อย
“ไม่เป็นไร คุณพาฉวี่เอ๋อกับเฉินห้าวเข้าไป” ไป๋ยี่เฟยพูดเสียงเรียบๆ
หลี่เสว่ชะงักเล็กน้อย “แล้วคุณล่ะ?