ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 545
บทที่545
เห้อคุนไม่กล้าอ้อมค้อม เขารีบรายงานเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นให้ หวังเจียฟังไปรอบหนึ่ง
พอหวังเจียฟังจบ เขาก็ไม่รู้สึกสงสัย “หวังโหลวเขาร่วมมือกับหลิ่วจาวเฟิงอยู่ไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมต้องไปปกป้องคนที่ไม่มีอะไรเลยอย่างไป๋ยี่เฟยด้วยล่ะ? หรือมันยังมีอะไรในนั้นที่เรายังไม่รู้กัน?”
เห้อคุนเองก็สงสัยไม่แพ้กัน เขาได้แต่ส่ายหน้า “ผมเองก็ไม่รู้ครับ……”
หวังเจียลูบๆ ที่คาง แล้วมโนไปว่าตัวเองเข้าใจเหตุผลแล้ว “ฉันคิดว่า อาจเป็นเพราะหวังโหลวกับไป๋ยี่เฟยที่เรียนมาด้วยกัน แล้วเขาก็กำลังร่วมมือกับประธานหลิ่วอยู่ เมื่อกี้เขาเลยเล่นละครไปอย่างนั้นเอง”
“ไม่ว่ายังไง หวังโหลวก็แค่คนที่มาร่วมงานกับประธานหลิ่วของเราเท่านั้น เขาไม่ใช่เจ้านายของเราสักหน่อย แค่ให้เกียรติเขานิดหน่อยก็พอ เราแค่ทำให้ประธานหลิ่วพอใจก็พอแล้ว”
เห้อคุนเข้าใจทุกอย่างขึ้นมาทันที “ที่ผู้จัดการพูดมันถูกต้องที่สุด ผู้จัดการหวังนี่ฉลาดสุดๆ ไปเลยครับ!”
“แล้วมันไม่ใช่รึไง? ไม่อย่างนั้นตำแหน่งผู้จัดการจะให้แกมาเป็นรึไง?” หวังเจียรู้สึกดีใจที่ถูกคนชอบ
เห้อคุนยิ้มแหะๆ “จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงล่ะครับ! ตำแหน่งผู้จัดการนั้นต้องให้คุณนั่งแหละถูกแล้วครับ”
หวังเจียโบกไม้โบกมือ “โอเค แกพารปภไปหิ้วไป๋ยี่เฟยนั่นออกไป ที่แห่งนี้ไม่ใช่ที่ๆ มันควรมา จริงด้วย อย่าลืมถ่ายรูปไว้ด้วยล่ะ แล้วส่งให้ประธานหลิ่วดู ประธานหลิ่วจะต้องพอใจมากแน่ๆ เราก็จะได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งสักที……”
“ครับครับครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้เลยครับ” เห้อคุนยิ้มจนตาหยี๋ เหมือนเห็นภาพที่ตัวเองได้เลื่อนขั้นอยู่ในหัวแล้ว
พูดจบ เห้อคุนก็โค้งคำนับหวังเจียกับเลขาสาวแล้วเดินจากไป
ไม่นาน เห้อคุนก็เรียกรวมรปภในโรงแรมได้ประมาณห้าสิบคน
ในความหมายของหวังเจียนั้นบอกว่าแค่ไม่กี่คน แต่เห้อคุนอยากจะล้างแค้นเรื่องที่ถูกตบในครั้งนั้น เขาจึงเรียกรปภทั้งหมดของโรงแรมมา
“มาครบรึยัง? ฟังฉันให้ดีๆ นะ เดี๋ยวไปที่ห้องวีไอพี ฉันชี้ไปที่ใคร พวกนายก็จัดการมัน ก่อนอื่นก็กระทืบมันก่อน จากนั้นก็โยนมันออกจากโรงแรมไป เข้าใจมั้ย?”
“เข้าใจครับ”
เห้อคุนพยักหน้าอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็หันไปถามพนักงานว่า “ไป๋ยี่เฟยมันอยู่ห้องไหน?”
“2102”
เห้อคุนโบกมือ “ตามฉันมา!”
คนกลุ่มใหญ่เดินดุ่มๆ ไปยังห้องวีไอพี2102
แต่พอพวกเขาออกจากลิฟต์มา ก็เห็นว่ามีคนยืนอยู่บนโถงทางเดินเต็มไปหมด แถมยังยืนกันเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบ ในมีของทุกคนยังถือแก้วไวน์ไว้ด้วย น่าจะกำลังเข้าแถวอวยพรกันอยู่
และปลายแถวของคนพวกนี้ก็มุ่งตรงไปยังห้องวีไอพีที่พวกเขาจะไปพอดี 2102
นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นเนี่ย?
เห้อคุนรู้สึกงงแล้ว ทำไมถึงได้มีคนเยอะแยะแบบนี้เนี่ย?
คนที่เดินตามเขามาก็รู้สึกว่ามันแปลกๆ เหมือนกัน และมีบางคนรู้ว่าคนพวกนี้เป็นใครแล้วด้วย
“หัวหน้าครับ นั่นมันประธานของเยว่หยากรุ๊ปไม่ใช่เหรอครับ?”
“นั่นอีก คนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาก็เป็นประธานจางของ เทียนเผิงกรุ๊ปนี่!”
“ส่วนคนนั้นก็……”
พอเห้อคุนได้ยินอย่างนั้น เขาก็กลืนน้ำลายอย่างควบคุมไม่ได้ “นี่……ฉันฟังผิดไปรึเปล่า? มันไม่ใช่ห้อง2102ใช่มั้ย?”
“นะ……น่าจะไม่ผิดนะครับ?”
“แล้วตอนนี้จะเอายังไงต่อครับ? ยังจะเข้าไปอีกมั้ย?”
เห้อคุนกัดฟันแน่น “ไป! ไปดูกันก่อนว่าไอ้บ้านั่นมันอยู่รึเปล่า ถ้าอยู่ก็จัดการมัน!”
คำพูดของเห้อคุนคำนี้ไม่ได้พูดออกมาเพราะความใจร้อน แต่มันได้ผ่านการไตร่ตรองมาแล้ว ยังไงเศรษฐีพวกนี้ก็เทียบหลิ่วจาวเฟิงไม่ติดอยู่แล้ว ใครให้โหวจวี๋กรุ๊ปเป็นถึงผู้นำด้านเศรษฐกิจของเมืองเทียนเป่ยล่ะ?
ที่สำคัญ คนพวกนี้ก็รู้ดีว่า ไป๋ยี่เฟยกับหลิ่วจาวเฟิงไม่ถูกกัน ดังนั้น ถ้าเขาพาคนมากระทืบไป๋ยี่เฟย คนพวกนี้ก็ไม่มีทางสอดมือเข้ามายุ่งแน่นอน
ว่าแล้วคนกลุ่มใหญ่ก็ได้เดินผ่านคนกลุ่มนั้น แล้วมุ่งตรงไปยังห้อง
ห้องวีไอพีของ โรงแรมเทียนเป่ยนั้นค่อนข้างกว้าง ห้อง2102นั้นกว้างประมาณสามร้อยกว่าตารางเมตร กว้างพอที่จะจุคนได้ร้อยสองร้อยคน
ทันทีที่พวกเห้อคุนเข้ามาถึง ก็พบเข้ากับไป๋ยี่เฟยที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งประธาน ว่าแล้วเขาก็ชี้ไปที่ไป๋ยี่เฟย “คนนั้น กระทืบมัน!”
……
พวกหลี่เสว่ที่มาถึงก่อนระหว่างทางที่เดินไปห้องวีไอพี ก็ได้เจอกับคนที่อยู่บนเรือสำราญด้วยเหมือนกัน พอจำได้ว่าเป็นหลี่เสว่ เขาก็พากันเข้ามาทักทาย
พอรู้ว่าพวกเขากำลังจะฉลองกัน เขาจึงตามเข้าไปในห้องวีไอพีเพื่อดื่มอวยพร
เนื่องจากเขามีประธานของบริษัทอื่นมาด้วย พอถามไปก็รู้ว่าหลี่เสว่ตอนนี้อยู่ในฐานะอะไร ว่าแล้วก็พากันตามเข้าไปดื่มอวยพรด้วย
พอคนพวกนี้คิดว่าโอกาสที่จะได้ประจบแบบนี้จะให้หลุดมือไปไม่ได้ จึงได้ส่งสัญญาณให้เพื่อนที่ความสัมพันธ์ไม่เลวของตัวเองได้รู้ แล้วข้อความก็ถูกส่งต่อไปเรื่อยๆ จนเกิดภาพที่เห็นเมื่อกี้ขึ้น
เนื่องจากหลี่เสว่เป็นผู้หญิง ดื่มไม่ค่อยได้ ดังนั้น คนที่เป็นสามีของหลี่เสว่อย่างไป๋ยี่เฟยก็ต้องออกมาดื่มแทนหลี่เสว่อยู่แล้ว หลังจากที่ดื่มไปมากขนาดนั้น ไป๋ยี่เฟยก็เริ่มรู้สึกเวียนหัวแล้ว
และในตอนนั้นเอง จู่ๆ รปภกลุ่มใหญ่ก็แห่กันเข้ามาในห้อง แถมคนที่เป็นหัวหน้ายังชี้มาที่ไป๋ยี่เฟย แล้วพูดว่า “คนนั้นกระทืบมัน!”
ไป๋ยี่เฟยวางแก้วไวน์ลงด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย หลังจากที่ผ่านความเป็นความตายมานับครั้งไม่ถ้วน สำหรับไป๋ยี่เฟยแล้วสถานการณ์แบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่จิ๊บจ๊อยมาก ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ดูร้อนรนเลยสักนิด
งานเลี้ยงในครั้งนี้ ไป๋ยี่เฟยได้เชิญเพื่อนของเขามาด้วย หนึ่งในนั้นก็คือไอ้หัวล้านหลิว ในตอนที่ไป๋ยี่เฟยยังไม่ทันได้ทำอะไร ไอ้หัวล้านหลิวก็ชิงลุกขึ้นก่อน แล้วคำรามออกไปว่า “คิดจะทำอะไร?”
ยังไงไอ้หัวล้านหลิวก็เป็นถึงหัวหน้าของเขตเหนือ มีชื่อเสียงกว่าประธานบางคนเสียอีก และไม่มีใครอยากมีเรื่องกับเขาด้วย
รปภพวกนี้ก็รู้จักไอ้หัวล้านหลิวเหมือนกัน พอเห็นว่าเขาอยู่ด้วย จึงพากันชะงักไป และได้เก็บไม้พลองในมือไปอย่างอัตโนมัติ
เห้อคุนพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มว่า “พี่หลิว พี่เองก็อยู่ด้วยเหรอครับ!”
ไอ้หัวล้านหลิวไม่ได้สนใจเห้อคุน เขาแค่หันไปถามไป๋ยี่เฟยว่า “นายครับ นายจะให้จัดการยังไงดีครับ?”
ไป๋ยี่เฟยกวาดตามองพวกเห้อคุน
เนื่องจากเขาเองก็เป็นประธานกรรมการของโหวจวี๋กรุ๊ปมานาน จึงมีความผูกพันกับธุรกิจในเครืออยู่ไม่ใช่น้อย ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะจัดงานเลี้ยงฉลองที่ โรงแรมเทียนเป่ยแห่งนี้
แต่น่าเสียดาย ที่เขาคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไป ที่นี่ไม่ใช่โรงแรมเทียนเป่ยที่เหมือนเคยอีกแล้ว
ไป๋ยี่เฟยนึกถึงหลงหลิงหลิงอีกครั้ง ตอนนี้หลงหลิงหลิงยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลอยู่เลย ส่วนหลิ่วจาวเฟิงก็ท้าทายตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า เขานี่มันใจดีเกินไป จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้จัดการกับหลิ่วจาวเฟิงสักที!
ไป๋ยี่เฟยขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ “ปิดประตูตีแมว!”
พูดจบ เศรษฐีของธุรกิจสายอื่นก็พากันงงไปตามๆ กัน
เข้าใจอะไรผิดรึเปล่า? ไม่ใช่ว่ากำลังจะปิดประตูทำร้ายตัวเองอยู่เหรอ?
อีกฝ่ายมีรปภอยู่ตั้งหลายสิบเลยนะ แถมยังมีพลองอยู่ในมือด้วย ไป๋ยี่เฟยแค่คนเดียวจะสู้ได้เหรอ?
พอเห้อคุนเห็นว่าไป๋ยี่เฟยอยากรนหาที่ตายขนาดนั้น เขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที เขากลัวไอ้หัวล้านหลิวก็จริง แต่คนที่เขาจะกระทืบคือไป๋ยี่เฟย ไป๋ยี่เฟยในตอนนี้ไม่มีอะไรดีเลย จะไปกลัวมันทำไม?
“พี่หลิว ผมว่าเรื่องนี้พี่อย่าเข้ามายุ่งดีกว่าครับ เขาเป็นคนรนหาที่เอง พอเรากระทืบมันเสร็จเดี๋ยวก็จับมันโยนออกไปข้างนอกแล้ว เราจะไม่รบกวนเวลาดื่มเหล้าของพวกพี่เลยครับ”
พอคำพูดนี้สิ้นสุดลง “ปั้ง” ประประตูห้องวีไอพีก็ถูกปิดลง
สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องมา
คนที่ปิดประตูก็คือไป๋หู่ ไป๋หู่ร่างกายสูงใหญ่ กล้ามเป็นมัดๆ ใครเห็นก็ต้องขนลุก
จากนั้น ภายในห้องก็ได้มีคนยื่นขึ้นมา
สวีลั่ง
จงเหลียน
เฉินอ้าวเจียว
เฉินห้าว
บอดี้การ์ดของหวังโหลว……
หลังจากที่พวกเขายืนขึ้นก็พากันเดินเข้าไปหาพวกรปภ
พอเห้อคุนเห็นแบบนั้น เขาก็ตะโกนออกมาว่า “หยุดเดี๋ยวนี้ วันนี้พ่อมาอัดแค่ไป๋ยี่เฟยคนเดียวเท่านั้น คนที่ไม่อยากโดนกระทืบก็หลบไปไกลๆ เลย กำปั้นมันไม่มีตา เดี๋ยวเกิดใครโดนลูกหลงเข้ามา พ่อก็ไม่รับผิดชอบนะ!”
ไป๋ยี่เฟยขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ “รีบจัดการเร็วๆ ฤกษ์งามยามดีแท้ๆ อย่าทำให้บรรยากาศมันเสียหมด”
สิ้นเสียง สวีลั่งกับจงเหลียนก็พุ่งเข้าใส่พวกรปภทันที
ไป๋หู่และคนอื่นๆ ก็ไม่น้อยหน้า พุ่งเข้าไปลงมืออย่างโหดเหี้ยม
ในสายตาของพวกเขา รปภพวกนี้ก็แค่มดปลวก แค่มือข้างเดียวก็สามารถบี้ตายได้สบายๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องต่อสู้เลย
“อ้า!”
“แกร็ก!”
“แคว่ก!”
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย ฟังจนคนอื่นๆ ต่างพากันขนลุกไปหมด