ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 65
ตอนที่ 65
ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่
ฉันควรจะที่ใด
หลังจากคิดอยู่นาน หลี่เสว่ก็ดูเงียบเหงา ลุกขึ้นเพื่อเตรียมจะออกไป แต่กลับไม่รู้ว่าควรจะไปที่ไหน
เพราะเรื่องของหลี่เฉียงตรงเมื่อกี้นี้ คนของกิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ปจะต้องเกลียดเธอเข้ากระดูก คงจะกลับไปบริษัทไม่ได้อีกแล้ว
และที่วิลล่าหลันโปกั่ง ที่พ่อและแม่อยู่นั้น หากจะกลับไปตอนนี้ ก็ดูจะไม่เหมาะสม
อีกที่หนึ่งชัดอยู่ว่าเป็นบ้านของตนเอง แต่กลับรู้สึกว่าไม่เหมือนบ้านของตนเอง
เพราะเธอกลัว กลัวว่าจะต้องเจอกับไป๋ยี่เฟยและโจวฉวี่เอ๋ออีก
สุดท้าย หลี่เสว่ก็เดินออกมาจากอาคารใหญ่ของโหวจวี๋กรุ๊ปด้วยความงุนงง
ไป๋ยี่เฟยที่อยู่ในห้องทำงานก็รู้สึกตกใจกับเรื่องของหลี่เฉียงตง ก่อนหน้านี้เขาเคยเดาเอามาก่อนแล้ว แต่ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ก็ไม่มีอะไรอยู่ในสายตาของเขา น่าจะเป็นเรื่องการพูดสถานะของเขาออกมา ที่ทำให้ตกใจมากกว่า
ตอนนี้สิ่งเดียวที่เขาสนใจคือหลี่เสว่
เมื่อเห็นท่าทางที่สิ้นหวังของหลี่เสว่ ไป๋ยี่เฟยก็ต้องการที่จะปลอบโยนเธอเป็นอย่างมาก แต่ตอนที่เขาไปหาหลี่เสว่ หลี่เสว่ก็ออกไปแล้ว
ไป๋ยี่เฟยทำได้เพียงตามออกไป จากนั้นก็เห็นหลี่เสว่กำลังเตรียมเรียกรถแท็กซีอยู่ข้างถนน
ในเวลานี้ รถออดี้ที่คุ้นตากำลังจอดอยู่ข้างทาง หน้าต่างรถก็ลดลงมา เผยให้เห็นใบหน้าของคนในรถ
หลิ่วจาวเฟิง!
หลิ่วจาวเฟิงกับหลี่เสว่กำลังพูดอะไรกัน หลี่เสว่พยักหน้า จากนั้นก็เปิดประตูขึ้นไปนั่งบนรถออดี้
ไม่นานรถก็ขับออกไป
ไป๋ยี่เฟยได้เห็นสิ่งนี้ ใจก็จมดิ่งลง สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ทันใดนั้นเขาก็เรียกรถอีกคัน แล้วพูดกับคนขับ “คุณคนขับ ช่วยขับตามรถออดี้คันนั้นไป”
คันขับรถได้ฟังแล้วจึงออกรถ แล้วพูดว่า “น้องชาย แต่ออดี้นี้ ไม่เห็นมีอะไรน่าตามเลย อีกอย่าง คุณไปตามคนทำไมหรือ คงไม่ใช่คอยติดตามหรอกนะ”
คำพูดประโยคหลังนั้นเป็นการล้อเล่นกัน ไป๋ยี่เฟยดูไปแล้วก็ไม่น่าจะใช่คนไม่ดี
ไป๋ยี่เฟยเฝ้าดูรถคันหน้าอย่างใจจดใจจ่อ และพูดว่า “ผมกับภรรยาทะเลาะกัน ช่วยตามรถคันนั้นให้ทัน เดี๋ยวผมจ่ายให้สองเท่า”
คนขับรถได้ยินดังนั้นก็พูดว่า “โอเค อย่านั้นคุณก็นั่งให้มั่นคงแล้วกัน”
พูดจบ คนขับรถก็เร่งความเร็ว และวิ่งตามไป
ไป๋ยี่เฟยตามรถยนต์ออดี้นั้นไปจนถึง KTVฮุยหวง ก็ได้เห็นหลิ่วจาวเฟิงกับหลี่เสว่เดินเข้าไปด้านใน
“น้องชาย นี่เป็นนามบัตรของผม ถ้าวันหลังมีธุระอะไร ก็ติดต่อมาได้ตลอดเวลา!” คนขับรถหยิบนามบัตรของตนเองออกมายื่นให้กับไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ใส่ใจ เก็บมันไว้ในกระเป๋าอย่างลวก ๆ
หลังจากลงจากรถ ไป๋ยี่เฟยก็เดินตามเข้าไป
ในเวลานี้ ในห้องส่วนตัว
หลี่เสว่นั่งอยู่ในนั้นด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก
ในห้องส่วนตัวมีเพลงที่เล่นเองอัตโนมัติ เสียงเพลงดังขึ้นเพลงแล้วเพลงเล่า
หลิ่วจาวเฟิงยื่นไมโครโฟนให้หลี่เสว่ “เสว่เอ๋อ ร้องเพลงสักหน่อยเถอะ”
หลี่เสว่ส่ายหน้า
เธอไม่อยากจะทำอะไรเลย
หลิ่วจาวเฟิงเห็นดังนั้นก็ไม่ได้พูดอะไร ก็ได้นั่งลงอยู่เป็นเพื่อนหลี่เสว่
ในห้องส่วนตัวมีเพียงพวกเขาสองคน ไม่มีคนร้องเพลง และไม่มีใครพูดอะไร
หลังจากนั้นไม่นาน หลี่เสว่ก็พูดขึ้น “ฉันอยากดื่มเหล้า”
“ได้” หลิ่วจาวเฟิงหยิบแก้วเหล้ามา และรินเหล้าให้กับหลี่เสว่
แล้วนำแก้วเหล้าที่รินจนเต็มแล้วส่งให้กับหลี่เสว่ หลิ่วจาวเฟิงพูดว่า “เสว่เอ๋อ เหล้าดื่มมากไปมันไม่ดี หรือน้อย……”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ หลี่เสว่ก็เงยหน้าขึ้น เบียร์เต็มแก้วนั้นก็ถูกซดลงหมดไป
หลังจากนั้น หลี่เสว่ก็ยื่นแก้วให้ เพื่อบ่งบอกให้เขาเติมเหล้า
หลิ่วจาวเฟิงทำอะไรไม่ถูก จึงได้แต่เติมให้กับหลี่เสว่
หลี่เสว่เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เหล้าอีกหนึ่งแก้วก็ถูกดื่มหมดแล้ว
หลังจากเติมจนเต็มอีกครั้ง หลิ่วจาวเฟิงไม่เตือนก็ไม่ได้ “เสว่เอ๋อ เหล้าจะดื่มเยอะขนาดนี้ไม่ได้นะ……”
พูดจบ หลิ่วจาวเฟิงก็ได้คว้าจับมือของหลี่เสว่ที่ต้องการจะดื่มอีกครั้ง
หลี่เสว่มองไปยังหลิ่วจ้าวเฟิง “แล้วจะให้ดื่มอย่างไร”
หลิ่วจาวเฟิงพูดขึ้น แล้วเข้ามานั่งใกล้หลี่เสว่ “ดื่มเหล้าก็เพื่อเพิ่มความสนุกสนาน คุณเอาแต่ดื่มเหล้าแบบนี้ ไม่มีสิ่งอื่นเลย ไม่น่าเบื่อหรือไง”
หลี่เสว่ขมวดคิ้ว เธอดื่มเหล้าเพื่อให้ตนเองดื่มจนเมา เมื่อเมาแล้วทุกสิ่งในหัวก็จะหายไป
“ไม่จำเป็น”
หลี่เสว่พูดจบก็หยิบแก้วเหล้าส่งให้เติมอีกครั้ง ในครั้งนี้หลิ่วจาวเฟิงจับมือห้ามเธอไว้
“เสว่เอ๋อ……”
“ปัง!”
ประตูของห้องส่วนตัวก็ถูกเปิดออกจากข้างนอก
ทันทีที่ประตูเปิดออก ไปยี่เฟยก็ได้เห็นหลิ่วจาวเฟิงกำลังจับมือของหลี่เสว่ และหลี่เสว่ เพราะได้ดื่มเบียร์ไปเมื่อกี้นี้ถึงสองแก้วด้วยความรีบร้อน ภายใต้แสงไฟผิวกายนั้นก็ปรากฏเป็นสีแดง
ไป๋ยี่เฟยโกรธ
ก้าวออกไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว คว้าข้อมือของหลี่เสว่ที่ถูกหลิ่วจาวเฟิงจับอยู่ เอาออกจากกัน “เอามือที่สกปรกของคุณออกจากมือของภรรยาผมเดี๋ยวนี้!”
เป็นเพราะไป๋ยี่เฟยบุกเข้ามา ทำให้หลิ่วจาวเฟิงและหลี่เสว่ ทั้งหมดล้วนแต่ตกใจเล็กน้อย
ข้อมือถูกดึงออกจากกัน หลิ่วจาวเฟิงรู้สึกเจ็บ “ปล่อยมือ!”
ไป๋ยี่เฟยตะคอกใส่ และปัดมือของหลิ่วจาวเฟิงออกไป
หลิ่วจาวเฟิงต้องการจะแสดงความเป็นสุภาพบุรุษที่สุภาพเมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่เสว่ แม้ว่าจะโกรธ แต่ก็ไม่พูดจาหยาบคาย
ไป๋ยี่เฟยมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา “ก่อนหน้านี้ผมเคยบอกคุณไปแล้ว ไม่ให้คุณมาพยายามเอาชนะเสว่เอ๋อ คุณทำหูทวนลมกับคำพูดของผมสินะ!”
“ทำไมผมต้องฟังคุณด้วยล่ะ” หลิ่วจาวเฟิงไม่ยอมอ่อนข้อให้ว่าตนด้อยกว่า
ไป๋ยี่เฟยยิ้มเยาะ “โอเค! ในเมื่อเป็นแบบนี้ อย่างนั้นผมก็จะบอกให้คุณรู้ไว้ ว่ามายุ่งกับภรรยาของผม ผลที่ตามมามันจะเป็นอย่างไร!”
“คุณคิดจะทำอะไร” หลิ่วจาวเฟิงถูกไป๋ยี่เฟยพูดจนรู้สึกผิดขึ้นมา
ไป๋ยี่เฟยส่งเสียงอย่างเย็นชา ไม่ได้ตั้งใจว่าจะปล่อยหลิ่วจาวเฟิงไป เขาจึงยกมือขึ้นผลักเขา หลิ่วจาวเฟิงล้มลงไปบนโซฟา ด้วยเหตุนี้ จึงเผลอกวาดแก้วเหล้าที่อยู่ด้านข้างอย่างไม่ทันระวัง เหล้าที่อยู่ในแก้วได้หกลงบนตัวของหลิ่วจาวเฟิง
“ไป๋ยี่เฟย คุณต้องการทำอะไรกันแน่”
เป็นเพราะเสียงที่ขู่ดังไปนี้ หลี่เสว่ก็มีสติขึ้นในที่สุด
“ไป๋ยี่เฟย คุณอย่ามางี่เง่า!” หลี่เสว่ลุกขึ้นยืน ยืนอยู่ตรงกลางระหว่างทั้งสองคน
ไป๋ยี่เฟยมองเห็นหลี่เสว่ที่ยืนอยู่ระหว่างทั้งสองคน ความโกรธของเขาก็เพิ่มขึ้น “ผมงี่เง่าอย่างนั้นหรือ อย่างนั้นคุณกับเขากำลังทำอะไรกันหรือ ไม่ใช่การทำงี่เง่าหรือ”
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาโกรธไปสักพัก ก็จะเสียใจทันทีที่ได้พูดไปแล้ว นิสัยของเขาไม่ได้เป็นคนขี้หงุดหงิดขนาดนั้น เขาแค่เห็นหลี่เสว่และหลิ่วจาวเฟิงมาอยู่ที่ KTVด้วยกันจึงได้โกรธมาก แต่เขาก็รู้ ว่าเวลาสั้นน้อยนิดแบบนี้ สองคนนั้นไม่มีทางทำอะไรกันได้!”
หลี่เสว่ได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าก็ซีด พูดอย่างสั่นๆ “ฉันไม่ได้งี่เง่า! คุณ…คุณไม่เชื่อฉันหรือ”
ไป๋ยี่เฟยหยุดนิ่ง จากนั้นก็กัดฟันพูด “ผมเห็นด้วยตาตนเอง คุณกับเขามาอยู่ด้วยกันที่ KTV ตอนกลางคืน!”
ภายในใจก็ยิ่งใส่ใจมากเท่าไร คำพูดที่พูดออกมาก็ยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น
จู่ ๆ หลี่เสว่ก็ยิ้มขึ้นอย่างเศร้าใจ เหลือบไปมองไป๋ยี่เฟยอย่างเย็นชา หยิบกระเป๋าของตนเองแล้วออกไปจากห้องแต่งตัว
ไป๋ยี่เฟยเสียใจที่ได้เห็นเช่นนี้ จึงคิดจะเปิดประตูตามออกไป
ในเวลานี้ หลิ่วจาวเฟิงยื่นมือออกไปเพื่อหยุดไป๋ยี่เฟย ตะคอกเสียงดัง “ไป๋ยี่เฟย ผมแนะนำให้คุณปล่อยมือเดี๋ยวนี้! มีบางคนที่ก็ไม่ใช่คนที่คุณควรจะคิดถึง พวกคุณไม่มีทางลงเอยกันได้หรอก!”
“คุณมันเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาที่มาจากชนบท ไม่มีทางคู่ควรกับเสว่เอ๋อ! คุณกับเธอเป็นคนที่อยู่กันคนละโลก ไม่ว่าคุณจะทำงานหนักแค่ไหนในที่สุดแล้วคางคกก็ไม่มีวันได้กินเนื้อหงส์!”
หลิ่วจาวเฟยพูดจบก็สะบัดข้อมือของตนเอง
ไป๋ยี่เฟยเดิมทีแล้วโกรธมาก ได้ยินคำพูดของหลิ่วจาวเฟิงหัวใจของเขาก็โกรธมากขึ้นไปอีก
“นายแม่งมีสิทธิอะไรมาต่อว่าฉัน บอกด่าว่าฉันเป็นคนชั้นต่ำจากชนบท แล้วนายแม่งจะสูงไปได้ถึงไหนกัน คางคกอย่างฉันจะกินเนื้อหงส์ แล้วนายจะทำไม ฮึ!ฉันจะบอกนายให้นะ ถ้าหากว่าฉันไม่ได้เสว่เอ๋อ อย่างนั้นนายแม่งก็อย่าฝันว่าจะได้!”