ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 664
บทที่ 664
หลี่จู้นี่จึงโล่งอกหนึ่งที “แม่มึงเอ่ย! กูยังคิดว่าเฉินอ้าวเจียวคนนั้นตามมาแล้ว แม่มึงเอ่ยผลสุดท้ายเป็นคนบาดเจ็บคนหนึ่ง”
เห็นสวีลั่งไม่ได้ขยับตัวเท่าไหร่อยู่กับพื้น นิ่งอึ้งไปก็เลยปล่อยฉีฉีออก ไปถึงข้างหน้าสวีลั่งเตะศีรษะของสวีลั่งเตะแล้วเตะอีกทั้งเหยียบหนึ่งที “บาดเจ็บหนักขนาดนี้ ยังตามขึ้นมาได้ก่อน ใจร้อนขนาดนี้ หรือว่าสาวน้อยคนนี้จะเป็นคนรักน้อยของคุณหรือ?”
หลี่จู้หัวเราะเหยียดหยามเสียงหนึ่ง พูดอีกว่า “แต่ว่ากูไม่มีเวลาพูดจาไร้สาระกับมึง ไปตายซะ!” พูดจบคำนี้ หลี่จู้ก็จะเหยียบลงไปหนึ่งที จบชีวิตของสวีลั่ง
สวีลั่งรีบพลิกตัวลุกขึ้น
“ปั้ง!”
ขาหลี่จู้เหยียบอยู่กับพื้น
หลังจากสวีลั่งลุกขึ้นแล้วลงมือทันที ท่าทีโต้ตอบของหลี่จู้เร็วมาก อยู่ตอนที่สวีลั่งลงมือโดยจิตใต้สำนึกหันข้างหลบออก หลบพ้นหนึ่งหมัดของสวีลั่งจากนั้นยกขาขึ้นเตะอยู่บนหน้าอกของสวีลั่งไปเลย
“ปั้ง!”
สวีลั่งตีลังกาลอยออกไป พอดีตกอยู่บนรถ จากนั้นตกลงมาอยู่ที่พื้นอีก
“พู!”
สวีลั่งขับเลือดออกมา ตาทั้งคู่จ้องมองฉีฉีที่สลบไปแล้วอย่างแน่น สายตาที่อยู่นัยน์ตามั่นคงยืนหยัด ร้องตะโกนเสียงหนึ่ง พุ่งเข้าไปอีกครั้ง
“ผมจะฆ่าคุณเลย!”
ก่อนหน้านั้นสวีลั่งไม่รู้ว่าฉีฉีคือน้องสาวของเขาเลย ดังนั้นเธอถูกคนตี ในใจเขาไม่มีลูกคลื่นสักนิด
แต่ตอนนี้ หลังจากเขารู้แล้ว ก็อดทนไม่ไหวแล้ว
หลังจากอายุสิบปี สวีลั่งก็มีแต่ตนเองเพียงคนเดียว มีเพียงแค่น้องสาวที่ยังเป็นความหวังของเขา เพราะเขารู้ว่าน้องสาวเพียงแค่เดินหายไป อาจจะยังมีชีวิตอยู่เป็นญาติของเขาเพียงคนเดียว
ตอนนี้ยากที่จะหาเจอแล้ว มองเห็นเธอถูกคนรังแก จะอดทนไว้ได้ยังไงหรือ? ดังนั้นสวีลั่งในเวลานี้ เกิดความโหดร้ายที่จะฆ่าหลี่จู้
แต่ว่า บาดแผลของตัวเขาเองก็ยังไม่หาย จะสู้หลี่จู้ได้ยังไงอีกล่ะ?
อีกทั้ง ถึงแม้เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่จู้เช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ สวีลั่งกลับไม่สามารถฆ่าหลี่จู้ได้เลย กลับถูกหลี่จู้ตี
สวีลั่งพุ่งเข้าไปต่อยหลี่จู้หนึ่งที หลี่จู้หลบพ้นอย่างง่ายดาย จากนั้นยกมือขึ้น ขวางคอของสวีลั่งไว้ ชกเข้าไปหนึ่งหมัด
“ปั้ง!”
สวีลั่งนั้นรู้สึกถึงสมองใหญ่ว่างเปล่าไปหมดทันที
ต่อจากนี้ หมัดของหลี่จู้ชกต่อๆกันอยู่บนกายของสวีลั่ง สวีลั่งถูกชนจนล้มลงไปกับพื้นโดยตรง
รอจนสวีลั่งไม่มีการเคลื่อนไหวแล้ว หลี่จู้จึงถุยน้ำลายหนึ่งที “กูถุ่ย! ฝีมืออย่างนี้ยังกล้าออกมาขายหน้าหรือ? ยังอยากจะฆ่ากูอีกจิตใจหลงใหลคิดเพ้อเจ้อ!”
หลังจากพูดจบ หลี่จู้พูดอีกในทันทีว่า “แม่มึงเอ่ย! เกือบโดนพวกมึ
งหน่วงถ่วงแล้ว กูจะต้องรีบฆ่ามึงแล้ว ไม่งั้นคนเหล่านั้นตามมาแล้วจะไปยากอีก!”
“แม่มึงเอ่ย! แม่มึงเอ่ยพวกมึงรอกูไว้นะ ช้าเร็วกูก็จะฆ่าไอ้เหี้ยตระกูลใหญ่ทั้งสี่เหล่านั้นให้หมดเลย!”
พูดจบ เขาเดินไปยังฉีฉีทันที แต่กลับถูกสวีลั่งเกาะขาสองข้างไว้
สวีลั่งเลือดเต็มตัวไปหมดแล้ว แม้แต่บนใบหน้าก็ล้วนเต็มไปหมดเช่นกัน อีกทั้งคิ้วก็แตกด้วย ตาล้วนลืมไม่ขึ้นแล้ว ในตอนนี้เขาไม่มีพลังการต่อสู้ใดๆ แต่เขายังคงบุกรุดหน้าไปอย่างห้าวหาญโดยไม่ยอมหวนกลับกอดขาของหลี่จู้ไว้
หลี่จู้อึ้งชะงักหนึ่งที ก้มหัวจ้องมองไปยังสวีลั่ง “ไม่ใช่มั้ง? แม่มึงเอ่ยสาวน้อยคนนี้เป็นคนรักของมึงจริงๆหรือ? มึงก็ใกล้จะตายแล้วยังจะปกป้องเธออยู่หรือ?”
สวีลั่งอ่อนแอพูดอยู่ว่า “เธอ…..เป็นน้องสาวผม……อย่าทำร้าย……น้องสาวผม…….ถึงต้องตาย……ก็ห้ามทำ…….”
ในเวลานี้ นิ้วของฉีฉีขยับแล้วขยับอีก
หลี่จู้ได้ยินคำพูดนี้ กลับมีความแปลกใจเล็กน้อย แต่ว่า เขากลับไม่สามารถเข้าใจถึงความผูกพันของพี่ชายและน้องสาวแบบนี้
“งั้นก็ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นกูก็ฆ่ามึงไปก่อนเลย ค่อยไปฆ่าน้องสาวของมึง”
ตอนที่หลี่จู้กำลังเตรียมตัวจะลงมือ อยู่ดีๆข้างหลังมีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้น
“ถ้าหากว่าคุณฆ่าเขาไปเลย ลูกชายของคุณจะสูญเสียคนที่จริงใจต่อเขาคนหนึ่งไปเลย”
หลี่จู้หยุดชะงักหนึ่งที หันหน้ามองไป
ฉีฉีตื่นขึ้นมาแล้ว เธอลุกขึ้นมา ขยับเอ็นกับกระดูกของตนเองสักหน่อย เห็นลักษณะนี้ยาคงถอนพิษหมดแล้วตอนนี้เธอฟื้นฟูโดยสิ้นเชิงแล้ว
หลี่จู้ไม่เข้าใจพูดว่า “คุณหมายความว่าอะไรหรือ?”
ฉีฉีพูดเบาๆว่า “ชื่อของเขาคือสวีลั่ง”
สวีลั่งเก็บลูกชายคนหนึ่งชื่อหลี่โย่วเซิง เรื่องนี้ฉีฉีรู้อยู่ เพราะว่าเธอมักจะตามอยู่ข้างกายไป๋ยี่เฟย ดังนั้นตอนที่จางหัวปินพูดถึงเรื่องนี้อยู่เธอก็ได้ยินแล้วเช่นกัน
บวกกับคำพูดของหลี่จู้เมื่อกี้ในห้องประชุม เธอก็คาดเดาได้ทันทีว่าลูกชายของหลี่จู้เป็นหลี่โย่วเซิง ก็เป็นสวีลั่งเก็บได้คนนั้น ตอนนี้เป็นลูกชายของสวีลั่งแล้ว
แต่ว่า หลี่จู้น่าจะรู้ เพียงแค่เขาไม่เคยเห็นสวีลั่งเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ หลังจากหลี่จู้ได้ยินชื่อชื่อนี้จึงหยุดชะงักไปเลย
ในเวลานี้ เสียงจากใต้เขาส่งมา
“เร็ว! พวกเขาก็อยู่ข้างหน้า!”
“เร็ว!”
หลี่จู้ได้ยินเสียงนี้ สีหน้าเปลี่ยนอย่างรุนแรง เฉินอ้าวเจียวคนเหล่านั้นตามมาแล้ว
หลี่จู้โหดเหี้ยมพูดว่า “ผมขอบคุณอย่างมากที่คุณช่วยเลี้ยงลูกให้ผม วันนี้ไม่ใช่คุณตายก็คือผมตาย ย่อมต้องเลือกคุณตายอยู่แล้ว คุณวางใจเถอะ หลังจากคุณตายแล้วจะเผ่ากระดาษเงินให้คุณมากหน่อย”
พูดจบคำนี้ ก็เลยยกขาขึ้น จะไปฆ่าสวีลั่ง
หลี่จู้ชัดเจนมาก จะให้ฉีฉีหรือว่าสวีลั่งปล่อยตนเองออกไปเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
ถึงยังไงเขาก็ ทำเรื่องมากมายขนาดนี้ไป สวีลั่ง ฉีฉี ล้วนอยู่ที่นี่ไป๋ยี่เฟยย่อมไม่ปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน
ดังนั้นได้เพียงแค่ฆ่าพวกเขาไปเลย เขาจึงจะสบายใจได้
แต่ว่าขาของเขาไม่ได้ตกลงมาเลย เพราะว่าฉีฉีเหมือนดั่งฟ้าแลบ อยู่ดีๆ โผล่อยู่ที่ข้างหน้าของเขา ลุกขึ้นก็เตะไปหนึ่งที เตะหลี่จู้ลอยออกไปโดยตรงเลย
“ปั้ง!”
หลังจากหลี่จู้ลอยออกไปคิดไม่ถึงว่าชนต้นไม้เล็กๆต้นหนึ่งหักครึ่งโดยตรงเลย นี่จึงตกอยู่ที่พื้น
“พู!”
หลี่จู้กระอักเลือดออกมา ตื่นตะลึงเหลือเกินคลานขึ้นมา จ้องมองไปยังฉีฉีอีก
ก่อนหน้านั้นเขาไม่เคยเห็นฉีฉีมาก่อนเลย ย่อมไม่รู้พลังความสามารถที่แท้จริงของฉีฉีอยู่แล้ว แต่เมื่อกี้อยู่ในห้องประชุมเขาคิดว่าฉีฉีในเวลานั้นคือพลังความสามารถทั้งหมดของเธอแล้ว
แต่ว่าฉีฉีในเวลานั้นบนกายยังโดนยาพิษอยู่ ค่ากำลังการต่อสู้ย่อมไม่แข็งแกร่งกว่าตอนนี้อยู่แล้ว
นี่เกินความคาดคิดของหลี่จู้ไปแล้ว
กำลังอยู่ในเวลานี้ อยู่ดีๆฉีฉีร้องตะโกนเสียงหนึ่ง
“อ่า!”
ตั้งแต่หลังจากได้รับบาดเจ็บอยู่หลันเต่า เธอก็อึดอัดเป็นทุกข์มาโดยตลอด โดยเฉพาะเธอถูกไป๋ยี่เฟยกักบริเวณไปแล้วหลายวัน กินยาที่ทำให้ทั้งตัวไร้เรี่ยวแรงแบบนั้นมาโดยตลอด อย่าพูดถึงว่าทรมานขนาดไหนเลย
จากนั้นไม่ได้กินแล้ว ก็อยากจะลงมือแก้แค้นกลับมา แต่ไป๋ยี่เฟยรู้ข่าวของพี่ชายอยู่ เธอไม่อดทนไว้ไม่ได้ อดทนตลอดเวลาจนถึงตอนนี้ ระเบิดพุ่งออกมาโดยสิ้นเชิงเลย
“คุณกล้าตีพี่ชายฉัน! ฉันจะตีให้คุณตายเลย!”
“ตีให้คุณตาย!”
ฉีฉีโมโหร้องตะโกนพุ่งไปยังหลี่จู้ ตอนนี้ เธอรู้ว่าพี่ชายของตนเองเป็นใครแล้ว สิ่งที่กดดันไว้ทั้งหมดเหล่านั้นล้วนสามารถระเบิดพุ่งออกมาได้แล้ว
หลี่จู้เห็นฉีฉีพุ่งเข้ามายื่นมืองัดกระจกมองหลังที่อยู่บนรถเก๋งลงมา จากนั้นทิ้งออกไป
ฉีฉีไม่ได้หลบเลยสักนิด หนึ่งหมัดชกเข้าไป ตบกระจกมองหลังออก จากนั้นเตะเข้าไปหนึ่งที
หลี่จู้ตีลังกาลอยออกไปอีกครั้ง
เพิ่งตกอยู่บนพื้น ล้วนยังไม่ทันที่จะคลานขึ้นมา ฉีฉีมาถึงต่อหน้าแล้ว ศีรษะถูกฉีฉีเหยียบอยู่กับพื้น
“ปั้ง!”
ศีรษะของหลี่จู้ฟุ้บอยู่กับพื้น ทั้ง “พู” เสียงหนึ่ง พ่นเลือดออกมา
เห็นสภาพ หลี่จู้อยากจะพูดอะไร แต่ฉีฉีไม่สนใจเลยสักนิด ก็เตะลงไปอีกหนึ่งที เตะโดนซี่โครงของหลี่จู้ไปเลย
“อ่า!”
หลี่จู้ร้องทรมานเสียงหนึ่ง ตามด้วยเสียง “คว้าก” เบาๆ
ต่อจากนี้ หลี่จู้ถูกฉีฉียกขึ้นมาอีก ตาทั้งคู่ที่เต็มเปี่ยมด้วยความอาฆาตจ้องมองเขา