ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 695
ผู้ชายคนนั้นเร็วมาก ตอนที่ไป๋ยี่เฟยเห็น เขาอยู่ห่างจากหลินขวางเพียงแค่ก้าวเดียว แต่ไป๋ยี่เฟยอยู่ห่างจากหลินขวางเป็นสิบเมตร ช่วยคนไม่ทันแน่
เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องตะโกน เตือนหลินขวาง
และแล้ว ตะโกนแล้วไป๋ยี่เฟยก็รู้ ว่าช่วยอะไรไม่ได้มาก เพราะว่าฝั่งตรงข้ามเป็นยอดฝีมือ ถึงหลินขวางจะตอบสนองทันก็ช่วยได้ไม่มาก
ไป๋ยี่เฟยกำมือตัวเองแน่น อยากหลับตาไม่อยากเห็นภาพนี้
เวลาเดียวกัน ไป๋ยี่เฟยตะลึง ตาค้าง
เห็นเพียงหลินขวางก้าวไปข้าง จากนั้นก็หมุนร่าง ก็ยื่นมือข้างหนึ่งไปจับแขนเขาไว้ ใช้แรงบีบ
“อ๊าก”
คนนั้นก็ร้องเสียงดัง “แคร้ง” เสียงมีดตกลงไปที่พื้น
จากนั้นหลินขวางไม่ได้ให้โอกาสเขาตอบสนอง ก็ใช้แรงของมือ เหวี่ยงตัวลงพื้น
“ปัง”
คนก็ถูกเหวี่ยงลงไปที่พื้นอย่างแรง
สุดท้ายหลินขวางหยิบมีดจากพื้น ทิ่มลงไปที่หัวใจของคนคนนั้น
“เอื้อก……”
คนนั้นยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็ตายไปแล้ว ตาเบิกกว้าง อย่างไม่กล้าเชื่อ
ไป๋ยี่เฟยก็มองภาพนี้อย่างตะลึง
เขานึกว่าหลินขวางเป็นคนธรรมดา นึกไม่ถึงเลยว่าเขาเก่งขนาดนี้ เป็นยอดฝีมือชัดๆ
ฝีมือเมื่อกี้ดูเหมือนง่าย ความจริงใช่เทคนิคสูง ถ้าหากทำได้ไม่ดี ก็ไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่เห็น
หลินขวางมองไป๋ยี่เฟยที่กำลังตกใจก็ยิ้ม “พี่ไป๋ คุณชายคนนี้ไม่ใช่คุณชายจริง ไม่อย่างนั้นทำไมท่านหลินรองถึงวางใจให้ผมมาคนเดียว?”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินแล้วก็ดีใจ เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวหลินขวาง “ดี ถ้าพวกเรามีชีวิตออกไปได้ หาโอกาสฝึกด้วยกันหน่อย”
เพิ่งพูดคำนี้จบ ก็มีคนเห็นไป๋ยี่เฟย ก็พูดตะโกนพุ่งเข้ามา
“ไป๋ยี่เฟยอยู่นี่ จับมันไว้ ก็จะได้สิทธิ์การดูแลหลันเต่าหนึ่งเขต”
“จับไป๋ยี่เฟยไว้ จะได้เงินรางวัลห้าล้าน”
คนทั้งกลุ่มบุกกันมา ล้อมไป๋ยี่เฟยและหลินขวางไว้
หลินขวางไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย ยังหัวเราะพูดกับไป๋ยี่เฟย “ได้เลย แต่ห้ามใช้มีด”
ไป๋ยี่เฟยก็หัวเราะ “ไม่มีปัญหา แต่คุณอาจจะเสียเปรียบ”
หลินขวางกลับพูดว่า “ก็ไม่แน่”
คุยกับจบแล้ว ทั้งสองคนถึงพุ่งเข้าหากลุ่มคน
ไป๋ยี่เฟยคนละมีดแทงไป เวลาเดียวกันก็บีบคอยกขึ้น แล้วถีบไปไกล
หลินขวางไม่มีอาวุธในมือ แต่ก็ยังคงเก่งกาจ จับคนได้ก็ทั้งบีบทั้งเหวี่ยง มือคู่ต่อสู้โดนหมุนไปหลายรอบ
เวลานี้ที่ไม่ไกลนัก ชายวัยกลางคนที่ยังไม่ได้ลงมือพูดกับเต้าจ่าง “ศิษย์พี่ ไม่อย่างนั้นพวกเราลงมือเถอะ”
เต้าจ่างส่ายหัว “ไม่จำเป็น”
“ยอดฝีมือระดับสองสี่คน ระดับสามอีกสิบกว่าคน และฝีมือธรรมดาอีกสองร้อยกว่า ถึงไป๋ยี่เฟยจะเก่งแค่ไหน ก็สู้คนเยอะขนาดนี้ไม่ได้ สถานการณ์เล็กแค่นี้ไม่ต้องให้เราลงมือเอง” เต้าจ่างอธิบายอย่างดี
ศิษย์น้องคนนี้ฟังจบแล้ว ก็อึ้งเล็กน้อย สถานการณ์เล็ก?
พวกเขาใช้อำนาจครึ่งเมืองหลวง ล้อมฆ่าเถ้าแก่คนหนึ่งจากเมืองเล็กๆ อีกอย่างสถานการณ์ตอนนี้ก็ไม่ได้นำฝ่ายเดียว นี่ยังสถานการณ์เล็กอีก?
ชายวัยกลางคนอึ้งในใจ เขาอยู่ฝั่งตะวันตกมาหลายปี แต่ไม่เคยเห็นสถานการณ์แบบนี้เลย สำหรับเขาแล้วนี่มันสถานการณ์ใหญ่แล้ว
ดังนั้นได้ยินคำพูดพวกนี้แล้วรู้สึกอึ้ง เขารู้สึกว่าตัวเองเหมือนบ้านนอกไม่เคยเห็นโลก
ด้านหน้าโน่น การสู้รบก็ยังสู้กันต่อไป
คนชุดดำเมื่อกี้ฆ่าคนธรรมดาไปสองคน กำลังจะพุ่งไปข้างนอกต่อ ก็ถูกแทงเข้าที่ท้อง
เขาอึ้งไปนิดหนึ่ง จากนั้นก็ถูกคนดึงขึ้นมาทั้งมีด
คนนี้เป็นยอดฝีมือระดับสองของสหพันธ์เมืองหลวง ระดับสองราคาถูก
เพราะฉะนั้นในกลุ่มคน ก็ถือว่ามีความสามารถพอสมควร ก็เหมือนอยู่แบบเก่งกาจ
เพราะว่าเฉินอ้าวเจียวก็ระดับสองราคาถูก ส่วนไป๋ยี่เฟย แค่ระดับสามราคาสูง
คนชุดดำรอบด้านเห็นเพื่อนของตัวเองถูกยกขึ้น ต่างก็จ้องคนนั้นอย่างดุเดือด
พวกเขาเป็นเพื่อนร่วมสู้รบกัน และเป็นกองกำลังของไป๋ยี่เฟย มีไป๋ยี่เฟยที่พานำพวกเขาอย่างเอาใจใส่ พวกเขาก็รักและเอาใจใส่กันทุกคน
ดังนั้นคนชุดดำหลายคนหลุดมือ ไม่ว่าตัวเองโดนแทงไปกี่ครั้ง ก็พุ่งเข้าไปฆ่ายอดฝีมือระดับสองคนนั้น
และแล้ว ด้วยความสามารถที่ต่างกัน พวกเขาพุ่งเข้าไปก็โดยยอดฝีมือระดับสองแทงคนละทีจัดการหมด
เพียงครู่เดียวพวกเขาก็เสียคนชุดดำไปหลายคน
สำหรับไป๋ยี่เฟยแล้ว สถานการณ์ไม่ค่อยดี
ฝ่ายตรงข้ามมียอดฝีมือระดับสองสี่คน หนึ่งในนั้นถูกเฉินอ้าวเจียวขวางไว้ อีกคนถูกไป๋หู่กับจงเหลียนล้อมไว้ ส่วนอีกสองคนไม่มีคนขวาง
แค่พริบตาคนของขวางซาก็ล้มไปเจ็ดแปดคนแล้ว
เมื่อไป๋ยี่เฟยเห็นแล้ว ก็รู้สึกปวดใจ เขาอยากบุกเข้าไปช่วย แต่ข้างหน้ามีคนเยอะเกินไป เข้ามาคนแล้วคนเล่า เหมือนฆ่ายังไงก็ไม่หมด เขาบุกเข้าไปไม่ได้
ในเวลาเดียวกัน
“ตั๊ง”
ยอดฝีมือระดับสองคนหนึ่งกำลังจะฟันไปที่คนชุดดำ ก็มีมีดลอยมา และเสียงลมแรง กระทบมีดของยอดฝีมือระดับสองกระเด็น
จากนั้น ยอดฝีมือระดับสามคนหนึ่งของสหพันธ์ธุรกิจและระดับสามของหนึ่งในสิบตระกูลคนหนึ่ง ถูกถีบกระเด็นไปไกล ไปทางเดียวกันกับยอดฝีมือระดับสองคนนั้น
ยอดฝีมือระดับสองเห็นแล้วก็ตกใจ รีบหลบ
และเวลาเดียวกัน ร่างเล็กร่างหนึ่งก็พุ่งออกมา
ยอดฝีมือระดับสองคนนั้นยังดูไม่ชัดว่าเป็นใคร ก็เห็นหมัดเล็กๆต่อยมาตรงหน้า และวินาทีต่อมา หมัดนั้นก็ชกเข้าที่หน้าท้องเขา
เขารู้สึกได้ถึงแรงกระแทกอย่างหนัก
“โคร่ง”
ร่างก็ลอยไปไกล
ร่างเล็กนี้ไม่ได้จะปล่อยเขาไป วิ่งตามเข้าไป ยกหมัดเล็กๆของเธอ ต่อยเข้าไปที่คอของยอดฝีมือระดับสองคนนั้น
“แคร็ก” เสียงดังขึ้น หักแล้ว
จากนั้นก็เป็นเสียง “ปัง”
กระแทกลงพื้น
ตามนั้น ยอดฝีมือระดับสองตายแล้ว จนถึงตายก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนฆ่าเขา หน้าก็ยังมองไม่ชัดเลย
ส่วนเต้าจ่างและชายวัยกลางคนที่มองอยู่ไกลรู้สึกตะลึง
ไป๋ยี่เฟยก็ชะงักไปครู่หนึ่ง
ยอดฝีมือระดับสองคนหนึ่งถูกอีกคนฆ่าไปในเวลาไม่กี่วินาที มันช่างน่าตะลึงมาก
แต่มันเป็นความจริง
คนที่มานั้นไม่ใช่คนอื่น เธอคือฉีฉี
ฉีฉีเป็นลูกศิษย์ที่ซินชิวสอนมา ถึงจะเป็นคนระดับเดียวกัน ความสามารถก็เหนือกว่า
ชายวัยกลางคนร้องอย่างตะลึง “ศิษย์น้องเล็ก?”
เต้าจ่างพูดเรียบเฉย “เธอไม่ใช่ศิษย์น้องเล็กของเราอีกแล้ว”
ชายวัยกลางคนไม่เข้าใจ “อะไร?”
เต้าจ่างไม่ได้อธิบาย แต่พูดเสียงเรียบ “ศิษย์น้อง ลงมือได้”
ชายวัยกลางคนลังเลนิดหนึ่ง “กับศิษย์น้องเล็ก?”
เต้าจ่างให้สายตาเย็นชาไร้อารมณ์มองชายวัยกลางคน “ถ้าไม่อยาก ก็ร่วมมือกับศิษย์น้องเล็กมาสู้กับฉัน”
ชายวัยกลางคนรีบส่ายหน้า แล้วโบกมือไปมา “ไม่ไม่ไม่ ศิษย์พี่ก็พูดไปถึงไหน?”
จากนั้นชายวัยกลางคนก็กัดฟัน เดินไปทางฉีฉี