ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 70
ตอนที่ 70
“เป็นไปไม่ได้!”
หลี่เสว่ไม่ได้ต้องการปฏิเสธในทันที
“ไป๋ยี่เฟยไม่ใช่คนแบบนั้น”
หลิ่วจาวเฟิงกล่าวต่ออย่างเฉยเมย “เสว่เอ๋อ อย่างที่บอกไปคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ใช่คนแบบนั้น”
หลี่เสว่ขมวดคิ้ว ใบหน้าที่ผ่อนคลายของเธอก็เคร่งขรึมขึ้นมาอีกครั้ง พูดกับหลิ่วจาวเฟิงว่า “หลิ่วจาวเฟิง ไป๋ยี่เฟยเป็นสามีของฉัน ฉันไม่อนุญาตให้คุณมาดูถูกเขา!”
หลิ่วจาวเฟิงตะคอกเบา ๆ “เขาไม่คู่ควรกับคุณเลย!”
“คู่ควรหรือไม่คู่ควร คุณเป็นคนนอกเกี่ยวอะไรด้วย!”
พูดจบ หลี่เสว่ก็ต้องการจะออกไปจากสำนักงาน
แต่ในเวลานี้ หลิ่วจาวเฟิงกลับก้าวไปหน้าเธอแล้วขวางประตูไว้ ยิ้มขึ้นด้วยใบหน้าที่เข้มขรึม “เชื่อผม เขาไม่คู่ควรกับคุณจริง ๆ เพราะ……”
“เป็นเพราะมีผมคนเดียวเท่านั้นที่คู่ควรกับคุณ!”
“คุณหมายความว่าอย่างไร” มองไปยังความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของหลิ่วจาวเฟิง หลี่เสว่ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก
หลิ่วจาวเฟิงก็พูดขึ้นอย่างโกรธเกรี้ยว “เสว่เอ๋อ ผมชื่นชอบคุณขนาดนี้ คุณกลับไม่เคยหันมามองผมบ้างเลย! แต่ไอ้ห่วยไป๋ยี่เฟยนั่นคือตัวอะไร ผมเริ่มชอบมาตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัย ถ้าไม่ใช่เพราะไป๋ยี่เฟย ผมก็คงจะได้อยู่กับคุณไปแล้ว! คุณยังจะถามคำถามไร้สาระแบบนั้นกับผมอีกหรือ”
ในขณะที่พูด หลิ่วจาวเฟิงก็ผลักตัวหลี่เสว่ลงไปบนโซฟา
“ผมรู้สึกว่าคุณนี่พูดดี ๆไม่ยอมทำตาม ก็คงต้องใช้กำลังบังคับ รอให้ผมได้คุณมาก่อน ผมจะคอยดูว่าไป๋ยี่เฟยนั่นจะทำอะไรผมได้อีก”
หลี่เสว่กำลังตกใจกลัวกับการกระทำของหลิ่วจาวเฟิง เธอต้องการจะขัดขืน ต้องการที่จะลุกจากโซฟา แต่ทันใดนั้นก็ปรากฏว่าตนเองไร้เรี่ยวแรง ราวกับเธอกำลังป่วยหนัก ทั่วทั้งร่างไม่มีเรี่ยวแรงเลยแม้แต่น้อย
จู่ ๆ เธอก็เริ่มเสียใจขึ้นมา เสียใจภายหลังที่ไม่เชื่อฟังคำพูดของไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยเคยบอกไว้ว่าหลิ่วจาวเฟิงเป็นบุคคลอันตราย แต่ตอนก่อนหน้านี้ เธอยังคิดแค่ว่าเป็นเพราะไป๋อี่เฟยหึงหวงจึงพูดเช่นนั้น เธอคิดอย่างไร้เดียงสาไปได้ว่าหลิ่วจาวเฟิงเป็นสุภาพบุรุษ
“คุณ คุณให้ฉันดื่มอะไรเข้าไป” หลี่เสว่ก็ตระหนักได้ในที่สุดว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงคิดถึงน้ำแก้วนั้น
ตอนนี้อยากจะตบตัวเองด้วยความเกลียด ทำไมถึงได้โง่แบบนี้ เมื่อสองนาทีก่อนยังคงเชื่อว่าหลิ่วจาวเฟิงเป็นสุภาพบุรุษ ไม่ใช่คนร้ายที่เลวทราม!
หลิ่วจาวเฟิงตะคอกใส่ ถอดเสื้อโค้ตของตนเองออก โยนลงไปบนพื้น “วันนี้วันนี้กูแม่งจะทำให้มึงได้รู้ ว่ากูแข็งแกร่งกว่าไป๋ยี่เฟยเป็นร้อยเท่า”
หลี่เสว่กลัวมาก แต่ตอนนี้เธอไม่มีแรงแม้แต่จะต่อต้าน ดวงตาก็แดงก่ำด้วยความกังวล
“หลิ่วจาวเฟิง! คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ!” หลี่เสว่พูดอย่างตื่นตระหนก “ฉันเป็นภรรยาของไป๋ยี่เฟย คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้!”
“ห๊ะ!” หลิ่วจาวเฟิงพูดด้วยความรังเกียจ “ไอ้ไป๋ยี่เฟยมันคือตัวอะไร เขาไม่คู่ควรกับคุณเลย! มีแค่ผม ผมถึงจะคู่ควร! เขาเป็นแค่เศษขยะ! ถ้าได้รู้ว่าผมจัดการคุณแล้วละก็ เขาคงไม่กล้าจะทำอะไร! ไม่น่าว่าอาจจะยินดีที่จะแลกคุณเป็นเงินค่าขนมก็ได้!”
“สามีของฉันไม่ใช่ขยะ!” หลี่เสว่โต้กลับเสียงดัง
หลิ่วจาวเฟิงนั่งลงมา จากนั้นก็ยื่นมือไปปลดเสื้อผ้าของหลี่เสว่
“เป็นขยะหรือเปล่า ใจเขาเองนั่นแหละรู้ดีที่สุด!”
หลี่เสว่ต้องการจะหยุดยั้งหลิ่วจาวเฟิง แต่ตนเองไม่มีแรงไปทั้งร่าง แม้แต่มือก็ยังยกไม่ขึ้น ทันใดนั้นก็ส่งเสียงครวญคราง “หลิ่วจาวเฟิง……คุณหยุดนะ! หยุดเดี๋ยวนี้”
แต่อาหารอร่อยกำลังอยู่ใกล้ริมฝีปากแล้ว จะปล่อยไปได้อย่างไรกัน
“กริ้งๆๆ…..” ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ในสำนักงานก็ดังขึ้น
หลิ่วจาวเฟิงหยุดชั่วคราว เอื้อมมือไปรับโทรศัพท์ แล้วตะโกนเสียงดัง “เฮ้ มีอะไรก็รีบพูดมา”
แต่โทรศัพท์นั้นกลับพูดอย่างกระตือรือร้น “เจ้านาย…..มีคนบุกรุกมาในบริษัท!”
หลิ่วจาวเฟิงตกตะลึง “บุกรุกหรือ”
พูดจบก็ตรงไปเปิดคอมพิวเตอร์ ตรวจสอบจากหน้าจอ
ชายคนหนึ่งในชุดผู้ป่วยปรากฏตัวขึ้นมาในจอภาพ ข้างกายของเขามีคนตัวใหญ่สูงร้าวหนึ่งเมตรเก้าสิบมาด้วย คนที่มาคือไป๋ยี่เฟยและไป๋หู่!
รอบเขาของทั้งสองคน มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่เจ็ดแปดคน
หลิ่วจาวเฟิงตะโกนไป “ขวางเขาให้ได้! เรียกคนมาเพิ่มอีก! ต้องขวางเขาไว้ให้ได้! ฆ่าให้ตายเลยก็ได้ไม่เป็นไร!”
“ได้ ประธานหลิ่ว”
หลี่เสว่ที่อยู่บนโซฟาเมื่อได้เห็นไป๋ยี่เฟยในวิดีโอ ในตาก็แดง และพูดเบาๆ “สามี……”
สิบนาทีที่แล้ว
ไป๋หู่ขับรถบีเอ็มดับเบิลยูของไป๋ยี่เฟยเพื่อไปรับไป๋ยี่เฟย
“คุณรู้หรือเปล่าว่าเธออยู่ที่ไหน” ไป๋ยี่เฟยถามไป๋หู่
ไป๋หู่ตอบอืมเพียงคำเดียว เร่งความเร็วไปยังอุตสาหกรรมเหล็กหลิ่วซื่อ
ไป๋ยี่เฟยไม่แปลกใจเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไป๋หู่มาเพื่อปกป้องเขา มันจึงเป็นเรื่องพื้นฐานที่จะรู้ตำแหน่งของเขาได้ตลอดเวลา ดังนั้นไป๋หู่จึงได้ติดเครื่องระบุตำแหน่งให้เขา
นี่คือเหตุผลที่เมื่อทุกครั้งไป๋ยี่เฟยเกิดอะไรที่ยากลำบากขึ้น ไป๋หู่ก็จะไปปรากฏตัวไปได้ทันเวลา
เพียงเพราะอาการบาดเจ็บครั้งนี้ ไป๋ยี่เฟยจึงได้ถอดเสื้อผ้าออก ทั้งโทรศัพท์และกุญแจก็ล้วนแต่อยู่ในกระเป๋าของหลี่เสว่ เครื่องระบุตำแหน่งจึงอยู่กับตัวของหลี่เสว่
บนรถ ไป๋หู่ยังบอกกับไป๋ยี่เฟยว่า “ผมพบว่าหลิ่วจาวเฟิงซื้อยาที่ทำให้คนรู้สึกอ่อนแอจากตลาดใต้ดิน”
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้วเมื่อได้ยินแบบนั้น ในใจก็ยิ่งกังวลและร้อนรน
เมื่อถึงด้านล่างของอาคารใหญ่ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ได้รั้งขวางพวกเขาไว้ แล้วถาม “พวกคุณมาทำอะไร จะเข้าไปต้องลงทะเบียน!”
พวกเขาได้พบกับเหอหยวนหยวนอีกครั้งที่ประตู โดยบังเอิญ
เหอหยวนหยวนเมื่อได้เห็นไป๋ยี่เฟย ก็ได้ยิ้มและทักทายเขา แววตาของเธอดูลุกลี้ลุกลน ซึ่งไม่อาจรอดพ้นสายตาของไป๋ยี่เฟยไปได้
“คุณมาที่นี่ทำไม” เหอหยวนหยวนถาม
ไป๋ยี่เฟยไม่พูดอะไร ผู้คุมได้เคาะกระบองบนไหล่อีกครั้ง และพูดอย่างดูถูก “ถามคุณอยู่นะ หูหนวกหรือไง หรือว่าเป็นบ้า ใส่ชุดโรงพยาบาลมาก่อความวุ่นวายที่หลิ่วซื่อกรุ๊ปหรือเปล่า”
เรื่องที่ไป๋ยี่เฟยใส่ชุดโรงพยาบาลมานั้น เหอหยวนหยวนก็แปลกใจเช่นกัน เธอจึงถามไป๋ยี่เฟยด้วยความสงสัย “คุณไม่สบายหรือ”
ถามไปอย่างนั้น แต่หลังจากได้เจอกับหลี่เสว่เมื่อกี้นี้ สมองของเธอก็โลดแล่นโดยอัตโนมัติ ไป๋ยี่เฟยพบว่าภรรยาของตนเองกำลังสวมเขาให้ จึงจะไปคิดบัญชีกับหลิ่วจาวเฟิง แต่ไม่สามารถเอาชนะหลิ่วจาวเฟิงได้จึงถูกส่งไปโรงพยาบาลแทน
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยังคงตะโกนต่อไป “ฉันถามว่าพวกนายตั้งใจจะมาหาเรื่องใช่ไหม จะบอกหรือไม่บอกว่ามาทำอะไรกันแน่ อย่ามายืนอยู่ตรงนี้ ฉันบอกพวกแกให้นะ ที่นี่คือหลิ่วซื่อกรุ๊ป!”
ไป๋ยี่เฟยกวาดสายตามองไปยังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จากนั้นก็พูดกับเหอหยวนหยวน “คุณหลบไปหน่อย”
“เอ๊ะ” เหอหยวนหยวนตกตะลึง ไม่เข้าใจว่าทำไมไป๋ยี่เฟยจึงพูดแบบนั้น
ไป๋ยี่เฟยชี้ไปที่ตำแหน่งด้านหนึ่ง “เพื่อความปลอดภัยที่จะไม่โดนลูกหลง”
พูดจบ เหอหยวนหยวนยังไม่ทันตอบสนอง ไป๋ยี่เฟยก็ยกเท้าขึ้นมาอย่างกะทันหัน เตะไปยังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ตรงหน้า
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยโกรธมาก พูดกับเครื่องอินเตอร์คอม “มีคนก่อกวนที่ประตู มีคนก่อกวนที่ประตู!”
หลังจากที่พูดไปไม่นาน ก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมากกว่าสิบคน และได้ทำการล้อมไป๋ยี่เฟยและไป๋หู่ไว้
เหอหยวนหยวนถูกบีบให้ออกไปอีกด้านหนึ่ง แต่ก็ยังคงตกตะลึง เธอไม่เคยคิดเลยว่าไป๋ยี่เฟยจะทำได้
ตอนที่เขาเรียนมหาวิทยาลัย ใครจะไปรู้ว่าไป๋ยี่เฟยผู้มีอารมณ์ดี ไม่ว่าจะพูดอะไรก็ไม่เคยลงไม้ลงมือ ไม่ค่อยที่จะโกรธ และมีความอดทนมาก
ตอนนี้กลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ไป๋ยี่เฟยที่อยู่ในชุดของผู้ป่วย ทำการไล่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เดินเข้ามาอย่างไม่ไยดี แต่ในทางกลับกันยังคงดุดันไปข้างหน้าทีละก้าว ๆ ทำเหมือนไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ที่นั่น
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้เห็นไป๋ยี่เฟยทำเป็นเสแสร้ง
แต่ละคนถือกระบองห้อมล้อมเข้ามา
อย่างไรก็ตาม ทุกคนที่อยู่ห้อมล้อมอยู่ข้างไป๋ยี่เฟยเป็นระยะหนึ่งเมตรถูกทำให้ล้มลงจนส่งเสียงร้อง
เป็นเพราะไป๋หู่ที่ติดตามไป๋ยี่เฟยอยู่ ได้ทำให้ทุกคนที่อยู่ใกล้ล้มลงจนหมด
หลังจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยล้มลง ก็ยังคงพยายามลุกขึ้นมา และก้าวไปข้างหน้า แต่ก็ยังถูกไป๋หู่ทำให้ล้มลง
ไป๋ยี่เฟยเมินใส่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเดินไปข้างหน้าทีละก้าว ๆ
เพียงแค่เดินเข้าไปใกล้อาคารใหญ่ จู่ ๆก็มีคนราวสามสิบสี่สิบคนเข้ามา มีทั้งพนักงาน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
คนที่เป็นผู้ชายผมยาวคนนั้น เมื่อได้เห็นไป๋ยี่เฟยและไป๋หู่ก็ยกผมของตนเองขึ้น และพูดอย่างดูถูก “ดูเหมือนว่าพวกคุณจะเรียนรู้วิชามวยกันบ้างแล้ว!”
ชายคนนั้นเดินตรงไปยังไป๋ยี่เฟย มองสำรวจทั่วร่างทั้งบนล่าง “อย่างไรก็ตาม ฉันเป็นนักเทควันโดสายดำ ไม่ได้หาใครสักคนมาแลกเปลี่ยนความรู้นานแล้ว งั้นก็ดีเลย พวกนายมาซ้อมกับฉันไหม”