ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 74
บทที่74
ไป๋ยี่เฟยยิ้มเจื่อนๆ คิดว่าครั้งนี้ได้แก้ไขความเข้าใจผิด ตัวเองยิ่งดูเป็นฮีโร่ช่วยสาวงาม หลี่เสว่จะยอมรับเขา แต่กลับมีโจวฉวี่เอ๋อโผล่มาแทน พูดไม่ออกจริงๆ……
ผ่านไปแล้วสองวัน
เช้าของวันที่สาม มีสองพ่อลูกมายังโหวจวี๋กรุ๊ป
หลงหลิงหลิงพาทั้งสองคนไปห้องประชุมของโหวจวี๋กรุ๊ป
ไป๋ยี่เฟยนั่งอยู่ในห้องทำงานประธาน ดูการสนทนาของพวกเขาผ่านวิดีโอเหมือนครั้งก่อน
ณ ห้องประชุม
หลี่เฉียงตงกับนายท่านหลี่นั่งตรงข้ามกัน
เดิมหลี่ต้าไห่และคนอื่นๆจะมาด้วยกัน แต่นายท่านหลี่ไม่อยากให้วุ่นวายเหมือนคราวที่แล้ว ดังนั้นเขาจึงมาแค่คนเดียว
ตอนนี้นายท่านหลี่มองหลี่เฉียงตงด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
แต่หลี่เฉียงตงกลับมีสีหน้าปกติ เมื่อเห็นนายท่านหลี่ก็เรียกอย่างมีมารยาท“พ่อ”
“หึ!”นายท่านหลี่ทำเสียงเย็นชา“ไม่ต้องเรียกฉันว่าพ่อ!ฉันเป็นให้ไม่ได้!”
หลี่เฉียงตงได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มเจื่อนๆ ไม่พูดอะไรต่อ
ตอนนี้ หลงหลิงหลิงพูดขึ้น:“ท่านทั้งสอง ท่านประธานของเราหวังว่าวันนี้จะมีบทสรุปที่ดี ดังนั้นโปรดท่านทั้งสองสงบอารมณ์หน่อย และหวังว่าทุกคนจะพูดไปในทางที่จะชนะ”
ห้องประชุมเงียบไปครู่หนึ่ง
หลี่เฉียงตงพูดขึ้นก่อน:“วันนี้เป็นวันที่สามแล้ว ไม่รู้ว่าพ่อพิจารณาถึงไหนแล้ว?”
“พิจารณากับผีน่ะสิ!”นายท่านหลี่พูดอย่างโมโห“แกยังเห็นฉันเป็นพ่องั้นเหรอ?ลูกใครบ้างที่ให้พ่อยอมรับผิดแทนลูก?”
หลี่เฉียงตงยิ้มเจื่อนๆ:“พ่อ แค่ยอมรับว่าแม่ผมเป็นผู้หญิงของพ่อ ให้ชื่อเสียงกับเธอก็แค่นั้น มันยากมากเลยเหรอ?”
“บอกแล้วไงว่าอย่าเรียกฉันว่าพ่อ!ฉันไม่เหมาะที่จะเป็นพ่อ!”นายท่านหลี่พูดอย่างเย็นชา
เกิดความเงียบน่าลำบากขึ้นในห้องประชุม ตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ทั้งสองคนนั่งไม่พูดอะไร คนหนึ่งก้มหน้ามองไปทางอื่น อีกคนก็ก้มหน้าดื่มชา ไม่สบตากันแม้แต่น้อย
หลงหลิงหลิงรออยู่ครู่ใหญ่ก็ไม่เห็นทั้งสองพูด เธอจึงเอ่ยขึ้น:“เจ้านายทั้งสอง ไม่อ่อนข้อให้กันแบบนี้ไม่อาจแก้ปัญหาได้นะคะ ฉันหวังให้พวกคุณควบคุมอารมณ์หน่อย คิดในทางที่มีประโยชน์มากๆ”
พูดเช่นนั้นทั้งสองยังคงเหมือนเดิม ไม่มีทีท่าประนีประนอมแม้แต่น้อย
หลงหลิงหลิงจะพูดอะไรบางอย่าง หลี่เฉียงตงกลับพูดขึ้นมาก่อน:“เรื่องที่ผมเคยพูดไป3เรื่องนั้น เพียงแค่พ่อทำได้ ผมก็คำไหนคำนั้น”
นายท่านหลี่หันมองหลี่เฉียงตงอย่างโมโห“ฝันไปเถอะ”
ให้เขายอมรับเรื่องผิดพลาดที่ผ่านมา ต้องขายหน้า เขาทำไม่ได้!
แล้วยังให้เขาที่อาวุโสกว่า ไปขอโทษลูกสะใภ้ เขายิ่งทำไม่ได้!
หลี่เฉียงตงได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้ว ไม่พูดไม่จา
หลงหลิงหลิงเห็นเช่นนั้นจึงอยากพูดบางอย่าง แต่ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงจากลำโพงของห้องประชุม
“สวัสดีทุกท่าน ผมเป็นประธานของโหวจวี๋กรุ๊ป”น้ำเสียงดุดันและอึดอัด
ไป๋ยี่เฟยเห็นพวกเขาต่างไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน ผ่านวิดีโอเลยโมโห เขายังมีเรื่องสำคัญต้องทำ ไม่อยากเสียเวลากับสองพ่อลูกนี้
ดังนั้นจึงใช้เครื่องดัดเสียงมาขัดจังหวะพักเขา
“ผมเข้าใจความคับข้องใจระหว่างคุณทั้งสอง สถานการณ์ตอนนี้ทั้งสองคงอับอาย งั้นผมขอเป็นคนชั่ว คุณทั้งสองทำตามที่ผมพูดนะ”
“นายท่านหลี่ เรื่องนี้ผิดที่คุณ ยอมรับผู้หญิงของตัวเองเป็นหน้าที่ที่ผู้ชายควรทำ คุณควรนำป้ายวิญญาณเธอไปยังศาลประจำตระกูลของตระกูลหลี่”
“ประธานหลี่ของนิวซีกรุ๊ป เรื่องนี้ไม่ได้มีเกียรติอะไร ดังนั้นไม่จำเป็นต้องทำต่อหน้าทุกคน ถือว่าไว้หน้านายท่านหลี่”
“ยังไงนายท่านหลี่ก็เป็นพ่อของคุณ เงื่อนไขข้อที่3นั่นช่างมันเถอะ!”
“ผมขอพูดเพียงเท่านี้ ถ้าพวกคุณไม่มีปัญหาอะไร ก็ทำตามที่ผมบอกเถอะ!ถ้าพวกคุณยังไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน งั้น……เตรียมตัวล้มละลายได้เลย ผมเชื่อว่าโหวจวี๋ทำได้”
ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างชัดเจน เด็ดขาดมาก ไม่มีช่องทางให้เจรจา
นี่เป็นสิ่งที่ไป๋ยี่เฟยให้ทางเลือกกับพวกเขา ให้พวกเขาถอยคนละก้าว แต่ถ้าไม่เชื่อฟังละก็ คงต้องใช้มาตรการบีบบังคับ
ไป๋ยี่เฟยพูดจบ ห้องประชุมเงียบลงอีกครั้ง บรรยากาศไม่ดียิ่งกว่าก่อนหน้านี้
หลงหลิงหลิงประหลาดใจกับไป๋ยี่เฟย เธอไม่คิดว่าไป๋ยี่เฟยจะตัดสินใจเด็ดขาดแบบนี้
แต่พูดตามตรง สองคนนี้แข็งข้อต่อกันไปก็ไม่ใช่ทางที่ดี ถอยคนละก้าวแบบนี้ดีกว่า เพียงแต่ให้ไป๋ยี่เฟยเป็นคนชั่ว ทั้งสองฝ่ายไม่ชอบในขณะที่หลงหลิงหลิงคิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้และได้รับการแก้ไข……
“ผมเห็นด้วยกับสิ่งที่ประธานพูด”นายท่านหลี่ถอนหายใจแล้วพูด
หลงหลิงหลิงตกตะลึง เธอคิดว่าหลี่เฉียงตงเห็นด้วย แต่คนที่ไม่เห็นด้วยคือนายท่านหลี่ ยังไงซะเขาก็เป็นคนที่ผ่านเรื่องลำบากหลายสิบปี จะให้อับอายคงเป็นไปได้ยาก
แต่หลี่เฉียงตงเพียงต้องการให้นายท่านหลี่ยอมรับ นั่นอย่างน้อยหลี่เฉียงตงบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว แต่ทว่า……
“ผมไม่เห็นด้วย”หลี่เฉียงตงพูดอย่างเย็นชา ท่าทางแน่วแน่
“20ปีมานี้ พ่อรู้ไหมว่าผมโดนคนดูถูก โดนหัวเราะเยาะมาขนาดไหน?แม้แต่รุ่นน้องยังกล้าเรียกชื่อผมเดี่ยวๆ ไม่เคารพผม เย้ยหยันผม ทำให้ผมอับอาย!”
“พ่อไม่เคยโดนไม่รู้หรอก ผมโดนกระทำแบบนี้มา20กว่าปี ไม่ใช่20กว่าวัน!พ่อไม่รู้ถึงความรู้สึกนั้น!”
“ตอนเด็กๆ ทุกคนต่างชี้หน้าด่าผม บอกว่าผมเป็นสัตว์ป่า ผมเลยถามแม่ว่าพ่อผมเป็นใคร?แม่บอกผมว่าพ่อผมเป็นบอสใหญ่ที่มีอำนาจมาก”
“ผมถามอีกว่าทำไม่พ่อไม่อยู่กับเรา?แม่บอกว่าเขาเป็นบอสใหญ่ ยุ่งมากๆ แต่เขาก็ติดตามเราตลอด”
“จนกระทั่งในภายหลัง ในที่สุดพ่อผมก็ปรากฏตัว แต่แค่ครั้งนั้นครั้งเดียว หลังเขาจากไปม่ผมร้องไห้อย่างเจ็บปวดร้องไห้”
“ต่อมาผู้หญิงตระกูลหลี่มาหา แล้วด่าแม่ผม ยิ่งไปกว่านั้นคือเอารองเท้าส้นสูงตบแม่ผม บอกว่าเธอเป็นนังจิ้งจอก ยั่วยวนคนที่แต่งงานแล้ว!”
“ตอนนั้นแม่ผมจึงรู้ว่า ทุกอย่างล้วนเป็นภาพลวงตาที่งดงาม ที่แท้พ่อของผมมีภรรยาอยู่แล้ว!”
“ผู้หญิงพวกนั้นด่าผมว่าเป็นพวกสัตว์ป่า สัตว์ป่าที่เกิดจิ้งจอก!”
“ตั้งแต่นั้นมา ผมสาบานว่าสักวัน ผมจะให้พวกเขาทุกคนมาขอโทษผม แม่ผมไม่ใช่จิ้งจอก และผมก็ไม่ใช่สัตว์ป่า!”
“ผมอดทนมา20กว่าปี ผมอยากให้ทุกคนรู้สิ่งนี้ นี่คือแรงผลักดันในการอดทนของผม!”
“ถ้าพ่อคิดว่าสิ่งที่ผมขอมันมากเกินไป พ่อทำไม่ได้ นั่นเพราะพ่อไม่มีประสบการณ์ที่สิ้นหวังเหมือนผม พ่อไม่มีคุณสมบัติไปตัดสินอะไร”
“นี่สำหรับผมแล้ว ไม่อาจเปลี่ยนได้!ผมไม่มีลู่ทางให้ถอย ถึงนิวซีกรุ๊ปต้องล้มละลายตั้งแต่ตอนนี้ ผมก็ไม่ถอย!”
พูดจบหลี่เฉียงตงยืนขึ้นแล้วออกจากห้องประชุม
นายท่านหลี่ได้ยินเช่นนั้นก็ตัวสั่นขึ้นมา ความคิดล่องลอย ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
และการเจรจานี้ จนถึงตอนนี้ยังมีบทสรุป
หลงหลิงหลิงก็หมดปัญญา เดิมเธอคิดว่าจะแก้ปัญหาได้ แต่กลับยากขนาดนี้ ใครก็ไม่อาจแก้ไขได้
ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยที่อยู่ในห้องทำงานรู้สึกปวดหัว ทำไมยุ่งยากแบบนี้?
ผ่านไปครู่หนึ่งหลงหลิงหลิงก็เข้ามา
“นายท่านหลี่กลับแล้วเหรอ?”ไป๋ยี่เฟยเงยหน้าถาม
หลงหลิงหลิงพยักหน้า
“ประธานหลี่ไม่เห็นด้วย จากนี้จะทำยังไงดีคะ?จะจัดการนิวซีกรุ๊ปไหม?”
ไป๋ยี่เฟยปวดหัว จะให้จัดการยังไง?
ถ้าเขาลงมือ แล้วหลังจากนั้นหลี่เสว่รู้ว่าเขาเป็นประธานโหวจวี๋กรุ๊ป อีกทั้งยังลงมือกับพ่อตาเธอ คงเกลียดเขาแน่?
ไป๋ยี่เฟยเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นหรี่ตาพลางพูด:“จัดการเถอะ!”
“หือ?”หลงหลิงหลิงคาดไม่ถึงกับคำตอบของไป๋ยี่เฟย ถึงแม้นิวซีกรุ๊ปไม่แย่นัก พวกเขาอยากซื้อกิจการมาตลอด แต่สถานการณ์ในตอนนี้ซับซ้อนมาก!
ไป๋ยี่เฟยพูด:“ที่ฉันบอกให้จัดการ ไม่ใช่นิวซีกรุ๊ป แต่เป็นหลิ่วซื่อกรุ๊ป”