ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 753
ทุกคนต่างพากันสูดลมหายใจ จากนั้นก็ยืนอึ้งอยู่กับที่
เท่าที่พวกเขารู้เหลียงเหว่ยชาวและฉินหัวถือว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ที่พวกเขาเห็นนี่คืออะไรกัน?
เหลียงเหว่ยชาวถูกคนที่มาใหม่นี่ฟาดไปทีก็ถึงกับลอยกระเด็น
แบบนี้มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!
เหลียงเหว่ยชาวก็แข็งแกร่งมากพอ แต่กับคนๆนี้ไม่าสามารถจินตนาการได้เลยว่าความสามารถของเธอนั้นอยู่ถึงระดับไหนกัน
ส่วนไป๋ยี่เฟยพอเห็นคนที่มาใหม่ก็ตื่นเต้นทันที
เหลียงยู่และเฉินอ้าวเจียวเองก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นขึ้นมา
เพราะคนที่มาใหม่นี้คือจื่ออี
“ท่านอาจารย์!”
ทั้งสามคนเอ่ยเรียกขึ้นมาพร้อมกัน
จื่ออียังคงดุดันเหมือนเดิม พอเผชิญหน้ากับเหลียงเหว่ยชาวก็ด่าทอทันที “ฉันรังเกลียดคนที่ชอบรังแกคนที่อ่อนกว่าที่สุด แถมยังมารังแกลูกศิษย์ของฉัน เธอคิดว่าในโลกนี้ไม่มีใครสู้เธอได้หรือไง? ถุ้ย!”
ไป๋ยี่เฟยที่เห็นท่าทางดุดันของจื่ออี นอกจากจะไม่ได้รู้สึกไร้สาระ แล้วยังรู้สึกอุ่นใจอีกด้วย
ก่อนหน้านี้เขาได้ยินมาว่า ตอนที่ซินชิวไปช่วยพวกเต้าจ่าง พอจื่ออีทราบข่าวเข้าก็ไปหาซินชิวทันที แถมยังพังบ้านของซินชิว
ถ้าเกิดไม่พูดถึงเรื่องอื่น เอาแค่ในฐานะท่านอาจารย์กับลูกศิษย์ ไป๋ยี่เฟยรู้สึกซาบซึ้งมากเพราะจื่ออีดีต่อเขามาก
และในนาทีเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย จื่ออีก็ตามมาช่วยไว้ได้ทัน ทำให้พวกเขารู้สึกโล่งใจมาก
เหลียงเหว่ยชาวกุมบ่าของตัวเองพลางลุกขึ้นยืนจ้องหน้าจื่ออีอย่างโมโห “แกฝ่าฝืนกฎ!”
“เหลวไหล เห็นกันอยู่ชัดๆว่าเธอฝ่าฝืนกฎก่อน!” จื่ออีส่งเสียงไม่พอใจ
ผู้ชมต่างพากันตกตะลึง
ทุกคนต่างก็เป็นผู้เฝ้าคลังเก็บทอง ยิ่งไปกว่านั้นคลังเก็บทองที่หนึ่งมีผู้เฝ้าสองคน คลังเก็บทองที่เหลืออีกสามแห่งมีผู้เฝ้าเพียงหนึ่งเดียว ถ้าเป็นอย่างนั้นอีกคนหนึ่งต้องเป็นคนที่มีความแข็งแกร่งมากยิ่งกว่า
แต่ว่าตอนนี้ เห็นได้ชัดแล้วว่าเหลียงเหว่ยชาวไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่แท้จริงของจื่ออี
ซาเฟยหยางเอ่ยอธิบายขึ้นมานิ่งๆ “จริงๆแล้วจื่ออีควรจะได้เป็นผู้เฝ้าคลังเก็บทองที่สอง
แต่เธอไม่พอใจที่ศิษย์น้องของตัวเองได้เป็นผู้เฝ้าคลังเก็บทองที่หนึ่ง ดังนั้นพวกเขา
จึงต่อสู้กันมาโดยตลอด ว่าใครกันแน่เป็นผู้เฝ้าคลังเก็บทองที่หนึ่งอย่างแท้จริง”
“จื่ออีไม่สนใจผู้เฝ้าคลังเก็บทองอื่น”
ไป๋หยุนเผิงได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะตะลึง “แบบนี้ก็ได้หรอครับ?”
เฉินอ้าวเจียวราวกับว่าเข้าใจอะไรบางอย่างจึงพยักหน้า “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง!”
แต่ทว่าทันใดนั้นจื่ออีก็หันมาชี้หน้าซาเฟยหยางก่อนจะเอ่ยเสียงดัง “แกหุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ! ถ้าไม่ใช่เพราะว่าแกรู้จักกับศิษย์น้องของฉันล่ะก็ วันนี้ฉันจะฆ่าแกเป็นคนแรก!”
ซาเฟยหยางได้ยินดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะชะงัก จากนั้นก็เงียบไปทันที
ซาเฟยหยางเป็นถึงซินแสที่เก่งที่สุด และพวกเขาเป็นถึงผู้เฝ้าคลังเก็บทอง ข้อต้องห้ามที่สุดก็คือห้ามให้ใครรู้ตำแหน่งของคลังเก็บทอง แม้ว่าซาเฟยหยางจะไม่ได้พูดอะไร แต่มันก็ยังคงเป็นระเบิดก่อนเวลาอันควร
นี่ถึงเป็นสาเหตุว่าทำไมเหลียงเหว่ยชาวถึงได้ฆ่าเทียนหัวซาน และเหลียงหมิงเยว่ถึงได้ขังซาเฟยหยางเอาไว้
จื่ออีหันกลับไปมองเหลียงเหว่ยชาว “ทำไมเธอถึงได้หน้าด้านขนาดนี้ ยังมีหน้ามาพูดว่าฉันฝ่าฝืนกฎ?”
“ฉวยโอกาสในฐานะที่ตัวเองเป็นผู้เฝ้าคลังเก็บทองที่สอง ใช้ทองในคลังตามอำเภอใจ แล้วยังคิดที่จะฮุบคลังเก็บทองที่สามและที่สี่ไว้อีก บนโลกนี้มันมีเรื่องดีขนาดนั้นได้ยังไงกัน?”
“และเธอยังเอามาแทรก ในขณะที่ฉันและศิษย์พี่ศิษย์น้องกำลังทดสอบผู้เฝ้าคลังเก็บทองที่หนึ่ง รุ่นต่อไปอีก แถมยังจะเอาผู้ที่ถูกคัดเลือกอีกคนไปเป็นลูกน้องของตัวเอง”
“นอกจากนี้พอไป๋ยี่เฟยรู้เรื่องคลังเก็บทองที่สาม เธอยังวางแผนดึงเขาเข้ามาในกับดักของตัวเองอีก เหลียงเหว่ยชาวเธอนี่มันโลภมากจริงๆ!”
เหลียงเหว่ยชาวหน้าขาวซีดทันที ดูเหมือนว่าจะมีคนมองแผนของเธอออกทั้งหมด
แต่ว่าในวินาทีต่อมาเธอก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง “แล้วยังไงล่ะ?”
จื่ออีส่งเสียงไม่พอใจ”ยังไงน่ะหรอ?แน่นอนว่าก็จะฆ่าเธอให้ตายยังไงล่ะ!”
“แกทำไมได้หรอก!”เหลียงเหว่ยชาวเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
จื่ออีหรี่ตาทั้งสองข้าง “ใครให้ความมั่นนี้กับเธอกันนะ?”
เหลียงเหว่ยชาวยิ้มบางๆก็จะเอ่ยออกมานิ่งๆ “แน่นอนว่าก็ต้องเป็น……ยัยนั่นไง!”
หลังจากเหลียงเหว่ยชาวพูดจบ ทันใดนั้นก็มีคนสองคนปรากฏตัวขึ้นเดินออกมาจากป่า คนหนึ่งเป็นผู้ชายคนหนึ่งเป็นผู้หญิงผู้ชาย ถือมีดจ่ออยู่ที่คอของหญิงสาว
ผู้ชายคือเจี่ยงอาน ส่วนผู้หญิงก็คือหลี่เสว่ที่หายตัวไปนาน
ไป๋ยี่เฟยพอเห็นหลี่เสว่ก็เบิกตากว้างทันที ก่อนจะจ้องเธอตาเขม็ง
ไป๋หยุนเผิงและคนอื่นๆต่างพากันขมวดคิ้วสีหน้าเคร่งเครียด
เหลียงเหว่ยชาวยิ้มบางๆ “เป็นไง?แบบนี้พอจะมั่นใจได้มั้ยล่ะ?”
เธอหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยต่อ “หลี่เสว่อยู่ในกำมือของฉัน ถ้าแกกล้าแตะต้องฉัพริบตาเดียว
หลี่เสว่ได้ไปพบยมบาลแน่ ถ้าหลี่เสว่ตายลูกศิษย์รักของแกไม่มีทางให้อภัยแกแน่!”
“ไม่ใช่แค่นั้นยังมีทั้งตระกูลไป๋อีก เพราะตอนนี้หลี่เสว่กำลังตั้งท้องทายาทของตระกูลไป๋”
จื่ออีสีหน้านิ่งขรึมจ้องหน้าเหลียงเหว่ยชาว จากนั้นเธอก็หันกลับมาถามไป๋ยี่เฟย “นายจะเลือกยังไง?”
ไป๋ยี่เฟยชะงักค้าง
ทางหนึ่งก็ต้องปกป้องคลังเก็บทองของประเทศชาติ เพื่อไม่ให้ถูกคนชั่วมาฮุบไป อีกทางหนึ่งก็เป็นภรรยาที่ตัวเองรักยิ่งกว่าชีวิต แบบนี้เขาจะเลือกยังไง?
ไป๋ยี่เฟยมองหลี่เสว่อย่างเจ็บปวด
บางทีในสถานการณ์ที่ผู้คนมากมายที่ต้องเลือกแบบนี้ ในฐานะผู้ชายต่อให้ภายในใจจะเจ็บปวดขนาดไหนแต่สุดท้ายก็จะเลือกที่จะเสียสละส่วนตนเพื่อส่วนรวม
แต่ไป๋ยี่เฟยไม่ใช่
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้คิดเยอะขนาดนั้น เขาเพียงหวังว่าหลี่เสว่จะยังมีชีวิตอยู่ เพราะหลี่เสว่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเขา เป็นชีวิตของเขา
“ภรรยาของฉัน คือชีวิตของฉัน” ไป๋ยี่เฟยเอ่ยตอบด้วยสีหน้าแน่วแน่
ในสถานการณ์แบบนี้ คนมากมายมักจะถูกคุณธรรมหรือศีลธรรมครอบงำให้เราเสียสละส่วนตนเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมแต่มีสิทธิ์อะไรกัน? พวกเขาถือสิทธิ์อะไรมาให้เขาเสียสละส่วนตนเพื่อผลประโยชน์ของคนอื่น? ไป๋ยี่เฟยไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องพวกนี้ ดังนั้นเขาจึงยังคงเลือกสิ่งที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุดนั่นก็คือหลี่เสว่
ส่วนหลี่เสว่นั้นมองไป๋ยี่เฟยด้วยสีหน้าเจ็บปวด เพราะเธอเองก็รู้สึกสับสนมาก
เพราะตัวเธอเองทำให้ไป๋ยี่เฟยต้องได้รับบาดเจ็บ ทำให้เพื่อนๆและญาติมิตรของไป๋ยี่เฟยต้องเจ็บตัวนี่เป็นสิ่งที่เธอไม่อยากเห็นมากที่สุด
เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะตัวเธอ แม้กระทั่งเรื่องราวใหญ่โตตรงหน้านี่ก็เป็นเพราะตัวเธอ
หลี่เสว่อยากให้ไปอี้เฟยไม่ต้องมาสนใจเธอ แต่เธอไม่สามารถ เธอนั้นทำไมได้เพราะเธอกำลังตั้งท้องลูกของไป๋ยี่เฟยอยู่
ไป๋ยี่เฟยหันมาจ้องหน้าเหลียงเหว่ยชาวพลางเอ่ย “พูดมาเลยดีกว่าต้องทำยังไงเธอถึงจะปล่อยภรรยาฉัน?”
“พวกแกรีบออกไปจากหลันเต่า หลังจากนั้นก็รอจนกว่าฉันจะย้ายทองคำทั้งหมดในคลังเก็บทองที่สามเสร็จ ถึงตอนนั้นฉันถึงจะปล่อยเมียแกกลับไปอย่างปลอดภัย” เหลียงเหว่ยชาวยิ้มพลางพูด
ไป๋ยี่เฟยส่ายหน้า “ไม่ได้ เธอต้องปล่อยตัวภรรยาของฉันก่อน อีกอย่างฉันรับประกันว่าจะให้ทุกคนออกไปจากหลันเต่า”
เหลียงเหว่ยชาวได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเยาะออกมา “พวกแกยังมีสิทธิ์อะไรมาต่อรองกับฉัน?”
ไป๋ยี่เฟยกำหมัดแน่นไม่พูดอะไรออกมา
จากนั้นเขาก็หันไปมองจื่ออี จื่ออีเห็นดังนั้นก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะพูด “นายตัดสินใจเองเลย”
ไป๋ยี่เฟยเงียบไปครู่หนึ่ง ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นที่จะช่วยหลี่เสว่ และก็ไม่รู้จะต่อรองอย่างไรได้อีก
ไป๋ยี่เฟยอยากจะประนีประนอม
“ตกลง……”
แต่เขาเพิ่งจะพูดออกมาแค่คำเดียว เจี่ยงอานที่ล็อกตัวหลี่เสว่ไว้ก็เอ่ยปากขึ้น “ไม่ต้องต่อรอง เพราะนายไม่จำเป็นต้องเลือก”
พอได้ยินเช่นนี้ สายตาของคนอื่นๆก็หันมามองที่เจี่ยงอาน
ฝั่งของไป๋ยี่เฟยก็พากันตกใจ
โดยเฉพาะไป๋ยี่เฟยเขาใจเต้นระรัว จ้องเจี่ยงอานอย่างน่ากลัว
เขากลัวมาก กลัวว่าเจี่ยงอานจะใช้มีดนั่นปาดคอของหลี่เสว่
แต่ทว่า เจี่ยงอานกลับก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว ก่อนจะใช้มีดนั่น
เฉือนเข้าที่เชือกที่มัดตัวหลี่เสว่ไว้
หลี่เสว่เป็นอิสระแล้ว
เหลียงเหว่ยชาวหน้าดำทะมึนทันที
“ไอ้สารเลวแกกล้าหักหลังฉัน!”
พอเอ่ยจบ เหลียงเหว่ยชาวก็พุ่งไปที่หลี่เสว่ทันที
“ไม่นะ!”
“หยุด!”