ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 765
หลิวเสี่ยวอิงใจวุ่นวายขึ้นมา เพราะว่าเธอรู้สึกถึงความผิดปกติแล้ว กินข้าวน่าจะต้องไปร้านอาหาร แต่ไม่ใช่บาร์
หลิวเสี่ยวอิงจ้องมองผู้ชายอย่างเย็นชา “อย่าคิดว่าฉันเป็นคนโง่ ที่นี่เป็นบาร์ ไม่ใช่ร้านอาหาร!”
หลังจากที่ผู้ชายได้ยินคำพูดนี้อึ้งชะงักหนึ่งที จากนั้นมีปฏิกิริยาขึ้นมา หลิวเสี่ยวอิงเข้าใจผิดแล้ว ดังนั้นยิ้มอธิบายว่า “คุณดูสิตอนนี้เวลาไหนแล้ว ยังมีร้านอาหารเปิดอยู่หรือ?”
ผู้ชายหยุดชะงักหนึ่งที ทั้งพูดเสริมอีกว่า “คุณวางใจเถอะ บาร์นี้เป็นเพื่อนของผมเปิดเอง ช่วงนี้นำเข้าอาหารพิเศษได้บ้าง ยังมีอาหารทะเลปิ้งย่าง รับรองให้คุณกินอิ่มได้”
หลิวเสี่ยวอิงจ้องมองผู้ชายสีหน้าเอาจริงเอาจัง เธอสำรวจสีหน้าตอนที่ผู้ชายพูดอย่างละเอียด ไม่ได้พบเห็นความผิดปกติเลย ใจก็มีการสั่นไหวเล็กน้อยแล้ว
แต่ว่าถึงยังไงเขาก็เป็นผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่ง กลับจะไปพาผู้หญิงที่แปลกหน้าคนหนึ่งไปกินข้าว สังคมในปัจจุบันนี้นี่ ที่ไหนจะมีคนใจดีขนาดนี้ล่ะ?
ดังนั้นหลิวเสี่ยวอิงถามเขาตรงๆว่า “คุณอยากจะจีบฉันหรือ?”
หลิวเสี่ยวอิงถามตรงเกินไปแล้ว โดยจิตใต้สำนึกผู้ชายนิ่งอึ้งไปเลย จากนั้นก็เลยรู้สึกเขินยิ้มแล้วยิ้มอีก พูดว่า “แท้ที่จริงเท่าที่ผมเคยได้เห็นมาในชาตินี้คุณเป็นผู้หญิงหน้าตาสวยที่สุด คือมีความคิดเล็กน้อยอย่างนั้นแล้ว แต่ว่าคุณวางใจเถอะ ผมจะไม่บีบบังคับคุณอย่างเด็ดขาด”
“ผมจะเหมือนผู้ชายจีบผู้หญิงมาจีบคุณ สำหรับตอนนี้ ก็เพียงแค่เลี้ยงข้าวคุณเท่านั้นเอง จากนั้นค่อยทำความคุ้นเคย”
หลิวเสี่ยวอิงเห็นผู้ชายพูดอย่างซื่อตรงจริงใจขนาดนี้ หลังจากครุ่นคิดไปสักพัก จากนั้นพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก
จากนั้นหลิวเสี่ยวอิงตามผู้ชายคนนี้เข้าไปในบาร์ คนในบาร์ไม่เยอะเลย มีเพียงแค่พนักงานเสิร์ฟกับลูกค้าสองสามโต๊ะ
หลังจากผู้ชายพาหลิวเสี่ยวอิงไปที่โต๊ะว่างโต๊ะหนึ่ง ก็เลยพูดกับเธอว่า “คุณรอสักครู่ ผมไปสั่งอาหารให้คุณกิน”
หลิวเสี่ยวอิงพยักหน้า สายตาวางอยู่บนกายของผู้ชายคนนั้นตลอด
ผู้ชายคนนั้นเดินถึงเคาน์เตอร์บาร์ จากนั้นพูดอะไรบางอย่างกับบาร์เทนเดอร์ในเคาน์เตอร์บาร์ หลิวเสี่ยวอิงก็มองเห็นสายตาของบาร์เทนเดอร์มองเข้ามา
ทันใดนั้นหลิวเสี่ยวอิงขมวดคิ้วขึ้นมา เพราะว่าสายตาของบาร์เทนเดอร์ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายมาก เป็นสายตาที่แฝงไว้ด้วยความคิดสกปรกโสมมแบบหนึ่ง
หลิวเสี่ยวอิงสังเกตใบหน้าของผู้ชายกับบาร์เทนเดอร์ กลับไม่ได้สังเกตเห็นตอนที่บาร์เทนเดอร์ยื่นเครื่องดื่มแก้วหนึ่งให้กับผู้ชาย นิ้วชี้จิ้มแล้วจิ้มอีกอย่างเบาๆอยู่บนปากแก้ว
……
ผ่านไปไม่นาน พนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งยกหมูผัดพริกขึ้นมาจานหนึ่ง
หลิวเสี่ยวอิงหิวเกินไปแล้ว เธอดูแลไม่ทั่วถึงการสงวนตัวอะไร หยิบตะเกียบขึ้นมาก็ยัดใส่ในปากเลย
ผู้ชายที่พาเธอเข้ามาคนนั้นถือเครื่องดื่มแก้วหนึ่ง มาถึงข้างหน้าเธอยิ้มพูดว่า “ค่อยๆกิน ไม่มีคนแย่งกับคุณ ระวังติดคอ”
ในตอนนี้หลิวเสี่ยวอิงก็สนใจมากขนาดนั้นไม่ได้แล้ว รับเครื่องดื่มที่ส่งมาจากผู้ชายอย่างสะดวกไม่ยุ่งยาก ดื่มลงไปคำใหญ่ๆ
หลังจากดื่มหมดหลิวเสี่ยวอิงพูดลวกๆไปคำหนึ่งว่า “ขอบคุณ!”
ผู้ชายก็นั่งอยู่ข้างๆ จ้องมองหลิวเสี่ยวอิงกินข้าว
ผ่านไปไม่นาน หลิวเสี่ยวอิงกินหมูผัดพริกจานหนึ่งจนหมดเลย
ในตอนนี้หลิวเสี่ยวอิงมีกำลังวังชาขึ้นมาหน่อยหนึ่ง ในที่สุดก็ไม่ได้รีบเร่งขนาดนั้นอีกแล้ว จากนั้นเธอเช็ดปากแล้วเช็ดปากอีก จ้องมองผู้ชายคนนั้นหนึ่งที
ผู้ชายสังเกตเห็นสายตาของเธอ ยิ้มอ่อนโยนหนึ่งที “เป็นยังไงแล้วหรือ?”
หลิวเสี่ยวอิงมีความรู้สึกเขินเล็กน้อยพูดว่า “สั่ง สั่งอีกจานหนึ่งได้ไหม?”
พูดจบ ผู้ชายหัวเราะออกเสียงโดยตรง จากนั้นพยักหน้าต่อๆกันพูดว่า “ย่อมได้อยู่แล้ว”
ผู้ชายสั่งอีกจานหนึ่งให้กับหลิวเสี่ยวอิง
ครั้งนี้หลิวเสี่ยวอิงสงวนตัวบ้างเล็กน้อยแล้ว ไม่ซี้ซั้วยัดใส่เข้าไปในปากอีก หลังจากกินไปหลายคำ เธอถือเครื่องดื่มพูดกับผู้ชายว่า “วันนี้ขอบคุณคุณมากจริงๆ”
ผู้ชายถือแก้วของตนเองขึ้นมาชนแก้วกับเธอหนึ่งที ยิ้มพูดว่า “งั้นคุณต้องจำไว้ ผมชื่อว่าต้วนเหิง”
หลังจากหลิวเสี่ยวอิงได้ยินแล้ว โดยมารยาทบอกชื่อของตนเอง แต่ว่าเธอปกปิดชื่อจริง “ฉันชื่อหลิวอิง”
“หลิวอิงหรือ” ต้วนเหิงซ้ำอีกรอบหนึ่ง จากนั้นยิ้มพูดว่า “ชื่อนี้น่าฟังจริงๆ อีกทั้งคู่ควรกับชื่อของผมมากล่ะ!”
หลิวเสี่ยวอิง “……”
ดูจากที่ไหนว่าต้วนเหิงกับหลิวอิงทั้งสองชื่อนี้คู่ควรแล้วล่ะ?
หลิวเสี่ยวอิงหยิบตะเกียบขึ้นมากินอีกหลายคำ จากนั้นจ้องมองไปยังต้วนเหิงถามว่า “คุณทำไมไม่กินล่ะ?”
ต้วนเหิงยิ้มชั่วร้ายหนึ่งทีพูดว่า “เพราะว่าผมจะเก็บท้องไว้กินคุณไง!”
“อะไรนะ?” หลิวเสี่ยวอิงนิ่งอึ้งไป
ในเวลานี้เธอมองรอยยิ้มของต้วนเหิงอีก ก็รู้สึกว่ามีความผิดปกติเล็กน้อย ในเวลาเดียวกัน สายตาของต้วนเหิงเพิ่มความรู้สึกที่ทำให้เธอไม่สบายเล็กน้อย
จากนั้นอีกอยู่ดีๆเธอรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย ร่างกายเซออกมาแล้ว
ในเวลาเดียวกัน หลิวเสี่ยวอิงรู้สึกว่าทั้งตัวไร้เรี่ยวแรง อยากจะสลบไปกลับสลบไปไม่ได้อีก ทำให้คนทรมานมาก
ในเวลานี้ เธอก็รู้ว่าตนเองถูกหลอกแล้ว ทั้งตัวไร้เรี่ยวแรงโมโหจ้องเขม็งต้วนเหิงอยู่ “คุณต่ำช้า! ถึงขนาดวางยาอยู่ในน้ำ!”
ต้วนเหิงแสยะปากยิ้มกับหลิวเสี่ยวอิงหนึ่งที ลุกขึ้นไปถึงข้างหลังหลิวเสี่ยวอิง ก้มตัวซุกไปข้างหูของหลิวเสี่ยวอิง ยิ้มพูดว่า “มีคำพูดประโยคหนึ่งผมไม่ได้พูดโกหก นั่นก็คือ คุณเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา”
“แท้ที่จริงผมสงสัยงงงวยอย่างมาก ผู้หญิงที่หน้าตาดีขนาดนี้เหมือนอย่างคุณ อยู่ในเขตที่สี่ถึงขนาดไม่รู้จักปลอมตัวหน่อยหรือ”
“แต่ว่าเห็นลักษณะท่าทีของคุณก็รู้ว่า คุณก็คือสาวน้อยที่ไร้เดียงสามากคนหนึ่ง”
“แต่ว่าไม่เป็นไร อีกไม่นานอยู่ภายใต้การฝึกอบรมของพวกพี่ๆ คุณก็จะกลายเป็นอีแรดน้อยที่มั่วโลกีย์คนหนึ่ง!”
หลิวเสี่ยวอิงเบิกตาโพลงทั้งคู่
ไม่เพียงแค่คนเดียว…….
ใจหลิวเสี่ยวอิงวุ่นวายเหลือเกิน
ในเวลานี้ ลูกค้าสองสามโต๊ะที่อยู่ข้างๆล้วนลุกขึ้นมาแล้ว เดินมายังฝั่งนี้ของพวกเขา ในเวลาเดียวกันบนใบหน้าของพวกเขาแฝงไว้ด้วยรอยยิ้มที่ทำให้คนรู้สึกขยะแขยง
แม้แต่บาร์เทนเดอร์ล้วนเดินออกมาจากเคาน์เตอร์บาร์เช่นกัน
พวกเขาทั้งหมดหกคน ยกหลิวเสี่ยวอิงไปในห้องนอนบางห้องของชั้นสอง
หลิวเสี่ยวอิงไร้เรี่ยวแรงมาก แต่คนยังมีสติอยู่ ดังนั้นเธอรู้อย่างชัดเจนว่าต่อจากนี้ตนเองจะประสบเจอกับอะไร
ด้วยเหตุนี้ใจหลิวเสี่ยวอิงยิ่งเพิ่มความวุ่นวายแล้ว ก็ยิ่งหวาดกลัวแล้วเช่นกัน
แต่แม้ว่าเธอใจวุ่นวายมาก หวาดกลัวมาก กลับไม่ยอมตกอยู่ในสภาพนั้นจริงๆ ดังนั้นเธอทำให้ตนเองใจเย็นลง
หลิวเสี่ยวอิงถูกพวกเขาโยนลงไปบนเตียง เธอเอ่ยปากทันทีพูดว่า “ขอร้องพวกคุณ ให้เวลาฉันสักหน่อยได้ไหม? ฉันรู้ว่าวันนี้ฉันหนี้ไม่พ้นแล้ว ก็แค่ให้เวลาฉันเล็กน้อย ให้ฉันเตรียมใจสักหน่อย”
“เตรียมใจเสร็จแล้ว ฉันก็จะสามารถร่วมมือกับพวกคุณยิ่งดีกว่าไม่ใช่หรือ?”
เป็นผู้ชายคนหนึ่ง ได้ยินประโยคนี้ย่อมยิ่งเพิ่มความตื่นเต้นอยู่แล้ว ในสมองเต็มไปด้วยสิ่งลามกไร้สาระที่ระเกะระกะ
ดังนั้นชายตัวอ้วนนิดๆในนั้นคนหนึ่งควบคุมไม่อยู่แล้ว พุ่งไปที่บนกายของหลิวเสี่ยวอิงโดยตรง ร้อนใจอย่างมากพูดว่า “ช้าเหี้ยอะไร กูอดไม่ไหวแล้ว!”
หลิวเสี่ยวอิงตกใจจนสั่นระริกขึ้นมา ในใจคิดอยากจะดิ้นรนสุดชีวิต กลับล้วนออกแรงสักนิดไม่ได้ แม้แต่จะยกมือขึ้นก็ยกไม่ขึ้น
ในเวลานี้ บาร์เทนเดอร์คนนั้นตบชายตัวอ้วนหนึ่งที “เสี่ยวพ่าง ลุกขึ้นก่อน”
ชายตัวอ้วนดูเหมือนกลัวบาร์เทนเดอร์มาก ลุกขึ้นจากบนกายของหลิวเสี่ยวอิงอย่างเชื่อฟัง แต่ว่าก็ยังพูดไปประโยคหนึ่งว่า “ผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ ยังรออะไรอยู่ล่ะ?”
บาร์เทนเดอร์จ้องมองไปยังต้วนเหิง ต้วนเหิงยิ้มพูดว่า “ให้เธอทำใจหน่อยเถอะ อย่าถึงเวลานั้นไม่ร่วมมือกัน เล่นไม่สนุก แม่มึงเอ่ยเหมือนดั่งข่มขืนศพ”
หลิวเสี่ยวอิงสูดลมหายใจลึกๆหลายที อยู่ดีๆถามว่า “ให้บุหรี่ฉันม้วนหนึ่งได้ไหม?”
ต้วนเหิงอดไม่ได้ที่จะยักคิ้วแล้วยักคิ้วอีก “ยังสูบบุหรี่เป็นด้วย!”
ทั้งพูดอยู่ทั้งหยิบกล่องบุหรี่ออกจากกระเป๋าของตนเอง ทั้งดึงบุหรี่ม้วนหนึ่งออกมาให้กับหลิวเสี่ยวอิง ช่วยเธอจุดด้วย “ผู้หญิงที่สูบบุหรี่มักจะมีความงดงามที่บ้าระห่ำ เล่นออกมาแล้วมีพลังมีกำลังมาก ยิ่งมายิ่งทำให้ผมเฝ้ารอคอยแล้วจริงๆ”
หลิวเสี่ยวอิงสูบบุหรี่ไม่เป็นเลย ดังนั้นหลังจากตอนที่เธอสูบไปคำหนึ่ง สำลักทันทีจนไอออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า……”
ทั้งหกคนมองเห็นลักษณะของเธอ ทันใดนั้นก็หัวเราะออกมา
ต้วนเหิงนั่งอยู่ข้างเตียง ก็อยู่ข้างกายของหลิวเสี่ยวอิง เขาลูบต้นขาของหลิวเสี่ยวอิงลูบแล้วลูบอีก “ถ้าคุณคิดปล่อยวางได้ ย่อมดีที่สุดอยู่แล้ว ถึงเวลานั้นคุณก็สามารถที่จะสัมผัสความรู้สึกอันชื่นมื่นขึ้นสู่ฟ้าแบบนั้น คุณว่าใช่หรือไม่ล่ะ?”
“บอกกับคุณล่ะ อยู่ในเขตที่สี่ผู้หญิงที่พวกเราพี่น้องหลายคนถูกใจ ก็ไม่มีสักคนที่จะหนีพ้นได้ ถึงแม้ว่าวันนี้ไม่วางยาคุณ คุณก็หนีไม่พ้นเช่นกัน”
“ดังนั้นล่ะ การเตรียมใจนี้ของคุณจะต้องทำให้ดีๆนะ ยังไงก็หนีไม่พ้น มิสู้เปิดใจเล่นให้สนุกซะ คุณว่าใช่ไหม?”
หลิวเสี่ยวอิงสูบบุหรี่อีกทีหนึ่ง ครั้งนี้เธอทนความวู่วามที่จะไอไหว ค่อยๆคายออกมา “งั้นพวกคุณทำร้ายผู้หญิงมาแล้วมากมายหรือ? คนในครอบครัวของพวกเขาก็ไม่สนเลยหรือ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…….”
คำพูดนี้ของหลิวเสี่ยวอิงทำให้ทั้งหกคนหัวเราะเสียงดังขึ้นมาอีก
ต้วนเหิงก็ยิ้มแล้วยิ้มอีกตามไปด้วย จากนั้นหยิ่งยโสเต็มใบหน้าพูดว่า “อยู่ในเขตที่สี่คนที่กล้าแตะต้องกู จะมีไม่กี่คนนะ”
“แม่มึงเอ่ยอย่ามาหลอกให้เผลอพูด เห็นแล้วก็รู้ว่ากำลังถ่วงเวลาอยู่ อยู่เขตอิทธิพลของพี่ใหญ่พวกเรา จะไม่มีคนมาช่วยคุณนะ!” ชายตัวอ้วนพูดแทรกเข้ามา
หลิวเสี่ยวอิงสูบบุหรี่อีกครั้ง คายออกมาคำใหญ่ จากนั้นพูดว่า “ไม่มีคนมาช่วยฉันจริงๆ”