ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 774
ผู้หญิงคนนั้นได้ยินคำพูดนี้ เธอกัดริมฝีปากเล็กน้อย ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเบาๆ:“ฉันชื่อสวี่อีอี ฉันไม่มีบ้านแล้ว”
ผ่านไปชั่วครู่ สวี่อีอีก็พูดอีก:“คุณซื้อตัวฉันมา ฉันก็ต้องเป็นคนของคุณ”
ไป๋ยี่เฟยตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
จู่ๆหลิวเสี่ยวอิงก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“คุณควรคิดให้ดีว่าจะอธิบายเรื่องนี้กับเสว่เอ๋อยังไง”
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกปวดศีรษะมากๆ“สวี่อีอี ไม่ใช่แบบนั้น คือว่าฉันแต่งงานแล้วและมีภรรยาแล้ว เอาอย่างนี้ไหม ฉันจะแนะนำหนุ่มหล่อคนอื่นๆให้เธอได้รู้จัก?”
สวี่อีอีก้มศีรษะลงและไม่พูดอะไร
ไป๋ยี่เฟยนึกถึงไป๋หู่กับเฉินอ้าวเจียว เพราะรอบตัวพวกเขายังไม่มีคนสนิทค่อยดูแลเลย
แต่ในขณะนี้ จู่ๆเขาก็นึกถึง:“ลู่หยางไง?ที่เป็นเด็กผู้ชายคนนั้น”
“กลับบ้านกันเถอะ”หลิวเสี่ยวอิงพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า นิ่งเงียบไปสักครู่และถาม:“เสี่ยวอิง คืนนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่?ทำไมคุณถึงต้องจากไป?”
นี่คือเรื่องที่ไป๋ยี่เฟยอยากรู้มากที่สุด
แต่หลิวเสี่ยวอิงได้ยินคำถามนี้แล้วนิ่งไปชั่วครู่ เธออดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเล็กน้อย
หลิวเสี่ยวอิงนิ่งเงียบและทายาให้สวี่อีอีต่อ หลังจากพันแผลเสร็จ ก็พูดเบาๆว่า:“คุณจำสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้จริงๆเหรอ?”
“ฉันจำไม่ได้จริงๆ”ไป๋ยี่เฟยตอบ
หลิวเสี่ยวอิงขมิบปากตัวเองและพูดเบาๆ:“จำไม่ได้ก็ดีแล้ว”
“ทำไม?”ไป๋ยี่เฟยถามอีกครั้งด้วยความกังวลและงุนงง
หลิวเสี่ยวอิงพูดเบาๆว่า:“เพราะฉันก็จำไม่ได้จริงๆ”
ไป๋ยี่เฟยพูดไม่ออกชั่วครู่ จากนั้นถามว่า:“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?ทำไมพวกคุณยอมที่จะโกหกฉัน แต่กลับไม่ยอมพูดความจริงออกมา?”
“คุณจะให้ฉันพูดยังไง?”หลิวเสี่ยวอิงถาม
ไป๋ยี่เฟยพูด:“มันเกิดอะไรขึ้นคุณก็พูดมาตามตรง”
“ได้ ถ้าฉันพูดแล้วคุณอย่าเสียใจทีหลังละกัน!”หลิวเสี่ยวอิงพูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธขึ้นมาทันที
ไป๋ยี่เฟยกำลังจะพูดว่าตัวเองไม่เสียใจทีหลังแน่นอน จู่ๆประตูก็โดนเปิดออกทันที
จากนั้นมีเด็กผู้ชายที่เปื้อนเลือดเต็มตัวกลิ้งเข้ามา
คนๆนี้คือลู่หยาง
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกคนตกใจมากๆ
ลู่หยางล้มลงไปกับพื้น แล้วเขาก็รีบลุกขึ้นมาอีกครั้ง วิ่งตรงไปที่ด้านข้างของไป๋ยี่เฟย ร้องไห้เสียงดังและพูด:“เถ้าแก่ไป๋ รีบไปช่วยพ่อกับแม่ของฉันด้วย และพี่สาวของฉันด้วย รีบไปช่วยพวกเขาด้วย!”
……
เมื่อไป๋ยี่เฟยและคนอื่นๆมาถึงตระกูลลู่ ร้านอาหารของตระกูลลู่ก็โดนทำลายจนยับเยิน
ในห้องอาหาร ในห้องโถง บนกำแพง บนพื้นเต็มไปด้วยคราบเลือดและคนจำนวนมากเสียชีวิต
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ไป๋ยี่เฟยอึ้งไปเลย
ลู่หยางรีบวิ่งเข้าไปในห้องโถง ตะโกนเสียงดัง:“พ่อ!แม่!”
ลู่หย่วนกับภรรยาของเขาล้มลงอยู่ในศาลา
เป็นศาลาที่ครั้งหนึ่งเคยต้อนรับไป๋ยี่เฟย
ลู่หย่วนถูกคนใช้มีดปาดคอ และมีเลือดไหลออกมาเต็มคอของเขา
และภรรยาของลู่หย่วน ก็โดนปาดคอเหมือนกัน
ภรรยาของลู่หย่วนได้เสียชีวิตแล้ว แต่ลู่หย่วนยังมีลมหายใจอยู่ เขาหายใจเฮือกสุดท้ายแล้วเหลือบมองไปที่ลู่หยาง
ไป๋ยี่เฟยรีบวิ่งเข้ามา อุ้มลู่หย่วนไว้แล้วถาม:“ใคร? ใครเป็นคนทำ?”
ดวงตาของลู่หย่วนเป็นประกายเมื่อเขาเห็นไป๋ยี่เฟย เพราะว่าเขาเห็นความหวัง เขาจึงยื่นมือที่เปื้อนไปด้วยเลือดออกมาและพูด:“ช่วย……รีบไปช่วย……เหมียวเหมียว”
นี่เป็นความปรารถนาสุดท้ายของลู่หย่วน เพราะหลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็หมดลมหายใจไปแล้ว
ไป๋ยี่เฟยเข้าใจได้ในทันที ลู่หย่วนอดทนจนถึงวินาทีสุดท้ายก็เพื่อรอตัวเอง
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกเจ็บปวดใจมากๆ
ไป๋ยี่เฟยมาถึงเขตที่สี่ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากลู่หย่วน ถึงแม้ลู่หย่วนจะหวังให้เขาช่วยเหลือ แต่สำหรับไป๋ยี่เฟย ไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถของเขา
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าไม่ใช่ลู่หย่วนช่วยเหลือ เขาก็ไม่สามารถช่วยหลิวเสี่ยวอิงออกมาได้
เมื่อมองเห็นลู่หย่วนและครอบครัว ถึงแม้พวกเขาจะอาศัยอยู่ที่นี่ แต่กลับให้ความรู้สึกที่อบอุ่น
ทำให้ไป๋ยี่เฟยไม่เข้าใจและถามลู่หยาง:“มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง?ใครเป็นคนทำ?พ่อของคุณมีศัตรูที่ไหนหรือเปล่า?”
ลู่หยางร้องไห้เสียงดัง เพราะลู่หย่วนได้เสียชีวิตไปแล้ว
หลังจากร้องไห้เป็นเวลานาน จู่ๆลู่หยางก็เอื้อมมือออกไปแล้วผลักไป๋ยี่เฟย ตะโกนเสียงดัง:“ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะคุณ!”
“คุณไม่ต้องมาแสร้งทำตัวเป็นคนดี?ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะคุณ คุณมันเป็นปีศาจ!”
ไป๋ยี่เฟยงุนงง“เป็นเพราะฉัน?”
ลู่หยางตะโกนเสียงดัง:“ถ้าไม่ใช่คุณล่วงเกินผิดใจกับท่านฉวี่และตระกูลหง พวกเขาก็คงไม่มาที่นี่?”
“เป็นเพราะคุณไปอาละวาดที่หลันจู!พวกเขาเห็นว่าฉันเป็นคนพาคุณไปหลันจู เมื่อพวกเขาหาคุณไม่เจอ ก็มาหาพวกเรา!”
“คุณรู้หรือเปล่า ถ้าไม่ใช่คุณพ่อบอกให้ฉันพาพวกคุณไปบ้านหลังเก่า คุณคงไม่มีชีวิตรอดจนถึงตอนนี้!”
“คุณมันเป็นปีศาจ!”
“คุณฆ่าคนเก่งมากไม่ใช่เหรอ?คุณไปฆ่าพวกมันสิ!ฆ่าให้ตายทั้งหมด!ทำไมคุณไม่ฆ่าพวกมันให้ตายทั้งหมด?”
ปีศาจ!
ในสมองของไป๋ยี่เฟยมีกึกก้องดังขึ้น
เขาไม่เคยคิดว่า ในสายตาของเด็กผู้ชายคนนี้เขาคือปีศาจ
แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
ที่สำคัญที่สุดคือ ทั้งๆที่ลู่หย่วนรู้ว่าตัวเองล่วงเกินผิดใจกับตระกูลหง แต่เขาก็ให้ลู่หยางพาพวกเขาไปยังที่ปลอดภัย
กล่าวได้อีกนัยหนึ่งคือ ตระกูลลู่เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเขาไว้
ไป๋ยี่เฟยเป็นคนที่มีบุญคุณต้องทดแทน มีความแค้นต้องชำระ
ก่อนที่ลู่หย่วนจะเสียชีวิต เขาได้ขอให้ไป๋ยี่เฟยไปช่วยลู่เหมียวเหมียว งั้นก็แปลว่าตอนนี้ลู่เหมียวเหมียวยังมีชีวิตอยู่ แต่น่าจะโดนคนของตระกูลหงจับตัวไป
ดังนั้น เขาจำเป็นต้องไปช่วยลู่เหมียวเหมียว
เขาจะไปที่ตระกูลหง เพื่อแก้แค้นให้กับตระกูลลู่
แต่ไป๋ยี่เฟยรู้ว่าตอนนี้ตัวเองอ่อนแอมากๆ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่สามารถควบคุมการแปรสภาพได้ และเขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองแปรสภาพแล้วเป็นยังไง
ทำไมในสายตาของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง เขาถึงเป็นปีศาจ?!
เขาเป็นปีศาจจริงๆเหรอ?
ไป๋ยี่เฟยหายใจลึกๆหนึ่งครั้งและไม่ไปคิดเรื่องเหล่านั้น เขาจับลู่หยางที่ตื่นเต้นอยู่และพูด:“คุณใจเย็นๆหน่อย ฟังที่ฉันพูด เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะฉัน ฉันไม่ปฏิเสธ คุณจะเกลียดฉัน ฉันก็เข้าใจ”
“ก่อนที่พ่อของคุณจะเสียชีวิตเขาบอกให้ฉันไปช่วยพี่สาวของคุณ คุณก็ได้ยินเหมือนกัน พี่สาวของคุณยังมีชีวิตอยู่ ฉันต้องช่วยพี่สาวของคุณออกมาให้ได้”
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันขอสาบาน ถึงแม้ต้องแลกด้วยชีวิตตัวเอง ฉันก็จะช่วยพี่สาวของคุณออกมาจากตระกูลหงให้ได้”
“คุณไสหัวไปซะ!”ลู่หยางพยายามผลักไป๋ยี่เฟยออกไป จากนั้นกอดศพของพ่อแม่ตัวเองแล้วร้องไห้เสียงดังออกมา
ไป๋ยี่เฟยหลับตาลงอย่างอ่อนแรง
ในขณะเดียวกัน ในงานประมูล ความคิดในการปกครองหลันเต่าก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
เมื่อเขาลืมตาขึ้น ไป๋ยี่เฟยมองไปที่ลู่หย่วนและพบว่ามือของลู่หย่วนกำลังจับอะไรบางอย่างไว้อย่างแน่
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้ว ย่อตัวลง แบมือของเขาออก พบว่าข้างในมือมีกระดาษใบหนึ่งอยู่ แต่มันเปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะคราบเลือด
ไป๋ยี่เฟยเปิดกระดาษออก และข้อความบนนั้นก็ชัดเจน
“ไอ้สารเลว แกกล้าฆ่าคนของตระกูลหง แกใจกล้ามากๆ ฉันให้เวลาพวกแกสามวัน ถ้าภายในสามวันยังไม่มาที่ตระกูลหง ก็อย่าหาว่าฉันใจร้ายกับเด็กผู้หญิงของตระกูลลู่”
หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยดูจบ เขาก็กำมัดโดยไม่รู้ตัว
ลู่หย่วนถึงเสียชีวิตก็ไม่ได้ทรยศไป๋ยี่เฟย ถึงแม้จะเสียชีวิตทั้งครอบครัว เขาก็ไม่ยอมบอกที่อยู่ของไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร?
บุญคุณที่ลู่หย่วนมีต่อเขามันหนักมากๆ
มากจนทำให้เขาแทบจะหายใจไม่ออก
ในขณะเดียวกัน ความคิดในการปกครองหลันเต่าก็มีมากขึ้น