ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 81
บทที่ 81
ทุกคนในห้องประชุมมองไปที่ไป๋ยี่เฟย
สีหน้าของหลิ่วหลงดูสับสน ดูเคร่งขรึม มองไปที่ไป๋ยี่เฟยแต่ก็ไม่ได้ดูถูกเหมือนแต่ก่อน
หลิ่วจาวเฟิงยังคงไม่เชื่อ และพูดกับหลิ่วเซียวเหยา:“เป็นไปไม่ได้! พี่ชายรอง เขาทำผิดหรือเปล่า? เป็นไปได้อย่างไร?”
ไป๋ยี่เฟยพูดไปตามสิ่งที่เห็น: “โหวจวี๋กรุ๊ปมีเพียงไป๋ยี่เฟยคนเดียว”
ในห้องประชุมเงียบ เงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจ
หลังจากที่เงียบอยู่นาน ในที่สุดก็มีคนพูดขึ้น
สุดท้ายหลิ่วหลงอยู่ในโลกธุรกิจมาหลายปี ความสามารถของเขายังพอใช้ได้ แต่น่าเสียดาย ต่อให้มีความสามารถแค่ไหน มันก็ยังเป็นเรื่องไกลตัว และรอยยิ้มที่แสดงออกมาน่าเกลียดกว่าการร้องไห้
“ที่แท้……คือประธานโหวจวี๋กรุ๊ปนี่เอง! เรื่อง…..ดูถูก…..คือเรื่อง…..เมื่อกี้เข้าใจผิดกัน พวกเรา….. ”
ไป๋ยี่เฟยพูดแทรกหลิ่วหลง “เข้าใจผิด?ทุกครั้งก็เข้าใจผิดเหรอ? เพราะฉันเป็นประธาน ดังนั้นกลายเป็นเรื่องเข้าใจผิด! แล้วถ้าฉันไม่ได้เป็นประธานล่ะ มันก็จะกลายเป็นว่าฉันพูดมั่ว ยโสโอหัง และใส่ร้าย? ”
“คือ….. ”หลิ่วหลงเหงื่อแตกครั้งแล้วครั้งเล่า
ไป๋ยี่เฟยตะคอกเบาๆ อย่างเหยียบหยาม
ก็เป็นสักแบบนี้ทุกครั้งเลย เพราะเรื่องสถานะตำแหน่ง ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ก็ผิดหมด และถูกเยาะเย้ยสร้างความอับอายจากคนที่มีตำแหน่งสูงกว่า
แต่ถ้าเปลี่ยนสถานะมา ก็จะกลายเป็นเรื่องเข้าใจผิด และไม่รับผิดชอบต่อความผิดก่อนหน้านั้นของตัวเอง!
ถ้าเขาไม่ใช่ประธานโหวจวี๋กรุ๊ป งั้นเรื่องที่หลี่เสว่ถูกวางยา และถูกลักพาตัว ยังไงก็เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงก็ไม่ใช่ความผิดของเขา กลับจะกลายเป็นความผิดของไป๋ยี่เฟยด้วยซ้ำ แถมยังอาจจะทุบตีเขา ทำให้เขาไม่สามารถออกไปจากหลิ่วซื่อกรุ๊ปได้
หลิ่วหลงอยากจะพูดเพื่อแก้ตัว แต่ไป๋ยี่เฟยไม่เปิดโอกาสให้พูด
ไป๋ยี่เฟยจ้องมองไปที่หลิ่วหลง “หลิ่วจาวเฟิงฉันเคยเตือนแกไปแล้วกี่ครั้ง? ว่าให้แกอยู่ห่างๆจากเมียฉัน อย่าคิดแตะต้องเธอ! ”
“แต่แก? ก็ทำลายความอดทนของฉันซ้ำแล้วซ้ำอีก ทั้งที่เมียฉันบอกไม่ชอบแก แต่แกก็ยังวางยาเธอ!”
“ยิ่งรอบนี้แกกลับลักพาตัวคนมาถึงที่บริษัท!”
สีหน้าของหลิ่วจาวเฟิงซีดลงทันที แม้แต่มือก็อดไม่ได้ที่จะสั่น
“พวกแกลองบอกฉันซิ แบบนี้มันมีผู้ชายคนไหนทนได้บ้าง? ”ไป๋ยี่เฟยตะคอกเสียงดังขึ้น
หลิ่วหลงไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ลูกชายของตัวเองจะกล้าทำเรื่องแบบนี้กับภรรยาคนอื่น และยังเป็นภรรยาของประธานโหวจี๋กรุ๊ป!
แต่นี่คือประธานโหวจี๋กรุ๊ป! ที่ไม่มีใครกล้าหยาม? แต่เขากลับสร้างปัญหาได้ถึงขนาดนี้!
ไป๋ยี่เฟยมองไปที่หลิ่วหลง แล้วพูดขึ้นอย่างเย็นชา:”ทำไม? ตอนนี้ให้แกตี แกก็ยังไม่ตีอีกเหรอ?”
หลิ่วหลงสำลัก“คือ….. ”
ไป๋ยี่เฟยตะคอก “ไม่ตีก็ไม่เป็นไร”
หลิ่วหลงรู้สึกโล่งอกมาเล็กน้อยหลังที่ได้ยินแบบนั้น
ไป๋ยี่เฟยพูดต่อ: “แต่ฉันจะโทรแจ้งตำรวจโดยตรงเลย”
ทั้งวางยา ทั้งลักพาตัวคน นี่มันคดีอาญาทั้งนั้น
หลิ่วหลงกังวล “ประธานไป๋ มีเรื่องอะไร ค่อยๆพูดค่อยๆจาก่อน….. ”
ในตอนนั้น หลิ่วจาวเฟิงก็ดึงสติกลับ แล้วตะโกนขึ้นมา: “ไม่! ผมไม่ได้ลักพาตัวคน ผมไม่ได้เป็นคนทำ! ”
พูดจบ หลิ่วเซียวเหยาเห็นท่าจะไม่ค่อยดี รีบคว้าตัวหลิ่วจาวเฟิงไว้แล้วพูด “แกไม่ต้องพูด! ”
พูดจบ หลิ่วเซียวเหยาเดินไปตรงหน้าไป๋ยี่เฟย โค้งคำนับ และขอโทษ: “ขอโทษครับ ท่านประธานไป๋ ผมขอโทษแทนน้องชายของผมด้วยครับ ถ้าคุณต้องการให้พวกเรารับชดใช้ความผิดยังไง พวกเราหลิ่วซื่อยินดีจะรับผิดชอบให้ถึงที่สุดเลยครับ และขอให้ท่านประธานไป๋ ยกโทษให้ความผิดครั้งนี้ของน้องชายผมด้วยครับ”
“ไม่ใช่ ผมไม่ได้…… ”หลิ่วจาวเฟิงอยากจะอธิบาย
“แกหุบปากซะ! ”หลิ่วหลงตะโกนด้วยความโกรธ ในขณะเดียวกัน เขาก็เตรียมมีดโกนพร้อมจะลงโทษหลิ่วจาวเฟิง
“ฉึก”เสียงที่คมชัด
หลิ่วจาวเฟิงปิดหน้า และมองไปที่พ่อเขาด้วยความหวาดกลัว หลิ่วหลงเองก็รู้สึกโกรธมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เวลานี้ทำให้หลิ่วจาวเฟิงก็กลัว
หลิ่วหลงคงเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเมื่อกี้เห็นไป๋ยี่เฟยกับโจวฉวี่เอ๋อ หลิ๋วจาวเฟิงก็ยังอยากจะบอกว่าตัวเองไม่ได้ทำ มันคือข้อแก้ตัว!
แก้ตัวต่อหน้าโหวจวี๋กรุ๊ป ก็เท่ากับรนหาที่ตายไม่ใช่เหรอ?
“ผมขอโทษจริงๆครับ ท่านประธานไป๋ ลูกฉันมันสร้างปัญหาให้ท่านประธานไป๋ ”หลิ่วหลงยิ้มมุมปากแล้วพูด “ผมขอโทษคุณแทนไอ้ลูกหมาด้วยครับ”
ไป๋ยี่เฟยมองไปที่หลิ่วหลง แล้วพูดอย่างเฉยเมย: “ ก่อเรื่องขึ้นเองก็ต้องรับผิดชอบเอง จะให้พี่ชายตัวเองเองกับพ่อมาขอโทษแทนล่ะ เหตุผลอะไรละ?”
หลิ่วหลงกับหลิ่วเซียวเหยาอึ้ง และไม่พูดอีกเลย
ไป๋ยี่เฟยเตือนอย่างเหลืออด: “ถ้าฉันไม่สั่งหยุด ก็ห้ามหยุด”
หลิ่วหลงเมื่อได้ยินคำนี้ก็เกลียด แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากกัดฟัน และยกมือขึ้น แล้วฟาดลงไป
หลิ่วจาวเฟิงโดนตบไปสองที รู้สึกว่าตัวเองจะเป็นลม แต่เขาไม่ได้เป็นคนจับคนมา “พ่อ ผมไม่ได้เป็นคน….. ”
“เพี๊ยะ! ”
“ผมไม่ได้…. ”
“เพี๊ยะ! ”
“……”
ยิ่งหลิ่วจาวเฟิงอยากจะพูดอธิบาย หลิ่วหลงก็ยิ่งตบแรงขึ้น
ในความคิดของเขา หลิ่วจาวเฟิงก็คือไม่ยอมรับความผิดของตัวเอง ดังนั้น ไป๋ยี่เฟยไม่มีวันปล่อยเขาไป และหลิ่วซื่อกรุ๊ปของพวกเขาก็เดือดร้อนไปด้วย
ไม่รู้ว่าตีไปเท่าไหร่ หลิ่วหลงรู้สึกว่ามือตัวเองนั้นชาไร้ความรู้สึก เหมือนกับเครื่องจักร ที่ตีลงไป แล้วดึงขึ้น แล้วตกลงไป…..
“พอได้แล้ว”ไป๋ยี่เฟยก็สั่งให้หยุด
ดูเหมือนว่าหลิ่วหลงจะเกิดความเฉื่อย และเมื่อเขาได้ยินไป๋ยี่เฟยสั่งหยุด เขาก็ยกมือฟาดลงไปโดยไม่รู้ตัว
“เพี๊ยะ!”
ตบครั้งสุดท้าย เสียงดังสุดๆ
ใบหน้าของหลิ่วจาวเฟิงถูกตบไปหลายครั้ง และบวมขึ้นทันที มุมปากของเขามีสีคล้ำและแดงก่ำ นองเลือด ไม่ต้องพูดถึงน่าสังเวชแค่ไหน
ไป๋ยี่เฟยไม่อยากพูดกับพวกเขา “ปล่อยตัวภรรยาฉันเดี๋ยวนี้”
“ท่านประธานไป๋ ภรรยาของท่านออกจากที่นี่อย่างปลอดภัยแล้วครับ”หลิ่วเซียวเหยายิ้มแล้วตอบ
หลิ่วหลงก็พยักหน้าและเห็นด้วย “ใช่ ท่านผู้หญิงถูกปล่อยตัวแล้ว และมันก็ไม่ได้แตะต้องตัวท่านผู้หญิงแม้แต่ปลายผม ท่านสบายใจได้ครับ”
ไป๋ยี่เฟยขยิบตาให้ไป๋หู่
ไป๋หู่หยิบมือถือขึ้นมาตรวจสอบดูพิกัดตำแหน่งของหลี่เสว่ แล้วพยักหน้าให้ไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยถอนหายใจอย่างโล่งอก ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว
“พวกเรากลับ”ไป๋ยี่เฟยพูดกับไป๋หู่
ไป๋หู่พยักหน้า ทั้งสองก็เดินออกไป
เมื่อเห็นเช่นนี้หลิ่วหลงรีบกล่าว“ท่านประธานไป๋ ได้โปรดรอก่อนครับ”
“ยังมีเรื่องอะไรอีก?”ไป๋ยี่เฟยถามพลางหมุนตัว
หลิ่วหลงรู้สึกละอายตอบกลับ: “ท่านประธานไป๋ครับ เรื่องเข้าใจไขข้อกระจ่างแล้ว งั้นเรื่องของโหวจวี๋กรุ๊ปกับหลิ่วซื่อกรุ๊ปคงจะ….. ”
คำพูดของหลิ่วหลงยังพูดไม่จบ แต่ไป๋ยี่เฟยก็เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร ไม่มีอะไรนอกจากให้เขาหยุดโจมตีหลิ่วซื่อกรุ๊ป ความจริงเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะจัดการกับหลิ่วซื่อกรุ๊ป เขาเพียงต้องการจัดการกับอุตสาหกรรมที่เป็นของหลิ่วจาวเฟิง
“ฉันรู้แล้ว กลับไปแล้วฉันจะถอนออกจากอุตสาหกรรมของหลิ่วจาวเฟิง….. ”
ขณะที่ ไป๋ยี่เฟยยังพูดไม่จบ ประตูห้องประชุมก็มีเสียงดังขึ้นมา “ปึง” แล้วถูกเปิดออกจากด้านนอก
จากนั้น ก็ผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามา ทั้งหมดดูแข็งแรง และเป็นผู้ชายที่มีกล้ามเนื้อ ทุกคนถือไม้ในมือ