ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 825
บทที่825 เข้าใจได้ในทันที
ด้วยเหตุนี้ พลังภายในที่ถูกผ่องถ่ายมา จะไม่มีทางโดนตนเองแม้หนึ่งในห้าส่วน
“เอื๊อก!”
ไป๋ยี่เฟย ถูกพลังภายในกระแทกจนกระอักออกมาเป็นเลือด ในขณะเดียวกันเขาเองก็ไม่สามารถที่จะยืนหยัดอยู่ได้ จนถอยหลังไปหลายก้าว
เต้าจ่างก็ประหลาดใจเช่นกัน แต่สิ่งที่เห็นเพียงพริบตาเดียว จากนั้นเขาก็เดินมาหาอีกครั้ง กำหมัดหมายที่จะซัดฝ่ามืออีกครั้ง
ไป๋ยี่เฟยตอนนี้เก่งกว่าครั้งก่อนมาก ครั้งที่อยู่บนเรือเขาถูกซัดตกลงจากดาดฟ้าเรือ และยังตกลงไปในทะเลอีก ครั้งนี้เขาถอยหลังเพียงเจ็ดแปดก้าวเท่านั้น
ครั้นเห็นเต้าจ่างซัดฝ่ามือมาอีกครั้ง จึงไม่ปะทะฝ่ามือกับเขา แต่กลับเอี้ยวตัวหลบ
จากนั้นคว้าเอวของเต้าจ่างไว้ คิดที่จะยืมพลังเหวี่ยงให้เขาล้มลงกับพื้น
แต่น่าเสียดาย เต้าจ่างคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป
ขณะไป๋ยี่เฟยโอบเอวเต้าจ่างในเวลานั้น ก็สัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลพุ่งเข้ามาหาเขา
ในขณะนี้เอง เขาก็เข้าใจได้ในทันที
เต้าจ่างใช้ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายปล่อยพลังภายใน!
ไป๋ยี่เฟยกระเด็นลอยออกไป
แต่เขาไม่ได้ล้มลง แต่กลับม้วนตัวกลางอากาศ ค่อย ๆลงมายืนบนพื้นอย่างมั่นคง
พลังของไป๋ยี่เฟยในเวลานี้ เทียบเมื่อตอนอยู่บนเรือแล้วก้าวหน้าไปมาก
แต่ยังมองออก ระหว่างเต้าจ่างกับเขายังห่างชั้นกันพอสมควร
ล่ายเคอเห็นกับตาแล้วกลับมานึกเสียใจมาก หันหน้าไปตวาดใส่ลู่หยางว่า: “เป็นเพราะแกไอ้หน้าโง่ ฉันอยากจะตบแกให้ตายไปเสียเดี๋ยวนี้!”
ณ ตอนนี้ลู่หยางเองก็นึกเสียใจมากเช่นกัน หากเขารู้แต่แรกว่าเต้าจ่างเป็นคนประเภทนี้ เขาไม่มีทางที่จะมาหาถึงที่นี่
ไม่อย่างนั้น เป็นเพราะตนเองไม่ใช่เหรอที่พาพวกเขามาหาให้เต้าจ่างฆ่า? อย่างนี้เรียกได้ว่าเป็นการรนหาที่ตาย!
ลูกเรือของเต้าจ่างทางนั้นต่างก็มองตาค้าง
พวกเขาเป็นแค่คนธรรมดาทั่วไป เคยเห็นคนทะเลาะวิวาท แต่ไม่ใช่การวิวาทในลักษณะแบบนี้ เห็นคนกระเด็นลอยกลางอากาศกับตา และยังชกต่อยจนเลือดทะลักออกมาจากปาก เป็นเหมือนในละครไม่มีผิดเพี้ยน
เต้าจ่างมองดูไป๋ยี่เฟยจึงพูดขึ้นว่า: “เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นคนที่ผ่องถ่ายพลังภายในเช่นนี้ แต่ว่า…… กับคนอื่น แกอาจจะทำได้ แต่กับฉัน แกไม่มีทางทำได้!”
“พูดถึงพลังภายใน ความจริงแล้วระดับความบริสุทธิ์ยังไม่เท่ากับศิษย์น้องของฉัน แต่ก็ยังสามารถทำให้พลังภายในออกมาได้ทุกส่วนของร่างกาย”
“ฉะนั้น คิดจะเข้าใกล้ตัวฉัน แกคงทำไม่ได้แน่!”
ไป๋ยี่เฟยเช็ดคราบเลือดริมฝีปาก จ้องมองไปที่เต้าจ่าง ดวงตาที่แดงฉานแปล่งประกาย
“นั่นแล้วจะยังไง?” จู่ ๆไป๋ยี่เฟยก็ยิ้มขึ้นอย่างน่ากลัว
เต้าจ่างเห็นไป๋ยี่เฟยยิ้มน่ากลัวเช่นนี้ ขมวดคิ้วด้วยท่าทีครุ่นคิด
เต้าจ่างเดินไปข้างหน้า จู่ ๆก็หยุดฝีเท้า เขาสัมผัสได้ถึงมีอะไรบางอย่างผิดปกติ ใบหน้าถมึงทึงพูดว่า “แกวางยาพิษ!”
ไป๋ยี่เฟยยิ้มเย็นชา: “ฉันไม่ได้วางยาพิษนี้”
เต้าจ่างได้ยินคำพูดนี้ จึงหันหน้าไปมองล่ายเคอในทันที
ล่ายเคอ ตกใจกลัวถอยหลังไปก้าวนึง
เต้าจ่าง ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้แล้ว “แกมันรนหาที่ตาย!”
คนที่หักหลังตนเอง ซ้ำยังกล้าที่จะวางยาพิษอีก!
เรื่องเช่นนี้ เต๋าจ่างไม่เคยพบเคยเจอ ฉะนั้น เขาจึงเดือดดาลมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เต้าจ่าง หมายที่จะพุ่งเข้าไปจัดการกับล่ายเคอ แต่อย่างไรเขาขยับตัวเพียงนิดเดียว ก็ทำให้เขาทรุดตัวลงคุกเข่าลงไปข้างหนึ่งเสียงดัง “ตุบ”
เห็นสภาพนี้ ล่ายเคอดีใจสุดประดัง
ในขณะนั้นเอง ไป๋ยี่เฟย จู่ ๆก็ถามขึ้นมาเบา ๆว่า: “ประมาณสามชั่วโมงได้ไหม?”
“สองชั่วโมง” เต้าจ่างตอบกลับเสียงดัง จากนั้นก็ทรุดตัวนั่งลงกับพื้น
ไป๋ยี่เฟยครุ่นคิด จึงพยักหน้าและพูดว่า: “เพียงพอแล้ว”
จากนั้น ไป๋ยี่เฟยหันหลังกลับและเดินจากไป
คนอื่นที่ได้ยินคำพูดนี้ มีสีหน้าสงสัย
ล่ายเคอเอง ก็สงสัยเช่นกัน เดินตามไปและถามขึ้นว่า: “เถ้าแก่ไป๋ ตอนนี้เราไม่ถือโอกาสที่เขาถูกพิษ รีบสังหารเขาเสียล่ะ เขาพูดว่าสองชั่วโมงอาจจะไม่แน่ เขาอาจจะโกหกคุณ”
ลู่หยางไม่กล้าที่จะพูดสักคำ แต่ยังคงเดินตามไป๋ยี่เฟยไปในทันที
ขณะที่ไป๋ยี่เฟย กำลังเดินอยู่นั้น เส้นผมของเขาก็ค่อย ๆกลับมาเป็นปกติ ในดวงตากลับมาเหมือนเดิม พูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า: “รีบหนี เวลาของพวกเรามีไม่มาก”
“อะไรนะ?” ล่ายเคอและลู่หยางต่างก็งุนงง
หมายความว่า?
อะไรคือ เวลาของเรามีไม่มาก?
หรือว่าไม่ควรไปหาเต้าจ่างเหรอ?
ก่อนที่เกิดเรื่องนี้ ไป๋ยี่เฟยได้พบกับล่ายเคอบนเรือ ได้ทำข้อตกลงไว้กับล่ายเคอ ขณะที่จะแยกทางกับก็ได้สั่งกำชับไว้ บอกกับเขาว่าควรทำอย่างไร
ประการแรกให้ล่ายเคอแสร้งเล่นละครตบตาในเหตุการณ์ ให้เต้าจ่างเกิดความสงสัยในตัวฉัน ประการที่สองไป๋ยี่เฟย
มอบยาพิษให้กับล่ายเคอ เป็นยาพิษที่เขาพบจากกระเป๋าของหลิวเสี่ยวอิง หลังให้เขาแล้วให้เขาแอบใส่ลงไปในอาหารของเต้าจ่าง
แต่พิษชนิดนี้มีระยะเวลาการกระจาย หากไม่ได้ใช้กำลังไปมากหรือรุนแรง พิษก็จะไม่กระจายไปได้รวดเร็ว
เห็นได้ชัด ปกติเต้าจ่างเองก็ไม่ค่อยใช้กำลังรุนแรงอะไรมาก ยิ่งกว่านั้นพวกเขาอยู่เกาะปะการังก็ไม่จำเป็นต้องออกกำลังอะไรรุนแรงมาก หากจะมีก็ต้องเป็นการประมือกับไป๋ยี่เฟย
ทั้งสองได้ประมือกันจริง หากเต้าจ่างเป็นฝ่ายชนะ ไป๋ยี่เฟยก็ต่อสู้กันให้ตายไปข้าง ล่ายเคอก็จะเปิดเผยสถานะตนเอง ฉะนั้นแล้วกระทำเช่นนี้ก็เพื่อป้องกันเรื่องที่คาดไม่ถึง
หากทำตามนี้ ก็สามารถปกป้องชีวิตพวกเขาได้
ล่ายเคอถามไป๋ยี่เฟยด้วยความร้อนใจ “เขาถูกพิษแล้วใช่ไหม? แต่ทำไมพวกเราต้องรีบไปอีกล่ะ?”
ไป๋ยี่เฟยเดินพลางพูดพลางว่า: “ฝีมือถึงระดับขั้นที่หนึ่ง พิษทั่วไปไม่สามารถทำอะไรได้ และเต้าจ่างเองก็ใกล้จะถึงขั้นที่หนึ่งแล้ว”
“เมื่อครู่ที่ฉันถามเวลาไป เป็นเวลาหลบหนีของพวกเรา ไม่ใช่เป็นเวลาตายของเต้าจ่าง”
“เขาพูดว่าสองชั่วโมง ความหมายก็คือ หลังจากสองชั่วโมงแล้ว เขาก็จะสามารถขับพิษออกทั้งหมด”
พูดจบคำ ล่ายเคอประหลาดใจเบิกตาทั้งสอง
เป็นอย่างนี้นี่เอง!
แต่เกาะใหญ่ขนาดนี้เอง พวกเขาจะไปซ่อนตัวที่ไหน?
ไป๋ยี่เฟย ไม่ต้องดูสีหน้าของล่ายเคอ ก็รู้ว่าเขากำลังคิดอะไร จากนั้นพูดเบา ๆว่า: “สามารถซ่อนตัวในทะเล”
“ในทะเลเหรอ?” ล่ายเคอ ประหลาดใจ จึงรีบถามกลับอย่างร้อนใจว่า: “ไม่ได้ ฉันว่ายน้ำไม่เป็น!”
เวลากระชั้นชิด ไป๋ยี่เฟยจึงไม่ได้อธิบายอะไรมาก
เขาพาลู่หยางกับล่ายเคอ กลับไปยังโขดหินใหญ่ที่พวกเขาเคยอยู่ตามหาลู่เหมียวเหมียว จากนั้นพาพวกเขากลับไปยังซากเรือลำนั้น
ในขณะนี้ เต้าจ่างยังคงนั่งขัดสมาธิเพื่อที่จะขจัดพิษออกจากตัวเอง
ไป๋ยี่เฟยไม่คิดที่จะลอบทำร้ายเต้าจ่าง เพราะว่ายิ่งอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ต้องยิ่งระมัดระวัง เกรงว่าถึงเวลานั้น เต้าจ่างจะต้องสู้อย่างไม่คิดชีวิต ไป๋ยี่เฟยเองก็ไม่มีทางที่จะรับมือได้
และสาเหตุที่เขากลับมาที่เรือ ก็เพื่อมาหยิบของสิ่งหนึ่ง
เพราะว่าเต้าจ่างยังอยู่ที่นั่น ลูกเรือแต่ละคนก็ไม่กล้าที่จะสลัดตัวเองออกมาโดยพลการ ดังนั้นคนที่อยู่บนเรือในเวลานี้ ก็เหลือแต่เพียงลูกสาวของกัปตันเฒ่า
ไป๋ยี่เฟยพูดขึ้นว่า: “หยิบเรือชูชีพออกมา”
ได้ยินคำพูดนี้ ล่ายเคอดีใจยิ่งนัก เข้าใจในความหมายของเขาทันที
เรือกลไฟลำใหญ่ขนาดนี้ แน่นอนจะต้องเรือชูชีพ
ครั้งนี้ไม่ใช่มีไว้เพื่อช่วยในยามวิกฤติ แต่มีไว้เพื่อหนีเอาชีวิตรอด?
หลังจากที่พวกเขานำเรือชูชีพออกมาแล้ว โยนลงไปกลางน้ำ เตรียมที่จะขึ้นบนเรือ
ขณะนั้นเองลูกสาวของกัปตันเฒ่า ยืนอยู่บนชายหาดมองเห็นพวกเขา ถามขึ้นว่า: “พวกคุณ…… ต้องการจะไปแล้วเหรอ?”
ไป๋ยี่เฟย หันหลังมองเธอและถามว่า: “เธออยากจะไปด้วยไหม?”
หญิงสาวพยักหน้าก่อนจากนั้นจึงส่ายศีรษะ
ไป๋ยี่เฟย เห็นแล้ว เข้าใจความหมายของเธอ พูดขึ้นว่า: “วางใจเถอะ พวกคุณไม่เป็นอะไรแน่”
หญิงสาวต้องการจะไปด้วย แต่ว่าบนเกาะ ยังมีพ่อของเขาอยู่ ดังนั้นเธอจึงพยักหน้าและส่ายหน้าไปพร้อม ๆกัน
ไป๋ยี่เฟย ก็ไม่ได้มีท่าทีบังคับ ยังไงพวกเขาตอนนี้ต้องหนีเอาชีวิตรอดก่อน อีกทั้งเขาก็รู้ดียอดฝีมือระดับสองของเต้าจ่าง คนหนึ่งตายไปแล้ว อีกคนหนึ่งก็ทรยศจึงเหลือเขาคนเดียว
บนเกาะปะการังแห่งนี้ เขาไม่มีทางฆ่าคนได้อีก
มิฉะนั้น เดิมทีก็ร้างก็ไร้ผู้คนอยู่แล้ว หากฆ่าไปหมดทุกคน สุดท้ายก็เหลืออยู่คนเดียวไม่ใช่เหรอ?