ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 832
คนทั้งหลายโดยจิตใต้สำนึกกลืนน้ำลายแล้วกลืนน้ำลายอีก ฉากนี้ อันน่าอกสั่นขวัญหายจริงๆ!
โชคดีว่าพวกมันไม่ได้ไล่ตามเข้ามาอีก เรือขับไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็สะบัดสัตว์ร้ายในทะเลสองตัวนั้นทิ้งห่างไป
ในเวลาเดียวกันที่คนทั้งหลายโล่งอกหนึ่งที ทั้งอกสั่นขวัญหายอีก
เพราะว่าพวกเขานึกถึงไป๋ยี่เฟย ไป๋ยี่เฟยเพียงแค่สะบัดมือหนึ่งทีก็ฆ่าสัตว์ร้ายในทะเลตัวหนึ่งตายแล้ว คนที่แข็งแกร่งขนาดนี้ จะไม่ทำให้คนหวาดกลัวได้ยังไงหรือ?
และไป๋ยี่เฟยลุกขึ้นมาแล้ว จ้องมองสัตว์ร้ายในทะเลสองตัวที่ค่อยๆห่างไปไกลนั้น
พูดตามตรง ตอนที่เขามองเห็นยังตื่นตะลึงมาก หวาดกลัวมาก
เขาก็ไม่เคยได้เห็นสัตว์ร้ายในทะเลใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเช่นกัน แต่เขารู้ว่า ความหวาดกลัวแก้ไขปัญหาอะไรไม่ได้
ถ้าหากว่าไม่ทำอะไรอีกสักหน่อย สัตว์ร้ายในทะเลไม่นานก็จะทำให้เรือของพวกเขาพลิกคว่ำ ไม่ว่าถูกกลืนกิน หรือว่าจมอยู่ในมหาสมุทร ล้วนเพียงแค่ตายคำเดียว
เขายังไม่อยากตาย ดังนั้นเขาไม่สนใจไยดีพุ่งออกไปเลย
ถึงแม้ว่าเขาเข้าสู่ในสภาวะแบบนั้นแล้ว ในใจก็ยังตื่นเต้นและหวาดกลัวอยู่เช่นกัน โชคดีผลลัพธ์แบบนี้ยังถือว่าทำให้คนรู้สึกโชคดีอยู่
ไป๋ยี่เฟยในเวลานี้ค่อยๆฟื้นฟูกลับมามีลักษณะท่าทีปกติแล้ว เรื่องก็แก้ไขไปได้ชั่วคราว เขาก็คิดที่จะกลับไปอยู่ในห้องเก็บของนั้นต่อ
แต่ว่า อยู่ตอนที่เขากำลังคิดที่จะออกไป เต้าจ่างยื่นมือขวางไป๋ยี่เฟยไว้
ไป๋ยี่เฟยจ้องมองเต้าจ่าง ทันใดนั้นสีหน้าหนักอึ้งขึ้นมา
เมื่อกี้สภาพการณ์คับขัน เขาถึงขนาดลืมเต้าจ่างไปแล้ว
ตอนนี้ตัวเขาเองไม่ได้อยู่ในห้องเก็บของ ในมือก็ไม่มีดินระเบิดด้วย ก็ไม่มีอะไรที่จะคุกคามเต้าจ่างได้ งั้นเงื่อนไขที่คุยไว้ก่อนหน้านั้น เต้าจ่างก็สามารถเปลี่ยนใจได้ทุกเวลา
ไป๋ยี่เฟยเสียงเข้มพูดว่า “พูดขึ้นมาแล้ว ผมน่าจะช่วยชีวิตคุณอยู่ ยิ่งกว่านั้นอีก ตอนที่คุณโดนยาพิษ ผมไม่ได้ลงมือฆ่าคุณนะ”
จากนั้น เต้าจ่างเพียงแค่พูดเบาๆว่า “คุณดูฝั่งโน้น”
ตอนที่พูดอยู่เขาชี้ไปยังสัตว์ร้ายในทะเลสามตัวที่ใกล้จะมองไม่เห็นนั้น “ก่อนหน้านั้นยังเป็นเพื่อนฝูงที่รวมกลุ่มกัน ปัจจุบันนี้กลับกลายเป็นกัดกินเลือดเนื้อของเพื่อนฝูงตัวเป็นๆ นี่ก็คือกฎเกณฑ์บนโลกใบนี้ ตอนที่มันยังมีชีวิตอยู่ เพื่อที่จะได้รับอาหารมากกว่านี้ พวกมันสามารถสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันได้ แต่ตอนที่มันตายแล้ว พวกมันกลับกินเนื้อกันเอง”
“โลกใบนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบล้วนคือคนที่ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้จึงจะมีชีวิตรอด”
“ดังนั้น ถึงแม้ว่าตอนที่ผมโดนยาพิษคุณไม่ได้ลงมือฆ่าผม เมื่อกี้พอถูๆ ไถๆถือว่าช่วยชีวิตผมหนึ่งครั้ง แต่ว่าผมจะไม่ซาบซึ้งในบุญคุณของคุณ เพราะว่าอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์แบบนี้ มีเพียงแต่การอยู่รอด ไม่มีซาบซึ้งในบุญคุณ”
“คุณโง่เขลาดั่งแต่ก่อน แต่ผม ไม่โง่เขลาเหมือนคุณ!”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินคำพูดนี้ ความโกรธเกิดสะพรั่งไปทั่ว
แม่มึงเอ่ย นี่ไม่ได้ฉวยโอกาสฆ่าเขาไป ก็คือความโง่เขลาของผมเองหรือ?
ช่วยชีวิตเขาหนึ่งครั้ง กลับกลายเป็นความผิดของตนเองแล้ว!
แม่มึงเอ่ย นี่เป็นหลักกฎเกณฑ์อะไรกันแน่ล่ะ?
“แม่มึงเอ่ยคุณพูดภาษาคนหน่อยได้หรือไม่? กูเกลียดท่าทางอย่างมึงแบบนี้ที่สุดแล้ว หลักกฎเกณฑ์เต็มปากเต็มคำ แม่มึงเอ่ยเหลวไหลทั้งหมด!” ไป๋ยี่เฟยโมโหร้องตะโกนพูด
“ผมไม่คุยกฎเกณฑ์โน่นนี่นั่นกับคุณ ผมรู้เพียงว่า กระทำหนึ่งสิ่งที่ไม่ดีจะได้รับหนึ่งการแก้แค้น”
เต้าจ่างได้ยินคำพูดนี้สีหน้าราบเรียบ “คุณไร้เดียงสาเกินไปแล้ว! คุณคิดว่าคุณมีบุญคุณต่อทุกคน ทุกคนล้วนจะตอบแทนบุญคุณที่เท่าเทียมกันให้กับคุณหรือ?”
ไป๋ยี่เฟยพูดเบาๆว่า “ตามความจริงก็ควรเป็นเช่นนี้”
เต้าจ่างเห็นสภาพนัยน์ตาแฝงไว้ด้วยความเหยียดหยามนิดๆ “ดังนั้นจึงบอกว่าคุณโง่เขลามาก! บุญคุณที่คุณมีต่อตระกูลลู่ยังไม่พอหรือ? แต่ตอนนี้คุณดูสิ คุณได้รับอะไรบ้างล่ะ? ล้วนคือการเนรคุณ!”
ไป๋ยี่เฟยอึ้งชะงัก ถึงขนาดโต้ตอบไม่ได้
และในเวลานี้ ลู่เหมียวเหมียวยืนอยู่ข้างหลังไป๋ยี่เฟยพอดี ก็ได้ยินคำพูดนี้เช่นกัน เต็มไปด้วยความละอายใจจ้องมองไปยังไป๋ยี่เฟย
ล่ายเคอก็อยู่เช่นกัน แต่ว่าเขาไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้เกินไป
ส่วนเต้าจ่างยืนอยู่ปากทางเข้าของห้องผู้โดยสาร ดังนั้นคนเหล่านี้ล้วนยังอยู่บนดาดฟ้าเรือ ไม่กล้าเข้าไป ต่างคนต่างจ้องมองเต้าจ่างกับไป๋ยี่เฟยอยู่
เต้าจ่างพูดอย่างเสียงดังว่า “อยู่ในโลกใบนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะมีกระทำหนึ่งสิ่งที่ไม่ดีจะได้รับหนึ่งการแก้แค้น ถ้ามีก็มีเพียงแค่ส่วนน้อยมากเท่านั้น และโลกใบนี้ ตั้งแต่ไหนแต่ไรที่คล้อยตามล้วนเป็นคนที่ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้จึงจะมีชีวิตรอดเท่านั้น!”
“ก็ด้วยเหตุนี้ ผมจึงอยากจะร่วมมือกับคุณ ให้พวกเรากลายเป็นคนทั้งสองที่เก่งที่สุดบนโลกใบนี้ สามารถยืนอยู่ส่วนยอดของโซ่อาหาร นี่จะไม่ดีเชียวหรือ?”
“ถึงในเวลานั้น คุณอยากจะทำอะไรใครจะยุ่งกับคุณได้อีกล่ะ ยิ่งไม่ต้องหวาดกลัวว่าจะมีคนมาแก้แค้นคุณ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีเรื่องการเนรคุณอีกเช่นกัน”
หลังจากไป๋ยี่เฟยฟังจบส่ายหัวเบาๆพูดว่า “สิ่งที่คุณพูดไม่ผิด อย่างนี้สามารถทำตามอำเภอใจจริงๆ แต่ว่าเท่าที่ผมดูแล้ว ทำอย่างนี้ไม่ถูกนะ”
เต้าจ่างพูดอีกว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็มาเถอะ แม้ว่าเมื่อกี้ใช้พลังอ้านจิ้งไปเยอะ แต่จัดการคุณแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว”
ในเวลานี้ ล่ายเคอคิดอยากจะฉวยโอกาสตอนที่เต้าจ่างกับไป๋ยี่เฟยพูดคุยกันอยู่ ทะลวงเข้าไปจากหน้าต่างข้างๆ สามารถหยิบดินระเบิดออกมา พวกเขาก็จะไม่เป็นฝ่ายถูกกระทำขนาดนี้แล้ว
แต่เต้าจ่างยังคงพบเห็นแล้ว
เพียงแต่เห็นเต้าจ่างสายตาหนาวเหน็บทันที ยื่นมือสะบัดหนึ่งที ก็สะบัดของบางอย่างออกมา
“เพียะ!”
สิ่งของนั้นพุ่งไปยังหน้าอกของล่ายเคอโดยตรง ทันใดนั้นล่ายเคอร้องทรมานเสียงหนึ่ง ยังกระอักเลือดออกมาด้วย ล้มอยู่กับพื้น
นัยน์ตาของล่ายเคอที่จ้องมองเต้าจ่างนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัว
เพราะว่าสิ่งที่เต้าจ่างโยนออกมานั้นเพียงแค่เศษผ้าเล็กๆผืนหนึ่งเท่านั้น แต่เพียงแค่นี้ ก็ทำให้ยอดฝีมือระดับที่สองชั้นกลางอย่างเขาคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นเห็นได้ว่า พลังความสามารถของเต้าจ่างน่ากลัวมากขนาดไหน
ในตอนนี้เต้าจ่างยังมีลักษณะท่าทางที่คล้ายดั่งอะไรล้วนยึดกุมอยู่ในมือของตนเอง พูดเบาๆว่า “คนที่หักหลังผม ไม่มีใครได้รับสิ่งที่ดีสักคน!”
พูดคำนี้จบ เต้าจ่างหันหน้าจ้องมองไป๋ยี่เฟยหนึ่งทีพูดว่า “ก็เหมือนดั่งหนิววั่ง”
ทันทีที่ได้ยินชื่อของหนิววั่ง ตาของไป๋ยี่เฟยแดงขึ้นทันที กำปั้นก็กำอย่างแน่นเช่นกัน
ถ้าไม่ใช่เต้าจ่างหลอกใช้ลูกชายของหนิววั่งมาคุกคามเขา เขากับหนิววั่งยังจะเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน หนิววั่งก็จะไม่หักหลังเขาด้วย ก็จะไม่ใช่ด้วยเหตุนี้ตายอย่างอนาถเช่นกัน
ไป๋ยี่เฟยไม่โทษหนิววั่งเลยเพราะว่าเขารู้ นี่เป็นปกติของความเป็นคน ถึงยังไงนั่นเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตนเอง ถ้าหากว่าเป็นเขา เขาก็จะทำอย่างนั้นเช่นกัน
กลับอยู่ในเวลานี้
เสียงดัง “ตูม” เสียงหนึ่ง!
คนทั้งหลายล้วนตื่นตกใจหนึ่งที ไป๋ยี่เฟยกับเต้าจ่างก็ไม่ยกเว้นเช่นกัน
ก็อยู่ที่ผืนทะเลข้างเรือของพวกเขาคลื่นทะเลใหญ่โตมโหฬารพุ่งขึ้นมา กลิ่นควันระเบิดก็ลอยกระจายอยู่กลางอากาศเช่นกัน
คือดินระเบิด!
ในใจเต้าจ่างตื่นตกใจอย่างมาก หมุนตัวทันที
ไป๋ยี่เฟยก็มองเข้าไปเช่นกัน
จากนั้นพวกเขามองเห็นลู่หยางที่รูปร่างผอมแห้งอ่อนแอยืนอยู่ข้างหลังเต้าจ่าง และลู่หยางมัดดินระเบิดไว้ทั้งตัว ในมือยังถืออยู่มัดหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างหนึ่งจับไฟแช็กไว้อันหนึ่ง
ลู่หยางจ้องมองเต้าจ่างแม้ว่าเสียงมีความสั่นระริกเล็กน้อย แต่ว่าสายตามั่นคงยืนหยัดเหลือเกิน “ผม……ดินระเบิดที่อยู่บนกายผม……เพียงพอที่จะระเบิดเรือลำนี้ได้แล้ว…….ในเวลาเดียวกันก็ได้ระเบิดดินระเบิดอื่นๆไปพร้อมๆกัน”
หลังจากไป๋ยี่เฟยกับลู่เหมียวเหมียวมองเห็นลู่หยางล้วนตะลึงงันเลย
จนถึงในเวลานี้ พวกเขาจึงนึกขึ้นมาได้ เริ่มตั้งแต่สัตว์ร้ายในทะเลโผล่ออกมา ตลอดเวลาลู่หยางก็ไม่ได้ออกจากห้องผู้โดยสารมาก่อน
ตอนนี้ดูแล้ว ก็ยังเป็นกระทำหนึ่งสิ่งที่ไม่ดีจะได้รับหนึ่งการแก้แค้น จริงๆ แค่เพียงสายไปหน่อยเท่านั้น แต่เวลาพอดีๆ
สีหน้าของเต้าจ่างเปลี่ยนไปทันที
เดิมทีจากสภาพการณ์ที่เขาเป็นฝ่ายถูกกระทำกลายเป็นฝ่ายกระทำแล้ว คิดว่าได้รับชัยชนะอย่างมั่นใจ แต่ใครจะรู้ว่าถูกไอ้หนุ่มคนนี้ทำร้ายเลย ใครจะดีใจได้ล่ะ?
หลังจากไป๋ยี่เฟยมองเห็นฉากนี้แล้ว วางใจลงเล็กน้อย จากนั้นยิ้มเบาๆพูดว่า “ตอนนี้คุณเห็นแล้วใช่ไหม? นี่ก็เป็นสิ่งที่ผมพูดไว้ว่า กระทำหนึ่งสิ่งที่ไม่ดีจะได้รับหนึ่งการแก้แค้น”
เต้าจ่างเงียบไปสักพัก จากนั้นจ้องมองลู่หยางพูดว่า “เขาเป็นคู่อริของคุณ คุณไม่อยากฆ่าเขาเลยเชียวหรือ?”
เผชิญหน้ากับเต้าจ่างแบบนี้ ลู่หยางหวาดกลัวอยู่นะ แต่ว่าสายตาของเขายังคงมั่นคงยืนหยัดขนาดนั้น “ใช่! เขาเป็นคู่อริของผม แต่ว่า คุณเป็นคนชั่วที่ชั่วกว่าเขาอีก!”
ไป๋ยี่เฟยไม่กี่ก้าวเดินไปยังข้างหน้าลู่หยาง หยิบดินระเบิดที่อยู่ในมือของเขามา พูดกับเต้าจ่างว่า “ตอนนี้พลิกกลับมาแล้ว และผมจากนี้ไป ก็จะไม่เชื่อคำพูดอะไรของคุณอีกเช่นกัน”
“กล่าวเตือนคุณ ก่อนที่พวกเราจะขึ้นฝั่ง ถ้าไม่คุณก็อยู่อย่างประพฤติตัวเรียบร้อย ถ้าไม่คุณก็กระโดดลงไปในทะเลเอง ไม่งั้นล่ะก็ ผมจะทำให้คุณตายโดยตรงเลย!”
สีหน้าของเต้าจ่างขึงลับเหลือเกิน
ล่ายเคอที่อยู่บนพื้นเห็นไป๋ยี่เฟยยึดกุมอำนาจหลักใหม่อีกครั้ง ก็ไม่แกล้งทำแล้ว ลุกขึ้นมาเลย วิ่งไปยังข้างหลังไป๋ยี่เฟย กระหยิ่มยิ้มย่องพูดกับเต้าจ่างว่า “ตอนนี้คุณเหลือเพียงคนเดียวแล้ว อย่าเล่นลูกไม้อะไรดีที่สุด ไม่งั้นตายยังไงล้วนไม่รู้ตัว!”
“ยังมีผม นี่ไม่ใช่หักหลัง คือพิจารณาลักษณะพิเศษจำเพาะประเมินการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ ตัดขาดจากกลุ่มชั่วร้ายก้าวเข้าสู่กลุ่มที่มีอนาคต”