ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 864
หลี่เสว่นั่งเงียบๆอยู่ข้างๆไป๋ยี่เฟย อยู่เป็นเพื่อนเขา ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มจางๆ
เห็นพ่อแม่ของตัวเอง พ่อตาแม่ยายและภรรยาของตัวเองนั่งอยู่ข้างๆ ไป๋ยี่เฟยรู้สึกอบอุ่นใจ และรู้สึกจิตใจของตัวเองสงบมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ดูเหมือนเรื่องวุ่นวายต่างๆในหลันเต่า เรื่องของเขากับหลิวเสี่ยวอิงมลายหายไปหมด!
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ จู่ๆประตูห้องผู้ป่วยก็โดนถีบจนเปิดออก
“ตูม!”
จู่ๆมีคนจำนวนสิบกว่าคนพุ่งเข้ามา ทุกคนใส่เสื้อเชิ้ตสีดำ บางคนไว้ผมสั้น บางคนไว้ผมสีทอง มองดูก็รู้ว่าเป็นพวกนักเลง
ทุกคนที่อยู่ในห้องตกตะลึงเมื่อเห็นคนเหล่านี้เข้ามา
หลังจากที่คนเหล่านี้เข้ามา ทำให้ห้องผู้ป่วยดูอึดอัดขึ้นมาทันที ชายที่เป็นหัวหน้าคนนั้นใส่เสื้อเชิ้ตสีดำ แขนของเขามีรอยสัก เขามองไปรอบๆ ห้องผู้ป่วย จากนั้นสายตาของเขาหยุดอยู่ที่ชายวัยกลางคนและภรรยา
จากนั้นเขาถามด้วยความดุดัน:“คุณคือสวีเฉียงใช่ไหม?”
ภรรยาของเหล่าสวีกำลังป้อนข้าวให้เขา เมื่อได้ยินคำถามนี้ก็รีบวางถ้วยลงมา ยืนขึ้นและถามว่า:“ไม่ทราบว่าพวกคุณเป็นใคร?”
ชายรอยสักหัวเราะอย่างเย็นชา จากนั้นหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งและโยนออกไป“เงินจำนวนนี้พวกคุณเป็นคนยืมใช่ไหม?คุณลืมมันเร็วเกินไปหรือเปล่า?”
ภรรยาของเหล่าสวียืนอึ้งอยู่กับที่
สีหน้าของเหล่าสวีดูงุนงง จากนั้นหันหน้าไปถามภรรยา“คุณยืมเงินกับพวกเขาเหรอ?”
ภรรยาของเขาเห็นดังนั้นก็ถอนหายใจและพูด“ถ้าไม่ยืมเงิน เอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่านอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล?”
“อย่าพูดมาก รีบคืนเงินมาเดี๋ยวนี้!”ชายรอยสักพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ทั้งหมดหนึ่งแสนหยวน!”
“อะไรนะ?”ภรรยาของเหล่าสวีอุทาน“ทำไมถึงเป็นหนึ่งแสนหยวน?ฉันยืมเงินแค่หนึ่งหมื่นหยวน!และพึ่งผ่านมาแค่หนึ่งวัน มันกลายเป็นแสนหยวนได้ยังไง?”
ชายรอยสักหัวเราะอย่างเย็นชา:“อะไรนะ?ฟังจากที่คุณพูด คุณจะไม่คืนเงินใช่ไหม?”
“ไม่ใช่”ภรรยาของเหล่าสวีส่ายหัวทันที“ความหมายของฉันคือ เงินที่ต้องคืนมันไม่ถูกต้อง”
“ไม่ถูกตรงไหน?คุณดูให้ชัดเจนก่อน คุณกู้เงินนอกระบบนะ!”ชายรอยสักหัวเราะอย่างเย็นชา
ภรรยาของเหล่าสวีอึ้งไปเลย“อะไรนะ?”
เมื่อเหล่าสวีได้ยินภรรยากู้เงินนอกระบบก็กังวลขึ้นมาทันที“คุณไปกู้เงินนอกระบบได้ยังไง?”
จากนั้นเขาก็บ่นอีก“คุณมีสมองหรือเปล่า?ทำไมต้องไปกู้เงินนอกระบบด้วย?”
“ฉัน……”ภรรยาของเหล่าสวีดูเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็พูดไม่ออก
เหล่าสวีหันหน้าไปคุยกับชายรอยสัก:“พ่อหนุ่มน้อย เรื่องที่เกิดขึ้น ฉันก็รับรู้แล้ว พวกเรายืมเงินของพวกคุณ เพราะพวกเราไม่มีเงินจริงๆ แต่อีกสองวันเถ้าแก่ก็จะจ่ายเงินเดือนให้ฉัน คุณให้เวลาพวกเราสองวันได้ไหม ฉันจะคืนเงินต้นให้พวกคุณ?”
“โอ๊ย แม่งเอ๊ย คุณจะคืนแค่เงินต้นเหรอ?”สีหน้าของชายรอยสักเปลี่ยนไปทันที“รู้ไหมว่าอะไรคือเงินนอกระบบ?คุณจะคืนแค่เงินต้นเหรอ?”
หลังจากพูดจบก็เงียบไปสักพัก ดูเหมือนเขากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง จากนั้นก็พูด:“ฉันสามารถให้โอกาสพวกคุณ ฉันจะให้เวลาพวกคุณสักสองวัน และสามารถลดให้พวกคุณครึ่งหนึ่ง พวกคุณจ่ายแค่ห้าหมื่นก็พอ แต่ว่า……”
“เรื่องที่คุณบาดเจ็บจากการทำงานในไซต์งานก่อสร้าง ห้ามเอาไปพูดอีก เข้าใจไหม?”
“ถ้าคุณตกลง……”ในขณะชายรอยสักกำลังพูด ก็มีลูกน้องที่อยู่ด้านหลังยื่นเอกสารฉบับหนึ่งมาให้เขา ชายรอยสักก็โยนให้เหล่าสวี“คุณเซ็นชื่อบนเอกสารนี้ก็พอ”
เหล่าสวีและภรรยาเห็นเอกสารฉบับนี้ ไม่รู้จะทำยังไง
ทั้งสองคนสบตากันสักพัก สุดท้ายก็เตรียมตัวที่จะเซ็นชื่อ เพราะพวกเขาไม่มีเงินมากพอที่จะไปใช้คืนหนี้นอกระบบ
และในเวลานี้ ไป๋ยี่เฟยก็เอ่ยปากขัดจังหวะทันที“เถ้าแก่จ้าวไม่อยากให้เกิดเรื่องใหญ่โตขึ้น ดังนั้นเขาก็เลยส่งคนพวกนี้มาใช่ไหม”
เพราะในห้องผู้ป่วยไม่มีใครกล้าพูด ทำให้ทุกคนในห้องผู้ป่วยได้ยินคำพูดของไป๋ยี่เฟยอย่างชัดเจน
ชายรอยสักรีบหันหน้ากลับมามองไป๋ยี่เฟย สีหน้าดุร้ายและตะโกนด่า:“แม่งเอ๊ย ปิดปากเดียวนี้!อย่ายุ่งเรื่องของพวกเรา!ไม่งั้น……”
เมื่อเห็นดังนั้น ภรรยาของเหล่าสวีรีบยืนขึ้นมาบังอยู่ด้านหน้าไป๋ยี่เฟย ถึงแม้เธอไม่รู้ว่าต้องทำยังไง แต่เธอรู้ว่าไป๋ยี่เฟยกำลังช่วยพวกเขาอยู่ ดังนั้นเธอก็เลยกลัวชายรอยสักจะหาเรื่องทำร้ายไป๋ยี่เฟย
ภรรยาของเหล่าสวีรีบพูดทันที:“พวกเราเซ็น !พวกเราจะเซ็นตอนนี้เลย!”
ไป๋ยี่เฟยรีบพูดขัดจังหวะทันที:“พี่สาว ห้ามเซ็นเด็ดขาด!”
“ไอ้เด็กสารเลว!แกอยากตายใช่ไหม?”ชายรอยสักจ้องมองไป๋ยี่เฟยด้วยสายตาที่ดุร้าย
ไป๋ยี่เฟยไม่มองเขาเลยด้วยซ้ำ แต่พูดกับภรรยาของเหล่าสวีอย่างจริงจัง:“เรื่องที่เกิดขึ้นกับพวกคุณช่วงสองวันที่ผ่านมา ถึงคุณจะไม่บอก ฉันก็รู้เรื่องราวมาพอสมควร”
“เมื่อวานภรรยาของฉัน ยังถามฉันว่าทำไมคุณไม่ช่วยพวกเขา?”
“ตอนนั้นฉันไม่ได้ตอบคำถามของเธอ เพราะฉันรู้ว่าทุกคนมักจะสงสารคนที่อ่อนแอกว่า เมื่อวานคำพูดของเถ้าแก่จ้าวก็ไม่ได้พูดผิด เพราะเหล่าสวีเป็นคนละเมิดกฎข้อบังคับในการทำงานก่อน”
“แต่เมื่อคืนหลังจากที่ฉันตรวจสอบแล้ว เรื่องที่เหล่าสวีตกลงมาจากตึกไม่ใช่การได้รับบาดเจ็บจากการทำงาน ถึงเป็นอย่างนั้น แต่บริษัทก็ต้องรับผิดชอบและชดเชยค่าสินไหมทดแทนให้เหล่าสวี
“วันนี้ที่พวกเขาเข้ามาก็ต้องการให้พวกคุณสละค่าสินไหมทดแทนที่บริษัทต้องจ่าย
“ยิ่งไปกว่านั้น กู้เงินนอกระบบมันผิดกฎหมายด้วย โดยเฉพาะการข่มขู่คุกคามแบบนี้”
“ดังนั้นพวกคุณห้ามเซ็นเด็ดขาด”
เมื่อฟังที่เขาพูดจบ เหล่าสวีและภรรยาก็ตกตะลึง
เมื่อชายรอยสักถูกเปิดโปร่ง เขารีบยกไม้กระบองที่อยู่ในมือขึ้นมาและพุ่งเข้าไปเลย
“ไอ้เหี้ย!แกเข้ามายุ่งเรื่องของพวกเราทำไม!วันนี้ฉันจะตีแกให้ตายไปเลย!”
ชายรอยสักรูปร่างสูงใหญ่ กล้ามเนื้อของเขาใหญ่มากๆ แค่เขายืนอยู่เฉยๆ คนทั่วไปเห็นเขาแล้วก็คงรู้สึกหวาดกลัว เขาพุ่งเข้ามาดุดันแบบนี้ ถ้าเป็นคนทั่วไป คงหวาดกลัวจนขาสั่นและเข่าอ่อนแน่นอน
แต่ว่าไป๋ยี่เฟยไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป
ชายรอยสักพึ่งพุ่งเข้ามาถึงด้านข้างของไป๋หยุนเผิง ไป๋หยุนเผิงแค่เอื้อมมือออกไปอย่างเบาๆก็จับข้อมือของเขาเอาไว้ และมืออีกข้างหนึ่งก็แย่งไม้กระบองจากมือของเขา
“อ๊าก!”
ชายรอยสักกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ร่างกายของเขาสั่นไหว
ไป๋หยุนเผิงยืนอยู่ที่เดิมด้วยสีหน้าปกติ ดูเหมือนเมื่อสักครู่เขาพึ่งจับแมลงตัวเล็กๆ
ชายรอยสักอยากจะขัดขืน ไม่ว่าเขาจะขัดขืนยังไงก็ดิ้นไม่หลุด ยิ่งขัดขืนก็ยิ่งทำให้เขาเจ็บปวด
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกคนที่อยู่ในห้องผู้ป่วยอึ้งไปเลย
หลังจากนั้นลูกน้องของชายรอยสักก็รู้ตัวทันที ทั้งหมดรีบหยิบกระบองขึ้นมา เตรียมที่จะลงมือ
แต่ชายรอยสักก็รีบตะโกนออกมาทันที:“ให้ตายเถอะ พวกเจ้ารีบหยุดเดียวนี้!โอ๊ย……”
ไป๋หยุนเผิงจับข้อมือชายรอยสักอยู่ ทำให้ชายรอยสักต้องยอมจำนน
สีหน้าของไป๋ยี่เฟยเป็นปกติ และพูดเบาๆว่า:“กลับไปบอกเถ้าแก่ของพวกคุณ ถ้าจะหาเรื่องก็มาเร็วๆหน่อย ฉันคิดว่าฉันน่าจะออกจากโรงพยาบาลภายในสองวัน”
ข้อมือของชายรอยสักโดนไป๋หยุนเผิงจับอยู่ มันเจ็บปวดจนทำให้เขาหน้าซีด“ไม่……ไม่กล้าแล้ว……”
ไป๋หยุนเผิงเห็นดังนั้นก็ถามว่า:“ให้เรื่องจบลงแค่นี้เหรอ?”
รู้ไหมว่าในเมืองหลวง ไม่มีใครกล้าล่วงเกินสี่ตระกูลใหญ่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเมืองเทียนเป่ยในจังหวัดเป่ยไห่
ยิ่งไปว่านั้นชายรอยสักยังด่าลูกชายของเขาว่าไอ้เหี้ย ถ้าเป็นนิสัยของเขาในสมัยก่อน คงจะหักแขนหักขาเขาไปแล้ว
เมื่อไป๋ยี่เฟยจัดการด้วยวิธีนี้ ทำให้เขารู้สึกแปลกใจ ชายรอยสักไม่เข้าใจ แต่ไป๋หยุนเผิงรู้ว่าที่ไป๋ยี่เฟยทำแบบนี้ เพื่อขอความเมตตาให้ชายรอยสักคนนั้น
เมื่อไป๋ยี่เฟยได้ยินก็พูด:“ทุกคนมีชีวิตที่ลำบากเหมือนกัน เขาแค่เลือกทางที่ผิด ปล่อยพวกเขาไปเถอะ”
ปล่อยคนพวกนี้ไปง่ายๆ ดูเหมือนว่าไป๋ยี่เฟยจะไม่โหดเหี้ยมพอ ทำให้ไป๋หยุนเผิงกับหลี่เฉียงตงไม่รู้จะพูดอะไรกับเขาดี
อย่างไรก็ตาม ไป๋ยี่เฟยก็เป็นคนแบบนี้มาโดยตลอด เป็นคนใจอ่อน เป็นคนอ่อนไหว มีจิตใจที่ลังเลและไม่เด็ดขาด
แต่ถึงอย่างนั้น ทำไมเขาถึงใจอ่อนมากว่าเมื่อก่อนอีก?
ไป๋หยุนเผิงไม่เข้าใจ แต่เขาก็เคารพการตัดสินใจของลูกชาย ปล่อยชายรอยสักไป
เมื่อชายรอยสักถูกปล่อยตัว เขาก็วิ่งหนีทันที แต่ในขณะวิ่งหนีเขาก็ตะโกนด่าไป๋ยี่เฟย:“ไอ้เหี้ย!แกจำไว้!รอฉันกลับไปบอกเถ้าแก่ ให้เขาหาคนมาฆ่าพวกแกให้ตายทั้งหมด!”
แต่คำพูดเหล่านี้ไม่ได้กระทบจิตใจของไป๋ยี่เฟยเลย
แต่เหล่าสวีและภรรยากลับกลัวจนหน้าซีด
ผ่านไปสักพัก ไป๋หยุนเผิงและคนอื่นๆก็จากไป
บนรถยนต์ หลิวจื่อหยุนปิดประตูและโล่งใจทันที“โอ้พระเจ้า เมื่อกี้ฉันกลัวแทบตาย ถ้าไม่มีชิงแกอยู่ด้วย ฉันก็ไม่รู้จะจัดการเรื่องนี้ยังไง?”
เมื่อหลี่เฉียงตงได้ยินก็หัวเราะเบาๆ
หลิวจื่อหยุนพูดด้วยความเลื่อมใสและศรัทธา:“ชิงแกคุณเก่งมากๆเลย หน้าตาก็ดี ฐานะทางครอบครัวก็ดี สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ก็ดูออกเลยว่าคุณเคยฝึกศิลปะการต่อสู้ ดูยังไงก็เก่งกว่าเขาตั้งร้อยเท่า!”
เมื่อหลี่เฉียงตงได้ยินคำพูดนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรเลย