ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 928
สีหน้าของหยุนอิงตอนที่อยู่ด้านล่าง มองดูแล้วเหมือนท่านผู้นำที่ไม่ควรไปลองดีด้วย ท่าทางแบบนั้นเหมือนกับต้องการที่จะขึ้นมาแก้แค้นไป๋ยี่เฟยจริงๆ
หยุนอิงยิ้มอีกครั้งพลางพูด “จริงๆแล้วเมื่อกี้นายก็มีโอกาสจะฆ่าฉัน ทำไมไม่ทำล่ะ?”
ไป๋ยี่เฟยชะงัก
หยุนอิงจงใจเย้าแหย่”ฆ่าฉันไม่ลงหรอ?”
ไป๋ยี่เฟยมองดูท่าทางของเธอ ก็อดจะรู้สึกหนาวๆไม่ได้ “ไม่ทำไม แค่อยากจะถามอะไรเธอสักหน่อย”
“อ๋อ?”หยุนอิงกระพริบตาอย่างสงสัย ก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ”อยากถามอะไรล่ะ?”
ไป๋ยี่เฟยเหมือนกลัวว่าเธอจะกลับคำพูด จึงรีบเอ่ย”ทำธุระให้เสร็จก่อนดีกว่า”
“ได้สิ “หยุนอิงยักไหล่
จากนั้นไป๋ยี่เฟยก็เดินไปหน้าอู๋เฉียง ก่อนจะหยิบธงสีแดงอันเล็กออกมาจากเสื้อของอู๋เฉียง
ส่วนพวกหนานเหมินที่อยู่ด้านล่างที่ตอนแรกช่วยส่งกำลังใจให้หยุนอิง แต่ต่อมาเขาพบว่าท่านผู้นำของพวกเขากลับคุยเล่นกับไป๋ยี่เฟย
เกิดอะไรขึ้น?
ทำไมรู้สึกว่าพวกเขารู้จักกัน?
จากนั้น พวกเขาก็เห็นไป๋ยี่เฟยยกธงเล็กๆขึ้นมาแกว่งกลางอากาศ
คนของหนานเหมินพอเห็นฉากนี้เข้าก็พากันมึนงง
จากนั้นก็เกิดเสียงดังสนั่นลั่น
“ตูม!”
“ตูม!”
ที่ด้านล่างเนินเขาเกิดการระเบิด
ก้อนดินกระเด็นกระดอนขึ้นมาบนอากาศ ปกคลุมจนมองไม่เห็นท้องฟ้าและพระอาทิตย์
“อ้าก!”
ต่อมาก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวน
คนเหล่านั้นโดนระเบิดจนลอยกระเด็น โดนระเบิดจนเลือดสาดกระเซ็น
พวกคนที่ไหวตัวทันก็รีบหมุนตัววิ่งหนี่
แต่น่าเสียดายที่มันไร้ประโยชน์ เพราะมันระเบิดเป็นชุดหลายลูกติดต่อกัน
“ตูม!”
“ตูม!”
ส่วนพวกเจิ้งซงพอเห็นฉากนี้เข้าก็พากันตะลึงตาค้างเป็นแถว
พวกเขามองไป๋ยี่เฟยที่อยู่บนเนินเขาสูงอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เนื่องจากเศษดินเศษฝุ่นที่ฟุ้งกระจายในอากาศ ผสมกับสายฝนที่ตกลงมาทำให้บดบังสายตาคน
แต่พวกเขาก็ยังพอมองเห็นไป๋ยี่เฟยยืนอยู่บนนั้น มองฉากนี้ด้วยสายตาเย็นชา
ตอนนั้นเองพวกเขาถึงรู้ว่า ที่ไป๋ยี่เฟยพูดเมื่อสักครู่นี้เป็นเรื่องจริง เขาฝังระเบิดไว้จริงๆ
แต่ว่า ตรงที่ฝั่งระเบิกไม่ใช่บนเนินเขาสูง แต่เป็นที่ด้านล่าง
คิดดูแล้วหยุนอิงคงจะสังเกตได้จึงเลือกเดินขึ้นมาด้านบน
และไป๋ยี่เฟยก็ไม่ได้บอกเธอไว้ล่วงหน้า
นี่ถึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเมื่อสักครู่หยุนอิงถึงได้บอกว่า มีโอกาสฆ่าเธอไปด้วย
ถ้าจะถามว่าทำไมถึงไม่ฆ่าหยุนอิง ไป๋ยี่เฟยก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาเพียงแค่รู้สึกว่าหยุนอิงแตกต่างจากพวกคนของหนานเหมิน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ทำอะไรรุนแรง
หรือไม่ก็เป็นเพราะว่าไป๋ยี่เฟยรับปากไว้ว่าจะช่วยให้เธอได้รับตำแหน่งผู้นำสหพันธ์วรยุทธละมั้ง
หยุนอิงเหลือบมองไป๋ยี่เฟยก่อนจะเอ่ยถามอีกครั้ง”ทำไมไม่ฆ่าฉันล่ะ?”
ไป๋ยี่เฟยกลับไม่เอ่ยตอบ เพียงแค่เอ่ยถามคำถามที่มันไม่เกี่ยวกัน”ฉันอยากรู้ว่าเธอเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่?”
หยุนอิงชะงัก จากนั้นก็หัวเราะใส่ไป๋ยี่เฟย ชี้ไปที่อกของตัวเอง”อยากสัมผัสหน่อยมั้ยล่ะ?”
ไป๋ยี่เฟย”……”
ไป๋ยี่เฟยไม่เข้าใจเลย ยอดฝีมือที่เก่งกาจอย่างหยุนอิง ทำไมถึงชอบปลอมตัวเป็น……ผู้หญิง?
เฮ้อ เอาเถอะดูจากอายุแล้ว คงจะเป็นผู้หญิงจริงๆ
ไป๋ยี่เฟยไม่อยากจะถามอะไรต่อและก็ไม่ได้มองเธอ แต่กลับหันหน้าไปมองดูพวกหนานเหมินที่อยู่ด้านล่าง
โดนระเบิดขนาดนี้คงจะตายกันหมด
ไม่เหลือแม้แต่คนเดียว!
หยุนอิงเองก็ไม่แคร์อะไรยิ้มพลางเอ่ยถาม”เห็นความจริงใจของฉันหรือยัง?”
“นี่ไม่ใช่ทั้งหมด”ไป๋ยี่เฟยเอ่ยตอบนิ่งๆ
นี่ไม่ใช่พวกหนานเหมินที่บุกเข้ามาโจมตีในครั้งนี้ทั้งหมด
หยุนอิงได้ยินดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะชักสีหน้าเคร่งขรึม”ฉันว่า นายโลภมากไปหน่อยนะ!”
ไป๋ยี่เฟยกลับเอ่ยตอบด้วยเสียงเย็นชา”แต่ที่เธอตอบตกลงคือทั้งหมด”
หยุนอิงส่งเสียงจิ๊จ๊ะก่อนจะเอ่ยด้วยสีหน้าที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม “ก็ตกลงกันแล้วไงเอาเงินมาแลกของ ที่เราตกลงกันไว้แบบนี้ก็ไม่ได้สิก็คุยแล้วไม่ใช่หรออันนี้เป็นมัดจำไว้ก่อน?”
“เพียงแค่นายทำให้ฉันได้รับตำแหน่งผู้นำสหพันธ์วรยุทธ ฉันก็จะเอาพวกที่เหลือทั้งหมดให้นาย แบบนี้ยุติธรรมมากไม่ใช่หรอ?”
ไป๋ยี่เฟยเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยถาม”ส่วนที่เหลือมีอีกเท่าไหร่?”
“ก็……สองในสามมั้ง”หยุนอิงยักไหล่เอ่ย
พูดแบบนี้ก็แสดงว่าพวกที่ตายวันนี้ก็เป็นแค่หนึ่งในสามเท่านั้น ถ้าอย่างนั้นที่เหลืออีกสองในสามไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเหลืออีกเท่าไหร่
ดังนั้นไป๋ยี่เฟยจึงหัวเราะอย่างเย็นชา “ถ้าแบบนี้เรียกว่าจริงใจ งั้นฉันก็คงไม่รู้แล้วล่ะว่าอะไรที่เรียกว่าจริงใจ”
หยุนอิงอดไม่ได้ที่จะโมโหเอ่ย “แบบนี้ยังไม่เรียกจริงใจอีกหรอ ฉันถึงขนาดให้นายฆ่าคนของหนานเหมินมากมายขนาดนี้ในครังเดียวเลยนะ!”
ไป๋ยี่เฟยกลับส่ายหน้าเอ่ย”คนพวกนี้ไม่น่าจะใช่คนของเธอนะ ดังนั้นเธอแค่กำลังหลอกใช้ฉัน ช่วยเธอฆ่าพวกที่เป็นศัตรูของเธอ”
สิ้นเสียงหยุนอิงก็ชะงักทันที
จากนั้นหยุนอิงก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง”ไป๋ยี่เฟย นายนี่ฉลาดจริงๆ!”
“ถูกต้องแล้ว คนพวกนี้ไม่ใช่คนของฉัน”
ไป๋ยี่เฟยมองหน้าเธอด้วยสายตาเย็นชา “ฉะนั้นคนของเธอ หรือจะเรียกว่าคนที่เธอไว้ใจ เธอคงจะไม่ยอมให้ฉันฆ่าหรอกถูกมั้ย?”
“ถูก”หยุนอิงพยักหน้า
ไป๋ยี่เฟยก็โมโหทันที “แล้วแบบนี้เรียกจริงใจตรงไหน?”
หยุนอิงมองไป๋ยี่เฟยพร้อมกับยิ้ม “เพราะว่าฉันไม่มีคนสนิทที่ไว้ใจได้เลย”
“หะ?” ไป๋ยี่เฟยชะงักและรู้สึกมึนงง
“นี่……ไม่หรอกมั้ง?”
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกยากที่จะเชื่อ คนที่จะทำการใหญ่ทำไมถึงไม่มีคนสนิท?
ส่วนหยุนอิงเห็นว่าไป๋ยี่เฟยไม่เชื่อตัวเอง ก็โมโหทันที “นายจะหวาดระแวงอะไรขนาดนั้น?จะให้พูดยังไงนายถึงจะเชื่อ?”
“ฉันบอกว่าอายุยี่สิบสองนายก็ไม่เชื่อ ฉันบอกว่าอยากร่วมมือกับนายด้วยความจริงใจนายก็ยังไม่เชื่อ นายอยากรู้ว่าฉันเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายฉันให้นายจับเองนายก็ไม่มาจับ ฉันบอกว่าฉันไม่มีคนสนิท นายก็ยังไม่เชื่อ!”
“ฉันต้องพูดยังไงนายถึงจะเชื่อ!หะ!”
เผชิญหน้ากับหยุนอิงที่จู่ๆก็โมโหขึ้นมา ไป๋ยี่เฟยกลับสงบนิ่งมากเพียงแค่เอ่ยนิ่งๆ “ฉันยังถามอะไรอีกได้มั้ย?”
“ถามมา!”หยุนอิงส่งเสียงอย่างไม่พอใจ
ไป๋ยี่เฟยถาม “ทำไมเธอถึงอยากร่วมมือกับฉัน?”
ตั้งแต่ที่ได้พบกับหยุนอิงยกเรื่องอยากร่วมมือกับเขาขึ้นมา ไป๋ยี่เฟยก็รู้สึกสงสัยมาก เขาคิดไม่ออกมาโดยตลอดว่าทำไมหยุนอิงถึงอยากร่วมมือกับเขาในฝั่งของพวกเขา เขาไม่ได้ถือว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดด้วยซ้ำ
และเขาก็ถามจื่ออีแล้ว จื่ออีบอกว่าเรื่องวุ่นวายของเด็กๆเธอจะไม่ยุ่ง
หยุนอิงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยตอบ “ฉันต้องการการสนับสนุนจากนาย”
“สนับสนุน?”ไป๋ยี่เฟยชะงัก”สนับสนุนยังไง?”
หยุนอิงถอนหายใจก่อนจะค่อยๆเอ่ยอธิบาย “เหตุผลที่ตลอดหลายปีมานี้สหพันธ์วรยุทธสามารถสนับสนุนหนานเหมินได้นั้น ก็อาศัยการสนับสนุนทางการเงินของเหลียงหมิงเยว่”
“ถ้าหากฉันได้เป็นผู้นำสหพันธ์วรยุทธคนใหม่ เหลียงหมิงเยว่ต้องดูถูกฉันแน่ถึงตอนนั้นแล้ว ฉันต้องการการสนับสนุนจากนาย”
“สำหรับการตอบแทน ฉันจะช่วยนายเปิดตลาดในหนานเหมิน ให้ผลประโยชน์แก่นาย”
ไป๋ยี่เฟยเข้าใจแล้ว การสนับสนุนทางการเงิน เรื่องนี้เขาช่วยได้จริงๆ