ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 951
ชายชราคนหนึ่งพุ่งไปยังไป๋ยี่เฟย จู่โจมเข้าไปหนึ่งหมัด
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้หลบเลย แต่ไปยังข้างหน้าแล้วค่อยเอียงตัวหลบพ้นหมัดนั้น ในเวลาเดียวกันเขาออกหมัดอย่างรวดเร็วหมัดหนึ่งทุบลงบนหน้าอกของฝ่ายตรงข้าม
“ปั้ง!”
ชายชราคนนั้นตีลังกาลอยออกไปทุ่มอยู่บนกำแพงโดยตรง คราวนี้ทุ่มจนกำแพงกลายเป็นรูใหญ่โดยตรง
“เป็นรุ่นอาวุโส ข่มเหงรังแกเหยียดหยามหลานสะใภ้ ทำให้ภรรยาและลูกของผมอับอายขายหน้า!”
“ตีพวกคุณที่อาศัยตนเป็นรุ่นอาวุโสกว่าเที่ยวดูถูกคนอื่น!”
“ตูม!”
“คว้าก!”
“ปั้ง!”
ไป๋ยี่เฟยเข้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ฝ่ามือหนึ่งตบชายชราอีกคนที่ใกล้เข้ามาลอยออกไปอีก
ต่อจากนี้เขาหมุนตัวไปข้างหลังอีกที ยกเท้าขึ้นเตะออกไปทันที เตะที่ซี่โครงของชายชราอีกคนหนึ่งหักโดยตรง เตะจนคนลอยออกไปเลย
“ผมบอกกับท่าน!”
มีสองคนจู่โจมพร้อมกันคนหนึ่งใช้หมัด อีกคนหนึ่งใช้กระบี่สั้นเล่มหนึ่ง โจมตีไป๋ยี่เฟยพร้อมกัน
“ผมไม่เคยเอาพวกท่านไว้ในสายตามาก่อนเลยจริงๆ!”
“ปั้ง!”
ไป๋ยี่เฟยแนบพิงตัวหนึ่งทีโดยตรง คนที่ใช้กระบี่สั้นคนนั้นลอยออกไปเลย
วินาทีถัดมา หมัดหนึ่งของปู่ใหญ่จู่โจมอยู่บนหลังของไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยเอียงไปข้างหน้าหนึ่งที กระอักเลือดออกมา
แต่เขาไม่สนใจ และหมุนตัวหนึ่งที หัวชนไปที่หน้าผากของปู่ใหญ่ทันที
ปู่ใหญ่ถูกชนจนซวนเซหลายก้าว เกือบจะล้มลงไป
ต่อจากนี้ไป๋ยี่เฟยหมุนตัวหนึ่งที หนึ่งหมัดจู่โจมชายชราคนหนึ่งลอยไปอีก
“รุ่นอาวุโสที่คิดว่าตัวเองถูกตลอดเหมือนดั่งพวกท่านอย่างนี้ ไม่คุ้มที่จะให้ผมมาทำความเคารพเลยสักนิด!”
ในที่สุดปู่ใหญ่ก็คืนสติกลับมา ความโกรธเกิดสะพรั่งไปทั่ว นัยน์ตามีแสงสีแดงลุกโชน ก็เลยออกหมัดเป็นชุดต่อไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยใช้กระบวนท่าของจื่ออีปัดแรงส่วนใหญ่ของเขาไป กลับยังโดนไปหนึ่งหมัด
หมัดนั้นแฝงไว้ด้วยพลังอ้านจิ้งที่ใหญ่โตมหึมา ทันใดนั้นพุ่งเข้าไปในร่างกายของเขา ทำให้เขาเจ็บปวดจนแยกเขี้ยวยิงฟัน
และปู่ใหญ่เห็นตนเองจู่โจมไป๋ยี่เฟยได้ ในใจดีใจทันที อยากจะมุมานะบากบั่นต่อไป แต่ตอนที่เขาคิดจะยกมือขึ้น กลับพบเห็นว่ามือของเขาถึงขนาดยกไม่ขึ้น
จากนั้นเขาตื่นตะลึงพอเงยหน้าจ้องมองไปยังไป๋ยี่เฟย ทันใดนั้นก็นิ่งอึ้งไปเลย
เพราะว่าไป๋ยี่เฟยที่อยู่ในเวลานี้ยามนี้ มุมปากกำลังมีเลือดแฝงอยู่ ปรากฏรอยยิ้มให้เขาหนึ่งที เขาพูดว่า “ช่วงเวลาก่อนหน้านั้นผมเพิ่งจะกระจ่าง ในสิ่งที่ได้รับจากใจบ้างเล็กน้อยของผู้แข็งแกร่งเดนเทพยุทธ์คนหนึ่ง กำลังคิดจะหาสักคนมาปฏิบัติดูแลสักหน่อย”
หมัดนี้ตกอยู่บนไหล่ของไป๋ยี่เฟย
แท้ที่จริงไป๋ยี่เฟยไม่ได้ตั้งใจหลบหมัดนี้เลย กลับมุ่งหน้าไปรับ ในเวลาเดียวกัน พลังอ้านจิ้งทั้งตัวของไป๋ยี่เฟย เจริญงอกงามออกไปจากไหล่
ก่อนหน้านี้เต้าจ่างก็สามารถเรียกใช้พลังอ้านจิ้งออกจากจุดใดๆของร่างกาย
ในตอนต้นไป๋ยี่เฟยไม่ได้เรียนรู้ใจความสำคัญจริงๆจากในนั้นเลย และหลังจากเห็นประสบการณ์ของเมิ่งหลินแล้วจึงรู้ว่า วิธีแบบนี้ใช้กันมากกับวิธีที่เข้าสู่เดนเทพยุทธ์ควบคุมพลังอ้านจิ้ง
งั้นจากนี้ได้เห็นว่า เต้าจ่างเพียงแค่อยู่ในระดับที่สองชั้นสูงเกือบจะถึงระดับหนึ่งก็สามารถกระจ่างถึงขั้นนี้ได้แล้ว พรสวรรค์ของเขาทำให้คนยอมรับนับถือจริงๆ
พลังอ้านจิ้งที่อยู่บนไหล่ของไป๋ยี่เฟยทั้งหมดล้วนจู่โจมอยู่บนกำปั้นของปู่ใหญ่เขา ปู่ใหญ่ตื่นตะลึงทันที อยากจะถอยออกกลับสายไปแล้ว
ไป๋ยี่เฟยใช้กำปั้นที่ไม่ได้ใช้พลังอ้านจิ้ง ทุบบนหน้าอกของปู่ใหญ่ไปสองทีโดยตรง
“พู่!”
ทันใดนั้นปู่ใหญ่กระอักพุ่งเลือดออกมา
เนื่องด้วยไป๋ยี่เฟยจับเท้าไว้อย่างแน่น ดังนั้นปู่ใหญ่ก็เลยไม่ได้ตีลังกาลอยออกไปเลย ยืนอยู่กับที่เหมือนเดิม
ไป๋ยี่เฟยใช้มือบีบคอของปู่ใหญ่ไว้โดยตรง สายตาเย็นชาจ้องมองปู่ใหญ่
ตอนนี้คนทั้งหลายที่อยู่ในเหตุการณ์ นอกจากปู่ใหญ่ถูกไป๋ยี่เฟยเล่นแง่อยู่ในมือ ที่เหลือล้วนล้มลงไปแล้ว
ทันใดนั้นในห้องโถงใหญ่เงียบจนเข็มตกพื้นล้วนได้ยิน แม้แต่หญิงวัยกลางคนคนนั้นก็ไม่กล้าออกเสียงร้องตะโกนอีกเลย
ปู่ใหญ่สั่นระริกทั้งตัว ตื่นตระหนกตกใจเต็มใบหน้าจ้องมองไป๋ยี่เฟย
ในที่สุดเขาก็รับรู้ถึงพลังความสามารถที่แท้จริงของไป๋ยี่เฟย อย่างชัดเจน
“แกเป็นไปได้ยังไง…..เป็นไปได้ยังไง……ถึงอย่างนี้…..”
เขายากที่จะเชื่อจริงๆเลย ไป๋ยี่เฟยถึงขนาดสามารถใช้เทคนิคแบบนี้มาควบคุมพลังอ้านจิ้ง และเทคนิคแบบนี้มีเพียงถึงเดนเทพยุทธ์จึงสามารถทำได้
แต่ตามความจริง ไป๋ยี่เฟยไม่ได้บรรลุถึงเดนเทพยุทธ์เลย เขาเพียงแค่เพราะว่าได้เห็นเต้าจ่างเรียกใช้วิธีพิเศษ ทำให้พลังอ้านจิ้งทั่วกายในเวลาเดียวกันกระจ่างถึงสิ่งที่ได้รับจากใจบ้างเล็กน้อยของเมิ่งหลินจึงจะทำได้
ดังนั้นประสิทธิผลที่เขาให้คนรู้ในตอนนี้ก็คือ เขาบรรลุถึงเดนเทพยุทธ์แล้ว เป็นผู้แข็งแกร่งที่พวกเขามุ่งหวังที่จะไล่ไม่ทัน
ไป๋ยี่เฟยเย็นชาพูดว่า “ยืนให้ดีๆเดี๋ยวนี้!”
เนื่องเพราะปู่ใหญ่คิดว่าไป๋ยี่เฟยบรรลุถึงเดนเทพยุทธ์ในเรื่องเล่าแล้ว ทำให้ตกใจแล้วจริงๆ คำพูดของไป๋ยี่เฟยในตอนนี้ ที่ไหนเขาจะไม่กล้าไม่ฟังอีกล่ะ?
ดังนั้นปู่ใหญ่สั่นระริกพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก
ไป๋ยี่เฟยจ้องมองเขาซักถามเสียงเย็นชาว่า “รู้หรือไม่ตอนที่ผู้หญิงอยู่ไฟพักฟื้นสุขภาพหนึ่งเดือน จะเหน็ดเหนื่อยไม่ได้ จับน้ำเย็นก็ไม่ได้ล่ะ?”
ปู่ใหญ่พอได้ยินคำพูดนี้ ยิ่งสั่นระริกรุนแรงไปทั้งตัวมากขึ้น
“ตอบผม!” อยู่ดีๆไป๋ยี่เฟยยกเสียงสูงขึ้น
ปู่ใหญ่ตกใจจนสั่นระริกพยักหน้าทันที ตอบกลับว่า “รู้!”
ไป๋ยี่เฟยถามด้วยเสียงโมโหอีกว่า “รู้แล้วทำไมยังให้ภรรยาของผมทำงาน ยังทำให้เธออับอายขายหน้าอีกล่ะ?”
ปู่ใหญ่ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไง ลำบากใจเต็มใบหน้า
ไป๋ยี่เฟยใช้แรงสองส่วนบีบคอของปู่ใหญ่แน่นแล้วแน่นอีก “พูด!”
ทันใดนั้นปู่ใหญ่ว้าวุ่นแล้ว รีบพูดว่า “ผมพูด ผมพูด อารองก็เพื่อพิจารณาถึงการพัฒนาขยายของตระกูลในอนาคต ดังนั้นจึง…..”
“อารอง? การพัฒนาขยายในอนาคตหรือ?” ไป๋ยี่เฟยมีความสงสัยงงงวยเล็กน้อย ร้องตะโกนพูดว่า “แม่มึงเอ่ย ท่านพูดอะไรอยู่หรือ?”
ปู่ใหญ่รีบอธิบายว่า“เป็นอารองของผม อารองของผมเป็นเจ้าบ้านตระกูลไป๋รุ่นก่อนๆ”
“อีกอย่างก็เพราะว่าแกฆ่าลูกชายของตระกูลฉุง ผูกแค้นผูกพยาบาทกับตระกูลฉุงแล้ว ถ้าหากว่าอนาคตแกจะรับช่วงตำแหน่งของเจ้าบ้านตระกูลไป๋ ไม่ดีต่อตระกูลไป๋อย่างมาก”
“ดังนั้นอารองก็อยากจะผ่านรุ่นอาวุโสของตระกูลฉุง มาส่งเสริมงานแต่งของแกกับลูกสาวตระกูลฉุงให้ลุล่วงด้วยดี หลี่เสว่เทียบกับคุณหนูของตระกูลฉุงไม่ได้เลยสักนิด ดังนั้นพวกเราจึง……จึงทำอย่างนี้ ……”
“แม่มึงเอ่ย เหลวไหล!” ไป๋ยี่เฟยยิ่งเพิ่มความโมโหมากขึ้นอีก “พวกท่านคิดว่าพวกท่านเป็นใคร มีสิทธิอะไรจัดวางให้กับผม? ตระกูลฉุงเป็นยังไงล่ะ อยู่ในสายตาผมแม้แต่ตดก็ไม่ใช่!”
“ภรรยาผมจะเป็นอย่างไร ผมพูดแล้วจึงจะใช่!”
ปู่ใหญ่สีหน้าซีดขาว สั่นระริกทั้งตัว
ไป๋ยี่เฟยจ้องมองเขาอย่างเย็นชา สูดลมหายใจลึกๆหนึ่งทีจึงสงบอารมณ์ที่รุนแรงเกินไปของตนเองลงได้เล็กน้อย ถามต่ออีกว่า “ตอนนี้ท่านบอกกับผม ในตอนต้นการตัดสินใจที่ให้พ่อแม่ผมทอดทิ้งผมเป็นใครทำหรือ?”
ปู่ใหญ่สีหน้าซีดขาวพูดว่า “นาน……นานเกินไปแล้ว จำ……จำไม่ได้แล้ว”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินคำพูดนี้อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเย็นชาเสียงหนึ่ง “จำไม่ได้แล้วหรือ?”
ตอนที่พูดอยู่นัยน์ตาเขากวาดผ่านความแค้นที่ล้นฟ้าหนึ่งที มีเพียงประสบเจอความเจ็บปวดที่โดนพ่อแม่ทอดทิ้งมาก่อน จึงมีความแค้นที่ล้นฟ้าขนาดนี้
แต่ว่าความแค้นแบบนี้เนื่องเพราะถูกควบคุมด้วยจริยธรรม เขาทำให้เกิดอยู่บนกายพ่อแม่ไม่ได้ แต่ในใจเขาถึงยังไงก็ไม่สมดุลอยู่ดี
โดยเฉพาะตอนที่เขารู้ว่ายังมีการคงอยู่ของไป๋เซี่ยวอีกคน และตอนที่ไป๋เซี่ยวอยากจะฆ่าเขา ไป๋หยุนเผิงล้วนยังเพื่อไป๋เซี่ยวขอความเห็นใจอยู่
แต่ตามความจริง แม่มึงเอ่ยล้วนเป็นเรื่องที่ พวกไอ้แก่ที่คิดว่าตัวเองถูกตลอด ตัดสินใจชะตากรรมของคนอื่นโดยพลการเหล่านี้ทำ!
ไป๋ยี่เฟยกวาดผ่านห้องโถ่งใหญ่ที่โอ่อ่าตระการตาแห่งนี้หนึ่งที หัวเราะเยาะเสียงหนึ่งพูดว่า “ช่างโออ่าหรูหราจริงๆนะ!”
และอยู่ในเวลานี้ หลี่เสว่อุ้มเด็กทารกสองคนเดินออกมาจากห้องนอน ตอนที่เพิ่งเห็นคนล้มทั่วพื้นกับปู่ใหญ่ที่ถูกไป๋ยี่เฟยบีบคอไว้ตื่นตะลึงอยู่กับที่
ไป๋ยี่เฟยเห็นหลี่เสว่ออกมาในที่สุดก็ปล่อยปู่ใหญ่ออกแล้ว ก้นปู่ใหญ่นั่งลงกับพื้นโดยตรง สั่นริกๆ กลับไม่กล้ามองไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยมาถึงข้างหน้าหลี่เสว่ รับเด็กคนใดคนหนึ่งในนั้นมา พูดเสียงเบาๆว่า “ภรรยาจ๋า พวกเราไปเถอะ”
หลี่เสว่พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก เดินตามไป๋ยี่เฟยออกจากบ้านเก่าตระกูลไป๋
แต่ตอนที่พวกเขาเดินออกจากประตูใหญ่ของคฤหาสน์ อยู่ดีๆไป๋ยี่เฟยหยุดอีกแล้ว
“เป็นยังไงหรือ?” หลี่เสว่ก็หยุดตามไปด้วย