ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 981
หลังจากที่ชายคนนั้นมองเห็นไป๋ยี่เฟย ก็ส่งเสียงออกมาด้วยความสงสัยว่า “หืม?”
แต่ไป๋ยี่เฟยไม่ได้สนใจอีกฝ่าย ตอนที่กำลังประมือกันเมื่อสักครู่ เขาก็รู้แล้วว่าฝีมือของตนเองด้อยกว่าฝ่ายตรงข้าม จึงไม่อยากตอแยมากเกินไปนัก
ด้วยเหตุนี้ไป๋ยี่เฟยจึงฉวยโอกาสขว้างแผ่นเหล็กที่อยู่บนตัวออกไป จากนั้นก็หมุนตัวไปโอบเอวหลี่เสว่ไว้ กระโดดไม่กี่ก้าวก็ออกไปจากตรอกเล็กๆ นี้
ชายคนนั้นก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าไป๋ยี่เฟยพอมาถึงก็หนีไปดื้อๆ เช่นนี้ ตอนที่เขาได้สติขึ้นมา ก็หนีไปไม่เห็นเงาแล้ว
……
ไป๋ยี่เฟยพาหลี่เสว่มาถึงถนนก็โบกรถแท็กซี่คันหนึ่งทันที ตรงไปยังเขตคฤหาสน์หลันโปกั่ง
หลังขึ้นรถไป๋ยี่เฟยก็กุมมือหลี่เสว่แน่น ถามอย่างกังวลใจว่า “คุณเป็นยังไงบ้าง? ได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า?”
“เปล่าค่ะ” หลี่เสว่ส่ายศีรษะ แต่เธอยังคงได้รับความตกใจอยู่ สีหน้าจึงไม่เป็นธรรมชาติอยู่บ้าง
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”
หลังสภาพจิตใจหลี่เสว่ค่อยๆ กลับมาเล็กน้อยก็ถามว่า “เขาเป็นใครกันคะ?”
“ดูจากรูปกายภายนอกน่าจะเป็นคนหนานเหมิน” ไป๋ยี่เฟยน้ำเสียงต่ำลึกเล็กน้อย
หลี่เสว่เอ่ยขึ้นอย่างกังวลใจอยู่บ้าง “คนของสำนักหนานเหมินทำไมมาอยู่ที่เมืองเทียนเป่ยได้?”
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ไป๋หยุนเผิงบอกแล้วว่า ก่อนหน้านี้ก็เพราะเรื่องของธุรกิจ จึงมีคนซื้อตัวยอดฝีมือของสำนักหนานเหมือนมาลอบสังหารไป๋หยุนเผิง ดังนั้นที่คนของสำนักหนานเหมินมาที่เมืองเทียนเป่ย เขาจึงไม่รู้สึกเกินความคาดหมายแต่อย่างใด
เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าคนเหล่านี้มาเมืองเทียนเป่ยคิดจะทำอะไร?
ยิ่งไปกว่านั้นที่แปลกใจมากคือ คนคนนั้นจะต้องตามหลี่เสว่ออกมาอย่างแน่นอน อีกทั้งหากเขาสะกดรอยตามล่ะก็ จะต้องเริ่มสะกดรอยจากหลันโปกั่ง
แล้วทำไมเขาถึงไม่ไปหาหลี่เสว่ที่หลันโปกั่งโดยตรง แต่มาขวางเธอไว้ที่ข้างนอกแทนล่ะ?
ดังนั้นไป๋ยี่เฟยจึงคาดเดาว่าคนผู้นั้นคงจะไม่กล้าเข้าไปที่หลันโปกั่ง และเพราะเหตุนี้นี่เอง เขาถึงให้รถแท็กซี่ขับมาที่หลันโปกั่ง
ไป๋ยี่เฟยถามอย่างกังวลใจอีกว่า “ลูกใครดูอยู่?”
“พี่เลี้ยงที่หวังโหลวหามากำลังดูอยู่” หลี่เสว่ตอบ
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า วางใจลง
หลังกลับมาถึงเขตคฤหาสน์ ไป๋ยี่เฟยก็พูดว่า “คุณไปดูลูกก่อนเถอะ ผมจะไปจัดการธุระหน่อย”
“ค่ะ” หลี่เสว่พยักหน้า
หลี่เสว่ไปดูลูกแล้ว ไป๋ยี่เฟยจึงไปที่ห้องของหยุนอิง
หลังเขามาหยุดตรงหน้าประตู ก็ยกมือขึ้นทุบประตูอย่างรุนแรง “ออกมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
ไป๋ยี่เฟยทุบอยู่นานก็ไม่เห็นว่าด้านในจะมีการเคลื่อนไหว กำลังคิดจะใช้เท้าข้างหนึ่งถีบประตูให้เปิดออก กลับไปยินเสียงตะโกนของหยุนอิงดังออกมา “ทำอะไรวะ? เคาะเรียกผีหรือไง?”
“ออกมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!” ไป๋ยี่เฟยตะโกนออกมาอีกครั้ง
ผ่านไปไม่นานนัก หยุนอิงก็เปิดประตูออกมา เสยผมที่ยุ่งเหยิงทีหนึ่ง เขายังสวมชุดนอน ท่าทางเหมือนถูกปลุกให้ตื่น ก่อนจะถามว่า “ไม่รู้หรือไงว่าฉันกำลังหลับอยู่?”
“ใครจะไปรู้ว่าเธอกำลังหลับอยู่?” ไป๋ยี่เฟยโมโหไม่น้อย “เธอดูดีๆ ตอนนี้มันเวลาอะไรแล้วยังจะนอนอยู่อีก?”
หยุนอิงเองก็ไม่สนใจเรื่องเหล่านี้เช่นกันพร้อมกับยืนพิงช่องประตู “นายโกรธแต่เช้าตรู่ขนาดนี้ ทำไม? กินระเบิดมาเหรอ?”
ไป๋ยี่เฟยแค่นเสียงเบา กล่าวขึ้นว่า “เธอยังสนใจจะถาม เธอบอกว่าช่วงนี้จะปกป้องลูกเมียฉัน ผลล่ะ?”
“ผลเป็นยังไงเหรอ?” หยุนอิงเอียงศีรษะอย่างสงสัย “นี่ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไง?”
หยุนอิงราวกับเข้าใจอะไรบางอย่าง จึงเอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจว่า “เมียนายคงไม่ได้เกิดเรื่องขึ้นหรอกนะ?”
พูดถึงตรงนี้ไป๋ยี่เฟยก็ยิ่งโกรธมากขึ้น “เมื่อกี้ถ้าไม่ใช่เพราะฉันมาทันเวลา เธอก็เกือบจะถูกคนฆ่าตายแล้ว เธอรู้ไหม? มิหนำซ้ำอีกฝ่ายยังเป็นยอดฝีมือของหนานเหมินด้วย!”
หยุนอิงได้ยินเช่นนี้ สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไปทันที “เป็นไปไม่ได้!”
“ฉันเห็นกับตา มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้?” ไป๋ยี่เฟยกล่าวเยาะหยัน
หยุนอิงพลันเลิกคิ้วขึ้นทันที เธอยกมือจับเส้นผมของตัวเองพลางกล่าวว่า “แต่ตอนนี้ คงไม่มีทางส่งคนมาจัดการนายในบ้านหรอกนะ!”
ไป๋ยี่เฟยเห็นเธอเป็นเช่นนี้ก็อดถามไม่ได้ว่า “เธอไม่รู้?”
หยุนอิงไม่ได้ตอบเขา แต่ถามว่า “นายจะเข้ามารอข้างใน? หรือรอข้างนอก?”
“อะไรนะ?” ไป๋ยี่เฟยไม่เข้าใจความหมายของเธอ
หยุนอิงหัวเราะฮึๆ ก่อนจะพูดว่า “ฉันจะอาบน้ำแล้วนะ อยากอาบด้วยกันไหม?”
“จะบ้าเรอะ!” ไป๋ยี่เฟยถูกความไร้ยางอายของหยุนอิงทำให้ตกใจ จากนั้นก็ยื่นมือไปปิดประตู
ไป๋ยี่เฟยยืนพิงกำแพงอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ประตูก็เปิดออกอีกครั้ง
ไป๋ยี่เฟยหันหน้าไปมอง พลันตกใจทันที คนที่ออกมาจากข้างในถึงกับเป็นหลี่เสว่
จากนั้นเขาก็ตั้งสติได้ เป็นการปลอมตัวของหยุนอิง เหมือนกับตอนที่เธอพบไป๋ยี่เฟยครั้งแรก ที่ปลอมเป็นหลิวเสี่ยวอิงได้อย่างง่ายดาย
ไป๋ยี่เฟยมองสำรวจเธอขึ้นลง ก่อนจะถามว่า “เธอทำอะไร?”
“แน่นอนก็ต้องล่องูออกจากถ้ำน่ะสิ!” หยุนอิงพูดอย่างลำพองใจเป็นอย่างมาก แถมยังตั้งใจทำท่ายักย้ายส่ายสะโพกโดยเฉพาะ
หลี่เสว่จริงๆ แต่ท่าทางไม่เหมือน
พอไป๋ยี่เฟยเห็นภาพนี้ หัวใจก็บีบรัดแน่นพร้อมกับทำหน้าขรึมทันที “อย่าเป็นคนน่าเกลียดแบบนี้ ไปเปลี่ยนซะ!”
หยุนอิงเห็นเช่นนี้ก็ยิ่งคึกคัก กะพริบตาใส่ไป๋ยี่เฟยแล้วพูดว่า “คนคนนั้นอยากฆ่าเมียนายไม่ใช่เหรอ? ฉันไม่ปลอมเป็นเธอ แล้วจะให้ปลอมเป็นใครล่ะ?”
ไป๋ยี่เฟยพูดไม่ออกทันที
หยุนอิงเชิดหน้าออกมาจากประตูด้วยความลำพองใจ โดยที่ก่อนหน้านี้ยังพูดกับไป๋ยี่เฟยว่า “คืนนี้อย่าลืมเดินทางไปเมืองหลวงล่ะ”
“ฉันรู้แล้ว”
……
หลังหยุนอิงเดินจากไปแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็ติดต่อจางหัวปินทันที “พี่จาง ช่วยดึงภาพกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้ๆ หลันโปกั่งของวันนี้มาให้ผมดูหน่อย”
“ได้”
จางหัวปินทำได้รวดเร็วมาก ผ่านไปไม่นานก็บอกไป๋ยี่เฟยว่าดึงออกมาแล้ว
จากนั้นไป๋ยี่เฟยก็รุดมายังห้องใต้ดิน เปิดห้องห้องหนึ่งในนั้นแล้วเดินเข้าไป
ในห้องเป็นจอขนาดใหญ่สองสามเครื่อง ในจอฉายภาพกล้องวงจรปิดที่อยู่ในละแวกหลันโปกั่ง ที่ใต้จอเป็นโต๊ะตัวหนึ่งกับเก้าอี้สองสามตัว
ไป๋ยี่เฟยนั่งอยู่บนเก้าอี้ จ้องคนที่อยู่ในจอเขม็ง คนนั้นก็คือหยุนอิงที่ปลอมเป็นหลี่เสว่
อันที่จริงเมื่อกี้เขาจงใจ เขาอยากดูว่าหยุนอิงคิดจะทำอะไรอย่างลับๆ ใช่หรือไม่? และคนหนานเหมินคนนั้นสุดท้ายแล้วจะตามเธอไปด้วยกันหรือเป่า?
หยุนอิงใช้ใบหน้าของหลี่เสว่ เดินไปเดินมาบนถนนใกล้ๆ
ไป๋ยี่เฟยสังเกตอยู่สักพัก ก็พบว่าทุกครั้งตอนที่หลี่เสว่เดินผ่านร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ก็จะมองด้านในแวบหนึ่ง
ด้วยเหตุนี้ไป๋ยี่เฟยจึงโทรหาจางหัวปินทันที “พี่จาง สืบที่มาของร้านกาแฟหยานหยู่ให้หน่อย รวมถึงมีร้านสาขาอื่นๆ หรือไม่”
“ได้”
ไป๋ยี่เฟยวางสาย มองไปที่ภาพวิดีโออีกครั้งด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เพราะว่าเขาเห็นชายแปลกหน้าเมื่อสักครู่คนนั้น
เขายื่นมือไปขวางหยุนอิงไว้ เหมือนกับกำลังพูดอะไรบางอย่าง หยุนอิงก็เงยหน้าด้วยความระแวดระวังเต็มใบหน้า คงกำลังแกล้งถามถึงตัวตนของเขา
ไป๋ยี่เฟยเห็นเช่นนี้ ก็อดสงสัยขึ้นมาไม่ได้ แสดงว่าเธอไม่รู้จักคนคนนี้จริงๆ?
ทว่าต่อมาก็เกิดเหตุการณ์หนึ่งขึ้น ทำให้ไป๋ยี่เฟยคาดไม่ถึงอยู่บ้าง
ไม่รู้ว่าพูดอะไร ชายคนนั้นส่ายหน้าให้หยุนอิง จากนั้นก็หมุนตัวต้องการเดินจากไป
แต่หยุนอิงกลับไม่ยอมให้เขาก้าวเดินไปข้างหน้าแม้แต่สองก้าว คิดจะขวางเขาไว้ ผลคือชายคนนั้นถึงกลับสาวเท้าออกวิ่ง
หยุนอิงก็เริ่มตามขึ้นไป
คนสองคนหนึ่งหนีหนึ่งตาม กลายเป็นวิ่งออกไปจากทัศนวิสัยของกล้องวงจรปิดอย่างรวดเร็ว ไป๋ยี่เฟยจึงย้ายไปที่กล้องวงจรปิดอีกตัวหนึ่งถึงได้เห็นสองคนนั้น
สุดท้ายพวกเขาก็วิ่งมาหยุดตรงเขตโครงการช่วงที่สามของหลันโปกั่ง ตรงนั้นกำลังก่อสร้าง และถึงกับมีตรงส่วนที่ยังไม่ได้ก่อสร้างด้วยซ้ำ
พวกเขากำลังต่อสู้กันในมุมลับตาคน
ไป๋ยี่เฟยมองสองคนนั้นประมือกันในจอ ในใจตื่นตระหนกอย่างยิ่ง
คนสองคนประมือกันเห็นได้ชัดว่าไม่มีใครเป็นรองใคร
หยุนอิงเป็นยอดฝีมือที่ใกล้จะก้าวเข้าสู่แดนเทพยุทธ์แล้ว เช่นนี้เห็นทีชายคนนั้นก็คงจะอยู่ในแดนเดียวกัน
เพราะทั้งสองคนฝีมือสูสีกัน ดังนั้นหลังจากที่ประมือกันไประยะหนึ่ง ก็แยกออกจากกันอีกครั้ง
ต่อมาไม่รู้ชายคนนั้นพูดอะไร ก็หยิบมือถือออกมาส่งให้หยุนอิงดู