ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 984
ขณะที่เขามองเห็นฉากนี้ พริบตาก็เข้าใจขึ้นมาทันที
ตอนอยู่ที่โรงแรมจินหาว พวกเขาต่างนึกว่าฉุงเฉ่าเจว๋กับพวกเต้าจ่างเป็นพวกเดียวกัน โดยเฉพาะหลังจากที่พวกเต้าจ่างหนีไป ฉุงเฉ่าเจว๋ก็หายตัวไปเช่นกัน
ทุกคนต่างคิดว่าฉุงเฉ่าเจว๋แอบหนีไปแล้ว แม้แต่ไป๋ยี่เฟยก็คิดเช่นนี้
แต่ตอนที่พวกไป๋ยี่เฟยกำลังจะจากไป เขาก็เห็นตระกูลฉุงชดใช้ค่าเสียหายให้ปอร์เช่คันนั้นของไป๋หยุนเผิง โดยตอนนั้นรถที่จอดอยู่ข้างปอร์เช่คือเบนท์ลีย์คันหนึ่ง
ก่อนหน้านี้เพราะเคยสืบความสัมพันธ์ของฉุงโยวเวย ไป๋ยี่เฟยจึงรู้ว่าเบนท์ลีย์คันนั้นเป็นของฉุงเฉ่าเจว๋
ในตอนนั้นเขาก็รู้สึกแล้วว่าผิดปกติ เพราะหากเขาต้องการหนีไปล่ะก็ ทำไมถึงไม่ขับรถหนีไป? ขับรถหนีย่อมจะเร็วกว่าคนที่ใช่เท้าวิ่งอย่างเห็นได้ชัด
แต่ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยมองเห็นในบรรดาสามคนนั้นที่กินดื่มกันอยู่ มีคนหนึ่งก็คือคนที่ภายหลังมาพูดสองสามประโยคกับฉุงเจว๋ในวันนั้น
ตอนนั้นไป๋ยี่เฟยสะกดรอยตามเขาขึ้นไปบนดาดฟ้า แต่ภายหลังคนคนนี้ก็หายตัวไป เขายังคิดว่าเป็นลูกน้องของฉุงเฉ่าเจว๋ แต่ตอนนี้เห็นทีจะไม่ใช่เสียแล้ว
คนคนนี้คือคนของฉุงเฉ่าซิน
ดังนั้นในตอนนั้นเขาถูกคนจงใจล่อขึ้นไปบนดาดฟ้า?
ทุกคนต่างจดจ่อสายตาไปที่การต่อสู้อันดุเดือดที่อยู่บนดาดฟ้า แล้วในช่วงเวลานี้ฉุงเฉ่าเจว๋ก็ได้ถูกคนลอบจับตัวไป?
อย่างนั้นหากเป็นเช่นนี้จริงๆ ล่ะก็ แท้จริงที่มีปัญหาก็ไม่ใช่ฉุงเฉ่าเจว๋ แต่เป็นฉุงเฉ่าซิน
ดังนั้นในเวลานี้ ไป๋ยี่เฟยจึงตัดสินใจช่วยคนทันที
ไม่ใช่เพราะฉุงเฉ่าเจว๋ แต่เป็นเพราะฉุงลี่หย่า
แม้ระหว่างพวกเขาจะยังมีความแค้นที่ยังไม่ได้สะสาง แต่ฉุงลี่หย่าอย่างไรก็เป็นคนที่ฉางเชี่ยวชอบ แล้วฉางเชี่ยวก็เป็นพี่น้องของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่อาจปล่อยไปโดยไม่สนใจไยดีได้
คนสามคนดื่มเหล้าไปสนทนาไป
“พี่เฉียง คุณชายบอกว่าจะจัดการพวกเขายังไง?” หนึ่งคนในนั้นถาม
และคนคนนั้นที่ถูกเรียกว่าพี่เฉียง ก็คือคนที่มารายงานฉุงโยวหมิงที่ห้องรับแขกเมื่อกี้
เขาดื่มเหล้าหนึ่งอึก แล้วพูดยิ้มๆ ว่า “คุณชายบอกแล้ว ฉุงเฉ่าเจว๋เป็นน้องชายแท้ๆ ของท่านรอง จะฆ่าเขาแน่นอนว่าไม่ได้ ดังนั้นจึงขังไว้ก่อน”
“คุณชายช่างกตัญญูจริงๆ เลย!”
“ใช่ไหมล่ะ แม้จะถูกฉีกหน้า แต่ยังคงแคร์ความรู้สึกของท่านรอง ดังนั้นคุณชายของเราจึงกตัญญูอย่างยิ่ง ฉันว่าหากเปลี่ยนเป็นฉุงโยวเวย คงไม่มีทางสนใจมากขนาดนั้น”
“นั่นสิ แต่ว่า แล้วคุณชายได้บอกไหมว่าจะจัดการคุณหนูใหญ่ยังไง?”
พี่เฉียงกินกับแกล้มหนึ่งคำ หลังจากเรอออกมาหนึ่งที ก็เผยรอยยิ้มอันน่าเกลียดออกมา “คุณหนูใหญ่นี่เป็นคนดื้อรั้นมาก แม้คุณหนูใหญ่ตระกูลเราจะไม่ได้ยอดเยี่ยม แต่อย่างไรก็เป็นคนสวยคนหนึ่ง”
“ใช่แล้ว!”
“ฉันยังจำได้ว่าเมื่อก่อนเราสามคนต่างเคยถูกเธอลงโทษสินะ?”
“ใช่ ฉันจำได้ว่าตอนนั้นเธอด่าฉัน แถมยังตบหน้าฉันด้วย”
พี่เฉียงพูดยิ้มๆ อย่างสื่อความหมายลึกซึ้ง “เมื่อกี้ฉันลองถามคุณชายดูแล้ว คุณชายบอกว่าพวกเราจัดการได้ตามใจชอบ”
พอได้ยินเช่นนี้อีกสองคนที่เหลือก็เผยรอยยิ้มน่าเกลียดออกมาทันที
“นั่นช่างอำนวยความสะดวกให้เราจริงๆ!”
“นั่นน่ะสิ คิดดูแล้วเธอก็คือคุณหนูใหญ่ของสี่ตระกูลใหญ่ ในเมื่อมีวันที่จะได้อยู่ใต้ร่างของเรา……ฮึๆ!”
ทางหนึ่งพูดจบ ชายหนึ่งในนั้นก็ยืนขึ้นเดินไปทางฉุงลี่หย่า
เขาเดินไปหยุดตรงหน้าฉุงลี่หย่า ย่อตัวลง ยกฝ่ามือขึ้นมาข้างหนึ่ง
“เพี๊ยะ!”
เกิดเสียงดังก้องขึ้นในห้อง จากนั้นก็เป็นเสียงด่าของชายคนนั้น “วันนี้กูจะเอาฝ่ามือนี้คืนให้มึงอีกหลายเท่า!”
พูดจบก็ฟาดฝ่ามือลงมาอีกครั้ง
พี่เฉียงคนนั้นเห็นเช่นนี้ ก็อดพูดยิ้มๆ ขึ้นมาไม่ได้ว่า “ได้แค่นี้รึ?”
จากนั้นคนทั้งสามก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมาพร้อมกัน
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า……”
ฉุงเฉ่าเจว๋กับฉุงลี่หย่าต่างถูกมัด อีกทั้งยังใช้เทปกาวปิดปากไว้
ฉุงเฉ่าเจว๋เห็นลูกสาวตนถูกตบ ก็โกรธเป็นอย่างมาก เขาเบิกตากว้าง พลางดิ้นไม่หยุด น่าเสียดายที่ปากถูกปิดไว้ จึงได้แต่ส่งเสียงอู้อี้ออกมา
ฉุงลี่หย่าตอนนี้หวาดกลัวมาก ในดวงตาเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ในปากเองก็ได้แต่ส่งเสียงอู้อี้ออกมาเช่นเดียวกัน
แต่ไม่ว่าอย่างไร พวกเขาสองคนต่างก็ถูกมัดไว้ไร้หนทางโดยสิ้นเชิง
คนทั้งสามต่างยืนอยู่ตรงหน้าฉุงลี่หย่า หัวเราะเสียงดังอย่างลำพองใจ
“คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าคุณหนูใหญ่แห่งสี่ตระกูลใหญ่อันผ่าเผย จะถึงกับตกอยู่ในมือของพวกเรา!”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า……เรื่องนี้พูดออกไปคงมากพอให้พวกเราคุยโวไปได้ตลอดชีวิต!”
“ไม่ใช่หรือไง?”
ทางหนึ่งพูดจบ ทางหนึ่งก็มองสำรวจฉุงลี่หย่า
ฉุงลี่หย่ามองเห็นความใคร่ของพวกเขาจากในดวงตาของพวกเขาทั้งสามคน จึงอดรู้สึกเสียใจขึ้นมาไม่ได้
ฉุงเฉ่าเจว๋ย่อมจะเดาออกว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นเขาจึงถลึงตาใส่คนทั้งสามด้วยความเดือดดาล
แต่แล้วอย่างไรล่ะ?
พวกเขาต่างก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ปล่อยให้คนข่มเหง
ชายคนนั้นที่ชื่อพี่เฉียงย่อตัวลง เอื้อมมือมาบีบคางฉุงลี่หย่าไว้
น้ำตาแห่งความสิ้นหวังของฉุงลี่หย่าไหลรินลงมา พร้อมกับที่ปากก็ส่งเสียงอู้อี้ออกมา
แต่ในเวลานี้เอง จู่ๆ ก็มีเงาร่างสายหนึ่งวาบผ่าน
จากนั้นชายสองคนที่อยู่ด้านหลังพี่เฉียงก็สิ้นใจทันที
หลังพี่เฉียงได้ยินความเคลื่อนไหวก็ยืดตัวขึ้นทันที เขามองเห็นไม่ชัดว่าเป็นใคร เห็นเพียงเพื่อนตนเองล้มลงกับพื้น เขาตกใจจนสีหน้าซีดเผือด จากนั้นก็คุกเข่าลงกับพื้นทันที “พี่ชายไว้ชีวิตด้วย พี่ชายไว้ชีวิตด้วย!”
ไป๋ยี่เฟยมองเขาแวบหนึ่ง จากนั้นก็มองฉุงเฉ่าเจว๋แวบหนึ่ง คิดว่าอย่างไรก็มีเขาอยู่ อยากถามอะไรก็สามารถถามฉุงเฉ่าเจว๋โดยตรงได้ ดังนั้นเขาจึงฆ่าพี่เฉียงด้วยความว่องไว
ฉุงเฉ่าเจว๋กับฉุงลี่หย่าต่างชะงักไป
จวบจนคนทั้งสามล้มลงกับพื้นทั้งหมดจึงได้สติขึ้นมา พวกเขาตื่นเต้นขึ้นมาทันทีว่าพวกเขารอดแล้ว
เพราะไป๋ยี่เฟยแปลงโฉมอยู่ ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงไม่รู้ว่าคนตรงหน้านี้ก็คือไป๋ยี่เฟย
พวกเขารู้แค่ว่าพวกเขารอดแล้ว
ไป๋ยี่เฟยเอื้อมมือไปหยิบมีดที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาแล้วเดินเข้ามาหา
เวลานี้ฉุงเฉ่าเจว๋กับฉุงลี่หย่าจู่ๆ ก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมากะทันหัน ไม่แน่ใจนักว่าคนคนนี้มาช่วยพวกเขาหรือมาฆ่าพวกเขากันแน่
แต่อันที่จริงพวกเขาคิดมากไปเอง ไป๋ยี่เฟยเดินเข้ามา กล่าวเตือนเสียงค่อยว่า “อยากมีชีวิตออกไป ก็จงทำตัวดีๆ ให้ฉัน!”
ฉุงเฉ่าเจว๋กับฉุงลี่หย่าพยักหน้าด้วยความดีใจทันที
ไป๋ยี่เฟยตัดเชือก จากนั้นก็ฉีกเทปกาวที่ปิดปากพวกเขาออก
หลังฉุงเฉ่าเจว๋ยืนขึ้นแล้วก็พูดอย่างเต็มไปด้วยความซาบซึ้งว่า “ขอบคุณน้องชายมากที่ช่วยเหลือ”
ตอนนี้หน้าตาไป๋ยี่เฟยดูไปแล้วก็เหมือนกับคนที่ทำงานก่อสร้างอยู่ตลอดทั้งปีคนหนึ่ง เพราะว่าผิวกายเขาคล้ำกว่าเมื่อก่อนเล็กน้อย
แต่เขาพูดภาษาทั่วไปได้อย่างคล่องแคล่ว ดังนั้นฉุงเฉ่าเจว๋จึงไม่เห็นเขาเป็นคนหนานเหมิน
“ไม่ทราบว่าน้องชายแซ่อะไร หลังฉันรอดไปได้ จะต้องตอบแทนอย่างงาม!”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินเช่นนี้กลับพูดเยาะหยันว่า “ตอบแทนอย่างงามคงไม่จำเป็น หากนายทำให้ฉันพ้นจากปัญหาได้ก็ไม่เลวแล้ว!”
“นี่……” ฉุงเฉ่าเจว๋ชะงักเล็กน้อย พูดอย่างไม่เข้าใจว่า “ผู้มีพระคุณ เล่นมุกอะไร คุณคือคนที่ช่วยชีวิตพวกเราไว้ ผมฉุงเฉ่าเจว๋ไม่ใช่คนตอบแทนคุณด้วยความแค้นเช่นนั้น”
ไป๋ยี่เฟยมองเขาแล้วกล่าวเสียงเรียบว่า “ตอบแทนคุณด้วยความแค้นหรือไม่ฉันไม่รู้ แต่จิตใจคับแคบเป็นเรื่องจริง”
“หา?” ฉุงเฉ่าเจว๋เหมือนจะสงสัยมากกว่าเดิม
เวลานี้ไป๋ยี่เฟยไม่ว่างมาคุยไร้สาระกับเขาจึงกล่าวว่า “พอนายออกไปก็หาสถานที่ซ่อนตัวก่อน ตอนนี้นายไม่ใช่ท่านสามของตระกูลฉุงแล้ว อีกทั้งพวกนายสามคนครอบครัวก็ถูกประกาศจับแล้ว”
พอได้ยินเช่นนี้ สีหน้าฉุงเฉ่าเจว๋ก็ขรึมลง เผยสีหน้าท่าทางเดือดดาลออกมา
เวลานี้เอง จู่ๆ ฉุงลี่หย่าก็ถามขึ้นว่า “ในเมื่อครอบครัวเราตกต่ำแล้ว อย่างนั้นเพราะอะไรคุณถึงช่วยพวกเรา?”
ไป๋ยี่เฟยยืนกรานตอบเสียงราบเรียบว่า “เพราะฉันเป็นเพื่อนของฉางเชี่ยว”
“พี่ฉางเชี่ยวกลับมาแล้ว?” ฉุงลี่หย่าได้ยินเช่นนี้ก็ตื่นเต้นอย่างมาก
ฉุงเฉ่าเจว๋มองฉุงลี่หย่าที่ตื่นเต้นแวบหนึ่ง จึงส่ายหน้าและถอนหายใจอย่างจนปัญญา
แม้ไป๋ยี่เฟยจะมีคำพูดมากมายอยากจะถามฉุงเฉ่าเจว๋ แต่ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่ดีนัก