ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - บทที่ 1064 ช่องว่าง
ชายวัยกลางคนพูดอย่างมั่นใจว่า“ฉันสืบเรื่องนายมาแล้ว นายมีความสามารถระดับหนึ่งชั้นกลาง ฉันก็เหมือนกัน แต่นายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน!”
ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยไม่สามารถฟังคำพูดของใครหน้าไหนได้เลย อย่างไรก็ตามพวกเขามีความสามารถเท่ากัน เขาจึงพุ่งตัวตรงเข้าไปทันที
ในตอนที่ทั้งสองกำลังจะเข้าปะทะกัน จู่ๆไป๋ยี่เฟยก็ล้วงมัดสั้นในอกออกมาหนึ่งเล่ม ซึ่งคือมีดสั้นที่ทำมาจากแผ่นเหล็กชิ้นเล็กๆ
ไป๋ยี่เฟยตะโกนด้วยความโกรธ“คนที่ขวางฉันมันต้องตาย!”
ชายวัยกลางคนที่เห็นแบบนั้น ทำเพียงแค่หัวเราะอย่างเย้ยหยัน หลังจากนั้นก็เข้ารับมีดสั้นของไป๋ยี่เฟยด้วยมือเปล่า
แต่ในตอนที่เขารับมันไว้นั้นเขารู้สึกเสียใจมากๆ
“ปึ้ง!”
“ปึ้ง!”
“……”
เสียงระเบิดดังติดต่อกันหลายครั้ง ทำให้ชายวัยกลางคนสีหน้าเปลี่ยนไป
พลังอ้านจิ้งจำนวนมหาศาลพุ่งเข้าหาเขาเป็นระลอก หลังจากนั้นก็เข้าสู่ร่างกายของเขา
ชายวัยกลางคนเบิกตากว้างด้วยความหวาดกลัว และร่างกายของเขากลับไม่สามารถขยับเขยื้อนยืนนิ่งอยู่กับที่
ไป๋ยี่เฟยไม่สนใจชายวัยกลางคนด้วยซ้ำ เขาก้าวข้ามชายวัยกลางคนผู้นี้ไป เดินไปยังหวังเจียจุ้นที่อยู่ด้านหลังของเขา
พอเห็นฉากนี้ ทุกคนต่างพากันตกตะลึง
ชายวัยกลางคนเป็นถึงยอดฝีมือระดับหนึ่งชั้นกลาง
“ก๊องแก๊ง!”
แผ่นเหล็กที่อยู่ในมือของไป๋ยี่เฟยแหลกสลายเป็นเศษ ตกลงสู่พื้นทันที
และชายวัยกลางคนผู้ก็ล้มตึงกับพื้น
ใบหน้าของชายวัยกลางคนดูแล้วไม่มีอะไร แต่ความเป็นจริงเขาถูกพลังอ้านจิ้งของไป๋ยี่เฟยตัดหลอดเลือดหัวใจขาดแล้ว
หวังเจียจุ้นที่เห็นแบบนั้น จึงหันกลับจะวิ่งหนี“พ่อครับ ช่วยผมด้วย!ช่วยผมด้วย!”
ในที่สุดหวังสือชิ่งก็เปิดประตู แล้วลงจากรถ
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้สนใจเขาแม้แต่น้อย แต่เดินมาถึงข้างหน้าของหลงหลิงหลิง
หลงหลิงหลิงล้มลงกับพื้น ใบหน้าอันเกลี้ยงเกลามีฝ่ามือสองข้างประทับอยู่บนนั้น หน้าของเธอบวมขึ้น มุมปากมีเลือดไหลออกมา บนตัวยังมีรอยเท้าหลายรอย
พอเห็นหลงหลิงหลิงเป็นแบบนั้น ไป๋ยี่เฟยรู้สึกปวดใจมาก
เขานั่งลงแล้วพยุงหลงหลิงหลิงขึ้นมา หลังจากนั้นก็ค่อยๆอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด“อย่ากลัวนะ ผมมาแล้ว”
หลงหลิงหลิงลืมตาขึ้นมองเห็นไป๋ยี่เฟย หลังจากนั้นก็ยื่นมือไปปิดหน้าของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว แล้วพูดน้ำเสียงสะอึกสะอื้น“ฉัน……ตอนนี้น่าเกลียดมากเลยใช่ไหม?”
“ไม่น่าเกลียดหรอกครับ ยังสวยอยู่เลย”ไป๋ยี่เฟยพูด
อีกด้านหนึ่ง หวังเจียจุ้นตะโกนไปที่หวังสือชิ่งว่า“พ่อ ขะ เขาเป็นคนฆ่าลุงหลิว!”
หวังเจียจุ้นไม่จำเป็นต้องพูดด้วยซ้ำ หวังสือชิ่งรู้ได้ในทันที ว่าไป๋ยี่เฟยเป็นคนฆ่าชายวัยกลางคนเมื่อสักครู่
ที่หวังเจียจุ้นตะโกนแบบนั้น เพราะเขาเห็นไป๋ยี่เฟยอุ้มหลงหลิงหลิงไว้ จึงรู้สึกไม่สบอารมณ์เท่านั้น
เนื่องจากวันนี้เป็นวันแต่งงานของเขากับหลงหลิงหลิง ผู้หญิงของเขาถูกผู้ชายคนอื่นอุ้มไว้ในอ้อมกอด ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ทั้งนั้นแหละ
แต่ความสามารถของไป๋ยี่เฟยปรากฏอยู่เบื้องหน้า เขาไม่กล้าไปดึงพวกเขาออกมาจากกัน จึงต้องขอร้องขอความช่วยเหลือจากพ่อของเขา
ใบหน้าของหวังสือชิ่งเคร่งขรึมลง แล้วพูดกับไป๋ยี่เฟยว่า“ถ้าไม่อยากให้หล่อนตาย ก็ปล่อยหล่อนไปซะ!”
หลงหลิงหลิงยังคงมีความลับและความสำคัญต่อตระกูลหวัง ดังนั้นหวังสือชิ่งจึงบอกให้ไป๋ยี่เฟยปล่อยหลงหลิงหลิง เพื่อไม่ให้หลงหลิงหลิงถูกฆ่าโดยไม่ตั้งใจในภายหลัง
แต่แล้วไป๋ยี่เฟยยังคงอุ้มหลงหลิงหลิงไว้ เขาถามขึ้นมาว่า“ใครเป็นคนทำร้ายเสี่ยวอิง?”
ลงหลิงหลิงพูดเสียงเบา“เจ้าบ้านหวัง”
ไป๋ยี่เหยมองไปทางหวังสือชิ่งในทันที ด้วยสายตาเย็นชา
หลังจากนั้นไป๋ยี่เฟยก็พูดกับหลงหลิงหลิงว่า“คุณรอผมอยู่นี่นะ เดี๋ยวผมกลับมา”
พูดจบ เขาก็วางหลงหลิงหลิงไว้ตรงรั้วกั้นถนน ให้เธอค่อยๆพิงกับรั้วกั้นถนน
หลังจากนั้นเขาก็หันหลังกลับจะเดินไป แต่หลงหลิงหลิงจับชายเสื้อของเขาไว้แน่น
ถึงหลงหลิงหลิงจะไม่เข้าใจว่าเขตแดนอะไร แต่ปฏิกิริยาของผู้คนที่อยู่ในงานแต่งเธอกลับมองเห็นอย่างชัดเจน หวังสือชิ่งเก่งกาจมาก เธอกลัวว่าไป๋ยี่เฟยจะไม่ใช่คู่แข่งของเขา
ไป๋ยี่เฟยกลับชะงักเล็กน้อย หลังจากนั้นก็พูดกลับหลงหลิงหลิงว่า“เดี๋ยวผมก็กลับมาจริงๆครับ”
หลงหลิงหลิงมองไปที่ไป๋ยี่เฟย จู่ๆเธอก็เชื่อใจในคำพูดของเขา แล้วปล่อยชายเสื้อของไป๋ยี่เฟยไป
ไป๋ยี่เฟยหันกลับไปแล้วเดินไปยังด้านหน้าของหวังสือชิ่ง เขาถอดเสื้อตัวนอกออก ด้านในเขาสวมเสื้อกั๊กที่ทำจากแผ่นเหล็ก เขาถอดแผ่นเล็กออกมา แล้วนำมันประกอบกลับเข้าไปใหม่
ระหว่างที่เขาประกอบจำเป็นต้องใช้เวลา ตามหลักแล้วหวังสือชิ่งสามารถลงมือได้เลย แต่หวังสือชิ่งไม่ได้ขัดจังหวะของเขา เพียงแต่พูดอย่างดุถูกไปว่า“อาศัยแค่อาวุธแปลกๆเพื่อเชื่อมช่องว่างระหว่างเขตแดนเนี่ยนะ?”
ไป๋ยี่เฟยนำแผ่นเหล็กประกอบเป็นดาบขนาดใหญ่ เขาถือดาบไว้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา“คุณเป็นผู้แข็งแกร่งแห่งแดนเทพยุทธ์ที่ผมจะฆ่าเป็นคนแรก ไม่ว่าจะใช้อะไรฆ่าคุณให้ตาย ผมก็ต้องใช้มันทั้งนั้น!”
“และคุณ ที่กล้าทำร้ายผู้หญิงของผม ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เป็นเขตแดนอะไรก็ตาม ก็ต้องชดใช้!”
สายตาของหวังสือชิ่งที่มองเขายังคงเต็มไปด้วยความดูถูก“ลำพังแค่ระดับหนึ่งชั้นกลาง ยังเพ้อฝันว่าจะฆ่าผู้แข็งแกร่งแห่งแดนเทพยุทธ์งั้นเหรอ?”
“ตรงกลางไม่ได้ห่างกันเพียงแค่ระดับเดียว อยากจะข้ามไประดับหนึ่งเพื่อมาแดนเทพยุทธ์ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ!”
“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหน ว่าอยากจะฆ่าฉัน?”
“ทำร้ายผู้หญิงของนายว่ายังไง?”
“พวกแกฆ่าอาหยาง ฉันไม่เพียงแต่จะฆ่าพวกแก ยังจะทำร้ายลูกน้องของแก จะฆ่าสี่ตระกูลใหญ่ คนพวกนี้ต้องลงหลุมไปกับอาหยางทั้งหมด!”
“อ้าก!”
เมื่อเสียงพูดจบ จู่ๆไป๋ยี่เฟยก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ ต่อมาดวงตาของเขาก็มีประกายเป็นแสงสีแดงเข้ม
เมื่อเห็นความผิดปกติของไป๋ยี่เฟย หัวใจของหวังสือชิ่งถึงกับตกตะลึง“แกคือ……”
ไม่รอให้เขาพูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็ถือดาบฟันไปที่หวังสือชิ่ง
“พรึบ……”
หลังจากเกิดเสียงดังขึ้นหลายสิบครั้ง แม้แต่อากาศโดยรอบก็เปลี่ยนเป็นคับแคบในทันที
ในขณะเดียวกันก็มีลมขนาดใหญ่พัดอยู่รอบๆพวกเขา พัดจนเสื้อผ้าของทั้งสองคนกระทบกันจนเกิดเสียงดังพึ่บพั่บ
แต่แล้วดาบของไป๋ยี่เฟยก็หยุดอยู่ตรงศีรษะของหวังสือชิ่ง กลับไม่สามารถขยับไปข้างหน้าได้แม้แต่น้อย และแม้แต่จะใช้พลังอ้านจิ้งก็ไม่มีผลต่อหวังสือชิ่งเลย
หวังสือชิ่งยังคงยืนอยู่กับที่ แล้วใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความดูถูกมองไปที่ไป๋ยี่เฟย
นี่คือช่องว่างระหว่างยอดฝีมือระดับหนึ่งกับแดนเทพยุทธ์
ไป๋ยี่เฟยใช้พละกำลังทั้งหมดของตัวเองแล้ว แต่กลับไม่มีผลกระทบอะไรต่อหวังสือชิ่งเลย
หวังสือชิ่งพูดด้วยความเย็นชา“รู้ไหมเพราะอะไรแดนเทพยุทธ์ถึงเรียกว่าผู้ที่ต่ำกว่าผู้แข็งแกร่ง ว่ายอดฝีมือไหม?”
“ยอดฝีมือแค่เก่งกว่าคนธรรมดาทั่วไปเล็กน้อยเท่านั้น แต่ผู้แข็งแกร่ง เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างแท้จริง”
“ความสามารถของคนเหล่านั้นมีขีดจำกัด พวกเขาไม่สามารถเข้าใจความหมายที่ลึกซึ้งในนั้นได้ และพวกเขาก็ไม่สามารถเข้าสู่แดนเทพยุทธ์ได้”
“ถึงผมจะเป็นแค่นักสู้ระดับต่ำของแดนเทพยุทธ์ แต่ผมก็มีกำแพงแห่งจิตใจAT fieldเป็นของตัวเอง นี่เป็นสิ่งที่ตลอดชีวิตนี้พวกคุณไม่มีทางเข้าใจ!”
คำพูดเหล่านี้ทำให้ไป๋ยี่เฟยสังเกตเห็นแสงจางๆอยู่รอบๆหวังสือชิ่ง ชั้นนี้เหมือนบาเรียป้องกัน ทำให้ร่างกายของเขาได้รับการปกป้อง
ดังนั้น นี่คือกำแพงแห่งจิตใจAT fieldใช่ไหม?
เวลานี้เอง หวังสือชิ่งยื่นนิ้วออกไปหนึ่งนิ้วอย่างเฉยเมย แตะคมดาบของไป๋ยี่เฟยเบาๆ
“แพร้ง!”
“ก๊องแก๊ง!”
ไป๋ยี่เฟยรับรู้ได้ถึงพลังมหาศาลที่พุ่งชนเข้ามาให้เขาอย่างรุนแรง หลังจากนั้นร่างเขาก็กระเด็นออกไป จนทำให้รั้วกั้นถนนถูกชนกระแทกจนหัก ไม่เพียงแต่เท่านี้ รั้วกั้นถนนยังสร้างรอยลึกบนพื้นอีกด้วย
และดาบของเขา ก็แหลกสลายไปด้วย
ไป๋ยี่เฟยไม่สามารถต้านทานพลังนี้ได้
นี่ก็คือช่องว่างระหว่างยอดฝีมือระดับหนึ่งกับผู้แข็งแกร่งแห่งแดนเทพยุทธ์
ไป๋ยี่เฟยสามารถฝืนฆ่ายอดฝีมือระดับหนึ่งได้ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งแห่งแดนเทพยุทธ์ กลับไม่สามารถที่จะต้านทานได้แม้แต่น้อย
“ไป๋ยี่เฟย!”
หลงหลิงหลิงที่เห็นฉากนี้ เธอร้องตะโกนด้วยความร้อนรน
แต่แล้ว สิ่งที่ทำให้คาดคิดไม่ถึงนั่นก็คือ ไป๋ยี่เฟยที่กระเด็นปลิวออกไปและกระอักเลือดออกมาเต็มปาก กลับค่อยๆลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ
หลงหลิงหลิงตกตะลึง แล้วเธอก็ดีใจ
แต่หวังสือชิ่งกลับขมวดคิ้ว“นายยังไม่ตาย?”