ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - บทที่ 1074 มีความเสียใจภายหลังเล็กน้อย
“ภรรยาจ๋า ผมรักคุณ”
หลังจากพูดคำพูดนี้จบ วิดีโอก็จบลงแล้วเช่นกัน
รอยน้ำตาเต็มใบหน้าหลิวเสียมานานแล้ว
“รีบจอดรถ!” ฉางเชี่ยวร้องตะโกนแล้วเสียงหนึ่ง
“เอี๊ยด!”
คนขับรถหยุดรถเลย
ฉางเชี่ยวถามหลิวเสียทันที “ตกลงว่าเขาเป็นยังไงกันแน่?”
“ฮือฮือ……” อยู่ดีๆหลิวเสียกลับเปล่งเสียงร้องไห้อย่างหนักออกมา
ฉางเชี่ยวยิ่งร้อนใจแล้ว “คุณอย่าเพิ่งร้องไห้ล่ะ ตกลงเป็นเรื่องอะไรกันแน่? ก่อนหน้านั้นไม่ใช่ยังดีๆอยู่เหรอ?”
หลิวเสียทั้งร้องไห้ทั้งพูดว่า “ฉันก็ไม่รู้เช่นกัน……ก่อนหน้านี้…….ตอนที่อยู่บนเรือ…….เขาก็บอกว่าเขาจะตายแล้ว…….ฉันคิดว่าเขาล้อเล่นอยู่…….”
ทันใดนั้นสีหน้าฉางเชี่ยวดูแย่มาก “ขับรถย้อนกลับไป เร็ว!”
คนขับรถขับรถย้อนกลับไปทางเก่าทันที
หลิวเสียร้องไห้อยู่ถามว่า “ฮือฮือ…….พี่ชายฉันเขาเป็นยังไงแล้วล่ะ? เขาอยากจะฆ่าตัวตายเหรอ?”
แต่ว่าฉางเชี่ยวใบหน้าขึงลับอยู่ ไม่ได้พูดสักคำ
หลิวเสียรู้สึกว่าตนเองจะเดาถูกมาก “ให้เขาฆ่าตัวตายไม่ได้ พี่ชายทำไมจะฆ่าตัวตายล่ะ? ไม่ได้ ฉันต้องขัดขวางเขาให้ได้ แต่ว่า……จะขัดขวางยังไงล่ะ?”
“พี่ชาย ให้พี่ชายฉัน……พี่ชายฉันก็ไม่ได้เช่นกัน…….”
“พี่สะใภ้! ใช่! พี่สะใภ้!”
หลิวเสียหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาไอ้หัวล้านหลิวพี่ชายเธอ “พี่ชาย คุณรู้พี่สะใภ้ไหม ก็คือเบอร์โทรของหลี่เสว่ล่ะ?”
“รู้สิ ทำไมเหรอ?” หลังจากไอ้หัวล้านหลิวตอบกลับคำหนึ่ง ถามกลับอีกว่า “เกิดเรื่องอะไรเหรอ? แกทำไมร้องไห้ล่ะ? ใครรังแกแกแล้วเหรอ?”
หลิวเสียกลับร้อนใจมากพูดว่า “คุณอย่าเพิ่งถามเลย รีบเอาเบอร์โทรของหลี่เสว่ให้ฉัน”
ไอ้หัวล้านหลิวก็ร้อนใจมากเช่นกัน “ไม่ใช่ ตกลงว่าเป็นอะไรกันแน่? ตอนนี้แกอยู่ที่ไหนล่ะ?”
“ก็บอกแล้วอย่าถามเลย เอาเบอร์โทรให้ฉันก่อน ช้ากว่านี้อีกก็ไม่รอดแล้ว!” หลิวเสียร้องตะโกนใส่ไอ้หัวล้านหลิว
ไอ้หัวล้านหลิวก็ฟังออกได้ถึงความร้ายแรงของเรื่องเช่นกัน รีบวางสายลง ส่งเบอร์โทรของหลี่เสว่ให้กับหลิวเสีย
จากนั้นหลิวเสียเพิ่มเพื่อนWeChatของหลี่เสว่อีกทันที ส่งวิดีโอของไป๋ยี่เฟยนั้นก่อนหน้านั้นให้กับหลี่เสว่ สุดท้ายโทรหาเธออีก
แต่ว่าหลี่เสว่ไม่ได้รับสายโดยตลอด
หลิวเสียร้อนใจมาก ก็รีบกลับไปที่WeChat ส่งข้อความเสียงให้กับหลี่เสว่ “พี่สะใภ้รับสายสิ พี่ชายฉันเขาใกล้จะตายแล้ว คุณรีบโทรไปเกลี้ยกล่อมเขาล่ะ!”
……
ไป๋ยี่เฟยคิดว่าหลิวเสียจะเชื่อฟังหลังจากเขาตายแล้วค่อยส่งวิดีโอให้กับหลี่เสว่ นึกไม่ถึงเลยสักนิดหลิวเสียถึงขนาดโทรหาหลี่เสว่เลย
และในตอนนี้ไป๋ยี่เฟยกำลังยืนอยู่ข้างทะเลบริเวณคลังเก็บทองที่สามและข้างหน้าเขามีป้ายศิลาหน้าหลุมฝังศพอันหนึ่ง
นี่เป็นป้ายศิลาหน้าหลุมฝังศพของเมิ่งหลินที่เขาสร้างด้วยมือตัวเอง
ไป๋ยี่เฟยคุกเข่าลงไปโดยตรง จ้องมองป้ายศิลาหน้าหลุมฝังศพ ย้อนนึกถึงหลายวันก่อนหน้านั้นที่อยู่หนานเหมิน
จากนั้นเขาดึงป้ายศิลาหน้าหลุมฝังศพออกมา ใช้มือเขียนตัวหนังสือบรรทัดหนึ่งอยู่ข้างบน “หลุมศพอาจารย์เมิ่งหลิน”
หลังจากแกะสลักตัวหนังสือเสร็จ เขาเสียบป้ายศิลาหน้าหลุมฝังศพกลับไปใหม่อีกครั้ง จากนั้นโขกหัวสามที พูดเสียงเบาๆว่า “เพียงแค่ท่านอาจารย์คนนี้ จึงเป็นอาจารย์ที่เรียบง่ายบริสุทธิ์”
หลังจากพูดจบเขาลุกขึ้นมา มาถึงคลังเก็บทองที่สามแบบชาด้าน
ตอนที่อยู่หน้าถ้ำ เขายังลังเลสักเล็กน้อย แต่สุดท้าย เขายังคงเดินเข้าไป
เขามาถึงนอกห้องห้องหนึ่ง ยืนอยู่นอกห้อง เขาไม่ได้เข้าไป
แต่เขารู้ว่า เธอรู้ว่าเขามาแล้ว
จื่ออีกำลังนั่งอยู่ในห้อง หลับตาอยู่ บนใบหน้าไม่มีสีหน้าอะไร
หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง อยู่ดีๆไป๋ยี่เฟยพูดว่า “ผมจะตายแล้ว”
ขนตาของจื่ออีสั่นแล้วสั่นอีก
ไป๋ยี่เฟยพูดอีกว่า “ผมหวังว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนจะไม่จริง”
น่าเสียดาย……
จื่ออีไม่ได้ออกมาเจอเขาโดยตลอด เขาก็รู้แล้ว สิ่งที่เยว่พูดล้วนเป็นความจริง
พวกเขา รวมกับคนทั้งหลาย
ความเศร้าโศกทะลักออกจากใจไป๋ยี่เฟย “อาจารย์ หลังจากผมตายแล้วท่านจะเสียใจไหม?”
“จะนึกถึงว่าตนเองยังมีลูกศิษย์คนหนึ่งไหม?”
“อาจารย์ ท่านอยู่นานเกินไปแล้ว เห็นการพลัดพรากจนชินแล้ว ดังนั้นต่อความรักความผูกพันก็เย็นชาใช่หรือไม่?”
“ผมมาที่นี่ก็แค่อยากจะรู้ ทั้งหมดนี้เป็นความจริงใช่หรือไม่? ยังมีท่าทีของท่าน แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วล่ะ”
“อาจารย์”
“นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะเรียกท่านแล้ว”
“แม้ว่าผมเป็นเพียงแค่หมากรุกตัวหนึ่ง แต่หลายปีนี้ได้รับการสอนสั่งกับปกป้องของท่าน ทำให้ผมก็ได้เรียนรู้มากมาย ผมยังคงขอบคุณท่านมากเช่นกัน”
“ลาก่อนแล้ว”
หลังจากพูดจบ ไป๋ยี่เฟยโค้งคำนับต่อประตูห้องหนึ่งที จากนั้นหมุนตัวเดินไปยังข้างนอก
จื่ออีที่อยู่ในห้องอยู่ดีๆลืมตาขึ้น เธอลุกขึ้นมา วิ่งไปยังข้างประตู ร้องตะโกนพูดว่า “คุณไปขอร้องเขา เขาสามารถช่วยคุณได้!”
ไป๋ยี่เฟยหยุดชะงักเล็กน้อย
เขาที่จื่ออีพูดคือเยว่ แต่ว่าไป๋ยี่เฟยเคยไปหาเขามาแล้ว อีกทั้งเยว่ปฏิเสธที่จะช่วยเขาแล้ว
ไป๋ยี่เฟยหัวเราะน่าเวทนาเสียงหนึ่ง พูดว่า “ไม่ต้องแล้ว”
หลังจากพูดจบ เขาออกไปอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อยเลย
จื่ออีที่อยู่ในห้องสีหน้าซีดขาวเลย เช่นดั่งถูกดูดแรงพลังไปจนหมด ถึงขนาดอดไม่ไหวที่จะถอยหลังก้าวหนึ่ง
พูดตามตรง ระหว่างคนกับคนอยู่ด้วยกันนานแล้ว ถึงแม้เพียงแค่หมากรุกตัวหนึ่ง ก็มีความรักความผูกพันเช่นกันนะ
และอยู่ด้วยกันหลายปีนี้ จื่ออีเห็นความแข็งแกร่งทรหดของไป๋ยี่เฟย เธอก็สามารถมองเห็นความเคารพที่เปล่งออกจากใจของตัวไป๋ยี่เฟยเอง เคยมีหลายครั้ง ด้วยเหตุนี้เธอล้วนจะเกิดการใจร้ายไม่ลงออกมา
แต่ตอนนี้ จื่ออีดูเหมือนเสียใจภายหลังแล้ว
ถ้าหากคนที่เธอเลือกเป็นไป๋เซี่ยวในตอนต้น ตอนจบจะไม่เหมือนกันแล้วใช่หรือไม่?
หรืออาจ ในการวางหมากนี้ ที่ทำการเคลื่อนไหวก่อนเป็นไป๋เซี่ยวหมากรุกตัวนี้ นั่นจะไม่เหมือนกันอีกแล้วใช่หรือไม่?
แต่ว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพียงแค่เรื่องสมมติ
ไป๋ยี่เฟยพูดถูกมาก จื่ออีอยู่นานเกินไปแล้ว ต่อกับการพลัดพรากเห็นจนเบาบางลงมานานแล้ว ถึงแม้ใจเธอเกิดใจร้ายไม่ลง แต่ก็สามารถมีสติแยกแยะหนักเบาของเรื่องได้เช่นกัน
อีกทั้งรอเรื่องนี้ผ่านไปแล้ว เวลานานไป ก็จะถูกลืมเลือนไปโดยปริยาย
จื่ออีหัวเราะขมๆเสียงหนึ่ง พูดเสียงเบาๆว่า “แท้ที่จริง……ยังมีอีกวิธีหนึ่ง”
……
ในคฤหาสน์หลันโปกั่ง
หลี่เสว่เพิ่งป้อนนมให้กับลูกทั้งสองเสร็จ หลังจากลูกๆกินอิ่มแล้วก็นอนหลับไปเลย
พี่เลี้ยงเห็นแบบนี้ ก็เลยรีบเกลี้ยกล่อมเธอว่า “นายหญิงเอ่ย อาศัยตอนนี้ที่เด็กๆนอนหลับไปแล้ว ท่านรีบไปนอนสักพักเถอะ มิฉะนั้นกลางคืนดูแลพวกเขาท่านจะนอนไม่พอ เวลานานไปร่างกายก็จะพังเลย”
หลี่เสว่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากเช่นกัน หลังจากพยักหน้าต่อๆกันก็เตรียมตัวที่จะขึ้นข้างบนพักผ่อนแล้ว
แต่หลังจากเธอกลับถึงห้องนอน เห็นบนมือถือปรากฏการขอเป็นเพื่อนใหม่อันหนึ่งอีกทั้งยังส่งวิดีโออันหนึ่งให้เธออีก
เนื่องด้วยสาเหตุที่ก่อนหน้านั้นต้องทำงาน หลี่เสว่ไม่ได้ตั้งไว้ว่าต้องผ่านการยืนยันจึงสามารถเพิ่มเพื่อนได้ แต่เพียงแค่มีคนกดเพิ่มเพื่อนก็เพิ่มเพื่อนได้เลย
หลังจากเธอมองเห็นการเพิ่มเป็นเพื่อนนี้ มีความอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย กดเปิดวิดีโอออก
หลังจากรอเธอดูวิดีโอจบ หลี่เสว่ล้วนตะลึงงันไปทั้งตัวเลย
ตอนนี้เธอล้วนไม่รู้สึกอยากจะนอนเลยสักนิด และหลังจากอึ้งชะงักสักพัก เธอรีบโทรหาไป๋ยี่เฟย แต่โทรศัพท์ของไป๋ยี่เฟยปิดเครื่องไปแล้ว
ดังนั้นเธอรีบโทรหาหลิวเสียอีก “คุณเป็นใครเหรอ? เกิดเรื่องอะไรกันแน่? ไป๋ยี่เฟยตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนล่ะ? ตกลงว่าเขาเป็นอะไรกันแน่?”
เสียงหลิวเสียที่สะอึกสะอื้นส่งมาจากโทรศัพท์พูดว่า “พี่สะใภ้ คุณอย่าเพิ่งร้อนใจ ฉันกำลังไปหาเขา ตอนนี้พวกเราอยู่…..อยู่หลันเต่า”
หลี่เสว่ทั้งร้อนใจทั้งโมโห “ช่วยฉันหาเขาให้เจอ ให้เขาโทรกลับหาฉันทันที!”
“ได้!”