ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - บทที่ 1081 ปรากฏตัวแล้ว
ท่านดยุกมองไปที่ไป๋ยี่เฟยด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสยดสยอง“แก…..นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เป็นไปได้อย่างไร?”
“แหวะ!”
ไป๋ยี่เฟยกระอักเลือดออกมาคำใหญ่
การฟันเมื่อกี้นี้ใช้กำลังทั้งหมดของเขาแล้ว เขาแทบจะไม่สามารถทรงตัวได้แล้ว
เขาเดินโซเซไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ทั้งร่างก็ล้มไปทางท่านดยุก ในเวลาเดียวกัน เขายื่นดาบใหญ่ของเขาออกมา
ท่านดยุกแค่มองไปที่ไป๋ยี่เฟยด้วยความสยดสยอง โดยไม่ได้ขัดขวางไป๋ยี่เฟยไว้ ต่อจากนั้นดาบเล่มนั้นก็แทงตรงไปที่หัวใจของเขาในทันที
ไป๋ยี่เฟยก็ล้มคว่ำอยู่บนตัวของท่านดยุก บนใบหน้าเผยให้เห็นรอยยิ้มที่พึงพอใจ ยังพูดกับท่านดยุกว่า: “บอกให้แกเรื่องหนึ่ง ครั้งหนึ่งเคยมีผู้แข็งแกร่งของแดนเทพยุทธ์คนหนึ่ง เขาก็บอกอีกว่าช่องว่างของแดนห่างกันเกินไป ฉันฆ่าเขาไม่ได้”
“แต่สุดท้าย เขาก็ยังถูกฉันฆ่า”
“ตูม!”
ท่านดยุกหน้าหงายล้มลงกับพื้น ก็มีเสียงดังออกมา
ไป๋ยี่เฟยก็ล้มตามไปด้วยกัน ก็ถูกร่างอ้วนของท่านดยุกดีดเด้งขึ้นมา และเขาก็ล้มลงกับพื้นไปอยู่อีกด้านหนึ่ง
แม้ว่าไป๋ยี่เฟยจะลงล้มกับพื้น แต่ก็มีรอยยิ้มที่พึงพอใจอยู่บนใบหน้าของเขา
ก่อนหน้าที่จะตาย เขาก็ทำเรื่องหนึ่งสำเร็จแล้ว
ในขณะนี้คนทั้งเกาะเล็กและบนเรือ ก็เงียบสนิท มีเพียงเสียงคลื่นดังมาเป็นพักๆในคืนที่มืดมิด
“ไป๋ยี่เฟย!”
หลี่เสว่และหลิวเสี่ยวอิงก็ดึงสติกลับมาก่อนเป็นอันดับแรก ในเวลาเดียวพวกเธอก็กระโจนเข้าหาไป๋ยี่เฟย
ต่อจากนั้นไป๋หยุนเผิงเองก็ดึงสติกลับมา ทั้งหมดก็พุ่งไปทางไป๋ยี่เฟย
หลังจากที่หลี่เสว่วิ่งเข้าไปก็คุกเข่าลงบนพื้น กอดไป๋ยี่เฟยไว้ในอ้อมกอด หลิวเสี่ยวอิงคุกเข่าอยู่อีกด้านหนึ่ง และจับมือของเขาไว้แน่นๆ
ไป๋ยี่เฟยพิงไปที่อ้อมกอดของหลี่เสว่ คนทั้งคนก็อ่อนแอมาก และมุมปากของเขายังมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด
พวกเขารู้สึกว่า เขากำลังจะตายจริงๆแล้ว
เพราะในที่สุดเขาก็เห็น ท้องฟ้ามืดแล้ว
และในคืนที่มืดมิดนี้ ไป๋ยี่เฟยเห็นใบหน้าของหลี่เสว่พวกเขาค่อยๆเบลอขึ้นมา เขาถึงขนาดรู้สึกว่าตัวเองหายใจได้ค่อนข้างลำบาก
ไป๋ยี่เฟยฝืนทนพูดว่า: “อย่าร้องไห้…..ฉันอยาก…..เห็นพวกเธอ…..ยิ้ม”
หลี่เสว่และหลิวเสี่ยวอิงฝืนยิ้มออกมา แต่ก็ฝืนยิ้มเกินไป มองดูค่อนข้างแปลกๆ
ไป๋ยี่เฟยก็พูดว่า: “ขี้เหร่จังนะ…..”
ก็แค่ตั้งใจอยากทำให้พวกเธอหัวเราะ แต่ไม่ว่ายังไงพวกเธอก็หัวเราะไม่ออกมา แต่กลับร้องไห้หนักกว่าเดิมอีก
ไป๋ยี่เฟยเหมือนกับพวกเธอ ก็อาลัยอาวรณ์เป็นอย่างมาก แต่ท้ายที่สุดก็ต้องพรากจากกัน
มือของไป๋ยี่เฟยค่อยๆลดลง และดวงตาก็หลับสนิท
“ฮือๆ!”
หลี่เสว่และหลิวเสี่ยวอิงก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้อย่างเจ็บปวดขึ้นมา
ไป๋หยุนเผิงและคนอื่นๆก็มองไปที่ไป๋ยี่เฟยทีละคน ดวงตาก็แดงก่ำ ยังมีคนแอบเช็ดน้ำตา
และคนของสำนักหนานเหมินเหล่านั้น หลังจากที่เห็นไป๋ยี่เฟยตาย เพียงแค่ส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ และก็หันหลังเดินขึ้นไปบนเรือ
และพวกเขาไม่มีใครสนใจเรื่องของท่านดยุก
“เยว่จะไม่มาแล้ว”
ในเรือลำหนึ่ง ฉีฉีพูดกับซินชิว
อันที่จริงตอนนี้ในใจของฉีฉีก็เป็นทุกข์มาก เธอนึกถึงเรื่องๆน้อยๆที่ไปมาหาสู่กับไป๋ยี่เฟย ก็ยิ่งมีความรู้สึกเศร้าโศกเจ็บปวด และยังอยากจะร้องไห้เล็กน้อย
และซินชิวนั่งอยู่บนเก้าอี้อีกด้านหนึ่ง ในมือยังคงถือไหมพรมและไม้นิตติ้ง เขากำลังถักเสื้อไหมพรม
หลังจากที่ถักครั้งสุดท้าย ในที่สุดก็ถักเสื้อไหมพรมเสร็จแล้ว
ในเวลาเดียวกัน ลมปราณของซินชิวก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
แดนของเขากลับมา ไม่เพียงแค่นั้น เขาพบว่าเขาแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อน
ฉีฉีอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง “อาจารย์…..”
“ในที่สุดก็ถึงแดนเหนือเทพยุทธ์แล้ว…..”ซินชิวเผยรอยยิ้มที่ตื่นเต้นออกมาเล็กน้อย
ฉีฉีก็ตกใจมากๆ
เธอแม้แต่แดนเทพยุทธ์ก็ยากที่มุ่งถึง นับประสาอะไรกับแดนเหนือเทพยุทธ์
หลังจากที่ฉีฉีตกใจ และพูดด้วยความตื่นตระหนกว่า: “ยินดีกับอาจารย์ด้วย…..”
อย่างไรก็ตามความตื่นเต้นในดวงตาของซินชิวหายไปในทันที เขาพูดว่า: “เขาไม่มา ฉันถึงแดนเหนือเทพยุทธ์ แล้วจะมีความหมายอะไร?”
ฉีฉีเงียบไม่พูดไปครู่หนึ่ง
จีไซและเหลียงหมิงเยว่บนเรือ ทั้งสองคนมองหน้ากันไม่พูดอะไร
ผ่านไปครู่หนึ่ง พวกเขาก็ดึงสติกลับมา
“ตายไปแบบนี้เลยเหรอ?”
พวกเขาดูเหมือนจะไม่ค่อยเชื่อว่าไป๋ยี่เฟยจะตายไปแบบนี้
ที่สำคัญ เยว่ไม่มา ซินชิวก็ไม่ปรากฏตัวเช่นกัน
ถ้าอย่างนั้นพวกเขาอยู่ที่นี่ก็ไม่บรรลุเป้าหมาย แล้วจะมีความหมายอะไร!
หลังจากที่เงียบ จีไซถามเหลียงหมิงเยว่:“จะเสี่ยงดวงดูสักครั้งมั้ย?”
เหลียงหมิงเยว่มองลงไปและครุ่นคิด
พวกเขารู้สึกว่าจื่ออีและซินชิวต้องมาอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าซ่อนตัวอยู่ในเรือเหล่านี้
ถ้าอย่างนั้นพวกเขาลงมือตอนนี้ ซินชิวและจื่ออีร่วมมือกันพวกเขาอาจจะสู้ไม่ไหว แต่ถ้ารอซินชิวและจื่ออีร่วมมือกันฆ่าเยว่ เวลานั้นอาจจะบาดเจ็บด้วยกันทั้งคู่ พวกเขาทั้งสองค่อยลงมือ และโอกาสชนะก็จะมากขึ้น
อย่างไรก็ตามประเด็นสำคัญที่สุดของปัญหาในตอนนี้คือ เยว่ไม่ปรากฏตัว
ท้ายที่สุด เหลียงหมิงเยว่ก็ถอนหายใจและพูดว่า: “ไม่กล้าเสี่ยง”
……
ท่ามกลางเรือลำใหญ่มากมาย บนเรือลำเล็กที่ธรรมดา จื่ออีจ้องไปที่จอภาพ และร่างบอบบางก็สั่นเทา
“ตายแล้วเหรอ? ตายแบบนี้เหรอ?”สีหน้าของจื่ออีซีดเซียวเล็กน้อย สีหน้าท่าทางเสียใจ
ไป๋ยี่เฟยตายแล้ว
ภายใต้การรับรู้ของทุกคน ตายแล้ว
และไม่ว่าจะเป็นศัตรูหรือว่าคนกันเอง พวกเขาดูเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่า ไป๋ยี่เฟยก็จะตายแบบนี้
คนส่วนหนึ่งกลับมาที่เรือด้วยความผิดหวัง และสั่งให้เรือเริ่มเดินเรือกลับ
คนส่วนหนึ่งก็ใจปวดร้าวแทบแตกสลาย
หลี่เสว่และหลิวเสี่ยวอิงก็ร้องไห้อย่างเจ็บจวนเจียนขาดใจ เพราะสำหรับพวกเธอแล้ว ฟ้าถล่มแล้ว
ทั้งสองกระโจนเข้าหาไป๋ยี่เฟย กอดเขาเอาไว้แน่นๆ ใครก็ดึงออกไปไม่ได้
ทุกคนเศร้ามาก ทำได้เพียงดูอย่างเงียบๆ และทำอะไรไม่ได้
และในขณะนั้น จู่ๆก็มีคนเดินออกมาจากฝูงชนคนหนึ่ง
เขามาถึงตรงหน้าของไป๋ยี่เฟย และวางมือลงบนหน้าอกของไป๋ยี่เฟย
เมื่อเห็นฉากนี้ ทุกคนก็ประหลาดใจ
ในเวลาเดียวกัน เดิมทีในเรือที่กำลังหันหัวเดินเรือกลับ
“เดี๋ยวก่อน!”
ซินชิวตะโกนใส่ฉีฉีอย่างกะทันหัน
ฉีฉีหันหน้ามองไป ดวงตาทั้งสองเป็นประกาย ต่อจากนั้นรีบวิ่งไปที่สะพานเดินเรือ“เดี๋ยวก่อน! อย่าเพิ่งออกเรือ!”
เยว่ปรากฏตัวขึ้นแล้ว
ไป๋ยี่เฟยไม่มีทางตายแล้ว
ฉีฉีตื่นเต้นเป็นมาก ตอนที่เธอวิ่งเกือบที่จะโซเซล้มลง และเสียงของเธอก็สั่นเทาเล็กน้อย
……
ไป๋หยุนเผิงมองไปที่คนคนนี้ อดไม่ได้ที่จะถามว่า: “ไม่ทราบว่าคุณคือ…..”
คนคนนี้ดูแล้วอายุไม่ต่างไป๋หยุนเผิงมากนัก แต่เขารู้ว่าผู้คนมากมายไม่สามารถตัดสินอายุได้ด้วยรูปร่างหน้าตาของเขา
ในขณะนี้ เยว่กำลังโอนถ่ายพลังของตัวเองเข้าสู่ร่างกายของไป๋ยี่เฟยผ่านฝ่ามือ
“เฮือก!”
ไป๋ยี่เฟยพ่นลมหายใจ และร่างกายก็สั่นสะท้าน