ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 168 ต่อยจนฟันหักและกลืนมันเข้าไปในท้องเสีย
บทที่ 168 ต่อยจนฟันหักและกลืนมันเข้าไปในท้องเสีย
หลินอิ่งไม่แสดงสีหน้าใดๆ ออกมา
และคนของตระกูลกงซุนที่อยู่ในเหตุการณ์ เมื่อเห็นภาพที่กงซุนเฟยเทียนกราบลง ต่างก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา
ไม่น่าเชื่อว่านายท่านเลือกที่จะทนไว้ และถอยเอง? นี่มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว
“อาจารย์หลิน ตอนนี้นับว่ามีการจัดการกับเรื่องนี้แล้วหรือยัง? ” กงซุนฉงหลงกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ สีหน้าของเขาเคร่งเครียด
หลินอิ่งเตะกงซุนเฟยเทียนจนกระเด็นออกไป กระแทกเข้ากับกําแพงอย่างแรง และนอนหอบหายใจอยู่บนพื้นเหมือนสุนัขที่ตายแล้ว
จากนั้น เขาก็หันหลังกลับและเดินออกจากห้องไป
“อาจารย์หลิน ตระกูลกงซุนของพวกเรายังคงเป็นหนี้น้ำใจท่านอยู่ หากมีอะไรเรื่องอะไรท่านเอ่ยปากได้เลย ชิวอวี่ เฟยหง ไปส่งอาจารย์หลินหน่อย กงซุนฉงหลงพูดโดยออกคำสั่ง
กงซุนเฟยหงและกงซุนชิวอวี่ยังคงตกตะลึงอยู่ เมื่อได้ยินคำสั่งของนายท่าน ก็รีบตามหลินอิ่งไป ในใจก็ครุ่นคิดว่าควรพูดอะไรดี
รอจนหลินอิ่งเดินออกจากวิลล่าไป สีหน้าของทุกคนในห้องก็มืดครึ้มจนถึงสุดขีด สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจและไม่เต็มใจ
“นายท่านครับ หลินอิ่งผู้นี้เป็นเพียงหมอรักษาโรคเท่านั้น ทำไมท่านถึงไว้หน้าเขาเช่นนี้? ”
“ใช่แล้ว นายท่าน ให้ความสำคุญกับเขามากเกินไปรึเปล่า จ่ายเงินจ้างให้เขารักษาอาการป่วย เขากลับหยิ่งยโสเช่นนี้! ”
“หากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ตระกูลกงซุนของพวกเราจะต้องกลายเป็นเรื่องตลกอย่างแน่นอน”
คนของตระกูลกงซุนหลายคนกล่าวอย่างไม่เต็มใจ พวกเขาอยากจะช่วยกงซุนเฟยเทียนเอาคืน
ตระกูลกงซุนของพวกเขาแข็งแกร่งขนาดไหน กลับยอมให้ไอ้เจ้าเด็กที่ไม่รู้ มาอวดดีเช่นนี้ต่อหน้านายท่าน นี่มัน เรื่องจะจบเพียงแค่นี้หรือ?
หากเรื่องนี้แพร่ออกไป ชื่อเสียงของตระกูลกงซุนในวงการตี้จิงก็จะเหม็นเน่า ขายหน้ามากเลย
กงซุนเฟยเทียนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน มุมปากของเขายังคงมีเลือดไหลออกมา เขาพูดอย่างไม่เต็มใจว่า “พ่อครับ ทำไมพ่อถึงให้เจ้าเด็กนั่นทำตัวอวดดีในตระกูลกงซุนของเรา? ” ผมไม่ยอม!”
“ไม่ยอม? ” กงซุนฉงหลงทำเสียงหึออกมาอย่างเย็นชา สายตาเย็นชามองไปที่กงซุนเฟยเทียน “ข้าขอบอกกับพวกนายทุกคนว่า ห้ามใครไปสร้างปัญหาให้อาจารย์หลินเด็ดขาด ได้ยินหรือไม่! ถือซะว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน! ใครกล้าพูดถึงเรื่องนี้อีก อย่าโทษฉันที่ต้องใช้กฎประจำบ้านลงโทษแล้วกัน!”
คำพูดของกงซุนฉงหลงนั้นหนักแน่นและน่าสะพรึงกลัว จนทำให้ทุกคนในห้องหุบปาก และไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป
“อะแฮ่ม”
กล่าวจบ กงซุนฉงหลงก็ไออีกครั้ง “เอาล่ะ พวกนายพาเฟยเทียนไปรักษาอาการบาดเจ็บเถอะ ข้ายังต้องการพักผ่อนอีกสักพัก เดี๋ยวให้เฟยหงมาพบฉัน”
“ครับ! ”
คนในห้องไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งของนายท่าน มีคนสองคนเดินเข้าไปประคองกงซุนเฟยเทียนขึ้นมาแล้วเดินออกไป
ชายยอดฝีมือวัยกลางคนทั้ง 2ที่ยืนอยู่ตรงประตูโดยสีหน้าเคร่งขรึม ถูกกงซุนฉงหลงเรียกตัวเข้าไป
กงซุนฉงหลงพิงเตียงไม้ไว้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
เขาไม่มีอารมณ์ที่จะไปสนใจเรื่องของหลินอิ่งแล้ว ตั้งแต่อาการป่วยของเขาแพร่กระจายออกมา เขาก็เริ่มสงสัยว่ามีใครแอบเล่นเล่ห์เล่นกลอยู่รึเปล่า
วันนี้นี้เมื่อได้ยินหลินอิ่งหมอเทพลึกลับคนนี้บอกว่าเขาถูกพิษเรื้อรัง เขาก็ยิ่งเชื่อเรื่องนี้มากขึ้น
กงซุนฉงหลงเองก็เป็นคนที่ผ่านพายุผ่านลมฝนมาเยอะ เมื่อเขาฟื้นขึ้นมาเขาก็มีคำตอบในใจแล้ว จึงตัดสินใจที่จะกำจัดตัวอันตรายภายในตระกูลกงซุนออกไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน ส่วนหลินอิ่งคนนี้ ลึกลับและแข็งแกร่ง ต้องไม่ล่วงเกินเขาอีก
เมื่อคิดเช่นนี้ กงซุนฉงหลงก็สั่งการกับบอดี้การ์ดยอดฝีมือสองคนที่อยู่ข้างๆ เขา
ด้านนอกห้อง กงซุนเฟยเทียนหอบหายใจอย่าหนัก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ เขาทุบตีกําแพงด้วยความโกรธไม่หยุด คนรอบข้างก็ไม่สามารถหยุดเขาไว้ได้
“บ้าเอ๊ย! นี่เป็นแผนการของพี่ใหญ่แน่ๆ ถึงกับเชิญไอ้เจ้าเด็กเช่นนี้มาดูถูกข้า! ไม่น่าเชื่อว่านายท่านจะบังคับให้ฉันทนความโกรธไว้! “กงซุนเฟยเทียนคำรามอย่างบ้าคลั่ง เส้นเลือดบนหน้าผากปูดขึ้นมา เขาแทบจะเสียสติไปแล้ว
น่าละอายเหลือเกิน เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ คงกลายเป็นจุดด่างในชีวิตที่เขาไม่สามารถลบล้างได้ไปตลอดชีวิต! ถูกหลินอิ่งกระทืบจนฟันหัก แต่ต้องกลืนมันเข้าไปในท้องอีก (เปรียบเทียบว่าโดนรังแก แต่ต้องอดทนไม่โต้แย้ง) มันช่างน่าโกรธจริงๆ!
“พี่ชายรองครับ จะปล่อยเจ้าเด็กนั่นไปเช่นนี้เลยหรือ? ”
“ให้ผมไปเตรียมการไหมครับ? รอให้เขาออกจากวิลล่าฉงหลงไป ให้คนจัดการเขา? ”
“จัดการให้ผมเดี๋ยวนี้! ” ตราบใดที่เขากล้าที่จะออกจากวิลล่าฉงหลง ฆ่ามันให้ตาย! ห้ามปล่อยให้เขาออกจากมณฑลเกาหยางเด็ดขาด!” กงซุนเฟยเทียนพูดคำราม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
พูดจบคนที่อยู่ข้างๆ ก็โทรออกเหมือนกำลังวางแผนอะไรบางอย่างอยู่
หลินอิ่งเดินออกจากวิลล่า สีหน้าเย็นชา กงซุนเฟยหงสองพ่อลูกเดินตามหลังมา สีหน้ากระอักกระอ่วน ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี
“ไม่ต้องส่งแล้ว” หลินอิ่งกล่าวอย่างเฉยเมย “ตอนนี้ผมจะกลับไปที่เมืองตุงไห่ ตระกูลกงซุนของพวกเจ้า ดูแลตัวเองให้ดี”
“นี่… อาจารย์หลินครับ” กงซุนเฟยหงพูดด้วยสีหน้าลังเล “เชิญทานข้าวเย็นก่อนแล้วค่อยกลับไปเถอะครับ ผมยังไม่ทันได้ขอบคุณที่อาจารย์หลินช่วยรักษา นอกจากนี้ ผมอยากจะถามอาจารย์หลินคุณสามารถบอกผมได้ไหมครับ ว่าพิษเรื้อรังที่นายท่านโดนคือพิษอะไร?”
หลินอิ่งกล่าวว่า”แม้ว่าผมจะบอกคุณ คุณเองก็ไม่รู้หรอกว่าสิ่งนั้นคืออะไร”
“เอ่อ…” กงซุนเฟยหงไม่กล้าถามต่อ หลังจากที่คิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้นอย่างจริงจัง “เอาอย่างนี้แล้วกัน อาจารย์หลินครับ ผมได้เตรียมเงินค่าตอบแทนไว้ให้ท่านหนึ่งร้อยล้านหยวน ท่านโปรดรับไว้ด้วยนะครับ”
หลังจากได้เห็นด้านที่แข็งแกร่งและน่าเกรงขามของหลินอิ่ง และฝีมืออันสะพรึงแล้ว กงซุนเฟยหงก็ให้ความสำคุญกับหลินอิ่งมากขึ้น
เกรงว่าหลินอิ่งผู้นี้ไม่เพียงแต่เป็นแค่หมอส่วนตัวของนายท่านฉีเวิ่นติ่ง ไม่แน่เขาอาจจะเกี่ยวข้องกับขุมกำลังลับของตระกูลฉีด้วย ไม่เช่นนั้น ทำไมเขาถึงมีความมั่นใจขนาดนี้?
ส่วนเรื่องที่หลินอิ่งทำตัวอวดดีในตระกูลกงซุน กงซุนเฟยหงเองก็ดีใจ ถึงอย่างไรก็ตามคนที่เขาหักหน้าคือกงซุนเฟยเทียน นั่นเป็นคนที่ต่อสู้กันภายในตระกูลเพื่ออำนาจของตน
“ใช่แล้ว อาจารย์หลินคะ ครั้งนี้ที่ท่านเดินทางไกลมานับพันลี้ เงินก็อนนี้ถือว่าเป็นการแสดงน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ของตระกูลกงซุนของพวกเรา ต่อไปถ้ามีเรื่องอะไรท่านเอ่ยปากได้เลยนะคะ” กงซุนชิวอวี่กล่าวด้วยสีหน้าที่จริงจัง
เธอรู้ว่าสำหรับหลินอิ่งแล้ว เงินก็อนนี้ไม่สำคัญเท่าไหร่ แต่เธอหวังเพียงว่าลูกพี่ลูกน้องฉีหยิ่นจะ
ขจัดความโกรธภายในใจได้ อย่าได้ความรู้สึกไม่ดีต่อตระกูลกงซุน ถึงอย่างไรตอนนี้ภายในตระกูลกงซุนก็มีปัญหาร้ายแรงภายใน ลูกพี่ลูกน้องมีอำนาจที่ใหญ่โตเช่นนี้ หากเขายินดีที่จะช่วยก็ดีเลย
“ไม่จําเป็น ผมยังมีเรื่องที่ต้องทำ” หลินอิ่งกล่าวออกมาอย่างเด็ดขาด
แน่นอนว่าเขารู้ว่าเรื่องของตระกูลกงซุนไม่ธรรมดา แต่นั่นไม่เกี่ยวอะไรกับตนแล้ว เขาแค่เห็นแก่กงซุนชิวอวี่ จึงมาช่วยรักษาอาการของกงซุนฉงหลง เรื่องภายในครอบครัวของพวกเขา เขาไม่มีเวลาว่างขนาดนั้นไปยุ่งกับเรื่องนี้ ดูแลตัวเองเถอะ
พูดจบ หลินอิ่งก็หันหลังและเดินจากไป
“นี่มัน…” สีหน้าของกงซุนเฟยหงดูแย่ลง หลินอิ่งคนนี้ดูไม่ธรรมดาจริงๆ เลย เขาไม่ได้มาเพื่อเงินหรือหนี้น้ำใจของตระกูลกงซุนเลย พวกเขาให้เงินเขาก็ไม่เอา
เขาอยากจะซื้อตัวชายยอดฝีมือคนนี้เอาไว้ ตอนนี้คงไม่มีทางแล้ว เหมือนว่าคนคนนี้แค่เห็นแก่กงซุนชิวอวี่ลูกสาวของเขาถึงมาที่ตระกูลกงซุน
“ชิวอวี่ เธอไปส่งอาจารย์หลินหน่อย นายท่านขอให้ฉันเข้าไปคุยด้วย “กงซุนเฟยหงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง ในมือของเขาถือโทรศัพท์ไว้ สีหน้าเคร่งเครียดถึงที่สุด
กงซุนชิวอวี่พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม แล้วเดินตามเขาไป
ไม่นาน หลินอิ่งได้เดินออกจากวิลล่าฉงหลงไป กงซุนชิวอวี่ยืนยันว่าจะไปส่งเขาที่สนามบินให้ได้ แล้วให้คนขับรถไปขับรถของตัวเองมา และขับตรงไปยังถนนที่รุ่งเรือง