ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 177 งานเลี้ยงสังคมผู้ดี
บทที่ 177 งานเลี้ยงสังคมผู้ดี
หลังกินข้าวที่ร้านอาหารฟองซัมเมอร์เสร็จแล้ว หลินอิ่งกับจางฉีโม่ก็กลับบ้าน
จางฉีโม่กลับไปพักผ่อนที่วิลล่าหิมะมังกร ส่วนหลินอิ่งกลับไปที่เกาะ
เสิ่นซานทำงานอย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ คืนนั้นก็เปิดปากฮาพิได้ โทรไปรายงานสถานการณ์ หลินอิ่งก็ไม่ลังเล สั่งเสิ่นซานจัดการเรื่องให้เรียบร้อย ทำลายโกดังของลาตินกรุ๊ป
วันที่สอง
หลินอิ่งออกไปตอนบ่าย นั่งรถมาถึงตึกจัดงานใจกลางเมือง
วันนี้ฉีโม่ต้องไปร่วมงานเลี้ยงใหญ่ ได้ยินว่าเป็นงานโฆษณาเครื่องประดับ ก็ถือว่าเป็นงานเลี้ยงรวมตัวของกลุ่มสังคมผู้ดีในเมืองตุงไห่ มีคนมาร่วมงานมากมายจากแวดวงต่างๆ เป็นการแลกเปลี่ยนทรัพยากรทางธุรกิจ
ฉีโม่เตรียมตัวลงทุนบทละครเรื่องหนึ่ง เพื่อถ่ายทำโฆษณา
แม้กระทั่งพ่อแม่จางฉีโม่ก็มาด้วย อยากโชว์หน้าในวงการด้วย
งานเลี้ยงในวงการธุรกิจผู้ลากมากดีในทุกสาขามากันพร้อมหน้า เจียงฉีก็มาร่วมงานเช่นกัน และมีการลงทุนที่ดินแห่งหนึ่ง สถานที่แบบนี้จางฉีโม่ก็ยังไม่ค่อยคุ้นเคยนัก ก็เรียกเขามาด้วย
พอถึงหน้าประตูทางเข้าอาคาร ด้านหน้าเต็มไปด้วยผู้คน และมีนักข่าวมากมาย
หลินอิ่งกวาดตามอง พบว่ารถของอู่เจิ้งจอดอยู่ในลาน รู้ว่าฉีโม่เข้าไปในงานแล้ว
ติ๊ด
เวลานี้ โทรศัพท์ดังขึ้น
เสิ่นซานโทรมา
“ฮัลโหล ท่านหลิน เมื่อคืนผมทำลายโกดังพวกเขา คนของลาตินกรุ๊ปตอนสนองมาแล้ว ตอนนี้ ส่งคนมาสร้างเรื่องในถิ่นของผมแล้ว ต้องจัดการยังไง?” ในโทรศัพท์ เป็นเสียงของเสิ่นซานพูดอย่างเคารพ
“เพิ่มกำลังคนเข้าไปจัดการ ต้องบีบให้พวกเขาส่งคนที่ใหญ่ที่สุดออกมา ต้องเจาะให้ถึงที่สุด ต้องสืบให้รู้ถึงผู้รับผิดชอบตัวจริงของลาตินกรุ๊ปให้ได้” หลินอิ่งพูดเด็ดขาด
“ทางนี้ยังมีธุระ มีความคืบหน้าอะไรค่อยโทรมา”
“ครับ” ได้ยินคำสั่งของหลินอิ่ง เสิ่นซานก็มั่นใจ
สั่งกำชับเสร็จ หลินอิ่งวางสาย เดินเข้าไปในงาน เข้าไปในลิฟต์
จากการรายงานเมื่อคืนของเสิ่นซาน บอกว่าเรื่องราวที่ได้จากปากฮาพิ ผู้รับผิดชอบตัวจริงของลาตินกรุ๊ปไม่เคยปรากฏตัวในเมืองชินหยูนเลย ปกติก็มีเพียงฮาพิรับผิดชอบจัดการแทน แม้กระทั่งรองประธานบริษัทอย่างฮาพิ ก็รู้เพียงว่าประธานบริษัทที่รับผิดชอบดูแลธุรกิจ เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญการดูแลธุรกิจที่จ้างมาเท่านั้น ไม่ใช่นายใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังจริง
จุดนี้ทำให้หลินอิ่งรู้สึกสนใจ หลังเสิ่นซานรายงานตำแหน่งแล้ว ก็ให้คนไปที่ท่าเรือระเบิดโกดังสินค้าของลาตินกรุ๊ป เป้าหมายก็คือบีบให้คนที่อยู่เบื้องหลังออกมา
ตีงูต้องตีเจ็ดนิ้ว ไม่อย่างนั้นวนเวียนอยู่แต่กับผู้จัดการหลายคน ไม่มีประโยชน์
คิดไป ลิฟต์ก็มาถึงชั้น28 ติ๊งต่อง ประตูลิฟต์เปิด
งานเลี้ยงในชั้น28 ล้วนเป็นชายหญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวสง่า เดินอยู่บนพรมแดง ตกแต่งอย่างหรูหรา บนโต๊ะยาวทุกโต๊ะมีไวน์ราคาแพงวางอยู่ ยังมีพนักงานต้อนรับคอยให้บริการอย่างมืออาชีพ
เครื่องประดับ ยารักษาโรค อสังหาริมทรัพย์ การเงิน คนใหญ่คนโตในแต่ละสาขาอาชีพของเมืองชินหยูน นี่ก็คือแวดวงในการขยายความสัมพันธ์ทางธุรกิจของตัวเอง
หลินอิ่งเห็นตำแหน่งที่จางฉีโม่อยู่ เดินเข้าไป
จางฉีโม่ครอบครัวสามคน นั่งอยู่ในโต๊ะเดียวกัน บนโต๊ะมีของว่างที่จัดอย่างประณีตและไวน์สองขวด
ตรงข้างทั้งสามคน ยังมีชายวัยกลางคนในชุดสูทนั่งอยู่ มีความรู้สึกของนักธุรกิจ
“หลินอิ่ง ไม่มีชุดสูทที่ดูดีสักนิดเลยเหรอ? ทำไมถึงแต่งตัวสภาพแบบนี้มา?” ลู่หย่าฮุ่ยทำสีหน้ารังเกียจมองไปที่หลินอิ่ง อย่างอารมณ์เสีย
หลินอิ่งไม่อยากพูดกับเธอ นั่งลงไปอย่างนั้น
“คนนี้คือ?” ชายวัยกลางคนมองหลินอิ่งไปสักพัก แล้วถาม
“คนนี้เป็นผู้ช่วยของลูกสาวฉัน แซ่หลิน”
จางฉีโม่ยังไม่ได้พูด ลู่หย่าฮุ่ยก็พูดก่อน
“ผู้ช่วยหลิน สวัสดี ผมเป็นประธานบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์เฉียนเว่ย หูซิง” หูซิงยิ้มพูดแล้วยื่นนามบัตรไป
หลินอิ่งพยักหน้า รับนามบัตรมาโดยไม่พูดอะไรเลย
“ประธานจาง ข้อเสนอของบริษัทเราก็พูดหมดแล้ว คุณพิจารณาแล้วหรือยัง?” หูซิงพูดจริงจัง “ครั้งนี้เป็นดาราที่ดังที่สุดของบริษัทเรา หูจินวั่งมาถึงเมืองตุงไห่ มีเวลาพอดี สามารถช่วยบริษัทของพวกคุณโฆษณาอย่างได้ผลที่ดีแน่นอน”
จางฉีโม่สีหน้าลังเล เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง
ความจริงแล้วเธออยากหาบริษัทภาพยนตร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเครื่องประดับมาช่วยทำโฆษณามากกว่า ถ้าดีที่สุดให้ถ่ายทำเป็นแบบสารคดี ไม่ได้อยากใช้ดาราโด่งดังแบบนั้น เพราะว่านี่เป็นการโฆษณาเครื่องประดับมูลค่าสูง ไม่ใช่สินค้าราคาถูก ดาราคนนั้นอาจจะมีคนชอบมากมาย แต่อาจจะไม่ได้รับผลตอบรับแบบที่ต้องการ
“ไอ้หยา ดาราของบริษัทคุณคือหูจินวั่งเหรอ? ฉันเคยได้ยินชื่อเขา คนที่ออกทีวีบ่อยๆใช่ไหม? มีชื่อเสียงมาก” ลู่หย่าฮุ่ยพูดอย่างสีหน้าระรื่นดีใจ
“ฉีโม่ เลือกบริษัทนี้เลย แม่ว่าต้องดีแน่นอน” ลู่หย่าฮุ่ยพูด
จางฉีโม่ลังเลนิดหนึ่ง พูด “งั้นก็ได้ ทางบริษัทให้คุณหูจินวั่งมาคุยเรื่องรายละเอียดของสัญญาก่อน”
“ได้ครับ ประธานจาง ผมไปเรียกคุณจินวั่งมาเดี๋ยวนี้ ขอให้พวกเราร่วมมือกันอย่างมีความสุข” หูซิงยิ้มพูด รีบลุกขึ้นแล้วโทรศัพท์
“ฉีโม่ ใช่แล้ว ฉันบอกให้เธอบอกหลินอิ่งเอาของขวัญมาด้วยไม่ใช่เหรอ? ทำไมเรื่องแค่นี้ก็ทำไม่ได้?” ลู่หย่าฮุ่ยมองหลินอิ่งมามือเปล่า สีหน้าไม่ค่อยดี “ได้ยินว่าครั้งนี้ประธานเจียงฉีก็มา เขาช่วยหาเงินลงทุน ก็ไม่รู้จักเอาของขวัญมาขอบคุณ ขยายความสัมพันธ์หน่อย?”
“ใช่ เดี๋ยวประธานเจียงมา ใส่แบบนี้ก็ไม่อายสักนิดเลยเหรอ พวกเรารู้สึกขายหน้า”
จากนั้น ลู่หย่าฮุ่ยกับจางซิ่วเฟิงก็ต่อว่าหลินอิ่งอย่างไม่จบไม่สิ้น
หลินอิ่งทำเหมือนไม่ได้ยิน แทน้ำชามาดื่ม
เขารอเจียงฉีอยู่จริง แต่ว่ารอเจียงฉีมาเพราะมีเรื่องจะสั่งเขาทำ
ไม่นาน หูซิงกับชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งเดินมา
ชายหนุ่มแต่งตัวลวดลายฉูดฉาด แบรนด์เนมทั้งตัว แบบตะวันตกผสมกับเสื้อแบบโบราณ แยกไม่ออกว่าเป็นสไตล์แบบไหน แต่ดูแล้วก็ทันสมัยดี
“คุณหูจินวั่ง สวัสดีค่ะ” จางฉีโม่ทักทายอย่างเกรงใจ
“ประธานจาง สวัสดีครับ คุณสวยกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลย” หูจินวั่งพูด สายตาประกายตอนมองไปที่จางฉีโม่ รู้สึกแปลกใจ
จากนั้น ก็กวาดสายตามองหลินอิ่งกับคนอื่น ความมั่นใจบนใบหน้าที่ปกปิดไม่ได้
“เป็นคุณหูจินวั่งจริงๆ ดาราดัง” ลู่หย่าฮุ่ยสีหน้าตื่นเต้น คิดไม่ถึงว่าตอนนี้ฉีโม่จะเชิญดาราทีวีมาร่วมงานกันได้
“คืออย่างนี้ครับ ประธานจาง ได้ยินว่าคุณอยากร่วมงานกับผม?” หูจินวั่งพูดเสียงเรียบ สีหน้าหยิ่งยโส “ส่วนตัวไม่ชอบสถานที่เสียงดังวุ่นวาย อยากคุยเรื่องร่วมงานกัน พวกเรากินไปด้วยคุยไปด้วยดีกว่า ผมจองห้องอาหารไว้แล้ว หวังว่าคุณจะแต่งตัวทันสมัยหน่อย ผมก็ไม่ชอบงานเลี้ยงที่ไร้รสนิยม”