ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 210 ผู้ถือหุ้นร่วมกันยอมสวามิภักดิ์
บทที่ 210 ผู้ถือหุ้นร่วมกันยอมสวามิภักดิ์
“ทำได้ดีมาก” หลินอิ่งพยักหน้า “เรื่องจัดการกับกลุ่มเฮยยิงยังไม่ต้องรีบร้อน จัดการกับนายคริสให้เรียบร้อยก่อน เรื่องที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของไห่หยางกรุ๊ป”
จัดการกับกลุ่มเฮยยิงยังมีเวลาอีกมาก ก้าวแรกของอำนาจในต่างแดน ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ แต่ตอนนี้เราต้องรีบจัดการกับเขาให้เรียบร้อยก่อน ก่อนที่เขาจะรู้ตัวว่ากลุ่มเฮยยิงถูกจัดการแล้ว
มีเพียงกำจัดลาตินกรุ๊ปในเมืองชิงหยูนอย่างเงียบๆ การวางหมากตัวนี้จะได้น่าสนใจ มิฉะนั้นถ้าเปิดเผยออกไป ข่าวนี้รายงานไปถึงสำนักงานใหญ่ของลาตินกรุ๊ป เช่นนั้นกลุ่มเฮยยิงหมากตัวนี้ก็จะไม่มีค่าอะไรเลย
“ผู้ถือหุ้นของทางไห่หยางกรุ๊ป พวกเขากวาดซื้อไปแล้วกี่คน” หลินอิ่งถามอย่างเคร่งขรึม
เสิ่นซานกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของไห่หยางกรุ๊ปเกือบทั้งหมด พร้อมโอนหุ้นและทรัพย์สินทั้งหมดให้ลาตินกรุ๊ป สองวันนี้พวกเขาแอบดำเนินการกับนายคริสแล้ว”
“ตอนนี้เจียงฉีไม่ได้อยู่นั่งบัญชาการ จึงไม่สามารถดูแลการประชุมผู้ถือหุ้นได้ ถ้าให้ภาคธุรกิจเหล่านั้นของนายคริสประสบความสำเร็จ เช่นนั้นเงินที่ท่านหลินลงทุนไปในไห่หยางกรุ๊ปก็จะศูนย์เปล่าทันที” เสิ่นซานกล่าวอย่างกังวล
การผนวกไห่หยางกรุ๊ป ฟังดูเหมือนซับซ้อนมาก แต่ในความเป็นจริงง่ายมากในทางปฏิบัติ แต่สำหรับผู้มีประสบการณ์อย่างนายคริส ชำนาญรู้ทางหนีทีไล่ดี
หลินอิ่งคุกคามและลักพาตัวผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทั้งหมดไปอยู่รวมกัน หลังจากนั้น และกวาดซื้อบุคคลที่ดำเนินการในบริษัทให้หมด เงินที่ตัวเองลงทุนให้เจียงฉีในไห่หยางกรุ๊ป ก็จะกลายเป็นเปลือกว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง หลังดำเนินการ ก็จะสูญเสียคุณค่าโดยสิ้นเชิง หลายพันล้านที่ลงทุนก่อนหน้านั้น ก็จะสูญเสียคุณค่าในไม่ช้า เปลี่ยนเป็นอุตสาหกรรมภายใต้ลาตินกรุ๊ป
หลินอิ่งจิบชาหนึ่งคำ เคาะนิ้วเบาๆ ตกอยู่ในความคิด คิดว่าจะใช้วิธีไหนกำจัดนายคริส
ติ๊ดๆ
ณ ตอนนี้ โทรศัพท์ที่เสิ่นซานวางไว้บนโต๊ะดังขึ้น
” เสิ่นซานสีหน้าลังเล มองไปที่โทรศัพท์ แล้วมองไปที่หลินอิ่ง กล่าวอย่างเคร่งขรึม “ท่านหลิน ฉินฝู้กุ้ยโทรมา”
”ฉินฝู้กุ้ย” หลินอิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย
ฉินฝู้กุ้ยของเขตเหนือของเมืองตั้งแต่พึ่งพาตัวเอง ก็เป็นผู้ช่วยของเจียงฉีตลอดมา ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของเจียงฉี
ฉินฝู้กุ้ยก็ถือว่าเป็นคนที่รู้สถานการณ์ปัจจุบัน หลังจากที่ทุบตีเขาอย่างหนักที่เขตเหนือของเมืองแล้ว ก็ตั้งใจทำงานเป็นอย่างดี ในช่วงเวลานี้ปฏิบัติตัวและวางตัวดี
ดังนั้น ครั้งนี้เจียงฉีถูกลอบทำร้ายรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เขาก็เลยมอบหมายให้ฉินฝู้กุ้ยรักษาการแทนเจียงฉีในไห่หยางกรุ๊ป รับผิดชอบงานประจำวันของประธาน
“คุณรับสายสิ ดูว่าเขาจะรายงานเรื่องอะไร” หลินอิ่งกล่าวเบาๆ
เสิ่นซานพยักหน้า ลุกขึ้นแล้วรับโทรศัพท์ พูดคุยกับฉินฝู้กุ้ย
หลินอิ่งจุดบุหรี่หนึ่งมวล เสิ่นซานสนทนากับฉินฝู้กุ้ยประมาณหนึ่งถึงสองนาที จึงวางสาย
หลังจากวางสาย เสิ่นซานกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังและหนักแน่น “ท่านหลิน เมื่อครู่ฉินฝู้กุ้ยโทรหาฉันแล้วบอกกับฉันว่า ผู้ถือหุ้นของไห่หยางกรุ๊ปเรียกประชุมกรรมการแล้ว ผู้ถือหุ้นร่วมกันยอมจำนน เสนอแผนให้ลาตินกรุ๊ป
รับช่วงต่อ เห็นได้ชัดว่าเป็นการบีบให้ออก เขาไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว”
“ฉินฝู้กุ้ยกำลังขอความช่วยเหลือจากฉัน และอยากขอคำแนะนำจากท่านหลินด้วย” เสิ่นซานกล่าวเพิ่มเติม
ท่านหลินดับบุหรี่ในมือ สีหน้าปกติ กล่าวว่า “ไปขับรถ ไปอาคารไห่หยาง”
“ครับ”
เสิ่นซานพยักหน้า เดินออกจากสวนไป รีบไปที่จอดรถของเกาะเทียม
สามนาทีต่อมา โรลส์-รอยซ์ แฟนเธอมขับออกจากสะพานเกาะเทียม มุ่งหน้าไปที่เขตเหนือของเมือง
ที่เบาะหลังของรถ หลินอิ่งดวงตาเย็นชามาก มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย
ต้องบอกว่า ประสิทธิภาพในการดำเนินการของลาตินกรุ๊ปค่อนข้างเร็ว เจียงฉีเข้าโรงพยาบาลก็ดำเนินงานทันที ข่มขู่ครอบครัวของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของไห่หยางกรุ๊ปทั้งหมด กวาดต้อนผู้คนเหล่านี้ขึ้นรถศึกของพวกเขา ในภาคธุรกิจ และใต้ดิน ในที่สว่างหรือที่มืดโจมตีในเวลาเดียวกัน ลงมือพร้อมกัน
นายคริสคนนี้คู่ควรกับการที่ยักษ์ใหญ่ส่งไปนอกสำนักงานใหญ่ของกลุ่มบริษัทข้ามชาติ วิธีการค่อนข้างเฉียบคม
เพียงแค่พวกเขาไม่ได้สำรวจก่อนว่า ที่กำลังลงมือเป็นกระเป๋าเงินของใคร
ยี่สิบกว่านาทีต่อมา รถก็มาถึงเขตเหนือของเมือง จอดอยู่ใต้อาคารไห่หยาง
หลินอิ่งกับเสิ่นซานลงมาจากรถ เพิ่งเดินไปถึงที่ประตู ดวงตาของเขาถูกดึงดูดโดยร่างที่คุ้นเคย
ชายหนุ่มที่สวมแว่วตา สีหน้าดูได้ใจเดินออกมาจากห้องโถงไห่หยางกรุ๊ป กลุ่มคนในชุดสูทล้อมรอบ ด้านหลังตามมาด้วยบอดี้การ์ดสองคนและทีมธุรกิจที่มีความสามารถ เอิกเกริกมาก มองดูเหมือนคนใหญ่คนโต
“อ้อ หลินอิ่ง ทำไมเหรอ คุณดูตื่นตกใจ กลัวเหรอ มาดูไห่หยางกรุ๊ปเปลี่ยนเจ้าของเหรอ” ทันทีที่เซียวจวงเห็นหลินอิ่งมาถึง เยาะเย้ยทันที แววตาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
หลินอิ่งมองเซียวจวงแล้วยิ้มอย่างเย็นชา และไม่ได้ใส่ใจ
“เฮอ พูดไม่ออกแล้วเหรอ ที่พึ่งของคุณเจียงฉีหดหัวอยู่ในโรงพยาบาลไม่กล้าออกมาแล้ว ส่งคนบทบาทเล็กๆอย่างคุณมาจัดการกับสถานการณ์ จะจัดการกับสถานการณ์ได้เหรอ” เซียวจวงกล่าวอย่างดูถูก “เอาล่ะ ฉันยังมีธุระที่ต้องทำ ไม่อยู่ดูสวะอย่างคุณแล้ว คอยมองดูบริษัทของผู้สนับสนุนรายใหญ่ล้มละลายอย่างไร อย่างไรก็ตาม อีกไม่กี่วันเราก็จะได้พบกันอีก”
“หลินอิ่ง อย่าลืมเล่นให้สนุกในสองวันนี้ เพราะหลังจากที่ฉันรับช่วงต่อไห่หยางกรุ๊ป ก็จะไปหาคุณทันที ฝันร้ายของคุณก็จะเริ่มขึ้น” เซียวจวงหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ หันหลังแล้วจากไป นั่งเข้าไปในรถบ้านออกจากอาคารไห่หยาง
“ท่านหลิน คนคนนี้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของลาตินกรุ๊ป คงมาที่นี่เพื่อระบายผู้ถือหุ้นที่ทรยศ” เสิ่นซานกล่าวที่ด้านข้าง ดวงตาเย็นชาจ้องมองที่เซียวจวง
เสิ่นซานเมื่อวานสอบสวนตัวแทนธุรกิจของลาตินกรุ๊ปลี่น่า ก็รู้เรื่องภายในแล้ว ลาตินกรุ๊ปมีนายคริสคอยประสานงานอยู่เบื้องหลัง เซียวจวงเดินอยู่บนเวที
มันเป็นที่ชัดเจน วันนี้ผู้ถือหุ้นของไห่หยางกรุ๊ปร่วมกันยอมจำนน เซียวจวงมาเพื่อสั่งการ
“ท่านหลิน หรือว่า ตอนนี้ให้ฉันนำคนจะจับตัวเขาไว้” เสิ่นซานถามอย่างไม่แน่ใจ และทนดูท่าทางของเซียวจวงไม่ไหวแล้ว
“ไม่ต้องสนใจเขา ก็แค่ตัวตลก”หลินอิ่งกล่าวเบาๆ
ตัวตลกอย่างเซียวจวงเหยียบเขาอยู่ใต้เท้าเขาก็ยังไม่สำนึก ต้องรื้อหลังเวทีของเขา เขาถึงจะหยุดแสดงๆได้
ขณะที่พูด หลินอิ่งกับเสิ่นซานเดินเข้าไปในอาคารไห่หยาง ขึ้นลิฟต์ไปที่ห้องประชุมคณะกรรมการที่ชั้นห้าสิบเก้า
สวมสูทอย่างเป็นทางการ ฉินฝู้กุ้ยรูปร่างอ้วนเหงื่อออกเต็มหัว ยืนตรงหน้าประตูพร้อมกับบอดี้การ์ดสองคน
รออย่างใจจดใจจ่อ ทันทีที่เห็นหลินอิ่งกับเสิ่นซานมาถึง ยิ้มออกทันที
“ท่านหลิน ท่านมาด้วยตัวเองเลยเหรอ” ฉินฝู้กุ้ยกล่าวอย่างเซอร์ไพรส์ “ท่านหลิน คนพวกนี้ทรยศ จัดประชุมคณะกรรมการ ตอนนี้ในห้องประชุมมีความรุนแรงมาก”