ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 213 พวกคุณบูชาผิดคนแล้ว
บทที่ 213 พวกคุณบูชาผิดคนแล้ว
“ดูให้ดี ๆ” หลินอิ่งกล่าวอย่างเรียบ ๆ พลางจุดบุหรี่ขึ้นมา
เสิ่นซานมองดูคณะกรรมการที่กำลังตกตะลึงพวกนั้น เขายิ้มเยาะหนึ่งครั้ง โครม! เขาโยนเอกสารในมือลงบนโต๊ะตรงหน้าของเหล่าคณะกรรมการ
“พวกคุณแหกตาดูให้ชัดเจนก่อนค่อยพูด!” เสิ่นซานกล่าวอย่างเย็นชา “จำไว้ เรื่องที่ลาตินกรุ๊ปทำได้ ท่านหลินก็สามารถทำได้เช่นกัน!”
“นี่มัน…” กรรมการผู้หญิงที่เอะอะโวยวายในก่อนหน้านี้ มองหลินอิ่งด้วยสีหน้าหวาดเกรง ในสายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เอกสารและข้อมูลที่เสิ่นซานนำออกมานั้นเต็มไปด้วยพลังโจมตี ข้อมูลเหล่านี้สำหรับพวกเขาแล้ว ถือเป็นจุดอ่อนที่สามารถเอาชีวิตพวกเขาได้เลย
อีกอย่าง ข้อมูลพวกนี้พวกเขาได้มอบให้ลาตินกรุ๊ปไปแล้วนี่ ทำไมถึงไปตกอยู่ในมือของเสิ่นซานได้?
ในเรื่องราวที่ซับซ้อนนี้แท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“ของพวกนี้ พวกคุณได้มันมาจากไหนกัน?” กรรมการคนหนึ่งถามด้วยท่าทางสั่นเทา พร้อมกับเหงื่อที่ไหลออกมาบนหน้าฝากของเขา
“คุณคิดว่ายังไงล่ะ?” เสิ่นซานถามกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อย่าคิดว่าผมไม่รู้ว่าพวกคุณกับลาตินกรุ๊ปแอบทำอะไรกัน ลาตินกรุ๊ปสั่งให้คนใช้กำลังบีบบังคับญาติ ๆ ของพวกคุณ พวกคุณไม่คิดหาวิธีต่อต้าน กลับเป็นสุนัขรับใช้พวกมัน? เพื่อผลประโยชน์เพียงน้อยนิด แม้แต่ศักดิ์ก็ไม่ต้องการแล้ว?”
“ข้อมูลพวกนี้ ผมยึดมาจากพวกมีฝีมือของลาตินกรุ๊ป” เสิ่นซานกล่าวอย่างเฉื่อยชา “ผมจะบอกพวกคุณให้นะ แค่พวกลาตินกรุ๊ปนั่น ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผมหรอก พวกคุณบูชาผิดคนแล้ว รู้ไหม?”
ในตอนที่เสิ่นซานพึ่งยึดเอกสารพวกนี้มาจากกลุ่มเฮยยิง และได้รับรู้แผนการปลุกระดมคณะกรรมการไห่หยางกรุ๊ปของพวกมัน เขาก็ตกใจมากเหมือนกัน เมื่อสิ่งของเหล่านี้วางอยู่ตรงหน้ามันช่างทำให้จิตใจสั่นสะเทือนเสียจริง ๆ
คนธรรมดาหลังจากที่ต้องเผชิญหน้ากับวิธีการข่มขู่ที่น่าหวาดกลัวของกลุ่มเฮยยิง จะทนได้ยังไง? ยังมีแรงดึงดูดจากเงินก้อนโตของลาตินกรุ๊ปอีก พวกผู้ถือหุ้นเหล่านี้จะต้องเปลี่ยนพรรคโดยไม่ต้องคิดอย่างแน่นอน
ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อคืนท่านหลินตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะกำจัดกลุ่มเฮยยิง ไห่หยางกรุ๊ปจะต้องแย่แน่ ๆ อีกไม่นานก็คงจะถูกกลืนกิน สูญเสียมหาศาล
เมื่อเห็นสถานการณ์ในวันนี้ ภายในใจของเสิ่นซานนับถือกลยุทธ์ของหลินอิ่งเป็นอย่างมาก ช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ
ในขณะที่เสิ่นซานชี้แจงออกมา คณะกรรมที่อยู่ตรงนั้นล้นมีสีหน้าที่ทุกข์ระทม ทุกคนล้วนไม่เหลือความมีสง่าราศีเหมือนก่อนหน้านี้ ท่าทางเหมือนกับดอกไม่ที่เหี่ยวเฉา ทุกข์ทรมานจนพูดไม่ออก
“นี่ ท่านสาม ประธานหลิน พวกเรา… พวกเราถูกลาตินกรุ๊ปขู่บังคับ ไม่ได้ตั้งใจจะเป็นปรปักษ์กับพวกท่านทั้งสองจริง ๆ!” กรรมการคนหนี่งทนความกดดันไม่ได้ ขอโทษขอโพยด้วยน้ำเสียงหวาดผวา
ในเอกสารข้อมูลที่อยู่ตรงหน้า มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่สำคัญของเขาอยู่ เพียงแค่ลงมือเล็กน้อย ก็สามารถทำให้เขาล้มละลายโดยสิ้นเชิงได้
ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ยังมีข้อมูลส่วนตัวของเขาอีก ใครจะไปรู้ว่าเสิ่นซานจะเป็นเหมือนกับลาตินกรุ๊ปหรือไม่ ที่ทำเรื่องบ้าคลั่งอย่างลักพาตัวฆ่าปิดปากอะไรแบบนั้น
“ใช่แล้ว ท่านสาม ประธานหลิน พวกเราถูกพวกคนต่างชาติพวกนั้นบังคับขู่เข็ญจริง ๆ ในตอนนี้พวกท่านก็ได้รับรู้ความจริงแล้ว เป็นเพราะไม่มีทางเลือก! ปล่อยฉันไปเถอะ อย่าลงมือกับฉันเลยนะคะ!” กรรมการผู้หญิงคนหนึ่งกล่าวขอร้อง
“เหอะ” เสิ่นซานยิ้มเยาะอย่างเหยียดหยาม “ผมไม่ใช้วิธีสกปรกแบบลาตินกรุ๊ปหรอก เพียงแต่ว่า คนทรยศอย่างพวกคุณ อย่าหวังที่จะได้อยู่ที่ไห่หยางกรุ๊ปอีกต่อไป!”
“หา? นี่… ท่านสาม นี่มันเด็ดขาดเกินไปไหม?”
“ท่านสาม ประธานหลิน พวกเราไม่ได้มีความคิดอื่นเลยนะ เพียงแค่ไม่มีทางเลือกจริง ๆ”
คณะกรรมการที่อยู่ตรงนั้นรีบร้อนขอความเห็นใจ ในตอนนี้ไม่เหลือความมั่นใจเลยแม้แต่น้อย ถูกวิธีการของเสิ่นซานและหลินอิ่งทำให้หวาดผวาอย่างสิ้นเชิง อยู่ต่อหน้าสองคนนี้ พวกเขาไม่เหลือความลับอะไรแล้ว และยิ่งไม่มีความมั่นใจใด ๆ เลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเอกสารพวกนี้ปรากฏออกมา ทำให้พวกเขาสูญเสียความเชื่อมั่นที่มีต่อลาตินกรุ๊ป
“เหอะ” เสิ่นซานยิ้มเยาะเสียงเย็นชา “เด็ดขาดเกิน? พวกกินข้างในปีนป่ายออกข้างนอก นกสองหัวอย่างพวกคุณ ยังอยากจะมีจุดจบที่ดีอีกเหรอ?”
“ท่านสาม อย่าพึ่งได้ใจเร็วจนเกินไป!” ลู่หยวนพลันกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น สีหน้าจริงจัง “ทุกท่าน อย่าได้ถูกเอกสารข้อมูลพวกนี้ทำให้ตกใจ พวกนี้สามารถพิสูจน์อะไรได้?”
“ท่านสาม ในเมื่อพูดถึงขนาดนี้แล้ว จะฉีกหน้ากัน งั้นผมจะพูดให้ชัดเจนตรงนี้เลย” ลู่หยวนกล่าวอย่างกำเริบเสิบสาน “พวกเราจะขึ้นเรือลำเดียวกันกับลาตินกรุ๊ปจริง ๆ แล้วยังไงเหรอ? พวกคุณขัดขวางลาตินกรุ๊ปได้เหรอ ไห่หยางกรุ๊ปปอยู่ได้อีกไม่กี่วันแล้ว!”
ถึงแม่จะตกใจกับเอกสารที่เสิ่นซานนำออกมา แต่ทว่าลู่หยวนไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย เขาได้เดิมพันทั้งหมดกับลาตินกรุ๊ปไปหมดแล้ว และไม่เชื่อว่าหลินอิ่งที่เสิ่นซานพามาเปลี่ยนแปลงอะไรได้
“ท่านสาม ท่านก็แค่ได้เอกสารข้อมูลพวกนี้มา ถึงได้รู้แผนการของลาตินกรุ๊ป แต่พวกคุณสามารถเปลี่ยนแปลงความจริงได้เหรอ? พลังที่แข็งแกร่งวางอยู่ตรงนั้น ยังไงไห่ยางกรุ๊ปก็สู้ลาตินกรุ๊ปไม่ได้! ทำไมพวกเราต้องเลือกกิจการที่กำลังจะล้มละลาย? แล้วไปปฏิเสธลาตินกรุ๊ปที่กำลังเจริญรุ่งเรือง?” ลู่หยวนกล่าวอย่างเย็นชา
“ทุกท่าน พวกคุณสบายใจได้ อย่าคิดว่าเสิ่นซานจะสามารถทำอะไรได้ ผมจะแจ้งกับนายเซียวจวง จะต้องปกป้องความปลอดภัยของพวกคุณอย่างแน่นอน เสิ่นซานทำอะไรพวกเราไม่ได้หรอก!”
ลู่หยวนหันหน้าไปยังกลุ่มผู้ถือหุ่นที่นั่งอยู่ กล่าวอย่างมั่นใจ
“ช่างกล้ามากจริง ๆ” เสิ่นซานจ้องมองลู่หยวนอย่างเย็นชา เขาโมโหเป็นอย่างมาก
คนคนนี้ตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะเป็นสุนัขรับใช้ให้ชาวต่างชาติพวกนั้น ทั้งยังจะดึงเอาคนอื่นไปช่วยมันชายชีวิต
“ทุกท่าน พูดจนถึงขนาดนี้แล้ว ฉีกหน้าซึ่งกันและกัน ก็ไม่มีอะไรต้องพูดอีกแล้ว” ลู่หยวนสีหน้าท่าทางเปิดเผย จัดเนกไท แล้วลุกขึ้นกล่าว “พวกเราไป กลับไปแล้วลงมือในทันที ขายไห่หยางกรุ๊ปแล้วแบ่งเงินกันก็เรียบร้อยแล้ว ยังต้องพูดอะไรกับพวกเขาอีก?”
ในสายตาของลู่หยวน ไม่จำเป็นที่จะต้องคุยอะไรกับขยะอย่างเสิ่นซานอีกแล้ว เพียงแค่ทำตามขั้นตอนที่เซียวจวงสั่งก็พอแล้ว เปลี่ยนเจ้าของของไห่หยางกรุ๊ป พวกเขาแค่รอรับเงินก็พอ
พลังของลาตินกรุ๊ปแข็งแกร่งแบบนั้น เสิ่นซานเป็นหัวมังกรแห่งเมืองตุงไห่แล้วยังไง? ก็เกือบถูกตีจนตายไม่ใช่เหรอ!
“ไป? แกคิดจะไปไหนเหรอ?” หลินอิ่งดับบุหรี่ จ้องมองลู่หยวนด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก
“ฉันอยากจะไปไหน แกยุ่งอะไรด้วย? เจียงฉีสนับสนุนแก เศษวะอย่างแกก็คิดว่าตัวเองเป็นคนที่มีระดับขึ้นมาแล้วเหรอ?” ลู่หยวนกล่าวอย่างไม่เกรงใจ เหยียดหยามโดยสิ้นเชิง “ฉันจะบอกพวกแกให้นะ ในอนาคตคเมืองตุงไห่จะกลายเป็นดินแดนของลาตินกรุ๊ป ฉันเป็นคนแรกที่เข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็นเสิ่นซาน หรือเจียงฉี ฉันก็ไม่กลัวทั้งนั้น!”
หลินอิ่งยิ้มเยอะอย่างเหยียดหยาม เขาลุกขึ้นอย่างช้าๆ
เพียะ!!
หลินอิ่งสะบัดมือเข้าใส่หน้าของลูู่หยวนเต็ม ๆ หวดจนลู่หยวนตีลังกาลงไปกับที่ นอนอยู่บนพื้นโดยมีเลือดออกที่มุมปาก
“แก! แกจะทำอะไร? แกกล้าตีฉัน?” ลู่หยวนคำรามอย่างโมโห
“แกคิดว่าฉันไม่กล้าแตะต้องแกหรือยังไง?” หลินอิ่งแววตาเย็นยะเยือก ทันใดนั้นก็คว้าไปที่คอหอยของลู่หยวน “คริสสามารถให้คนใช้ปืนจ่อหัวแก ให้แกยอมเป็นหมารับใช้ได้ แกคิดว่าฉันทำไม่ได้อย่างนั้นหรือ?”
“ฉัน…” ลู่หยวนอยากจะพูดอะไรบางอย่างอีก ทันใดนั้นเห็นมือที่ยื่นเข้าไปในกระเป๋าเสื้อด้านข้างของเสิ่นซาน เขารีบหุบปากในทันที สีหน้าหวาดกลัวขึ้นมา “ท่านสาม ประทานหลิน นี่… นี่… พวกคุณเอาจริงเหรอ?”
“คุกเข่า” เสิ่นซานมองดูลู่หยวนอย่างเย็นชา
โครม! ลู่หยวนไม่กล้าพูดอะไรอีก ก้มหน้าคุกเข่าลงในทันที สั่นเทาไปหมดทั้งตัว
หลินอิ่งส่ายหัว ไม่ให้พวกเขาได้สัมผัสจริง ๆ ก็คงไม่รู้ว่าตัวเองแซ่อะไรแล้ว