ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 217 ยอมจำนนหรือหายไป
บทที่ 217 ยอมจำนนหรือหายไป
“แกพูดถูกแล้ว” คริสกล่าวอย่างภาคภูมิใจ ในสายตาเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในตนเอง
“จุ ๆ นี่ก็คือลูกน้องที่ไม่ได้เรื่องของแก? จะทำอะไรฉันได้?” คริสส่ายหัว พลางจุปาก สายตาจ้องมองกลุ่มบอดี้การ์ดที่กองอยู่บนพื้นด้วยแววเหยียดหยาม
ล้อเล่นอะไร หลินอิ่งคนประเทศหลุงคนนี้คิดที่จะใช้กำลัง?
ฮาเดสที่อยู่ข้างกายของเขา อยู่ที่ประเทศMมีฉายาเป็นถึงราชาสายลับเชียวนะ ทรงพลังยิ่งกว่า 007 ในภาพยนตร์เสียอีก เขาคนเดียวสามารถรับมือกับกลุ่มเฮยยิงทั้งหมดได้อย่างสบาย ๆ แข็งแกร่งราวกับยอดมนุษย์
คริสจำได้ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งฐานทัพที่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเกิดปัญหาขึ้นเล็กน้อย จึงส่งฮาเดสไปปฏิบัติภารกิจ เขาคนเดียวทำลายล้างกองกำลังติดอาวุธรับจ้าง ที่เกิดเหตุในตอนนั้น สามารถพูดได้ว่าเป็นที่สังเวชใจจนไม่คิดว่าจะมีอยู่ในโลกมนุษย์นี้ได้ แต่ฮาเดสกลับไม่รู้สึกใด ๆ เขาเป็นดั่งเช่นเครื่องจักรสังหาร!
มีราชาสายลับคอยติดตามแบบนี้ คริสจะต้องเกรงกลัวหลินอิ่งใช้กำลังด้วยหรือ?
พละกำลังในการต่อสู้ของฮาเดส ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นนอกเหนือจากหลินอิ่งตกตะลึง ทั้งหมดล้วนมีท่าทางปากอ้าตาค้าง รู้สึกไม่เชื่อในสายตาตัวเอง
แข็งแกร่งมากจริง ๆ เหล่ามือปืนอย่าว่าแต่จะเปิดฉากยิงเลย แม้แต่โอกาสที่จะซักปืนออกมายังไม่มี ตอนนี้กลับถูกตีราวกับสุนัข
อีกอย่าง หลินจุนสามพี่ของก็แข็งแกร่งมากพอแล้ว ยอดฝีมือศิลปะการต่อสู้ของประเทศจัดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของเมืองตุงไห่ และยังมีความสามารถชิงปืนด้วยมือเปล่าภายในสิบก้าว แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าฮาเดสคนนี้กลับไม่มีแรงตอบโต้แม้แต่น้อย!
“หลินอิ่ง ตอนนี้แกมีความสุขหรือยัง?” คริสกล่าวพลางยิ้มเยาะ “พาลูกน้องแกไปรักษาที่โรงพยาบาลก่อนเถอะ คิดจะลงมือกับฉัน แกยังมีคุณสมบัติไม่เพียงพอ ฉันจะกลับก่อนแล้วกัน รอคอยวิธีการที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ของฉัน ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าแกจะทนได้ไปถึงเมื่อไหร่”
“ฮ่า ๆ ๆ!”
คริสหัวเราะอย่างมีชัย พลางหันหลังเตรียมจะจากไปพร้อมกับฮาเดส
“ท่านหลิน จะให้สุนัขแก่ตัวนี้จากไปแบบนี้ไม่ได้นะ!” เสิ่นซานมองไปที่หลินอิ่งด้วยสีหน้าเป็นกังวล เขาคิดว่านอกจากหลินอิ่งลงมือเองแล้ว ก็ไม่มีวิธีอื่นที่จะจัดการกับคนที่แข็งแกร่งอย่างฮาเดส
หลินอิ่งมอดบุหรี่ในมือ แววอาฆาตผ่านไปในสายตาของเขา เขาพลันลุกขึ้นในวินาทีต่อมา
ในขณะที่หลินอิ่งพุ่งตัวออกมาอย่างรวดเร็วนั้น เห็นได้ชัดว่าฮาเดสได้รู้สึกตัวแล้ว เขาพลันหันหลังกลับพร้อมกับหวดหมัดออกไป เห็นได้ชัดว่าเขาสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของหลินอิ่ง
ตูม!
สองหมัดกระทบกับ หลังจากเสียงที่ไม่ค่อยชัดเจนดังขึ้น ฮาเดสถูกกระแทกจนถอยหลังหลายสิบก้าว ในท่าท่างเย็นชาของเขามีแววเกรงกลัวปรากฏออกมา เขามองหลินอิ่งด้วยความประหลาดใจและไม่แน่ใจ ราวกับคาดไม่ถึงว่าหลินอิ่งที่ร่างกายดูผอมแห้งอ่อนแอแบบนั้น จะสามารถต่อยจนเขาถอยหลังได้
ในขณะที่ฮาเดสกำลังลังเลสงสัย หลินอิ่งพลันกวาดเท้าเตะตวัดเข้ามาอีกครั้ง เขาไม่ทันตั้งตัวทำให้ถูกเตะเข้าหัวเข่าอย่างจัง จากนั้นก็ตามมาด้วยเงาเท้าแยกออก กระบวนท่ารวดเร็วจนมองไม่ชัดเจน
ท่าเตะตวัดเท้าถูกเตะออกไปหลายสิบครั้ง เสียงดังปังปังปังลอยออกมาในอากาศ ฮาเดสถูกบีบให้ถอยหลังติดต่อกัน ก้าวถอยหลังทีละก้าวหนัก ๆ เหยียบจนบนพื้นปูนมีรอยทรุดเป็นรอยเท้า แต่ตัวเขายังคงประคับประคองไม่ตัวเองหงายหลัง
หลังจากที่ผ่านไปหลายสิบรอบ สีหน้าของฮาเดสแดงขึ้น เสียงกระดูกสั่นกึก ๆ ไปทั้งตัว เบิกตากว้างจ้องมองหลินอิ่ง สองตาแดงก่ำ ราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังบ้าคลั่ง
“อ้าก! แกไอ้คนประเทศหลงที่สมควรตาย!” ฮาเดสคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว ราวกับว่าได้รับความอับอายที่ใหญ่หลวง นี่เป็นครั้งแรกเขาถูกคนอื่นต่อยตีจนน่าสังเวชแบบนี้
ในขณะที่คำราม ฮาเดสก็ก้าวไปข้างหน้า ท่าทางกำลังจะพุ่งเข้าหาหลินอิ่ง แต่ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็แข็งทื่อ กระดูกสั่นสะท้าน ราวกับว่าถูกดูดพลังไปหมด ใช้กำลังไม่ได้
ตูม!
หลินอิ่งได้พุ่งเข้ามาก่อนแล้ว เขาเตะจนร่างใหญ่ของฮาเดสพุ่งหมุนตัวตีลังกาในอากาศครั้งใหญ่
ร่วงลงบนพื้นอย่างหนักส่งเสียงอู้อี้ออกมา ตามด้วยเท้าเหยียบลงไปบนหัวของฮาเดส ทำให้เขาถูกกดจนไม่สามารถขยับได้
“แกพอจะมีฝีมืออยู่บ้าง แต่น่าเสียดาย ที่ยังไม่พอดูเท่าไหร่ ใช้ฝึกซ้อมมือก็ยังขาดความชำนาญอยู่บ้าง” หลินอิ่งกล่าวอย่างเรียบ ๆ
ฮาเดสก็นับเป็นยอดฝีมืออยู่ สามารถต่อกรกับเขาได้เป็นยี่สิบกระบาลท่า
แต่ก็ยังไม่แข็งแกร่งเท่าที่คิด ใช้ฝึกซ้อมมือยังไม่มีคุณสมบัติพอ ยังไงซะ เขาก็ยังไม่ได้ก้าวเข้าสู่ระดับที่แท้จริงของศิลปะการต่อสู้โบราณ
“แก! แกเป็นใครกันแน่?” ฮาเดสทั้งตกใจทั้งโกรธแค้นพลางเอ่ยถามด้วยความสงสัย พยายามใช้กำลังทั้งหมดต่อต้านเพื่อจะลุกขึ้นมา แต่เท้าที่หลินอิ่งเหยียบลงไปเบา ๆ นั้น ราวกับเป็นภูเขาลูกใหญ่ทับอยู่บนตัวของเขา ทำให้เขาขยับตัวไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
“ฉันเป็นใคร แกคิดไม่ถึงหรอก” หลินอิ่งเอ่ยเชื่องช้า “ทางที่ดีแกอย่าขยับมั่วซั่ว ไม่เช่นนั้นล่ะก็ แกจะกำหมัดไม่ได้ไปตลอดชีวิต”
หากไม่ใช่เพราะพิจารณาที่จะปราบพยศฮาเดสแล้วเก็บไว้ใช้เองล่ะก็ เขาคงใช้กำลังภายในทำลายกระดูกและกล้ามเนื้อของฮาเดสไปนานแล้ว
“ฉัน…” ฮาเดสรับรู้ถึงความรู้สึกหวาดกลัวลึก ๆ ไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีก และปิดปากอย่างสนิท
การเผชิญหน้ากับหลินอิ่งในวันนี้ ทำให้เข้ารู้สึกราวกับว่าได้เผชิญหน้ากับตำนาน!
ทักษะและความแข็งแกร่งของหลินอิ่ง สำหรับประสบการณ์หลายปีมานี้ของฮาเดส เขาเคยได้ยินเพียงแค่ในตำนานเท่านั้น
เมื่อก่อนเขายังไม่ค่อยจะเชื่อว่าจะมียอดฝีมือแบบนี้อยู่ จนกระทั่งได้พบกับหลินอิ่ง ตอนนี้เขาเชื่อแล้ว ที่แท้ ที่ประเทศหลุงมียอดฝีมือแบบนี้อยู่จริง ๆ!
“นี่มัน! แก แกนี่คือ…” คริสมองหลินอิ่งด้วยสีหน้าท่าทางหวาดผวา ตอนนี้แม้แต่พูดยังพูดจาพูดสะเปะสะปะ
สถานการณ์ตรงหน้ามีแรงกระทบต่อเขาอย่างหนัก ทำลายความมั่นใจและเชื่อมั่นในใจเขาจนหมดสิ้น
ฮาเดสเป็นบอดี้การ์ดยอดฝีมือที่เขาภาคภูมิใจมากที่สุด เป็นไปได้ยังไงที่หลินอิ่งสามหมัดสองเท้าก็ล้มเขาลงได้แล้ว?
จะต้องรู้นะว่า ในตอนนั้นฮาเดสเผชิญหน้ากับกองกำลังติดอาวุธรับจ้างที่เหี้ยมโหด เขาฆ่าจนเลือดไหลเป็นสายน้ำยังไม่กะพริบตาเลยสักนิด สุดท้ายจะสู้คนประเทศหลุงที่ดูผอมบางคนหนึ่งไม่ได้?
ถือเป็นการทำลายความรู้ความเข้าใจที่คริสเคยมีเลยก็ว่าได้ เขาคิดไม่ตกว่าหลินอิงเป็นเทพเจ้ามาจากไหนกันแน่!
“ฉันเคยบอกแกแล้ว ว่าท่าทีของแกกำหนดชะตากรรมของแก” หลินอิ่งมองไปทางคริส กล่าวด้วยสีหน้าท่าทางปกติ “แกพูดเองซิ ว่าตอนนี้แกต้องการจะรับชะตากรรมแบบไหน?”
“ฉัน…” คริสใบหน้าขมขื่น อัดอั้นจนพูดไม่ออก ความหยิ่งผยองที่มีอยู่ก่อนหน้านี้สูญหายไป
“หลินอิ่ง แกเป็นใครมาจากไหนกันแน่” คริสถามอย่างไม่ยอมตายใจ “ฉันแนะนำแกวันนี้อย่าได้ทำมากเกินไป อิทธิพลที่อยู่ในมือของฉันในลาตินกรุ๊ป มันไม่ง่ายอย่างนั้นที่จะทำลาย!”
คำพูดนี้ของเขาแข็งนอกแต่อ่อนใน แม้แต่น้ำเสียงของเขายังสั่น
“แกยังใช้อำนาจมาขู่ฉัน?” ลินอิ่งหัวเราะเยาะ พลางปล่อยฮาเดสที่ถูกเหยียบไว้ใต้เท้า จากนั้นก็พุ่งเข้าหาคริส
พลั๊ว! คริสโดนตบเข้าบ้องหูหนึ่งครั้งหมุนหน้าล้มกองลงกับพื้น แว่นตาที่ใส่ค้างไว้บนจมูกแตกกระจาย
“แก จะยอมจำนนหรือหายไปจากโลกใบนี้!” หลินอิ่งบีบคอหอยของคริส พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก