ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 220 แกยังไม่รู้ล่ะสิ?
บทที่ 220 แกยังไม่รู้ล่ะสิ?
โรงแรมฮอลิเดย์เมืองชิงหยูน
นี่เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ที่ลาตินกรุ๊ปซื้อหลังจากที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในเมืองชิงหยูน การตกแต่งค่อนข้างจะหรูหรา
รถของหลินอิ่งจอดลงที่หน้าประตูโรงแรมฮอลิเดย์ ชั้นล่างมีรถรถสปอร์ตสีสันสดใสจอดเรียงกันอยู่
เดิมทีที่นี่เป็นสถานที่รวมตัวกันของคลับคนดังต่างๆ นับจากที่เซียวจวงมาที่เมืองชิงหยูนเป็นต้นมา ที่นี่ก็ได้กลายเป็นปาร์ตี้คลับส่วนตัวของเขา บรรดาลูกผู้ดีมีเงินของเมืองชิงหยูนมากมายได้มารวมอยู่ที่นี่
เห็นได้ชัดว่า เซียวจวงมีความสุขกับความรู้สึกของการที่มีบรรดาลูกผู้ดีมีเงินคอยติดตามประจบสอพลอ ยังไงซะอยู่ที่ข้างนอกเขามีฐานะเป็นถึงผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของลาตินกรุ๊ป ค่อนข้างจะมีหน้ามีในเมืองชิ่งหยูน
รอจนฮาเดสจอดรถเรียบร้อยแล้ว หลินอิ่งก็พาฮาเดสไปที่ห้องโถงชั้นสามของโรงแรมฮอลิเดย์
ภายในชั้นสามตกแต่งอย่างอลังการแพรวพราว ราวกับราชวังสีทอง บนพื้นทางเดินปูด้วยพรมสีแดง
หญิงสาวในเครื่องแบบยืนเรียงกันอยู่สองข้าง ดูแล้วเต็มไปด้วยบรรยากาศของความหลงใหลมัวเมาในความฟุ้งเฟ้อ
“คุณชายทั้งสองท่าน ขออภัยด้วย ที่นี่เป็นสถานที่ส่วนตัวของคุณชายเซียว พวกคุณมีบัตรเชิญจากคุณชายเซียวหรือเปล่า? ถ้าหากไม่มี ก็ไม่สามารถเข้าได้”
ในขณะที่หลินอิ่งมาถึงประตู ชายชาวต่างชาติสองคนที่ยืนอยู่หน้าประตูขวางเขาไว้ และกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
หลินอิ่งไม่ได้เอ่ยอะไร แต่ฮาเดสที่อยู่ข้างเขาได้ขยับแล้ว
เสียงดังปัง! หมัดของฮาเดสต่อยเข้าที่หน้าของชายที่เอ่ยปาก หวดเข้าจนมันตัวหมุน สายตาเปลี่ยนเป็นโมโหอย่างมาก จากนั้นถึงได้เห็นหน้าฮาเดสชัดเจน และบนใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นเต็มไปด้วยความหวาดผวา
“ท่านฮาเดส…ขออภัยด้วย มองไม่ชัดว่าเป็นท่านมา เชิญท่านเข้าไป
บอดี้การ์ดข้างกายเซียวจวงเป็นคริสที่จัดเตรียมให้ และคนพวกนั้นล้วนรู้จักฮาเดส เพราะว่าฮาเดสเป็นหัวหน้าของบอดี้การ์ดทั้งหมด
ในไม่ช้า หลินอิ่งก็ได้เข้ามาถึงห้องโถงด้านใน และฮาเดสได้รับคำสั่งจากเขาให้ไปจัดการกับเหล่าบอดี้การ์ดของโรงแรมฮอลิเดย์
บนโซฟาที่หรูหราในห้องโถง เซียวจวงนั่งพิงอยู่ด้วยใบหน้าที่มีความสุข กอดซ้ายกอดขวา ข้างกายของเขามีหญิงสาวผมทอง รูปร่างร้อนแรง บุคลิกเย้ายวนสองคนนั่งอยู่
เขาหนีบซิการ์ไว้ในมือ บนโต๊ะมีไวน์แดงล้ำค่าสองสามขวดวางอยู่ สีหน้าท่าทางมีความสุข
“อ๋อ? หลินอิ่ง?” เซียวจวงถูกหลินอิ่งที่เดินเข้ามาดึงดูดสายตา บนใบหน้าปรากฏแววครุ่นคิด “คิดไม่ถึง เศษสวะอย่างนายมีเวลาว่างมาหาความสนุกที่โรงแรมฮอลิเดย์ด้วย?”
“ทำไม? หรือว่าเป็นเพราะวันนี้อยู่ที่ไห่หยางกรุ๊ปได้รับความกดดันมากเกินไป? อยากจะมาผ่อนคลาย? น่าเสียดาย ที่นี่ถูกฉันเหมาหมดแล้ว แกอยากจะมาหาความสุขที่นี่แต่ก็ไม่มีโอกาสแล้ว” เซียวจวงกล่าวพลางหัวเราะเยาะ ด้วยสีหน้าท่าท่างพึงพอใจ
ในสายตาของเซียวจวง อยู่ที่ไห่หยางกรุ๊ปหลินอิ่งได้เผชิญหน้ากับความกดดัน ต้องการหาที่ผ่อนคลายอารมณ์ แต่น่าเสียดาย ที่เจอกับเขาเข้าพอดี เขาจะต้องจัดการกับไอ้เศษสวะนี่หน่อยแล้ว
“แต่ว่า แกมันโชคไม่ดีจริง ๆ มาที่นี่ยังบังเอิญเจอเข้ากับฉันได้” เซียวจวงกล่าวด้วยสีหน้าท่าทางครุ่นคิด “ดูเหมือนว่า ฉันจะต้องบอกข่าวดีเรื่องหนึ่งกับแก”
หลินอิ่งยิ้มมุมปาก ดูเหมือนว่าเซียวจวงคนที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์
“จุจุ แกยังไม่รู้ล่ะสิ?” เซียวจวงกล่าวด้วยท่าทางได้ใจ “ตอนนี้ไห่หยางกรุ๊ปเป็นทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของฉันแล้ว บริษัทเครื่องประดับจางซื่อของเมียแกก็เปลี่ยนเจ้าของแล้ว อยู่ที่เมืองชิงหยุนในตอนนี้แกยังจะพึ่งพาใครได้อีก?”
“อ๋อ? แกยังคิดจะทำลายฉัน?” เซียวจวงส่ายหน้าพลางกล่าวอย่างเย้ยหยัน “แกมันไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นคู่แข่งของฉันเลยสักนิด ก็เพียงแค่นำความอัปยศมาสู่ตัวเองเท่านั้น”
พูดไป เซียวจวงพลางดีดนิ้ว ให้หญิงสาวผมทองที่อยู่ข้างกายออกไปก่อน และหลังจากนั้น เขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมา พลางดูดซิการ์คำหนึ่ง มองไปที่หลินอิ่งด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจ
“แกจะคุกเข่าเอง หรือจะให้คนของฉันจับแกคุกเข่า?” เซียวจวงกล่าวด้วยท่าท่าครุ่นคิด
เดิมทีเซียวจวงวางแผนว่าหลังจากที่ปาร์ตี้ที่โรงแรมฮอลิเดย์จบลง เขาจะไปหาหลินอิ่งด้วยตัวเอง คิดไม่ถึงว่าหลินอิ่งจะเอาตัวเองส่งมาให้เขา เช่นนั้นก็พอดีเลย เขาจะได้จัดการให้เรียบร้อย
หลินอิ่งรู้สึกสนใจขึ้นมา พลางกล่าว: “เรียกคนของแกมา”
เซียวจวงขมวดคิ้วเล็กน้อย พบเห็นท่าทางที่เต็มไม่ด้วยความมั่นใจของหลินอิ่ง พลันรู้สึกอึดอัดอย่างอธิบายไม่ถูก
“เหอะ ความตายใกล้จะมาถึงแล้วแกยังอวดดีอย่างนี้?” เซียวจวงกล่าวอย่างยิ้มเยาะ เขาไม่เข้าใจจริง ๆ ที่นี่เป็นอาณาเขตของเขา หลินอิ่งยังใจเย็นแบบนี้?
หรือว่าหลินอิ่งไม่รู้ว่าคณะกรรมการผู้ถือหุ้นทั้งของไห่หยางกรุ๊ปได้เปลี่ยนพรรคแล้ว? ที่พึ่งของเขาไม่มีแล้ว?
“รอก่อนเถอะ แกอย่าคิดว่าวิชาหมัดมวยห่วย ๆ ของแก จะทำอะไรได้” เซียวจวงกล่าวอย่างดูถูก พลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร
ตืด… ตืด… ตืด…
เขาโทรออกไปหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้อะไรเลย ทำให้เซียวจวงรู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล
ที่โรงแรมฮอลิเดย์ได้จัดบอดี้การ์ดฝีมือดีคอยรักษาการณ์ไว้กลุ่มหนึ่ง ทำไมถึงไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย
ในตอนนี้เอง ชายชุดดำร่างใหญ่คนหนึ่งเดินเข้ามาจากประตู แล้วหยุดยืนอยู่ที่ด้านหลังของลินอิ่ง
เมื่อเซียวจวงมองเห็นชายชุดดำนั้นเอง เขามีท่าทางดีใจ กลางกล่าว: “ฮาเดส? คริสใช้ให้นายมาหาฉันเหรอ?”
เขารู้จักฮาเดส บอดี้การ์ดเบอร์หนึ่งข้างกายของคริส ถึงแม่จะไม่รู้ฐานะและที่มา แต่เขาเคยเห็นฝีมือของฮาเดส เพียงแค่หมัดเดียวก็สามารถหวดคู่ต่อสู้ออกไปมากกว่าหลายสิบเมตร เป็นยอดฝีมือคนหนึ่งอย่างแน่นอน
“พอดีเลย ฮาเดส มีไอ้โง่ไม่รู้ความตายคนหนึ่งมาหาเรื่องอยู่ที่นี่ นายสั่งสอนมันให้ฉันหน่อย”
เซียวจางกล่าวอย่างเฉื่อย ๆ ด้วยท่าทางออกคำสั่ง
ท่าทางของฮาเดสไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เขามองไปยังหลินอิ่ง พลางกล่าวอย่านอบน้อม: “ประธานหลิน ต้องการให้ผมลงมือไหมครับ?
หลังจากที่เขาได้ประมือกับหลินอิ่งเป็นต้นมา ฮาเดสรู้แล้วว่าชายหนุ่มของประเทศหลุงคนนี้ เป็นยอดฝีมือระดับตำนาน เขาได้ยอมรับทั้งปากและใจแล้วที่จะติดตามหลินอิ่ง
ประสบการณ์ของฮาเดสนั้นสูงกว่าคนทั่วไป ฝีมือระดับดำนานแบบนี้ พลังอำนาจที่ควบคุมอยู่เบื้องหลังไม่อาจคาดคิด แค่มีความสัมพันธ์ด้วยนิดเดียวก็สามารถเป็นดั่งไก่สุนัขได้ขึ้นสวรรค์ สามารถติดตามเป็นบอดี้การ์ดของหลินอิ่ง ไม่ต้องพูดถึง จะต้องเป็นความโชคดีล้นฟ้าอย่างแน่นอน
“ฮาเดส ที่นายพูดหมายความว่ายังไง?” เซียวจวงขมวดคิ้วเล็กน้อยกล่าว
“นายให้มันเข้าใจสถานการณ์ก่อนเถอะ” หลินอิ่งกล่าว แล้วนั่งลงไปบนโซฟาอย่างอาจหาญ
“แม่งมึงสิ ใครให้มึงนั่งลง? มึงไอ้เศษสวะไม่มีชิ้นดี กล้าดียังไงมานั่งต่อหน้ากู” เซียวจวงด่าออกปาก พลางตะโกนถามด้วยความโมโห โดนท่าท่างของหลินอิ่งทำให้มีน้ำโหขึ้นมาอย่างจัง
เศษสวะอย่างหลินอิ่ง ทำไมถึงได้กล้ากระโดดมาตรงหน้าเขา?
ตูม!
เซียวจวงพึ่งพูดจบ หมัดของฮาเดสพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของเขา ต่อยจนเขากระอักเลือดไปสองครั้งในที่ตรงนั้น ลงไปกองกับพื้นและไอไม่หยุด
“นี่! ฮาเดส? แกลงมือกับฉัน?” เซียวจวงตะลึงงันทันที กุมใบหน้าโรงโอดโอย หมัดนี้ต่อยได้หนักมาก จนเขาเกือบสลบลงไป
“แก! ฮาเดส แกรอเดี๋ยว ฉันจะโทรหานายคริส!” เซียวจวงกล่าวด้วยความโมโหเป็นอย่างมาก กดโทรศัพท์ออกไปโทรหาคริส เขาคิดว่าฮาเดสเปลี่ยนพรรคแล้ว กล้าต่อยแม้กระทั่งเขา!