ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 236 ผมไม่ต้องลงมือเอง
บทที่ 236 ผมไม่ต้องลงมือเอง
กงซุนฉางเฟิงหัวเราะ ท่าทางมั่นใจ
เท่าที่เขาดูแล้ว สำหรับหลินอิ่งที่มือฝีมือบ้างในเมืองชิงหยูนไม่ได้อยู่ในสายตา
จากที่กงซุนฉางเฟิงดูแล้ว หลินอิ่งสามารถหลบการโจมตีกะทันหันจากเขาได้ ก็ถือว่าเป็นคนมีฝีมือคนหนึ่ง แต่ก็เทียบกับคนอย่างเขาไม่ได้
“ถ้าพูดแบบนี้แล้ว ก็คงต้องเอาคุณไว้แล้ว” กงซุนฉางเฟิงพูดด้วยสายตาโหด “ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ครั้งที่แล้วที่มณฑลเกาหยางคุณกล้าไปหาเรื่องเจ้าบ้านรอง รนหาที่ตายเอง คุณไม่รู้หรอกว่าบ่อน้ำตระกูลกงซุนมันลึกแค่ไหน ไม่ว่าเบื้องหลังคุณจะเป็นใครก็ช่วยคุณไม่ได้แล้ว”
“ออ?” หลินอิ่งเริ่มรู้สึกสนใจ “ผมก็รู้สึกสนใจที่ไปที่มาของคุณ”
หลินอิ่งสามารถเดาออกว่า กงซุนฉางเฟิงคนนี้ก็มาเพราะเหตุการณ์ครั้งก่อนที่บ้านกงซุน น่าจะเป็นคนของอาสองของกงซุนชิวอวี่ ยังตามฆ่าตัวเองมาถึงเมืองตงไห่? เขาเองไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวกงซุน ก็ไม่รู้ว่าเบื้องหลังใครต้องการทำอะไร แต่ถ้ามาเล่นงานเขา อย่างนี้ก็ต้องยุ่งเกี่ยวแล้ว
“ที่มาของผม? เหอะ” กงซุนฉางเฟิงหัวเราะเย็นชา “ถ้าคุณรู้อำนาจที่อยู่เบื้องหลังผม เกรงว่าคืนนี้คุณคงนอนไม่หลับแน่”
ไม่ได้พูดโอ้อวด กงซุนฉางเฟิงมีความยโสอยู่ นั่นเป็นเพราะอำนาจที่อยู่เบื้องหลังนั้นใหญ่โตน่าเกรงขาม อำนาจซ่อนเร้นนี้สามารถจัดเข้าสิบอันดับต้นในประเทศหลงได้
ต้องรู้ว่า อำนาจเบื้องหลังเขากล้าลงมือกับตระกูลกงซุนแห่งตี้จิง อยากร่วมมือกับกงซุนเฟยเทียนกลืนตำแหน่งระดับมหาเศรษฐีใหญ่แห่งประเทศหลุง
“พวกคุณส่งคนมาหาผมที่เมืองชิงหยูนทั้งหมดกี่คน?” หลินอิ่งถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย
กงซุนฉางเฟิงพูดอย่างยโส “ผมมาคนเดียวก็พอแล้ว ลงมือเลย ผมจะดูว่าคุณมีฝีมือขนาดไหนกัน”
หลินอิ่งยิ้มแต่ไม่ตอบ จากนั้นก็ค่อยๆพูด “กับคุณ ผมไม่ต้องลงมือเอง”
พูดจบ หลินอิ่งก็ส่งสายตาให้ฮาเดส
รับนักสู้มีฝีมืออย่างฮาเดสมาแล้ว เขาก็ไม่ต้องลงมือเองแล้ว
สำหรับกงซุนฉางเฟิง หลินอิ่งคาดการณ์ว่าฝีมือดีกว่าฮาเดสก่อนหน้านี้
แต่ว่า ฮาเดสติดตามกับตัวเองมาสักพัก สืบทอดฝีมือการต่อสู้ของแก๊งมังกรให้เขา ฝีมือก็ดีขึ้น จัดการกงซุนฉางเฟิง ไม่ใช่ปัญหา
“ครับ ประธานหลิน”
ฮาเดสตอบอย่างเคารพ เดินจากด้านหลัง มองกงซุนฉางเฟิงด้วยสายตาเยือกเย็น
หลังแพ้การต่อสู้กับหลินอิ่งแล้ว ก็เข้าทำงานให้กับหลินอิ่งและได้รับวิชาการต่อสู้จากแก๊งมังกร ฮาเดสรู้สึกนับถือและเคารพในตัวหลินอิ่งมาก
ใครที่ไหนก็ไม่รู้มารนหาที่ตาย กล้ามาท้าทายประธานหลิน?
มีเขาฮาเดสอยู่ทั้งคน คนคนนี้ไม่มีโอกาสให้ประธานหลินได้ลงมือเองหรอก
“เหอะๆ ให้บอดี้การ์ดต่างชาติลงมือแบบนี้? คุณนี่มันอวดดีจริงๆ” สีหน้ากงซุนฉางเฟิงมองฮาเดสอย่างดูถูก แล้วส่ายหน้า
บอดี้การ์ดต่างชาติคนนี้ดูแล้วก็พอมีฝีมือ แต่ว่าอย่างมากก็แค่ระดับนักฆ่าต่างชาติ จะสู้กับคนที่เรียนวิชาการต่อสู้โบราณอย่างเขาได้ยังไง?
ฮวา!
เสี้ยววินาทีเดียว ร่างสูงใหญ่ของฮาเดสก็พุ่งเข้าไปอย่างสายฟ้าแลบ เร็วจนน่าตกใจ
กงซุนฉางเฟิงสีหน้าเปลี่ยนทันที รู้สึกกดดันทันที ยกมือขึ้นก็ใช้ฝ่ามือฟันไปสองครั้ง จนเกิดเสียงดัง ฮาเดสก็ยกมือขึ้นต่อยไปสองหมัด เสียงดังปัง เหมืองรถบรรทุกสองคันชนกัน เสียงดังก้องไปทั่ว
ทั้งสองคนชกกันไปมา การขยับตัวเร็วจนเป็นเงามองไม่ชัด แม้กระทั่งท่าทางการต่อสู้ก็ดูไม่ชัด เพี๊ยะพ๊าดดังกึกก้อง จนฝุ่นตลบ
ทุกครั้งที่ทั้งสองคนมือไม้กระทบกัน พื้นซีเมนต์ก็ยุบลงไปนิดหนึ่ง แรงของทั้งสองคนแรงจนน่ากลัว ดูเหมือนหุ่นยนต์สองตัวกำลังฆ่าฟันกัน
สามสี่นาทีผ่านไป ไม่รู้ว่าสู้กันไปกี่รอบ แรงการต่อสู้ของทั้งสองคนเท่าเทียมกัน สู้กันไม่รู้แพ้รู้ชนะ ดึงตัวออกห่างกะทันหัน
เห็นกงซุนฉางเฟิงสะบัดมือก็หยิบมีดออกมาจากแขนเสื้อ อย่างมืออาชีพ แทงเข้าไปที่อกของฮาเดส เหมือนงูพิษที่พุ่งเข้าไปกัดคน เร็วเหมือนสายฟ้าแลบ
ฮาเดสยื่นมือไปด้วยสีหน้าปกติ ดูเหมือนช้าแต่ก็เร็วอย่างสายฟ้า จับใบมีดไว้ เสียงอิ๊ด มีดสั้นหักเป็นสองท่อน จากนั้นก็กางนิ้วออกจับคอของฝั่งตรงข้ามไว้ กงซุนฉางเฟิงก็เร็วเหมือนกัน มีดหักแล้วก็ย่อตัวลงแล้วยกเท้าขึ้น ถีบไปที่เข่าของฮาเดส จนเหมือนมีเสียงระเบิดกลางอากาศ
กงซุนฉางเฟิงเปลี่ยนท่าอย่างประหลาด ใช้แรงสุดเหวี่ยง แรงถีบแบบนี้ถีบรถคันหนึ่งแบนได้อย่างง่ายดาย ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไปถีบจนตายได้อย่างง่ายดาย
ฮาเดสก็ยิ้มมุมปาก เหมือนเดาท่าทางกงซุนฉางเฟิงถูก จึงใช้แรงที่เอว ยกเข่าขึ้น ชนเข้าไปที่ขาของกงซุนฉางเฟิง
เสียงดังตั๊ก กระดูกขาของกงซุนฉางเฟิงแตกทันที สีหน้าตกใจ ได้รับแรงกระแทกอย่างหนัก ต้องกระเด็นไปไกลหลายสิบเมตร ล้มลงไปกับพื้นอย่างทรหด
“อ๊าก”
กงซุนฉางเฟิงกระอักเลือดออกมา เงยหน้ามองฮาเดส สีหน้าไม่อยากเชื่อ เหมือนกำลังมองสัตว์ประหลาดอะไรสักอย่าง
“เป็นไปได้ไง…..คนฝีมือระดับนี้ยอมเป็นแค่บอดี้การ์ด? นาย นายเป็นใครมาจากไหน?” กงซุนฉางเฟิงจ้องหลินอิ่งตาไม่กะพริบ ในสายตานั้นมีความระวัง
ในสายตาเขาเวลานี้ หลินอิ่งเป็นคนลึกลับยากแก่การคาดเดา
ผู้ชายคนนี้มีฝีมืออะไร ถึงทำให้คนระดับฮาเดส ยอมเป็นบอดี้การ์ดให้เขาได้?
จากการประลองฝีมือแล้ว ทำให้กงซุนฉางเฟิงตะลึงจนยากที่จะอธิบาย คนต่างชาติคนนี้ฝีมือดีจนคาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นพลังหรือความเร็ว ล้วนเกินขีดจำกัดของคนธรรมดา ไม่ใช่บอดี้การ์ดที่ฝึกมาจากบริษัททั่วไปแน่นอน เก่งกว่าทหารหรือหน่วยรบพิเศษพวกนั้นเยอะมาก
ที่น่ากลัวที่สุด คนต่างชาติคนนี้กลับรับมือเขาได้ เพราะว่า ในต่างประเทศมีสถานที่ฝึกวิชาต่อสู้โบราณไม่มาก นี่หมายความว่า เป็นไปได้ว่าหลินอิ่งถ่ายทอดวิชาต่อสู้ให้บอดี้การ์ดเขา
ทำให้รู้ว่า ความสามารถของเขากับหลินอิ่งต่างกันแค่ไหน
“หลินอิ่ง คุณมาจากสำนักไหนกันแน่? ทำไมผมไม่เคยได้ยินมาก่อน?” กงซุนฉางเฟิงถามด้วยสีหน้าสงสัย
ก่อนหน้านี้ยังคิดว่าสามารถจัดการหลินอิ่งได้ แต่วันนี้ดูแล้ว เรื่องราวดูเหมือนไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เขาจัดการไม่ได้แม้แต่บอดี้การ์ดของหลินอิ่ง
คนแข็งแกร่งอย่างหลินอิ่ง ทำไมในแวดวงกลุ่มกองกำลังลึกลับทำไมถึงไม่มีชื่อเสียงเลย? เขาไม่เคยได้ยินชื่อของเขาเลย?
กงซุนฉางเฟิงมุมปากหดหู่ เขาฝึกการต่อสู้มาทั้งชีวิต แทบไม่เคยเจอคู่ต่อสู้เลย ในวงการการต่อสู้เขาถือว่าเป็นคนฝีมือระดับดีมาก ไม่อย่างนั้นคงไม่ถูกเจ้าบ้านรองแห่งตระกูลกงซุนรับมาเป็นนักฆ่ามือทอง แต่วันนี้มาเจอสองคนตรงหน้านี้ ล้วนเป็นอสูรร้ายทั้งสอง