ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 248 นี่ให้นายดื่มเหรอ?
บทที่ 248 นี่ให้นายดื่มเหรอ?
“นึกไม่ถึงว่าคุณชายสวีจะสูงส่งขนาดนี้ แม้แต่ผู้จัดการใหญ่ถังแห่งโรงแรมจงเทียนก็ยังมาด้วยตัวเอง……”
“นี่ท่านสุงนี่ เป็นบุคคลใหญ่โตที่สั่งการทุกอย่างในพื้นที่สีเทา!”
หลายคนต่างกระซิบกระซาบกัน รู้สึกถึงความหวาดกลัวบางอย่าง
คนที่เดินเข้ามา คือถังฮุยผู้มีชื่อเสียงในเขตจงเทียน ในโลกแห่งความมืดที่ผู้คนเรียกเขาฮุยสุงว่าท่านสุง!
พวกเขาต่างจำกันได้ นี่คือผู้รับผิดชอบของโรงแรมจงเทียน ถังฮุย
ถังฮุยเป็นลูกมือที่เก่งของหยูจื๋อเฉิง ชื่อเสียงโด่งดัง ออร่าเขาทำให้ผู้คนต้องสะพรึง เพราะเป็นบุคคลที่ผ่านกลิ่นคาวเลือด
“ประธานถัง มาด้วยตัวเองเลยเหรอ ฮ่าๆ ผมขอชนกับคุณหนึ่งแก้ว” สวีเหอลุกขึ้นยืน ทักทายด้วยความเกรงใจ ชูแก้วขึ้นโดยอัตโนมัติ
การเผชิญหน้าบุคคลอย่างถังฮุย สวีเหอก็ไม่กล้าวางท่าใหญ่โต ว่าด้วยเรื่องศักยภาพก็แข็งแกร่งกว่าหลายเท่า
สีหน้าของถังฮุยก็ตื่นเต้นเล็กน้อย มีความกดดันในใจ พอเข้ามาก็เห็นหลินอิ่ง มีใบหน้ายิ้มแย้ม
เขาได้รับคำสั่งจากหยูจื๋อเฉิง ให้มาต้อนรับขับสู้หลินอิ่ง
ถ้ารู้ว่า หลินอิ่งไปถล่มตระกูลเหวินที่ตี้จิงในคืนนั้นด้วยตัวคนเดียว ถังฮุยก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย! เห็นความไร้เทียมทานของหลินอิ่งด้วยตาตัวเอง และได้เห็นลูกพี่หยูจื๋อเฉิงให้ความเคารพต่อหลินอิ่ง
อีกอย่าง หลังจากเหตุการณ์นั้นลูกพี่หยูจื๋อเฉิงก็เจริญก้าวหน้าดุจดวงอาทิตย์กลางท้องฟ้า ถังฮุยก็ได้เห็นกับตา หลินอิ่งเหมือนองค์พระใหญ่องค์หนึ่งจริงๆ
กระทั่ง นั่นเพราะคราวก่อนหลินอิ่งมาช่วยหยูจื๋อเฉิงสร้างแสนยานุภาพที่ตี้จิง ถังฮุยก็เก็บเกี่ยวผลประโยชน์มากมาย ฐานะก็สูงขึ้นเหมือนน้ำหนุนเรือก็สูง! ลอยขึ้นสวรรค์ไปตามๆ กัน!
“ประธานถัง นึกไม่ถึงว่าจะให้เกียรติกันขนาดนี้ ไหนจะส่งไวน์มาให้สองขวด รู้สึกเกรงใจจริงเลย แก้วนี้ ผมขอดื่มคารวะให้ก่อน!” คุณชายสวีพูดด้วยความสอพลอ แล้วก็ดื่มไวน์กรวกเดียวหมดแล้ว เพื่อจะประจบถังฮุย
ถังฮุยหน้านิ่วคิ้วขมวด มองไปยังสวีเหอ พอเห็นสวีเหอถือไวน์อยู่ในมือ ก็เกิดอาการโมโหขึ้นทันที
ให้ตายเถอะ นี่เป็นไวน์ให้ท่านอิ่งดื่มแก้มอาหาร ไอ้นี่ไม่รู้จักที่ตายกล้ามาเอาไปดื่ม?
ท่านอิ่งยังไม่ได้แตะ แล้วไอ้แซ่สวีมาแตะได้อย่างไร?
“นี่สำหรับให้นายดื่มเหรอไง?” ถังฮุยถามด้วยความเย็นชา มองสวีเหอด้วยสายตาที่เยือกเย็น
“คือ……” รอยยิ้มบนใบหน้าสวีเหอแห้งเหือดขึ้นมาทันที มองดูท่าทางเข้มงวดของถังฮุย รู้สึกตื่นเต้นในใจเป็นพิเศษ
ไม่รู้ทำไม อยู่ๆ สีหน้าถังฮุยก็เปลี่ยน
ไม่ได้ให้เขาดื่ม? หรือว่าเข้าใจผิด เป็นไปไม่ได้หรอก ไวน์นี่ส่งมาที่ห้องVIP ถังฮุยก็มานี่แล้ว หรือว่าที่นั่งอยู่ในนี้ ยังมีใครที่มีเกียรติยิ่งกว่าสวีเหอ?
“ประธานถัง นี่ผู้จัดการที่เป็นลูกน้องของคุณเป็นคนส่งมา” สวีเหอทำหน้ายิ้ม พูดอย่างระมัดระวัง
“สวีเหอ นายนึกว่าเล่นตลกเหรอไง?” ถังฮุยว่าอย่างไม่เกรงใจ “นายมีคุณสมบัติพอให้ฉันส่งไวน์ให้เหรอ? กับแค่ฐานะเป็นคนตระกูลสวี ก็วางท่าต่อหน้าผู้คนอย่างนี้ ตัวเองมีค่าแค่ไหน ไม่รู้ตัวเหรอยังไง?”
ถังฮุยเดือดเป็นไฟขึ้นมาจริงๆ ไวน์ที่มอบให้ท่านอิ่ง ถูกคนอื่นดื่มไปแล้ว?
แม่งเอ้ย แล้วยังเป็นภายในโรงแรมจงเทียนที่ตัวเองรับผิดชอบ นี่ถ้าลูกพี่รู้เข้า เขาต้องตายแน่ ขนาดท่านอิ่งอยู่ในถิ่นเขาเองยังต้อนรับไม่ดี
ไอ้สวีเหอนี่ก็ไม่รู้จักที่ตาย มีแค่ฐานะเล็กๆ ในตระกูลสวี แม่งยังกล้าวางท่าต่อหน้าท่านอิ่ง
“ผม……” สวีเหอหน้าแดงก่ำ อยากหามุดรูหนีจริงๆ รู้สึกขายหน้าอย่างมาก
เมื่อสักครู่เพิ่งจะคุยโวว่าตัวเองกับถังฮุยสนิทกันมาก พริบตาเดียวก็ถูกด่าต่อหน้าฝูงคน……
โดยเฉพาะ เขาไม่กล้าตอบโต้ถังฮุย ฐานะและศักยภาพของคนทั้งสองต่างกันลิบลับ ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย
จากศักยภาพของฮุยสง ต่อให้จัดการเขาทิ้งในโรงแรมจงเทียน ตระกูลสวีก็ไม่มีใครลุกขึ้นพูดแทนเขา
“ขอโทษครับ ประธานถัง ผมคงเข้าใจผิด” สวีเหอถูกด่าเหมือนเอาเลือดหมามารดหัว แต่ก็ขอโทษด้วยรอยยิ้ม
“ขอโทษผมงั้นเหรอ? ไปขอโทษท่านอิ่งไป!” ถังฮุยพูดด้วยเสียงเย็นเฉียบ
“ท่าอิ่ง? ประธานถัง ท่านเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ท่านว่าท่านอิ่งอะไรเหรอ ผม… ผมไม่เห็นจะรู้จักเลย” สวีเหอพูดอย่างถูกทารุณ
เขาไม่รู้เลยว่า ทำไมถังฮุยต้องมาลงสายฟ้าฟาด เพียงเพราะคนที่ชื่อท่านอิ่ง?
เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้น ไปล่วงเกินคนที่แม้แต่ถังฮุยเรียกว่า “ท่านอิ่ง” ได้?
“นายไม่รู้จักท่านอิ่ง?” สายตาถังฮุยเย็นยะเยือก ใจลุกเป็นไฟ แทบอยากจะกำจัดสวีเหอทิ้ง!
ไอ้เจ้าโง่ นายไม่รู้จักท่านอิ่ง แล้วยังกล้าดื่มไวน์ที่ฉันให้ท่านอิ่ง? วางท่าใหญ่โตเป็นนายท่านใหญ่?
พอนึกถึงตรงนี้ ถังฮุยก็รีบมองไปยังหลินอิ่ง ไม่กล้าสบตากับหลินอิ่งเลย จิตใจร้อนรน ก้มหน้าต่ำพูดว่า “ท่านอิ่ง ผมขอโทษ ผมต้อนรับขับสู้ไม่ได้ ไม่ได้เตรียมการให้ดี โปรดลงโทษผมด้วย”
“อะไร! เขา… เขาคือ… เขา……” สวีเหอถูกฉากนี้ทำตกใจจนติดอ่าง สีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ
ทำไมไอ้บ้านนอกที่มาจากเมืองตุงไห่ จูฟางบอกว่าเป็นลูกเขยเศษสวะ จึงกลายเป็นท่านอิ่งที่ถังฮุยเรียก?
เป็นไปได้อย่างไรกัน! ถังฮุยเป็นคนใหญ่โตระดับไหน ถึงกับเรียกไอ้เกาะผู้หญิงกินว่าท่าอิ่ง?
“ประธานถัง ท่านเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า คนผู้นี้ เขามาจากเมืองตุงไห่มาที่เมืองตี้จิง ผมรู้พื้นเพของเขาดี เป็นเศษสวะภาระที่เป็นเลขาฯ ผู้ช่วยให้กับภรรยาเขา” สวีเหอกล่าวด้วยความฉงน
“นั่นสิ มัน… มันต้องมีอะไรเข้าใจผิดแน่ ไอ้เศษสวะที่มาจากบ้านนอก จะเป็นท่านอิ่งที่ประธานถังเอ่ยถึงได้อย่างไร?”
จากท่าทีที่ถังฮุยแสดงความเคารพต่อหลินอิ่ง จูฟางและคนที่อยู่ในงานทั้งหมดต่างเผยสีหน้าแทบไม่น่าเชื่อออกมา
เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด คนที่เป็นเลขาฯ ผู้ช่วยภรรยา จะมีความสามารถมากมายเพียงนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ว่ามาจากต่างเมือง ทำไมถึงมีความสัมพันธ์กับถังฮุยบุคคลแนวหน้าของเมืองตี้จิงได้?
“นายว่าอะไรนะ? เศษสวะ?” สายตาท่าทางของถังฮุยตกใจ จนคิ้วกระตุก
“นายแซ่สวี ฉันว่านายอยากตายแล้วสินะ!” ถังฮุยถลึงตามองสวีเหอ ยื่นมือชี้นิ้วออกไป ตวาดด้วยความโมโห
สวีเหอกล้าพูดต่อหน้าท่านอิ่งเช่นนี้? อย่าว่าแต่สวีเหอเป็นเพียงลูกหลานที่ไม่ได้สำคัญอะไรในตระกูลสวีของตี้จิง ต่อให้ต่อหน้านายท่านตระกูลสวี ก็ไม่บังอาจเช่นนี้นะ!
“ผม ผม……” สวีเหอตกใจจนหน้าซีดเผือด พูดจาจนเสียงสั่น “ประธานถัง ผมไปล่วงเกินอะไรคุณเข้า?”
ถังฮุยเป็นคนดุดันมาก เขาไม่กล้าล่วงเกินอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าไปยั่วคนโหดร้ายผู้นี้ให้คลั่งได้อย่างไร
“นายยังไม่เข้าใจอีกเหรอ?”
ถังฮุยตบฉาดเข้าที่ใบหน้าของสวีเหออย่างแรง เสียงดังเพียะ จนเลือดกบมุมปากของสวีเหอ ท่าทางทั้งโมโหทั้งตกใจ
“สวีเหอ จงขอขมาลาโทษท่านอิ่งเดี๋ยวนี้! ถ้าท่านอิ่งไม่อภัยให้นาย ฉันจะบอกให้ วันนี้นายไม่ได้เดินออกจากโรงแรมจงเทียนแน่ ไปแจ้งคนที่บ้านนายให้เตรียมงานศพได้เลย!” ถังฮุยพูดด้วยเสียงเย็นยะเยือก