ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 251 มหาเศรษฐีเมืองก่าง
บทที่ 251 มหาเศรษฐีเมืองก่าง
ได้ยินข่าวที่หยูจื๋อเฉิงบอก หลินอิ่งก็เดาออก มหาเศรษฐีเมืองก่างคนนี้ เป็นไปได้อย่างสูงว่าเป็นเพียงหุ่นเชิดของตระกูลเหวิน เป็นสถานะแล้วทำธุรกิจของตระกูลเหวิน
แน่นอน อาจเป็นไปได้ว่ามหาเศรษฐีเมืองก่างคนนี้กับตระกูลเหวินร่วมมือกัน ไม่ว่ายังไง ก็มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น
หยูจื๋อเฉิงพูดจริงจัง “ท่านอิ่ง มหาเศรษฐีจากเมืองก่าง ชื่อจี้ฉงซาน มีอำนาจเงินทองมากในเมืองก่าง เป็นหนึ่งในตระกูลมหาเศรษฐีของเมืองก่าง มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งเมืองก่างอย่างแท้จริง ผู้คนเรียกกันว่าเจ้าหัวจี้ คนเดียวก็ครอบครองครึ่งหนึ่งของเมืองก่าง”
“ท่านอิ่ง การคาดเดาของผมก็เหมือนท่าน จี้ฉงซานคอยช่วยเหลือตระกูลเหวิน เขารับทรัพยากรมรดกทั้งหมดของตระกูลเหวินแล้ว ดำเนินกิจการทั้งหมดของตระกูลเหวินที่เคยทำ”
หยูจื๋อเฉิงพูดวิเคราะห์ “และคนคนนี้มีเบื้องหลังฐานะความสามารถดีอยู่แล้ว ทำขึ้นมาก็ง่ายมาก”
หลินอิ่งดื่มชาคำหนึ่ง มีเคาะโต๊ะเบาๆ กำลังครุ่นคิด
จี้ฉงซานถือว่าเป็นคนมีชื่อเสียงรู้กันทั่วประเทศหลุง ตระกูลจี้แห่งเมืองก่างก็เป็นที่รู้จักกัน
นี่เป็นตระกูลมหาเศรษฐีที่ค่อนข้างพิเศษของประเทศหลุง ก็เป็นเพราะแวดวงธุรกิจที่พิเศษของเมืองก่างที่อยู่ในประเทศหลุง
เมืองก่างคือเมืองที่เป็นประตูเชื่อมต่อกับต่างประเทศของประเทศหลุง นั่นก็คือสถานที่มีผู้คนมากหน้าหลายตา มาจากทั่วทุกมุมโลก สถานการณ์ค่อนข้างวุ่นวาย
ส่วนจี้ฉงซานก็เริ่มต้นทุกอย่างเอง สามารถมีจุดยืนในเมืองก่าง จนมีระดับสูงในแวดวงธุรกิจได้ ที่ผู้คนยกย่องเป็นเจ้าสัวจี้ ความสามารถของคนคนนี้แค่คิดก็รู้ได้
แต่ไม่รู้ว่า จี้ฉงซานกับตระกูลเหวินมีแผนการอะไรกันแน่
คิดไปสักครู่ หลินอิ่งพูดว่า “จี้ฉงซาน ตอนนี้อยู่ไหน?”
หยูจื๋อเฉิงพูดจริงจัง “ช่วงนี้จี้ฉงซานอยู่ที่ตี้จิง ผมให้คนจับตามองอยู่ที่ตี้จิงแล้ว ได้ข่าวมา ตอนแรกผมอยากจัดการด้วยตัวเอง เพื่อถามข่าวเกี่ยวกับตระกูลเหวิน แต่ว่า ฐานะเขาไม่ธรรมดา ผมเลยไม่กล้าลงมือ”
หลินอิ่งไม่ได้ตอบ หลับตาคิด มือเคาะโต๊ะ
ในสถานการณ์ที่ไม่ออกหน้าเอง เพียงแค่ความสามารถปากเปล่าแบบนี้ ด้วยอำนาจของหยูจื๋อเฉิงแล้ว ยังทำอะไรมหาเศรษฐีเมืองก่างคนนี้ไม่ได้
ถึงแม้จะอยู่ในพื้นที่ตี้จิง วางอำนาจแบบนี้ หยูจื๋อเฉิงก็เอาชนะจี้ฉงซานไม่ได้
นี่เป็นคนที่มีอำนาจรอบด้านจริง ในประเทศหลุง ในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้กระทั่งประเทศM รัฐบาลทหาร วงการธุรกิจ อำนาจใต้ดิน ล้วนมีความสัมพันธ์อย่างคาดไม่ถึง มีผลกระทบมาก
เงียบไปสักพัก หลินอิ่งค่อยๆลืมตา สายตาเย็นชา พูดว่า “ผมดูอยู่ที่ตี้จิงเอง คุณไปทำอย่างวางใจได้ ต้องได้ข่าวเกี่ยวกับตระกูลเหวินจากจี้ฉงซานให้ได้”
ด้วยฐานะของจี้ฉงซานแล้ว ต้องมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับตระกูลเหวินแน่นอน ต้องขุดคุ้ยอะไรจากตัวคนคนนี้เกี่ยวกับตระกูลเหวินแน่นอน
หยูจื๋อเฉิงสีหน้าเคร่งเครียด พูดอย่างลังเล “ท่านอิ่ง จี้ฉงซานมาร่วมงานประชุมสภาที่ตี้จิง การรักษาความปลอดภัยค่อนข้างแน่นหนา อีกอย่าง ช่วงนี้เขาทำการสำรวจกับคนในสภาตี้จิงตลอด ผมหาเวลาลงมือไม่ได้”
“ไม่ต้องกลัว” หลินอิ่งพูดอย่างเด็ดขาด “จัดคนไปลงมือเลย มีปัญหาอะไร ผมจัดการเอง”
“ครับ” หยูจื๋อเฉิงพยักหน้าหนักแน่น ในใจรู้สึกตื่นเต้น เวลาเดียวกันก็รู้สึกได้ถึงแรงใจเด็ดเดี่ยวของท่านอิ่ง
ท่านอิ่งใจเด็ดเดี่ยวที่จะจัดการจี้ฉงซาน ในตี้จิงมีคนมากมายคุ้มหัวจี้ฉงซานอยู่ ท่านอิ่งก็ไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย
เขาหยูจื๋อเฉินอยู่ตี้จิงมาหลายสิบปี เจอสถานการณ์ใหญ่โตมามากมาย แต่ยังไม่เคยจัดการเรื่องคนใหญ่โตระดับจี้ฉงซาน แค่คิดก็รู้สึกตื่นเต้น
“จำไว้ ผมให้คุณไปทำอย่างวางใจ แต่อย่าใจร้อน ต้องทำทุกอย่างให้เรียบร้อย จัดการคนอย่างจี้ฉงซาน โอกาสมีเพียงครั้งเดียว” หลินอิ่งพูดจริงจัง
ทุกอย่างที่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลเหวิน หลินอิ่งจะทำเต็มที่ ไม่ห่วงผลลัพธ์
ตระกูลเหวินไม่สิ้น เขาจะไม่มีวันวางมือ
คนอย่างจี้ฉงซาน ถ้าจัดการที่ตี้จิงไม่ได้ หากเขากลับเมืองก่างแล้ว อยากหาโอกาสบังคับเขาถามเรื่องเกี่ยวกับตระกูลเหวิน ยากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์
เพราะว่า เขาคือเจ้าสัวจี้ มหาเศรษฐีแห่งเมืองก่าง
“ท่านอิ่ง ผมเข้าใจครับ” หยูจื๋อเฉิงพยักหน้าตอบ
“ดี คุณกลับไปก่อน ถ้ามีอะไร ผมจะติดต่อคุณเอง” หลินอิ่งดื่มชาไปหลายคำ พูดอย่างใจเย็น
“ท่านอิ่ง ท่านไม่ไปดูงานที่สำนักงานใหญ่หน่อยเหรอครับ?” หยูจื๋อเฉิงพูดด้วยสีหน้าลังเล “หลายเดือนนี้มาผมช่วยท่านดูแลกิจกรรมของตระกูลฉี เรียบเรียงผลรายงานงบการเงินออกมาแล้ว……”
“ไม่ต้องแล้ว” หลินอิ่งพูด “กิจกรรมที่ตี้จิง มีคุณคอยดูแลผมวางใจ”
“ครับ” หยูจื๋อเฉิงพยักหน้า ความเชื่อใจของหลินอิ่งทำให้เขารู้สึกตื้นตันและหวาดกลัว
กิจการทุกอย่างของท่านอิ่งในเมืองตี้จิง ทรัพย์สินทั้งหมดรวมกันมากว่าแสนล้าน กลับไม่ไปดูเลย ไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย ความมั่นใจนี้ทำให้รู้สึกน่าเกรงขาม
เขาเองก็รู้ดี ครั้งนี้ท่านอิ่งมาตี้จิงเป็นเพื่อนภรรยา หรือว่า ในใจท่านอิ่งแล้ว กิจการพวกนี้สู้ความรู้สึกของภรรยาไม่ได้เลย
“ใช่แล้วครับ ท่านอิ่ง ช่วงนี้ แวดวงสังคมผู้ดีในตี้จิง อำนาจของแต่ละตระกูล ต่างเข้าหาผม ต่างแสดงความสนใจ” หยูจื๋อเฉิงพูดสีหน้าจริงจัง “ตระกูลสวีแห่งตี้จิง ตระกูลกงซุน ตระกูลนิ่ง และอีกหลายตระกูล แม้กระทั่งคนใหญ่คนโตในสภาหลายคน ต่างก็อยากเชิญท่าน อยากร่วมงานกับท่าน”
ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่หลินอิ่งมาจัดการตระกูลเหวินอย่างราบคาบ ชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศหลุง ก็ไม่เคยแสดงตัวให้เห็นที่ไหนเลย ผู้คนต่างรู้สึกว่าเขาลึกลับมาก ทุกคนต่างอยากมีความสัมพันธ์ที่ดีที่ฉีหยิ่นแห่งตี้จิงคนนี้ ผู้นำตระกูลฉี ข่าวลือต่างๆนานา ลือกันจนเหมือนเขาเป็นคนในเทพนิยายแล้ว……
สรุปก็คือ ฉีหยิ่นไม่ได้อยู่ที่ตี้จิง แต่ตี้จิงมีข่าวลือต่างๆนานาเกี่ยวกับฉีหยิ่น
หลินอิ่งพูด “คุณไม่ต้องสนใจคนพวกนั้น รับรองง่ายๆก็พอ”
“ครับ” หยูจื๋อเฉิงพยักหน้า
จากนั้น หลินอิ่งคุยเรื่องงานกับหยูจื๋อเฉิงสักพัก สั่งงานเรียบร้อย เขาก็ออกจากออฟฟิศ
ภายในห้องรับรอง จางฉีโม่ยังนั่งอยู่บนโซฟา ในมือถือแก้วกาแฟไว้ เห็นหลินอิ่งออกมา เธอก็ลุกขึ้น
“เป็นยังไงบ้าง? คุยเรื่องงานกับเพื่อนคุณเสร็จแล้วเหรอ?” จางฉีโม่ถาม
“คุยเสร็จแล้ว” หลินอิ่งพยักหน้า “ฉีโม่ ช่วงนี้พักที่โรงแรมจงเทียน คุณว่าไง? ผมช่วยจองห้องที่ดีที่สุดของโรงแรม”
จางฉีโม่คิดไปสักพัก พูดว่า “ได้ค่ะ เพราะยังต้องอยู่ตี้จิงอีกสักพัก ถ้าที่นี่เป็นโรงแรมของเพื่อนคุณ ก็พักที่นี่เลยค่ะ”