ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 252 งานเครื่องประดับตี้จิง
บทที่ 252 งานเครื่องประดับตี้จิง
คืนนั้น จางฉีโม่กับหลินอิ่งพักที่โรงแรมจงเทียน
พักในห้องที่หรูที่สุด จางฉีโม่ก็สัมผัสและสนุกกับความหรูหราสบายห้องโรงแรมสักครั้ง และรู้สึกดีมาก
เที่ยงของวันที่สอง
หลินอิ่งกับฮาเดสไปเอารถBentleyที่ชั้นใต้ดิน ไปเขตเหยียนหวงกับจางฉีโม่
งานเครื่องประดับตี้จิงครั้งนี้ จัดที่พาณิชย์พลาซ่าเหยียนหวงเขตเหยียนหวง เหมาห้องแสดงสินค้าหนึ่งชั้น จัดอย่างใหญ่โต
เป็นงานที่ใหญ่ที่สุดของงานแสดงเครื่องประดับในประเทศ ครั้งนี้เชิญบริษัทเครื่องประดับยักษ์ใหญ่ทั่วประเทศมาร่วมงาน มหาเศรษฐีพื้นที่ของตี้จิงก็เข้าร่วมงาน โครงสร้างงานใหญ่โต
นอกจากการรวมตัวของบริษัทเครื่องประดับแล้ว ในงานยังมีการแสดงงานออกแบบเครื่องประดับต่างๆ
แน่นอน ยังมีบริษัทเครื่องประดับจากต่างประเทศเข้าร่วมงานสัมมนาครั้งนี้ด้วย บริษัทแบรนด์ต่างประเทศระดับสิบอันดับแรกจากทั่วโลก มากันพร้อมหน้า
งานแสดงเครื่องประดับครั้งนี้ ฐานะในวงการเครื่องประดับประเทศหลุง คือระดับที่สูงที่สุด เทียบเท่าระดับงานออสการ์
รถขับไปตามถนนที่เจริญรุ่งเรือง ที่นั่งด้านหลัง จางฉีโม่เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง มองไปที่หลินอิ่งที่กำลังหลับตาพักผ่อน พูดว่า “หลินอิ่ง คุณคุยกับเพื่อนคุณว่ายังไงบ้าง มีทรัพยากรเกี่ยวกับด้านเครื่องประดับไหม?”
“ผมหาคนในวงการเดียวกันไปถามแล้ว สวีเหอที่คุยเมื่อวาน เป็นหัวหน้าระดับสูงของบริษัทเครื่องประดับตระกูลสวีแห่งตี้จิง มีอำนาจมากในแวดวงเครื่องประดับของตี้จิง พวกเราทำให้เขาโกรธไม่ได้ เพราะไม่รู้เขาจะทำอะไรในที่ลับหรือเปล่า” จางฉีโม่พูดอย่างกังวล
เธอมาตี้จิงครั้งนี้เพราะมีแผนจะเข้าตลาดตี้จิง นอกจากอำนาจของสวีเหอในวงการเครื่องประดับตี้จิง สามารถขัดขวางเธอได้อย่างง่ายดาย โดยทำอะไรไม่ได้เลย
หลินอิ่งพูดช้าๆ “ไม่เป็นไร ฉีโม่ คุณไม่ต้องกังวลสวีเหอ ตั้งใจทำงานของคุณก็พอ คุณเอาสินค้าเครื่องประดับที่คุณออกแบบและภาพงานออกแบบของคุณมาใช่ไหม? เชื่อมั่นในความสามารถของคุณ ความสามารถจะพิสูจน์ทุกอย่างเอง และข่าวลือวุ่นวายในวงการนั้น ผมจะจัดการเอง”
“ผู้จัดงานเครื่องประดับตี้จิงในครั้งนี้คือสภาเครื่องประดับประเทศหลุง ผู้รับผิดชอบแซ่หลิว เพื่อนผมรู้จักเขา เคยแนะนำแล้ว เดี๋ยวไปทักทายเขาหน่อย”
เมื่อวานหลินอิ่งให้หยูจื๋อเฉิงไปทำเรื่องนี้โดยเฉพาะ ผู้รับผิดชอบงานเครื่องประดับชื่อหลิวเป่า เป็นผู้มีอำนาจในวงการเครื่องประดับแห่งตี้จิง และเป็นประธานของสภาเครื่องประดับ เขาและบริษัทเครื่องประดับตระกูลฉีในนามเขา มีธุรกิจไปมาหาสู่กันมากมาย”
เพราะฉะนั้น เขาได้ให้หยูจื๋อเฉิงทักทายแล้ว เพื่อสะดวกกับการทำงาน
“ออ เพื่อนคุณรู้จักหลิวเป่าเหรอ” จางฉีโม่พยักหน้า รู้สึกวางใจแล้ว
เป็นคนที่อยู่ในวงการเครื่องประดับ จางฉีโม่ที่อยู่ไกลถึงเมืองตุงไห่ก็เคยได้ยินชื่อเสียงของหลิวเป่าแห่งตี้จิง เป็นผู้ใหญ่ที่มีอำนาจในวงการอย่างมาก อยู่ในวงการมาหลายสิบปี เคยออกแบบเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงมานับไม่ถ้วน และมีฝีมือการเกาะสลักหยกอย่างดีเยี่ยม ระดับอาจารย์
ขณะที่ทั้งกำลังคุยกัน รถก็มาถึงพาณิชย์พลาซ่าเหยียนหวง ฮาเดสลงไปเปิดประตูอย่างถนัด หลินอิ่งทั้งสองคนลงจากรถ
เวลาเดียวกัน พาณิชย์พลาซ่าเหยียนหวง ผู้คนมากมาย บรรยากาศครึกครื้น รอบด้านมีแต่คนแต่งกายไม่ธรรมดา และรถหรูจอดอยู่สองข้างทางจนเต็ม
และนี่ก็เป็นรูปความเป็นอยู่ของผู้ดีในตี้จิง และนักธุรกิจคนรวยที่นี่ก็ชอบขับรถที่มีสไตล์เรียบหรู แต่ไม่ใช่รถสปอร์ตที่ตกแต่งหรูหรา
เป็นสถานที่มีรูปแบบที่ไม่เหมือนที่ใด ชอบรูปแบบความเรียบหรู มีสไตล์
“ไม่เสียที่เป็นตี้จิง อาคารบ้านเรือนก็ให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนกัน” จางฉีโม่มองไปรอบข้าง พูดอย่างชื่นชม
หลินอิ่งมองไปรอบหนึ่งสีหน้าเรียบเฉย พูดว่า “ใช่ ตึกอาคารสำนักงานใจกลางเมืองตี้จิง ตอนก่อสร้างก็สร้างสำหรับทีมงานระดับสูง อีกอย่างยังเชิญอาจารย์มาดูสถานที่ก่อน เพราะฉะนั้นรูปแบบจึงไม่ธรรมดา”
ตึกและอาคารแถวนี้แรงกันเป็นแถวๆ เป็นตึกระดับสูงทั้งนั้น ทั้งพลาซ่าดูแล้วยิ่งใหญ่สวยหรูมาก เมืองชินหยูนเปรียบไม่ได้
ถ้าสังเกตอย่างละเอียดแล้ว จะพบว่า เขตใจกลางเมืองหลายแห่งที่เจริญของตี้จิง การสร้างอาคารทั้งหมด ล้วนมีความใส่ใจอย่างลึกซึ้ง โครงสร้างทั้งหมดล้วนมีการวางแผน
เพราะว่า งานสถาปนิกของประเทศหลุงนั้นเป็นศิลปะโบราณที่สืบทอดกันมา เป็นความรู้ที่มีความลึกซึ้งอย่างหนึ่ง
จางฉีโม่พยักหน้า ทั้งสองคนคุยกันไป แล้วเดินเข้าไปพาณิชย์พลาซ่าเหยียนหวง
หลายนาทีผ่านไป ทั้งสองก็เดินเข้าไปในห้องโถงพาณิชย์พลาซ่าเหยียนหวง
ในห้องแสดงสินค้าตอนนี้ ผู้คนมากหน้าหลายตา มีพรมแดงปูตามทางเดินทุกด้านอย่างหรูหรา ตู้กระจกแสดงสินค้าวางเต็มห้องแสดงสินค้า ทุกตู้ล้วนเป็นเครื่องประดับล้ำค่า รูปแบบจีน ตะวันตก เพชร เครื่องประดับที่ทำจากคริสทัล หยก
พูดได้ว่า ภายในห้องแสดงสินค้าอันกว้างขวาง เครื่องประดับที่นำมาแสดงนั้น รวมกันแล้วมีมูลค่ามากกว่าพันล้าน ดูอลังการ และทำให้ผู้คนดูอิ่มตา
จางฉีโม่สีหน้าดีใจ มองไปรอบด้าน เธอมองดูเครื่องประดับทุกชิ้นมีชื่อบริษัทและชื่อผู้ออกแบบบันทึกไว้ สายตาเต็มไปด้วยความหวัง
สามารถนำเครื่องประดับงานออกแบบของตัวเองมาแสดงในงานเครื่องประดับระดับสูงในประเทศหลุงได้ นั่นเป็นความฝันของนักออกแบบเครื่องประดับทุกคนในประเทศหลุง
หลินอิ่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรออก จากนั้นหันไปมองจางฉีโม่ สีหน้ายิ้มแย้มพูดว่า “ฉีโม่ ตามผมมา ไปทักทายคุณหลิวเป่ากัน ครั้งนี้ ผมจะให้เขาเอางานออกแบบของคุณมาแสดงสักครั้ง ถ้าคุณอยากร่วมมือกับบริษัทเครื่องประดับไหน ขอให้คุณบอก เราสามารถออกคำเชิญได้”
“ค่ะ” จางฉีโม่พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “ครั้งนี้ต้องขอบคุณคุณมาก หลินอิ่ง”
จางฉีโม่รับรู้ได้ ว่าสิ่งที่หลินอิ่งช่วยเหลือเธอ อย่างเต็มที่แบบไม่มีข้อแม้ สุดความสามารถ
หัวหน้าสมาคมจูที่รู้จักในเมืองตุงไห่ก็แตกแยกแล้ว และไม่ต้องไปมาหาสู่กับคนแบบนั้นอีก ก่อนหน้านี้ช่างโง่เหลือเกิน ยังเสียเงินไปขอความช่วยเหลือจากเขา เพราะทรัพยากรที่หลินอิ่งมีในตี้จิง มากกว่าหัวหน้าสมาคมจูอีก ได้เข้าหาประธานสมาคมเครื่องประดับหลิวเป่าโดยตรง
“จางฉีโม่ ทำไมเธอยังกล้ามาร่วมงานแสดงเครื่องประดับอีก?”
เวลาเดียวกัน มีเสียงของผู้หญิงที่น่ารังเกียจดังขึ้น
จูฟางเดินมาพร้อมกับชายหญิงกลุ่มหนึ่ง สวีเหอก็อยู่ข้างๆ มองหลินอิ่งกับจางฉีโม่ด้วยสีหน้าเย็นชา
“หัวหน้าสมาคมจู ฉันมาที่มีอะไรไม่ถูกเหรอ?” จางฉีมาตอบสีหน้าเรียบเฉย
“เหอะ เธอมาร่วมงานแสดงเครื่องประดับได้ พึ่งใคร ในใจไม่รู้เลยเหรอ? ถ้าไม่มีฉันช่วย ลำพังบริษัทเธอแล้ว มีสิทธิ์เข้ามาเหรอ?” จูฟางพูดด้วยสีหน้ายโส “น่าเสียดาย ฉันอยากช่วยเธอ แต่เธอกลับไม่ไว้หน้า อุตส่าห์แนะนำคุณชายสวี สวีเหอ แต่พวกเธอกลับไปสร้างปัญหากับเขา กบในกะลาจริงๆ ขึ้นที่สูงไม่ได้”