ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 255 ถังฮุยสิบคนก็ช่วยอะไรไม่ได้
บทที่ 255 ถังฮุยสิบคนก็ช่วยอะไรไม่ได้
“ทำสุดความสามารถ เหอะ ยังถือว่ารู้เรื่อง” คุณชายสวีหัวเราะเย็นชา ท่าทางยโสโอหัง
เขากวาดสายตามอง มองหลินอิ่งกับจางฉีโม่อย่างละเอียด จากนั้นสายตาก็จ้องบนตัวจางฉีโม่ ด้วยสายตาเจ้าชู้ สีหน้าเลวร้าย เหมือนมีความคิดชั่วร้าย
“ไม่เลว สวีเหอ เรื่องที่พูดก่อนหน้านี้ พี่ช่วยนายจัดการเอง” คุณชายสวีตบไหล่สวีเหอ พูดตาด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
“ครับ ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนพี่ซงช่วยออกหน้าด้วย” สวีเหอท่าทางได้ใจ ยิ้มหน้าบาน
“ไม่ว่ายังไง นายสวีเหอก็เป็นคนของตระกูลสวี ตีหมาก็ต้องดูเจ้าของ มีคนกล้าหักหน้านายในพื้นที่ของตี้จิง แบบนี้ฉันก็ต้องออกหน้าอยู่แล้ว” คุณชายสวีพูดเหมือนมีเหตุมีผล มองหลิวเป่ากับหลินอิ่งสายตาเย็นชา
“ว้าว ที่แท้ก็คุณชายสวีนั่นเอง คิดไม่ถึงว่าคุณชายสวีก็มาร่วมงานเครื่องประดับครั้งนี้ด้วย”
“ดีมากเลย ขนาดคุณชายสวียังมา ชื่อเสียงเขาใครๆก็รู้”
จากที่คุณชายพาบอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งเข้ามาในงาน ก็ทำให้ภายในงานครึกครื้นทันที แขกที่มาร่วมงานหลายคนก็เข้ามาดู พูดคุยซุบซิบกันขึ้นมา
หลิวเป่าสีหน้าหวาดกลัว รู้สึกว่าเรื่องไม่ค่อยดีแล้ว คิดไม่ถึงว่าช่วยหยูจื๋อเฉิงเรื่องแค่นี้ กระชับความสัมพันธ์เท่านั้น กลับไปมีเรื่องกับคุณชายตี้จิงคนนี้ได้ คราวนี้เกิดเรื่องใหญ่แล้ว
คุณชายสวีตรงหน้านี้ เป็นคุณชายใหญ่แห่งตระกูลสวี เป็นหลายชายสุดรักของนายท่านตระกูลสวี ผู้สืบทอดคนหนึ่งของตระกูลสวี ไม่ใช่ลูกหลานห่างๆอย่างสวีเหอจะเทียบได้
สวีชิงซง มีอำนาจพอสมควร ในแวดวงมหาเศรษฐีแห่งตี้จิงถูกเรียกว่าคุณชายหนึ่งในสี่แห่งตี้จิง อำนาจใหญ่โตแบบคาดไม่ถึง อยู่ในเขตเหยียนหวงแห่งตี้จิงแล้วเดินไปไหนก็มีแต่คนรู้จัก ไม่มีใครกล้าหาเรื่อง
ต้องรู้ว่า ครอบครัวนักธุรกิจในตี้จิง และห้าตระกูลมหาเศรษฐีประเทศหลุง ลูกหลานมากมาย มหาเศรษฐีรุ่นสอง และสวีชิงซงถูกเรียกว่าคุณชายทั้งสี่แห่งตี้จิง มีอำนาจมากแค่ไหน
“คุณชายสวี ผมทำงานตามหลักการทั้งนั้น หากมีตรงไหนทำให้ไม่พอใจ ต้องขออภัยด้วย” หลิวเป่าก้มหัวขอโทษ ท่าทางอ่อนน้อมเคารพ
สวีชิงซงท่าทางโอหัง ดูน่าเกรงขาม คุณชายคนนี้โมโหขึ้นมา มีไม่กี่คนที่จะรับไหว
ถึงแม้ว่าเขาหลิวเป่าจะเป็นคนมีอำนาจในวงการเครื่องประดับแห่งตี้จิง แต่ต่อหน้าสวีชิงซงแล้ว กลับไม่ใช่อะไรเลย มันห่างกันไกลมาก
“ทำตามหลักการ?” สวีชิงซงมองไปที่หลิวเป่า พูดด้วยสีหน้าเฉื่อยชา “คุณทำตามหลักการ ก็คือให้น้องชายผมขายหน้าต่อหน้าผู้คน?”
“ไม่ คุณชายสวี ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” หลิวเป่าพูดอย่างหวาดกลัว
เพี๊ยะ
เพิ่งพูดจบ สวีชิงซงก็ตบเข้าที่หน้าของหลิวเป่า ฝ่ามือเดียวตบจนหน้าเขาแดงก่ำ
หลิวเป่าโมโหแต่ไม่กล้าออกเสียง ทำได้เพียงก้มหน้า เขาตบหน้าตัวเองต่อหน้าผู้คนมากมาย ในงานที่เขาเป็นคนจัดขึ้นเอง แม้แต่สีหน้าแสดงอาการโกรธยังไม่กล้า
“ไอ้แก่อย่างแกยังกล้ามาวางมาด?” สวีชิงซงพูดอย่างยโสโอหัง แล้วตบไปที่หน้าหลิวเป่าอีกสองครั้ง “ฉันตบหน้าแก แกมีอะไรไม่พอใจไหม?”
“ผม……” หลิวเป่าสีหน้าขมขื่น กัดฟันพูด “คุณชายสวี ผมพอใจ คุณทำถูกแล้ว”
ชื่อเสียงสวีชิงซงด้านลบโด่งดังในตี้จิง เป็นคนเหมือนไวรัส ยโสโอหังอวดดี ทำอะไรตามใจ
พอไม่พอใจใครก็จะทำร้ายร่างกายคนเพื่อระบายอารมณ์ ทำจนครอบครัวคนอื่นหายนะ พอเห็นผู้หญิงที่ถูกใจก็จะใช้ทุกวิถีทางเพื่อได้มา ผู้หญิงที่มีครอบครัวแล้วก็ถูกเขาทำลายจนครอบครัวแตกแยก โดดตึกฆ่าตัวตายก็มากมาย ในแวดวงผู้ดีตี้จิงไม่ใช่ความลับอะไร
ทำเรื่องเลวร้ายมากมายขนาดนี้ แต่เขาสวีชิงซงก็ยังใช้ชีวิตสนุกเสเพลไปวันๆ คนชั่วแบบนี้ มีใครกล้าไปมีเรื่องด้วย?
“พอใจก็ดี” สวีชิงซงพูดอย่างใจเย็น “ได้ยินว่าแกยังจะช่วยใครอะไรนั่น หลินอิ่งกับจางฉีโม่ทำธุรกิจเครื่องประดับที่ตี้จิง แกช่างมีความสามารถนะ? ตอนนี้ฉันไม่อนุญาต แกว่าไง?”
“ผม……” หลิวเป่าสีหน้าหนักใจ ทางด้านหลินอิ่งก็เป็นเพื่อนของหยูจื๋อเฉิง ถึงแม้ว่าหยูจื๋อเฉิงก็ไม่กล้าปฏิเสธ แต่ว่าสวีชิงซงคนอยู่ตรงหน้า ยิ่งไม่กล้าขัดใจ
“คุณชายสวี ทำตามที่คุณพูด ผมยกเลิกการร่วมงานทุกอย่างกับจางฉีโม่เดี๋ยวนี้ ถ้าคุณไม่ให้พวกเขาทำธุรกิจ เดี๋ยวผมสั่งให้บริษัทเครื่องประดับปิดกั้นธุรกิจของพวกเขาทันที” หลิวเป่าก้มหน้าพูด อยู่ใต้อำนาจเขาเลือกที่จะก้มหัวให้สวีชิงซง
“ฮาฮาฮา” สวีชิงซงหัวเราะได้ใจ “ไอ้แก่อย่างแกยังถือว่ารู้ตัว ไปคุกเข่าทางโน้นไป ฉันให้แกลุกขึ้นเมื่อไหร่ค่อยลุก”
“อาจารย์หลิว นี่มัน การร่วมงานที่เพิ่งคุยกันไปก็เปลี่ยนคำพูด นี่มันเรื่องเด็กเล่นเกินไปไหมคะ?” จางฉีโม่สีหน้าไม่ดี รู้สึกคุณชายสวีอะไรคนนี้ รังแกคนชัดๆ พฤติกรรมเกินไปแล้ว
“อีกอย่าง พวกเราคุยเรื่องร่วมงานกัน เกี่ยวอะไรกับคุณ? ฉันไม่รู้จักคุณ” จางฉีโม่สีหน้าโมโหหันไปมองสวีชิงซง
“ออ คุณจางฉีโม่ คุณไม่รู้จักผมไม่เป็นไร ตอนนี้รู้จักแล้ว” สวีชิงซงพูดจาสีหน้าหยอกล้อ “ความจริงคุณอยากทำธุรกิจเครื่องประดับที่ตี้จิง ง่ายมาก หาผมก็ได้ แค่คุณเชื่อฟังผม ผมสามารถเปลี่ยนงานเครื่องประดับครั้งนี้เป็นงานแสดงเครื่องประดับเฉพาะคุณ สำหรับผมเป็นใครนั้น คงไม่ต้องแนะนำอะไรมาก สวีชิงซง คุณไปถามที่ไหนก็ได้ในตี้จิง”
“ออ ใช่แล้ว” สวีชิงซงคิดขึ้นมาได้ สายตาก็มองไปที่หลินอิ่งอย่างเย็นชา “แกชื่อหลินอิ่งใช่ไหม? ได้ข่าวว่ารู้จักถังฮุยของเขตจงเทียน ก็เลยกล้าอวดดี? ใช่ไหม?”
หลินอิ่งสายตาเรียบเฉย พูดว่า “ใช่หรือไม่ เกี่ยวอะไรกับนาย?”
“โอ้โห กล้ามากนะ กล้ามาตอกปาก ตอกคำ?” สวีชิงซงรู้สึกตลกหัวเราะขึ้นมา แววตาส่อแววชั่วร้าย
ไอ้บ้านนอกที่มาจากไหนไม่รู้ กล้ามาท้าทายเขา? มีตาหามีแววไม่? ไม่เห็นหรือว่าหลิวเป่ายังไปคุกเข่าอย่างเชื่อฟัง? หลินอิ่งคนนี้ยังไม่รีบไปคุกเข่าอีก?
จากคำพูดของหลินอิ่งแล้ว หลิวเป่าที่คุกเข่าอยู่ก็จ้องหลินอิ่งด้วยสีหน้าตกใจ อยากพูดแต่ไม่กล้าพูด อยากบอกให้หลินอิ่งรีบก้มหัว
“โอ้โห คนคนนี้กล้ามีเรื่องกับคุณชายสวี? เขาบ้าไปแล้วใช่ไหม?”
“ในตี้จิงมีใครไม่รู้นิสัยคุณชายสวี? อารมณ์ไม่ดี ไม่พอใจขึ้นมาโดนทำร้ายจนพิการได้ ยังกล้าตอบกลับอีก? รนหาที่ตายชัดๆ”
คนที่มามุงดูต่างก็พูดคุยกันด้วยสีหน้าหวาดกลัว มองหลินอิ่งด้วยสีหน้าเห็นใจ
เท่าที่พวกเขาดูแล้ว หลินอิ่งคนนี้จบแน่ คืนนี้คงได้เป็นศพลอยอยู่บนแม่น้ำตี้แน่นอน
มีใครไม่รู้จักนิสัยโมโหร้ายของคุณชายสวีบ้าง? คนที่กล้ามีเรื่องกับเขาเท่าที่รู้ก็ตายหมดแล้ว คนคนนี้มีอะไรไม่พอใจก็ต้องแก้แค้น เพราะเบื้องหลังมีตระกูลสวี ทำอะไรตามใจตัวเองในตี้จิง ผู้คนที่ได้ยินต่างหวาดกลัว
“ต้องสั่งสอนแกดีๆ แล้วฉันขอบอกแก กล้ามีปัญหากับฉัน ถังฮุยสิบคนก็ช่วยอะไรแกไม่ได้”
สวีชิงซงจ้องหลินอิ่งสีหน้าโมโห ยกมือขึ้นก็ตบไปที่หน้าหลินอิ่งอย่างแรง