ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 270 ที่ตีก็คือคนตระกูลจ้าว
บทที่ 270 ที่ตีก็คือคนตระกูลจ้าว
“แกว่าอะไรนะ? ” จ้าวเจี้ยนหนิงเต็มไปด้วยความโกรธ เงยหน้าสบตาฮาเดสอย่างเดือดดาล “ไหนมึงลองพูดกับกูอีกครั้งสิ? ”
เขาไม่คาดคิดเลยว่า บอดี้การ์ดบ้านนอกที่มาจากไหนไม่รู้คนหนึ่ง ถึงกับกล้าบอกให้เขาไสหัวออกไป?
ตระกูลจ้าวแห่งตี้จิงมีชื่อเสียงขนาดนี้ แกไม่เคยได้ยินหรือไง?
“แกหูหนวกเหรอ? ฉันบอกให้แกไสหัวออกไป! ” ฮาเดสพูดเสียงขรึม
ฮาเดสอยากลงมือแต่แรกแล้ว ไอ้โง่แบบนี้ถึงกับกล้าแย่งที่นั่งของประธานหลินเชียวหรือ? เขาถึงคร้านจะสนใจตระกูลอะไรนั่น เขารู้แค่ว่า ไอ้คนแซ่จ้าวที่อยู่ตรงหน้านี้ เขาสามารถต่อยตายได้ด้วยหมัดเดียว
“ฮ่าฮ่าฮ่า” จ้าวเจี้ยนหนิงหัวเราะอย่างโกรธจัด “ช่างไม่รู้และไม่เกรงกลัวจริงๆ กบสองตัวที่ก้นบ่อ แกกำลังล่วงเกินคนที่ไม่อาจล่วงเกินได้อยู่รู้ไหม? ”
“นิ่งซวน ฉันว่าแกอยู่ในวงสังคมตี้จิงอย่างสูญเปล่าจริงๆ ถึงได้ไปผูกมิตรกับคนไม่รู้จักตายเช่นนี้” จ้าวเจี้ยนหนิงกล่าวอย่างเยาะหยัน
ในขณะที่กำลังพูด จ้าวเจี้ยนหนิงก็หยิบมือถือออกมา ราวกับเตรียมจะโทรเรียกคนมาที่นี่เพื่อจัดการหลินอิ่งกับฮาเดส
“อีกเดี๋ยวพวกแกสองคนก็จะรู้ตัวว่าผิดไปแล้ว” จ้าวเจี้ยนหนิงหยิบมือถือกล่าวอย่างชะล่าใจ
ฮาเดสมีท่าทีเฉยเมย จู่ๆ ก็เอื้อมมือออกไปบิดข้อมือของจ้าวเจี้ยนหนิงไว้ มีเสียงโครมครามเกิดขึ้น มือถือของเขากระแทกลงกับพื้น
“เฮ้ย! แกทำอะไร? ” จ้าวเจี้ยนหนิงจ้องฮาเดสอย่างโกรธจัด “ไอ้บ้านนอก ยังไม่ปล่อยมือสกปรกของแกอีก! ”
เขาไม่รู้ว่าบอดี้การ์ดคนนี้เอาความกล้ามากมายมาจากที่ไหน ถึงกับกล้ามาขัดจังหวะเขาโทรศัพท์
อีกทั้งแรงขนาดนี้มันเกินไปแล้วหรือเปล่า? แค่บีบเฉยๆ ข้อมือก็รู้สึกราวกับถูกคีมขนาดใหญ่หนีบไว้ สามารถหักได้ทุกเมื่อ
“ถ้ายังไม่ปล่อยอีก วันนี้กูจะฆ่าพวกมึงสองคนให้ตายราวกับหมาตัวหนึ่ง! ” จ้าวเจี้ยนหนิงพูดอย่างโกรธจัด จ้องฮาเดสด้วยสายตาดุร้าย
ฮาเดากล่าวเสียงเย็นว่า “โทรเรียกคนต่อหน้าประธานหลิน ฉันว่าแกคงอยากตายสินะ”
เพี๊ยะ!
สิ้นคำ ฮาเดสก็ยกมือแล้วสะบัดฝ่ามือลงบนหน้าจ้าวเจี้ยนหนิง จนสมองเขาอื้ออึงไปหมด
“โอ๊ย! ” จ้าวเจี้ยนหนิงร้องเสียงหลง รู้สึกอับอายอย่างมาก เผยสายตาไม่อยากจะเชื่อออกมา
เกิดเสียงพลั่กดังขึ้น
ยังไม่ทันที่จ้าวเจี้ยนหนิงจะได้ตอบสนอง จู่ๆ ฮาเดสก็จับไหล่เขาไว้ แล้วยกตัวเขาออกจากที่นั่งอย่างรุนแรง จนกระเด็นไปไกลถึงสิบกว่าเมตร กระแทกกับกำแพงอย่างแรง ล้มหัวคะมำ แล้วหล่นลงกับพื้นเสียงดังพลั่ก
“ที่นั่งของประธานหลินแกก็กล้าแย่งหรือ? ไสหัวไป!” ฮาเดสพูดเสียงเย็น
“ไอ้บ้านี่ กล้าลงมือเหรอ? เรื่องในวันนี้ไม่จบแน่!” จ้าวเจี้ยนหนิงยืนขึ้นใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ เผยสายตาอยากฆ่าคนออกมา ถลึงตามองหลินอิ่งกับฮาเดสอย่างดุร้าย
“คุณชายจ้าว คุณไม่เป็นไรนะ? ”
“นิ่งซวน แกจบเห่แล้ว ถึงกับกล้าร่วมมือกับไอ้บ้านนอกไม่รู้จักที่ตาย มาลงมือกับคุณชายจ้าว! ตระกูลนิ่งต้องลบชื่อแกทิ้งแน่!”
ในเวลานี้ ผู้ติดตามที่ข้างกายจ้าวเจี้ยนหนิงต่างล้อมวงกันเข้ามา แต่ละคนมีสีหน้าโกรธเกรี้ยว
จ้าวเจี้ยนหนิงเป็นเจ้านายของพวกเขา ประธานหลินที่นิ่งซวนรู้จักคนนี้ถึงกับกล้าไม่เห็นคุณชายจ้าวอยู่ในสายตา ช่างกินใจหมีดีเสือมาจริงๆ
ผู้ติดตามกลุ่มนี้แต่ละคนถลึงตามองด้วยความโกรธและสบตากัน แต่หลังจากเห็นความสูงมากกว่าสองเมตรและแขนที่เต็มไปด้วยแรงระเบิดของฮาเดส ต่างก็หดตัว ไม่กล้าไปยั่วโมโหบอดี้การ์ดผู้โมโหร้ายคนนี้อีก
“ได้บอดี้การ์ดหน้าโง่คนนี้ของแก นิ่งซวน แล้วก็ไอ้คนแซ่หลินอีกคน พวกแกแต่ละคน วันนี้อย่าคิดว่าจะออกไปจากร้านน้ำชาซินสุยอย่างสงบ!” จ้าวเจี้ยนหนิงใบหน้าเต็มไปด้วยการไม่ยอมแพ้ ยกมือชี้พวกหลินอิ่ง ท่าทางอวดดีอย่างยิ่ง
“ใช่แล้ว วันนี้พวกแกแต่ละคนใครก็อย่าได้คิดจะจากไป จะต้องคุกเข่าโขกหัวชดใช้ความผิดให้คุณชายจ้าวก่อนถึงจะได้”
“ก็บอกพวกแกแล้วว่าคุณชายจ้าวเป็นคนของตระกูลจ้าวแห่งตี้จิง ถึงกับยังกล้าอวดดีขนาดนี้ ช่างโง่เขลาเบาปัญญาเสียจริง!”
ผู้ติดตามข้างกายจ้าวเจี้ยนหนิงก็ช่วยพูดสำทับเช่นกัน ร้องตะโกนใส่พวกหลินอิ่งอยู่สักพัก
พวกเขาแทบจะคาดเดาจุดจบของพวกหลินอิ่งได้อย่างแน่นอนแล้ว คนที่แตะต้องตระกูลจ้าวในเขตเสิ่นหนง นั่นก็คือการกระตุกหนวดเสือดีๆ นี่เอง ไม่มีทางมีจุดจบที่ดีอย่างแน่นอน
ด้วยอิทธิพลของคุณชายจ้าว การอยู่ขอบเขตนี้ในเขตเสิ่นหนง คือการขานรับสนั่นเมือง
แม้แต่จักรพรรดิใต้ดินของเขตเสิ่นหนง ก็ต้องไว้หน้าให้คุณชายจ้าวหลายส่วน
“ที่ตีก็คือคนตระกูลจ้าว” หลินอิ่งพูดเนิบๆ “ให้พวกเขาหุบปาก และโยนพวกเขาทั้งหมดออกไป”
เขาไม่สนใจที่จะเสวนาเรื่องไร้สาระกับคนตระกูลจ้าวไปมากกว่านี้
พฤติกรรมของตระกูลจ้าว เป็นที่รู้จักกันดีในตี้จิง จากเบื้องบนถึงเบื้องล่าง ไม่ว่าจะเป็นตระกูลชั้นสุงหรือตระกูลต่ำต้อย ก็ล้วนมีท่าทางราวกับราชาแห่งสวรรค์ เห็นตี้จิงเป็นสวนหลังบ้านของตระกูลจ้าว จะทำตามอำเภอใจอย่างไรก็ได้
“ครับ” ฮาเดสพยักหน้าอย่างนอบน้อม จากนั้นก็หมุนตัวเดินไปหาพรรคพวกของจ้าวเจี้ยนหนิง
“โยนออกไป? แม่แกสิ กูยังไม่เคยเห็นใครที่กำเริบเสิบสานอย่างมึงเลย!” จ้าวเจี้ยนหนิงใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ คิดจะพุ่งเข้าไปตบหน้าสักฉาด กลับถูกฮาเดสข่มไว้จนไม่กล้าขยับเขยื้อน
เขาไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมถึงได้มีคนสมองทึบแบบนี้ได้ แถมที่ตีก็คือคนตระกูลจ้าว? คนแซ่หลินคนนี้ต้องมีชีวิตอีกกี่ชีวิตกันถึงจะเพียงพอให้ทรมาน?
เกิดเสียงเพี๊ยะดังขึ้น
ฮาเดสพุ่งเข้าไปตบหน้าพวกขาสุนัขที่ยังร้องตะโกนกลุ่มนั้นจนฟกช้ำดำเขียว พวกเขาจึงปิดปากแต่โดยดี
“แก! แก!” จ้าวเจี้ยนหนิงมองฮาเดสอย่างตื่นตระหนกอยู่บ้าง คิดไม่ถึงว่าฮาเดสจะเคลื่อนไหวได้รวดเร็วเช่นนี้ ลงมือเร็วเกินไปแล้ว
“ไสหัวไป! ”
ฮาเดสจับจ้าวเจี้ยนหนิงไว้ ราวกับโยนขยะ สะบัดมือหนึ่งที จ้าวเจี้ยนหนิงก็ถูกโยนออกไปนอกห้อง ล้มลงบนระเบียงทางเดินยาวกลิ้งไปหลายตลบ
จากนั้น ฮาเดสก็โยนพนักงานตัวเล็กๆ ที่ปากพล่อยเหล่านั้นออกไปจากที่นั่งวีไอพีทีละคนราวกับหิ้วไก่ พวกเขาร้องตะโกนกลิ้งไปมาอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด
“ไปเฝ้าข้างนอกประตู อย่าให้คนมารบกวนฉันคุยธุระ” หลินอิ่งกล่าวเสียงเรียบ
อาเดสพยักหน้า เดินออกจากห้องน้ำชาด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก พลิกมือปิดประตู เฝ้าอยู่หน้าประตู ลดสายตาลงมองพวกจ้าวเจี้ยนหนิง
“แกตายแน่! อย่าคิดว่าร่างกายสูงใหญ่แล้วจะทำตัวโอหังได้ การสูงสามารถหยิ่งได้! ” จ้าวเจี้ยนหนิงกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว
ฮาเดสมองเขาอย่างเย็นชา จ้าวเจี้ยนหนิงรีบกุมใบหน้าที่บวมเป่งของเขาแล้วหลบฉากออกไป เพราะกลัวว่าชาวต่างชาติคนนี้จะพุ่งเข้ามาตบเขาอีกสองครั้ง
“ไปก่อน! ” จ้าวเจี้ยนหนิงพูดอย่างไม่ยอมแพ้ เรียกผู้ติดตามข้างกาย “พวกแกจับตาดูร้านน้ำชาซินสุยไว้ ตอนนี้ฉันจะโทรหาคน ไอ้คนแซ่หลินกับนิ่งซวน หนีไม่พ้นแน่ วันนี้ฉันจะต้องจัดการพวกแกสองคน!”
“คุณชายจ้าว เราจะจับตาดูห้องพวกเขาไว้อย่างแน่นอน นิ่งซวนกับไอ้คนแซ่หลินคนนั้นก็คือกลุ่มคนโง่ แตะต้องคุณแล้ว ยังกล้านั่งดื่มชาอยู่ที่นี่อีก ช่างอวดดีเกินไปแล้ว ด้วยอิทธิพลของคุณ ต้องการจัดการพวกเขา ก็ง่ายดายเหมือนบี้มด” ผู้ติดตามคนหนึ่งกล่าวอย่างประจบ
ด้วยเหตุนี้ จ้าวเจี้ยนหนิงจึงเดินลงไปชั้นล่างด้วยสีหน้าเย็นเยียบ รีบโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว ติดต่อผู้ช่วย
วันนี้เขาต้องคิดวิธีหาทางกลับไปที่นั่น สุนัขจรจัดอย่างนิ่งซวน ถึงกับกล้าร่วมมือกับไอ้บ้านนอกคนหนึ่ง ในสถานการณ์เช่นนี้ภายใต้หน้าตาเขา ตีคนแล้วถึงกับยังกล้านั่งดื่มชาอยู่ที่นี่อีก นี่ถือเป็นการไม่เห็นคุณชายตระกูลจ้าวผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขาอยู่ในสายตาโดยสิ้นเชิง
จ้าวเจี้ยนหนิงยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ ต่อสายอยู่หลายครั้ง เพื่อต้องการหาคนมาล้อมร้านน้ำชาซินสุยไว้