ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 273 ไอ้โง่ยังกล้าไปล่วงเกินประธานหลินอีก?
บทที่ 273 ไอ้โง่ยังกล้าไปล่วงเกินประธานหลินอีก?
และไม่เคยคิดเลยเช่นกัน พ่อตาเขา นิ่งจองเป่าเป็นคนระดับไหนกัน?
นั่นคือหนึ่งในผู้ดูแลและเป็นสามยักษ์ใหญ่ของตระกูลนิ่งเชียวนะ สิทธิ์์ในการพูดใหญ่ที่สุดในตระกูลนิ่ง!
ด้วยยาจกอย่างหลินอิ่ง เกรงว่าแม้แต่สิทธิ์์ในการเลียรองเท้าพ่อตาเขาก็ยังไม่มี
“ต้ากวาง ไป ฆ่าไอ้หลินอิ่งนี่ซะ ค่อยเอามือถือมันมา กูจะดูสิว่า เมื่อกี้มันคุยกับใคร แถมยังกล้าสวมรอยเป็นพ่อตากูอีก กูจะต้องสืบหาตัวไอ้คนคนนี้ออกมา แล้วฆ่ามันซะ!” จ้าวเจี้ยนหนิงกล่าวอย่างโอหัง ออกคำสั่งกับชายหัวล้านข้างตัว
ชายหัวล้านพร้อมจะลงมือนานแล้ว เขายกกระบองเหล็กขึ้นมาตีกับฝ่ามือ ชายหน้าโหดที่อยู่ด้านข้างก็ถือกระบองเหล็กตามมาด้วย ก้าวเดินอย่างช้าๆ มาทางหลินอิ่ง
และที่ด้านหลังพวกเขา มีมือปืนสิบกว่าคนจ้องฮาเดสด้วยสีหน้าเย็นเยียบ ขอเพียงบอดี้การ์ดต่างชาติคนนี้ยังกล้าขยับแม้แต่นิดเดียว ก็จะถูกยิงทันที
หลินอิ่งมุมปากยิ้มเยาะ เขาเพิ่งจะรู้เหมือนกันว่าที่แท้จ้าวเจี้ยนหนิงก็คือลูกเขยของนิ่งจองเป่า ชักจะน่าสนุกหน่อยแล้ว
“แกเป็นคนมีระดับหรือไม่ฉันไม่รู้ แต่สีหน้าแบบนี้ไม่เลวเลย ในสถานการณ์เช่นนี้ แกยังสงบนิ่งได้ถึงขนาดนี้เชียว?” ชายหัวล้านทำท่าครุ่นคิดมองหลินอิ่งพลางกล่าว หน้าตาราวกับคนชั้นต่ำเล่นลูกไม้
ครืดๆๆๆ!
เวลานี้ มือถือของจ้าวเจี้ยนหนิงก็ดังขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง เป็นสายที่ดูร้อนใจอย่างมาก
“นี่?” จ้าวเจี้ยนหนิงมองเบอร์บนหน้าจอมือถือ ทำท่าทางลังเลใจขึ้นมา จากนั้นก็รับสายโทรศัพท์
“พ่อตา คุณมีเรื่องอะไรครับ?” จ้าวเจี้ยนหนิงรับสาย เอ่ยพร้อมกับยิ้มเข้าสู้
แม้จะบอกว่าจ้าวเจี้ยนหนิงเป็นคุณชายที่มีตำแหน่งฐานะในตระกูลจ้าว แต่ต่อหน้าพ่อเขยนิ่งจองเป่า ยังคงรักษาความนอบน้อมไว้อย่างเต็มที่
หากยึดตามความสามารถพูดได้ว่า บิดาแท้ๆ ของจ้าวเจี้ยนหนิงยังห่างชั้นกว่านิ่งจองเป่าอีกไกล
จ้าวเจียนหนิงสามารถแสดงความสามารถออกมาเต็มร้อยจากในบรรดาคนรุ่นเดียวกันของตระกูลจ้าว ฐานะที่ครอบครองจึงไม่ธรรมดา นั่นเป็นเพราะนิ่งจองเป่าให้ความช่วยเหลือเขาอย่างมาก นี่ก็คือที่พึ่งที่ใหญ่ที่สุดของเขา เป็นแหล่งเงินทุนชั้นยอด
“จ้าวเจี้ยนหนิง ฉันถามหน่อย ก่อนหน้านี้แกมาหาพ่อบ้านใหญ่ของฉันเพื่อระดมคน บอกว่าเพื่อนของนิ่งซวนตบแก
เพื่อนของนิ่งซวน ใช่คนหนุ่มที่ชื่อหลินอิ่งหรือเปล่า?” ที่ปลายสาย เสียงของนิ่งจองเป่าเคร่งเครียดถึงขีดสุด
“หา?” จ้าวเจี้ยนหนิงตกตะลึงตาค้าง “พ่อตา คุณรู้ได้ยังไงครับ ว่าชื่อหลินอิ่ง หรือว่าคุณรู้จักเขาจริงๆ?”
หน้าผากจ้าวเจี้ยนหนิงมีเหงื่อผุดขึ้นมา มองไปทางหลินอิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่ออยู่บ้าง
นี่มันอะไรกัน? หลินอิ่งรู้จักนิ่งจองเป่าพ่อตาของตนจริงๆ? เป็นไปไม่ได้หรอก ท่าทางยาจกแบบนี้ จะมีสิทธิ์์พูดคุยกับคนมีอำนาจระดับสูงเหล่านั้นได้ยังไง?
“ไอ้โง่!” น้ำเสียงของนิ่งจองเป่าที่ดังมาจากปลายสายโกรธเกรี้ยวถึงขีดสุด “แกมันไอ้โง่รนหาที่ตาย! นั่นเป็นคนที่แกล่วงเกินได้เหรอ? ไม่รู้จักที่ตาย!”
“ตอนนี้ แกรีบไปขอโทษประธานหลินให้ฉันเสียดีๆ ประธานหลินให้แกทำอะไร แกก็ทำอย่างนั้น! จากนั้นก็รออยู่ที่เดิม รอฉันไปแก้สถานการณ์ที่นั่น ไม่ต้องถามเหตุผล! ได้ยินไหม?” นิ่งจองเป่ากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดอย่างยิ่ง
“คุณก็เรียกเขาว่าประธานหลินด้วย? นี่มันเรื่องอะไรกัน?” จ้าวเจี้ยนหนิงรู้สึกราวกับเห็นผีตัวเป็นๆ ช่างเหลือเชื่อโดยแท้
ทำไมพ่อตาก็เรียกหลินอิ่งว่าประธานหลินเหมือนกัน? หรือว่า นิ่งซวนจะไม่ได้พูดเกินจริง? หลินอิ่งเป็นคนใหญ่คนโตท่านหนึ่งจริงๆ?
“อย่าพูดเหลวไหลอีก แกนี่มันโง่ แกเกือบทำให้ฟ้าถล่มแล้วรู้ไหม? ยังกล้าส่งคนไปจัดการหลินอิ่งอีก?” นิ่งจองเป่าโกรธที่ไม่อาจหลอมเหล็กให้กลายเป็นเหล็กกล้าได้ “ตอนนี้แกเอามือถือให้ประธานหลิน ฉันต้องการช่วยแกขอความเมตตากับประธานหลิน หากประธานหลินโกรธล่ะก็ แกก็รอความตายได้เลย!”
รอความตาย!
สองคำนี้เหมือนกับสายฟ้าฟาด ฟาดลงกลางใจของจ้าวเจี้ยนหนิง
จ้าวเจี้ยนหนิงราวกับถูกฟ้าผ่า ทั่วร่างมึนงงไปหมด สองตาไร้แวว มองหลินอิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ส่วนหลินอิ่งใบหน้าเรียบเฉย มองไม่ออกถึงการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ใดๆ นี่จึงทำให้ภายในใจของจ้าวเจี้ยนหนิงรู้สึกหวาดกลัว รับรู้ได้ว่าคนใหญ่คนโตท่านนี้ลึกล้ำไม่อาจคาดเดา
น่ากลัวเกินไปแล้ว หลินอิ่งถึงกับทำให้นิ่งจองเป่าพ่อตาเขายำเกรงจนกลายเป็นเช่นนี้
จ้าวเจี้ยนหนิงก็เป็นเช่นนี้ สองตาเลื่อนลอย หน้าตาอมทุกข์ เดินไปหาหลินอิ่งทีละก้าว ก้มศีรษะ ส่งมือถือ เอ่ยอย่างตะกุกตะกักว่า “หลิน ประธานหลิน ผม พ่อตาผม อยากคุยกับคุณ”
เวลานี้ เขาแทบอยากจะหารอยแยกที่พื้นแล้วแทรกเข้าไป ขายหน้าไปยันต้นตระกูลเลยทีเดียว เมื่อกี้ยังเยาะเย้ยหลินอิ่งสารพัดอย่างอวดดีอยู่เลย แค่คิดไม่ถึงว่า เจ้าตัวจะเป็นคนใหญ่คนโตจริงๆ กระทั่งพ่อตาตนเองยังทำราวกับเห็นคนเป็นพระโพธิสัตว์ไปแล้ว!
มิน่าหลินอิ่งเผชิญหน้ากับคนมากมายที่ตนเองพามา ก็ยังรักษาความสงบไว้ได้ บางที ในสายตาของหลินอิ่งนี่อาจจะเป็นเรื่องตลกอย่างหนึ่งสินะ?
ส่วนคนทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ เวลานี้แต่ละคนก็เบิกตากว้างมองหลินอิ่งเช่นเดียวกัน
ไม่มีใครกล้าส่งเสียง ทั้งร้านน้ำชาเงียบเป็นเป่าสาก
น่าตกใจเกินไปแล้ว ชายหนุ่มที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว แต่งตัวเหมือนคนธรรมดาสามัญนี้ จะถึงกับมีพลังที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้? ทำให้คุณชายใหญ่แห่งตระกูลจ้าวผู้ยิ่งใหญ่ก้มศีรษะ ถึงขั้นทำให้พ่อตาของจ้าวเจี้ยนหนิงก้มศีรษะได้!
นาทีนี้ เงาร่างของหลินอิ่ง คล้ายกับเทพบนสวรรค์ ที่ประทับนิ่งอยู่ในใจของแต่ละคน ยากคาดเดาเกินไปแล้ว
หลินอิ่งมองไปที่จ้าวเจี้ยนหนิง จ้าวเจี้ยนหนิงฝืนยิ้มออกมาบนใบหน้า ค้อมเอวก้มศีรษะยกมือถือที่ยังวิดีโอคอลอยู่ยื่นให้ด้วยสองมือ ราวกับบ่าวรับใช้คนหนึ่ง ไหนเลยยังจะกล้าแสดงท่าทางอวดดีอย่างก่อนหน้านี้ออกมาอีก
“ประธานหลิน ขออภัยด้วย ขอโทษด้วยจริงๆ เรื่องนี้ผมหละหลวมเอง ไม่คิดเลยว่าลูกเขยผมจะถึงกับทำเรื่องโง่เขลาเช่นนี้ ต้องโทษที่ผมสั่งสอนเขาไม่ดีพอ ขออภัยด้วยจริงๆ ครับ” บนหน้าจอมือถือ นิ่งจองเป่าขอโทษด้วยความเกรงใจเป็นอย่างยิ่ง
หลินอิ่งไม่แสดงท่าทีอะไร แววตาเย็นเยียบ
“ประธานหลิน ขอเวลาคุณสักสองสามนาที ผมจะรีบไปร้านน้ำชาซินสุยเดี๋ยวนี้ ชดใช้ความผิดให้คุณด้วยตัวเอง” นิ่งจองเป่าพูดพร้อมกับยิ้มแย้ม “นอกจากนี้ ก็จะเลี้ยงต้อนรับประธานหลินด้วยเช่นกัน มาถึงตี้จิงแล้ว ผมต้องต้อนรับและจัดการให้คุณอย่างดี”
“รอคุณมาที่นี่ค่อยว่ากัน” หลินอิ่งเสียงเรียบ
“ได้ๆ” นิ่งจองเป่ากล่าวอย่างโล่งอก แล้ววางสาย
หลินอิ่งยกชาขึ้นมา พลางละเลียดชิมไปหนึ่งคำ เขาเองก็อยากจะดูว่า ยาอะไรที่นิ่งจองเป่าจะขายในผลน้ำเต้า
คนทั้งหมดที่จ้าวเจี้ยนหนิงพามา เหมือนกับได้รับแรงกดดันมหาศาล หน้าผากต่างหลั่งเหงื่อเย็นออกมา พวกเขามองเงาร่างที่ตั้งตระหง่านของหลินอิ่ง ภายในใจหวาดกลัวไม่สงบ