ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 280 มีความสามารถจะแต่งเข้าบ้านผู้หญิงเหรอ?
บทที่ 280 มีความสามารถจะแต่งเข้าบ้านผู้หญิงเหรอ?
“อะไรนะ? ฉีโม่ เธอถึงกับแต่งงานกับผู้ชายไม่ได้เรื่องที่ชอบเกาะผู้หญิงกินเชียวเหรอ? นี่มันไม่น่าเหลือเชื่อเกินไปหน่อยหรือ?”
“เว่อร์เกินไปแล้ว จะมีเรื่องเช่นนี้ได้ยังไงกัน? น่าเสียดายเกินไปหน่อยหรือเปล่า ฉีโม่เป็นถึงดาวมหาลัยของมหาวิทยาลัยตี้จิงเรา เป็นเทพธิดาของทั้งมหาลัย ถึงกับตกอับถึงขั้นนี้……”
“เฮ้ ฉีโม่ เธอคิดยังไงกัน ตอนเรียนมหาลัย มีหนุ่มหล่อตามจีบเธอคิวยาวเป็นหางว่าวเชียวนะ ทำไมหลังเรียนจบ ถึงเลือกคนไม่ได้เรื่องมาแต่งงานล่ะ?”
จากนั้นนิ่งเสี่ยวชิงก็เผยข่าวออกมา เพื่อนๆ ที่อยู่ ณ ที่ตรงนั้นต่างเผยสีหน้าท่าทางประหลาดใจออกมา ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์กันระงม
หญิงสาวบางคนเห็นผู้อื่นประสบเคราะห์ก็ดีใจ สีหน้าเจือแววเยาะหยัน ส่วนผู้ชายส่วนใหญ่ต่างรู้สึกว่าเหมือนเอาดอกไม้ไปปักบนมูลวัว พวกเขาเคยมีความคิดเพ้อฝันที่ไม่มีทางเป็นจริงต่อดาวมหาลัย
แทบไม่มีใครสงสัยว่าที่นิ่งเสี่ยวชิงพูดจริงเท็จแค่ไหน เพราะคนฐานะสูงศักดิ์อย่างนิ่งเสี่ยวชิงวางตรงไหน คำพูดที่พูดออกมา ต้องเป็นจริงแน่นอน
“ไม่ใช่อย่างนั้น เสี่ยวชิง ข่าวที่เธอได้ยินมาแตกต่างจากหลินอิ่งตัวจริงโดยสิ้นเชิง” จางฉีโม่อธิบาย “หลินอิ่งไม่ได้เป็นอย่างที่ลือกันภายนอกเลย เขาเป็นคนมีความสามารถ”
นิ่งเสี่ยวชิงหัวเราะอย่างยอมรับ พลางกล่าวว่า “ฉีโม่ เธอก็ไม่ต้องแก้ต่างอีกแล้ว ทุกคนเข้าใจดี ฉันได้ยินมาจากเพื่อนร่วมธุรกิจของเมืองชิงหยูนน่ะ ได้ยินเขาพูด แต่คนในเมืองชิงหยูนทุกคน ถึงแม้ไม่รู้จักหลินอิ่ง ก็เคยได้ยินลูกเขยไม่ได้เรื่องของตระกูลจาง หรือว่านี่ยังไม่ใช่เรื่องจริงอีกหรือ?”
พูดจบ นิ่งเสี่ยวชิงก็ทำสีหน้ายิ้มอย่างลำพองใจขึ้นมา
แม้จางฉีโม่เป็นดาวมหาลัยแล้วอย่างไรล่ะ สุดท้ายไม่ใช่ว่าแต่งงานกับคนไม่ได้เรื่องหรอกหรือ
“แน่นอน ฉีโม่ เธอเองก็ไม่ต้องรู้สึกขายหน้าเช่นกัน เรื่องเช่นนี้พวกเราเองก็คิดเพื่อเธอแล้วเช่นกัน แนะนำว่าอย่าให้ผู้ชายไม่ได้เรื่องบางคนมาฉุดรั้งเธอ” นิ่งเสี่ยวชิงพูดอย่างแสร้งทำเป็นหวังดี
“ใช่แล้ว ฉีโม่ หากเธอไม่ชอบคนไม่ได้เรื่องเช่นนั้น ก็เตะเขาสักป้าบเสียเลยสิ”
“ไม่จำเป็นต้องปิดบัง ทุกคนไม่มีทางหัวเราะเยาะเธอหรอก”
คนที่อยู่ในร้านต่างพูดสำทับนิ่งเสี่ยวชิงขึ้นมา
หัวข้อนี้ถูกนิ่งเสี่ยวชิงยกขึ้นมาได้ถูกจังหวะพอดี คนที่นั่งอยู่ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไม่หยุด สายตาที่มองจางฉีโม่ล้วนเปลี่ยนเป็นครุ่นคิด
พวกเขาเองก็คิดไม่ตกเช่นกัน จางฉีโม่มีตัวเลือกมากมายขนาดนั้น สุดท้ายมาแต่งงานกับเขยไม่ได้เรื่องอย่างคนที่ชื่อหลินอิ่งได้ยังไง?
ตอนเรียนมหาลัยเคยมีหนุ่มหล่อชาติตระกูลดีตั้งมากมายมาตามจีบ กลับทำตัวเย็นชาหาใดเปรียบ สุดท้ายจึงได้ลงเอยเช่นนี้
นี่คงไม่ใช่สมองเสียหายไปแล้วหรอกนะ?
“ฉีโม่ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเธอเป็นคนเลือกเอง เลือกคนไม่ได้เรื่องที่ชื่อหลินอิ่งคนนั้น หากมีอะไรลำบากก็พูดมา พวกเราทุกคนจะช่วยเท่าที่ช่วยได้” ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เมืองเล็กๆ อย่างบ้านเดิมของเธอ ได้ยินว่าเธอยังเป็นคนตระกูลเล็กๆ ของที่นั่น พวกตระกูลเล็กๆ เต็มไปด้วยความคิดล้าสมัย เธอคงไม่ได้ถูกที่บ้านจับคลุมถุงชนหรอกนะ?
“เปล่า ไม่ใช่แบบนั้น” จางฉีโม่รีบพูดอธิบาย “เสี่ยวชิง แล้วก็ทุกคน อย่าคิดมากเกินไปเลย ไม่ได้แปลกประหลาดขนาดนั้นสักหน่อย”
“ฉีโม่ หรือว่าเธอเป็นคนเลือกผู้ชายไม่ได้เรื่องคนนี้เอง?” นิ่งเสี่ยวชิงเอ่ยขึ้นพร้อมกับแสร้งทำท่าแปลกใจ
“เหอะ สายตาเธอแย่เกินไปแล้ว!” นิ่งเสี่ยวชิงกล่าวด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“เฮ้อ กาลเวลาช่างเอามีดฆ่าสุกรจริงๆ นางฟ้าดาวมหาลัยในวันนั้น ถึงกับ…..”
คนที่อยู่ตรงนั้นพากันทอดถอนใจขึ้นมา รู้สึกไม่คู่ควรเกินไป ดาวมหาลัยของมหาวิทยาลัยตี้จิงอันยิ่งใหญ่ ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ไปได้?
อย่าว่าแต่ตอนนั้น ขนาดตอนนี้จางฉีโม่ยังดูเป็นสาวสวยอยู่เลย โดยรวมก็คือรูปโฉมเหนือสามัญ
แต่กลับถูกคนไม่ได้เรื่องยึดเอาไปครอง ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย!
“นี่……จริงๆ เลย หลินอิ่งไม่ได้แย่อย่างที่ลือกันสักหน่อย” จางฉีโม่ไม่รู้ว่าควรจะอธิบายยังไงแล้ว นิ่งเสี่ยวชิงยึดหัวข้อนี้ไว้ไม่ปล่อย เพื่อทำให้เธอเสียหน้า และไร้ทางโต้แย้ง
ความสามารถของหลินอิ่งเธอเคยประจักษ์มาแล้ว ไม่ได้เป็นอย่างที่คนนอกลือกัน
“เอาล่ะ ฉีโม่ ฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมเธอต้องช่วยแก้ต่างให้ผู้ชายไม่ได้เรื่องด้วย คนไม่ได้เรื่องพรรค์นั้นมีอะไรดีกัน? ไม่ได้เรื่องก็ช่างเถอะ ยังจะไปเกาะผู้หญิงกินที่ข้างนอกอีก เธอพูดมา อยู่ที่เมืองตุงไห่เธอใช้ชีวิตผ่านความทุกข์ยากมายังไง?” นิ่งเสี่ยวชิงส่ายหน้าพูดพลางถอนหายใจ ทำท่าราวกับห่วงใยจางฉีโม่เสียเต็มประดา
“เป็นความจริงหรือ โธ่เอ๋ย ฉันยิ่งฟังก็ยิ่งโกรธ ฉีโม่เธอไปแต่งงานกับผู้ชายไม่ได้เรื่องหน้าไม่อายพรรค์นั้นได้ยังไงกันนะ! ช่างทำร้ายจิตใจเพื่อนเก่าอย่างพวกเราจริงๆ!”
“จริงด้วย ฉีโม่ เธออย่าเห็นทุกคนเป็นคนโง่สิ ยังจะบอกว่าหลินอิ่งอะไรนั่นรู้จักเพื่อนในตี้จิงช่วยเธอเจรจาธุรกิจเครื่องประดับอีก? แถมกำลังจะเปิดบริษัทเครื่องประดับในตี้จิงด้วย? เธอเห็นว่าทุกคนที่อยู่ในตี้จิงอ่อนต่อโลกหรือไง? เปิดบริษัทเครื่องประดับสักแห่งในตี้จิง อย่างน้อยก็ต้องใช้เงินหลายร้อยล้านเชียวนะ? ยกเว้นแขวนป้ายทำบริษัทกระเป๋าหนัง” นิ่งเสี่ยวชิงพูดด้วยท่าทางราวกับเข้าใจเป็นอย่างดี จากนั้นก็สะบัดข้อมือ เต็มไปด้วยความลำพองใจ
“อีกอย่างนะ ฉีโม่ หากหลินอิ่งมีความสามารถจริง จะแต่งเข้าบ้านผู้หญิงเหรอ?
จางฉีโม่มีสีหน้าอึดอัดเป็นอย่างมาก ที่นิ่งเสี่ยวชิงพูดมาแทบโต้แย้งไม่ได้เลย
เห็นท่าทางที่อึดอัดและทุกข์ใจของจางฉีโม่ นิ่งเสี่ยวชิงก็ไม่ดีใจจนออกนอกหน้านัก แต่เวลานี้ภายในใจเธอเต็มไปด้วยความลิงโลด
ตอนเรียนอยู่มหาลัย นิ่งเสี่ยวชิงรู้สึกว่าประกายแสงของตัวเองถูกจางฉีโม่แย่งไปหมด คนมากมายต่างเอาแต่พูดว่าจางฉีโม่เป็นนางฟ้าดาวมหาลัย เป็นคนที่โดดเด่นที่สุด
แต่หลังจากเรียนจบไปหลายปี หันกลับไปมองดูสิ?
เธอนิ่งเสี่ยวชิงต่างหากที่เป็นสิ่งที่สวรรค์ประทานลงมา ลูกคุณหนูแห่งตระกูลนิ่งอันสูงศักดิ์ในตี้จิง เดินไปทางไหนก็ได้รับคำชมจากผู้คนนับไม่ถ้วน ส่วนจางฉีโม่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านนอกอย่างเมืองตุงไห่ แถมยังแต่งงานกับเขยไม่ได้เรื่องคนหนึ่ง มาทำธุรกิจถึงตี้จิง พบหน้ากันก็ยังทาบตนเองไม่ติด!
“ฉีโม่ ในเมื่อเธอบอกว่าสามีเธอมีความสามารถมาก งั้นเอาอย่างนี้แล้วกัน ตอนนี้เธอโทรเรียกเขามาที่นี่สิ ให้เพื่อนเก่าอย่างเราได้รู้จักสักหน่อย ว่าเป็นผู้ชายแบบไหนกันแน่ ถึงคว้าตัวดาวมหาลัยของเราไปได้!” นิ่งเสี่ยวชิงพูดด้วยท่าทางครุ่นคิด
ในมุมมองของเธอ ดาวมหาลัยอย่างจางฉีโม่นี้ กลายเป็นตัวตลกไปแล้ว
“แบบนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่มั้ง หลินอิ่งเขามีเรื่องต้องทำ และก็ไม่ได้คุ้นเคยกับทุกคนด้วย” จางฉีโม่กล่าวปฏิเสธ ไม่อยากไปรบกวนหลินอิ่งจัดการธุระเพราะเรื่องพวกนี้
“มีธุระอะไรถึงยุ่งขนาดนี้?” หญิงสาวคนหนึ่งกล่าว “ฉีโม่ หรือเธอไม่ไว้หน้าแม้กระทั่งเสี่ยวชิงแล้ว? กำลังเจรจาธุรกิจอะไรนั่นอยู่เหรอ? หากเป็นอย่างนั้น ก็ให้เขารีบมาที่นี่สิ หาคนเจรจาธุรกิจก็ไม่สู้มาหาเสี่ยวชิง เสี่ยวชิงมีอิทธิพลอยู่ในตี้จิง เธอพูดคำเดียว ธุรกิจอะไรนั่นมีหรือจะเจรจาไม่สำเร็จ?”
“ใช่แล้วล่ะ ฉีโม่ พวกเราแปลกใจกับเขยไม่ได้เรื่องที่อยู่ในข่าวลือนี้มากเลย มีสิทธิ์์อะไรถึงได้แต่งงานกับดาวมหาลัยกัน?” ชายหนุ่มคนหนึ่งกล่าวสำทับ