ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 281 ต้องเรียกหลินอิ่งมา
บทที่ 281 ต้องเรียกหลินอิ่งมา
“ยังคุยเรื่องธุรกิจ? ฉีโม่ เธอไม่ต้องปิดปังอะไรแล้ว เธอมาตี้จิงไม่มีแม้กระทั่งรถใช้งาน ไอ้ไร้น้ำยาหลินอิ่งนั่นทำงานยังไง?” ชายหนุ่มแต่งกายไม่ธรรมดาพูดเสียดสี
“แค่คนแบบนี้ ฉีโม่ เธอยังอยากปกป้องเขาอีก”
“ใช่ ให้หลินอิ่งมารวมงานด้วย ให้พวกเราดูด้วย เขามีที่มายังไง ถ้าเป็นลูกเขยไร้น้ำยาอย่างที่เสี่ยวชิงพูด ยังกล้าไปกินข้าวอ่อนข้างนอกอีก ถ้าอย่างนั้น ฉีโม่ ฉันยินดีช่วยเธอสั่งสอนมัน” ชายคนหนึ่งพูดอย่างอวดดี
เห็นเพื่อนร่วมห้องต่างพูดกันขึ้นมา จางฉีโม่ก็ทำอะไรไม่ได้ รู้สึกอึดใจ
นิ่งเสี่ยวชิงถือว่าเป็นคนที่มีความสามารถที่สุดคนหนึ่ง เธอเปิดปากพูด เพื่อนคนอื่นๆก็ช่วยกันพูดอย่างไม่ลังเล
“ฉีโม่ ไม่ต้องเกรงใจ พอดีเลย คืนนี้ฉันจัดงานเลี้ยง ให้ทุกคนพาญาติมาร่วมงานด้วย เธอเรียกสามีเธอหลินอิ่งมาด้วย” นิ่งเสี่ยวชิงพูด “เธอเองก็พูดแล้วว่าหลินอิ่งไม่ได้เป็นอย่างข่าวลือ ถ้าอย่างนั้นก็พาเขามา จะอึดอัดอะไร?”
นิ่งเสี่ยวชิงมองจางฉีโม่อย่างรู้สึกสนุก วันนี้ต้องฉวยโอกาสงานเลี้ยงรุ่น เหยียบจางฉีโม่ที่เคยเป็นดาราโรงเรียนให้ได้ ไม่อย่างนั้นเธอไม่พอใจแน่ ต้องให้จางฉีโม่เรียกหลินอิ่งมาให้ขายหน้า เธอถึงจะรู้สึกสะใจ
“ใช่ ฉีโม่ เธอจะทำธุรกิจที่ตี้จิงไม่ใช่เหรอ? เสี่ยวชิงมีเส้นสายในตี้จิงเยอะแยะ เธอยังอยากไปหาคนอื่นเหรอ? หาเสี่ยวชิงคนเดียวก็พอแล้ว” ผู้หญิงคนหนึ่งช่วยพูด
“เสี่ยวชิงพูดแบบนี้แล้ว ฉีโม่ เธอคงจะให้หน้ากันหน่อยนะ” ผู้ชายอีกคนพูดขึ้นมา
จางฉีโม่สีหน้าไม่ดี รู้สึกเสียใจที่มาร่วมงานเลี้ยงรุ่นครั้งนี้
เธอคิดไม่ถึงว่าระยะเวลาสั้นๆหลังจากจบไม่กี่ปี เพื่อนร่วมห้องจะกลายเป็นแบบนี้
รวมทั้งเพื่อนรักสมัยก่อนอย่างเสี่ยวชิง ก็กลายเป็นคนแบบนี้
สรุปคือทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว
ติ๊ดติ๊ด
เวลาเดียวกัน มือถือจางฉีโม่ดังขึ้น หน้าจอเป็นชื่อหลินอิ่งโทรมา
จางฉีโม่กำลังจะลุกขึ้นเดินออกไปคุยกับหลินอิ่ง
นิ่งเสี่ยวชิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ยื่นมือไปหยิบมือถือ พูดด้วยสีหน้าหยอกล้อ “เฮ้ ฉีโม่ สามีเธอหลินอิ่งโทรมาไม่ใช่เหรอ? พอดีเลย ฉันเชิญเขาด้วยตัวเองดีกว่า ดูว่าเขายอมมาไหม ไม่ให้เธอลำบากใจ แบบนี้ดีไหม?”
“ฉีโม่ ดูว่าเสี่ยวชิงดีกับเธอขนาดไหน ต้องรู้ว่าฐานะเสี่ยวชิง ในตี้จิงคนรุ่นเดียวกันมีไม่กี่คนที่มีสิทธิ์ได้พูดด้วย” หญิงสายคนหนึ่งพูดประจบ
จางฉีโม่สีหน้าเปลี่ยน รู้สึกโกรธ แต่เธอยังไม่ได้เปิดปากพูด นิ่งเสี่ยชิงก็เอามือถือจางฉีโม่ไป นั่งพูดบนเก้าอี้แล้ว
“ฉีโม่ ผมดูที่อยู่บริษัทใหม่ไว้แล้ว ผมรู้สึกว่าอาคารในฝั่งจงเทียนซิงเฉิงใช้ได้ คุณมีเวลามาดูเมื่อไหร่ ผมไปกับคุณ เราเลือกแล้วซื้อไว้เลย” ในโทรศัพท์เป็นเสียงคนหนุ่มพูดเสียงเรียบ
“เชอะ กล้าพูดจริงๆ ซื้ออาคารสำนักงานที่จงเทียนซิงเฉิง? คุณรู้ไหมว่าซื้ออาคารตรงนั้น ต้องใช้เงินเท่าไหร่?” นิ่งเสี่ยวชิงท่าทางยโส พูดเสียดสีอย่างไม่เกรงใจ
จงเทียนซิงเฉิง คนที่ใช้ชีวิตในตี้จิงรู้กันทั้งนั้น นั่นเป็นเขตใจกลางเมืองที่เจริญที่สุดของตี้จิง เป็นที่ดินที่แพงที่สุด แค่ซื้อห้องชุดห้องเดียวก็ต้องสิบล้านแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอาคารสำนักงานทั้งอาคาร นั้นมันราคาระดับไหน
แน่นอน สำหรับนิ่งเสี่ยวชิงแล้วทำเรื่องพวกนี้ ก็แค่เสียงเงินนิดเดียวก็ได้แล้ว
แต่สำหรับหลินอิ่งลูกเขยไร้น้ำยาที่มาจากบ้านนอกเมืองตุงไห่แล้ว ยังมีหน้ามาโม้ขนาดนี้อีก?
“เธอเป็นใคร? ฉีโม่อยู่ไหน?” ในโทรศัพท์ น้ำเสียงหลินอิ่งเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที
นิ่งเสี่ยวชิงหัวเราะ ไม่ได้สังเกตถึงน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของหลินอิ่งเลย พูดอย่างใส่ใจ “มิน่าไอ้ไร้น้ำยาอย่างนายถึงหลอกฉีโม่ได้ ยังกินข้าวอ่อน คนไม่มีความสามารถอะไร แต่เรื่องโม้นี่เยอะจริง”
“ฉีโม่อยู่ไหน?” หลินอิ่งถามเสียงเย็นชา ในน้ำเสียงเริ่มหมดความอดทน
“หลินอิ่ง ฉันอยู่ข้างๆ คนที่รับโทรศัพท์เป็นเพื่อนร่วมห้องสมัยเรียน” จางฉีโม่พูดอยู่ข้างๆ ไม่อยากให้หลินอิ่งเป็นห่วง
“เอาโทรศัพท์ให้ฉีโม่” น้ำเสียงหลินอิ่งดีขึ้นมาหน่อย
“หลินอิ่งคนนี้ไม่มีมารยาทเลย ไม่รู้จักทักทายเสี่ยวชิงเลย?” หญิงสาวด้านข้างพูดขึ้นมา
“ช่างเถอะ ฉันก็ไม่อยากถือสาผู้ชายไร้น้ำยาแบบนี้” นิ่งเสี่ยวชิงพูดอย่างนิ่งเฉย “หลินอิ่ง พวกเราเป็นเพื่อนร่วมห้องฉีโม่ คืนนี้ฉันจัดงานเลี้ยงรุ่น นายรีบมาเดี๋ยวนี้”
“ผมไม่รู้จักคุณ เอาโทรศัพท์ให้ฉีโม่” หลินอิ่งพูด
“อวดดีจริงๆ เหอะเหอะ” นิ่งเสี่ยวชิงหัวเราะเย็นชา เธอไม่รู้ว่าหลินอิ่งอวดดีอะไร ยังทำท่าทางยโส
รอเจอหน้ากัน รู้ว่าเธอคือเป็นคุณหนูนิ่งซื่อแห่งตี้จิง ไอ้ไร้น้ำยาเกาะเมียกินคนนี้ต้องกลัวแน่ จากนั้นก็ต้องมาประจบเลียแข้งเลียขาแน่
“ฉีโม่ เธอไปเรียกหลินอิ่งมา” นิ่งเสี่ยวชิงพูดเสียงเรียบ
“ฉีโม่ คุณอยู่ไหน?” หลินอิ่งถาม
จางฉีโม่สีหน้าลังเล แล้วพูดว่า “ฉันอยู่พาณิชย์พลาซ่าหลงเถิง หลินอิ่ง คุณมาที่นี่หน่อยนะคะ”
เสียงติ๊ด มือถือถูกตัดสาย
“ฉีโม่ หลินอิ่ง อีคิวต่ำไปไหม?” นิ่งหลินอิ่งพูดอย่างไม่พอใจ “พอเขามา ฉันจะช่วยเธอสั่งสอนเขาหน่อย ให้เขารู้จักคำว่าเคารพ”
นิ่งเสี่ยวชิงเคยชินที่คนอื่นพูดจะยกยอตลอด สำหรับพฤติกรรมที่หลินอิ่งไม่เห็นเธอในสายตา ทำให้เธอรู้สึกโมโห
“ฉันดูออกแล้ว ไอ้หลินอิ่งคนนี้ไร้มารยาท อีกอย่างยังขี้โม้ ยังกล้าพูดอะไรจงเทียนซิงเฉิง? อยากหัวเราะจนฟันร่วง” ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดอย่างดูถูก
ในนี้นอกจากนิ่งเสี่ยวชิงแล้ว ล้วนเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม หน้าที่การงานในตี้จิงก็ดี ได้ยินคำพูดของหลินอิ่งว่าจะซื้ออาคารสำนักงานที่จงเทียนซิงเฉิง อดหัวเราะไม่ได้
นั่นมันต้องใช้เงินสดร้อยล้าน ถึงจะทำได้ ฐานะใหญ่โตอย่างนิ่งเสี่ยวชิง ก็ทำไม่ได้ง่ายๆ แล้วลูกเขยไร้น้ำยาอย่างเขาจะทำได้เหรอ?
อีกฝั่งหนึ่ง หลินอิ่งที่นั่งอยู่ในออฟฟิศประธานโรงแรมจงเทียน สีหน้าเย็นชา
เขาไม่รู้ว่าทางด้านจางฉีโม่เกิดอะไรขึ้น
แต่เขามั่นใจ โดนคนอื่นดูถูกแบบนี้ ในใจฉีโม่ตอนนี้ต้องไม่สบายแน่
เขาโทรหาฮาเดส ให้ฮาเดสไปเขารถที่ลานจอด
จากนั้น เดินออกจากลิฟต์ แล้วออกจากโรงแรมจงเทียน