ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 282 ยอมรับว่าตัวเองไร้น้ำยายากมากเหรอ
บทที่ 282 ยอมรับว่าตัวเองไร้น้ำยายากมากเหรอ
พาณิชย์พลาซ่าหลงเถิง ภัตตาคารหลงเถิง
จางฉีโม่กับนิ่งเสี่ยวชิงทั้งกลุ่ม เพิ่งออกจากร้านกาแฟพรานซิส มาถึงทางเข้าภัตตาคาร
จากคำขอของนิ่งเสี่ยวชิง อยู่รอหลินอิ่งมาโดยเฉพาะ
ทุกคนรอไปสักพัก ก็เริ่มทยอยมีรถขับเข้ามา ล้วนเป็นรถของเพื่อนร่วมห้องจางฉีโม่
“ฉีโม่ ขอแนะนำหน่อย คนนี้คือสามีของหูเสว่ ทำงานในบริษัทหลักทรัพย์ต่างชาติแห่งหนึ่ง ตำแหน่งรองประธาน”
คนเริ่มมากันเรื่อยๆ สีหน้าเพื่อนร่วมห้องแต่ละคนก็แนะนำกันอย่างสีหน้าภูมิใจ
คนที่อยู่ในงาน ใครก็มีตำแหน่งหน้าตาในสังคม ล้วนรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าสามีไร้น้ำยาของจางฉีโม่เยอะ ความรู้สึกเหนือกว่าคนอื่น ต้องแนะนำให้ทุกคนรู้
จางฉีโม่พยักหน้ายิ้ม
“หลินอิ่งทำไมยังไม่ถึง? เขาคงไม่ได้เดินมาหรอกนะ? ฉีโม่ ไม่มีรถก็บอกแต่แรก ฉันจะได้ให้คนขับรถไปรับ” ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดอย่างเสียดสี
“อ้าย จริงๆเลย ดูหลินอิ่งแบบนี้แล้วพึ่งอะไรไม่ได้เลย ไม่รู้จักรักษาเวลาเลย คนแบบนี้ดูแล้วก็มีจุดยืนในสังคมยาก ทำตัวไร้น้ำยาแบบนี้ก็สมแล้ว” ชายหนุ่มอีกคนพูดขึ้น ทำท่าทางดูนาฬิกา
นิ่งเสี่ยวชิงสีหน้าได้ใจ พอใจกับสถานการณ์ตอนนี้มาก วันนี้เธอต้องให้หลินอิ่งมา แล้วให้จางฉีโม่เสียหน้าถึงที่สุด เธอถึงจะพอใจ
ใครให้จางฉีโม่เป็นที่รักของเพื่อนนักเรียนด้วยกัน? อีกอย่างไอ้ไร้น้ำยาหลินอิ่งนั่นยังกล้าอวดดีในโทรศัพท์อีก
เวลาเดียวกัน รถBentleyสีดำขับมาถึงหน้าภัตตาคาร
ชายต่างชาติในชุดเสื้อคลุมสีดำเดินลงมาจากรถแล้วเดินไปเปิดประตูรถ จากนั้น ก็มีชายหนุ่มเสื้อขาวเดินลงมา
หลินอิ่งไม่สนใจใครสักคน มองไปที่หลินอิ่ง พูดว่า “ฉีโม่ คุณเป็นอะไรไหม?”
“ไม่เป็นไร” จางฉีโม่พูด
หลินอิ่งพยักหน้า
เขารู้ว่าจางฉีโม่จบจากมหาลัยตี้จิง แต่ว่า เขาไม่เคยเข้าร่วมแวดวงเพื่อนของจางฉีโม่เลย ไม่รู้จักคนพวกนี้
“นี่? เขาคือหลินอิ่ง?”
“ดูแล้ว เหมือนคนมีความสามารถนะ” ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น
ทุกคนที่อยู่ในงานพอเห็นหลินอิ่งครั้งแรก ล้วนรู้สึกตะลึง สีหน้ามึนงง
หลินอิ่งคนนี้ ดูแล้วไม่น่าเหมือนที่เขาลือกัน อย่างน้อยบุคลิกไม่ธรรมดา รถที่ขับออกมาก็ดูดี
“คุณก็คือหลินอิ่ง?” นิ่งเสี่ยวชิงสายตามองที่หลินอิ่งตลอด ตาเป็นแวว
ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าหลินอิ่งคนนี้เป็นคนมีชื่อเสียงด้านไร้น้ำยา เท่าที่ดูท่าทางเขาแล้ว ยังนึกว่าเป็นคนใหญ่โตมีฐานะ
นิ่งเสี่ยวชิงมองหลินอิ่ง หัวเราะในใจ เป็นคนไร้ความสามารถหลอกผู้หญิงเกาะผู้หญิงกินไปวันๆ ยังทำตัวเหมือนคนมีฐานะ รถก็ไม่รู้เช่ามาจากไหน ยังหาคนต่างชาติร่างสูงใหญ่มาแสดงเป็นบอดี้การ์ด ทำให้ดูมีระดับ
หลินอิ่งมองไปที่นิ่งเสี่ยวชิง ฟังเสียงคนที่เอามือถือจางฉีโม่ไปพูดได้
ด้วยมารยาท หลินอิ่งพูด “ใช่”
“รถคันนี้ใช้ได้ หลินอิ่ง นี่รถคุณเหรอ?” นิ่งเสี่ยวชิงถามด้วยสีหน้าล้อเลียน
หลินอิ่งขมวดคิ้ว มีใครเขาพูดจาแบบนี้กัน ดูถูกคนอื่นชัดๆ?
หลินอิ่งพูดเสียงเรียบ “น่าจะใช่”
เขาไม่เข้าใจว่าคนพวกนี้สมองคิดอะไรกันอยู่ รถคันนี้แค่ให้ฮาเดสเอามาจากลานจอดในโรงแรมเท่านั้น
“น่าจะใช่? เหอะเหอะ คุณนี่ก็สนุกดีนะ” นิ่งเสี่ยวชิงหัวเราะเยาะเย้ย
ทันใดนั้น ทุกคนต่างสนใจในรถที่หลินอิ่งขับมา สีหน้าสงสัย
เท่าที่พวกเขาดูแล้ว หลินอิ่งไม่น่ามีความสามารถในการซื้อรถหรูแบบนี้ได้ ต้องเช่ามาเพื่ออวดแน่
หญิงสาวคนหนึ่งถามด้วยสีหน้าสงสัย “นี่มันจะปลอมไปไหม? ทุกคนก็รู้ว่าเขาเกาะเมียกิน ยังไปเช่ารถมาขับเพื่อทำตัวเหมือนคนรวย น่ารังแกียจจริงๆ”
“ถ้าฉันดูไม่ผิด รถBentleyคันนี้น่าจะสิบล้าน ยังเป็นรุ่นจำกัดพิเศษ หน้าอย่างเขาเหรอ จะมีเงินซื้อ?” ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดด้วยสีหน้าอิจฉา
“โถ วิธีการของผู้ชายเลวแบบนี้ฉันดูมาเยอะแล้ว ไปเช่ารถแล้วยังจ้างคนมาปลอมตัวเป็นบอดี้การ์ด ทำตัวเหมือนคนรวย ความจริงแล้วไม่มีอะไรเลย” มีชายหนุ่มอีกคนส่ายหัวพูด
เดิมแล้วพวกเขาก็รู้สึกอิจฉาหลินอิ่งอยู่แล้ว ไอ้ไร้น้ำยาคนหนึ่งทำไมถึงได้แต่งงานกับดารามหาลัยที่ทุกคนชื่นชอบ
โดยเฉพาะ นิ่งเสี่ยวชิงเหมือนไม่พอใจหลินอิ่งมาก แน่นอนว่าต้องพูดจาเสียดสีตาม เพื่อประจบนิ่งเสี่ยวชิง
“เฮ้อ ทุกคนอย่าพูดแบบนี้ซิ อย่าไปเปิดโปงเขาแบบนั้น” นิ่งเสี่ยวชิงพูดเสียดสี
พูดแล้ว นิ่งเสี่ยวชิงก็มองหลินอิ่ง พูดว่า “ฉันได้ยินฉีโม่บอกว่า คุณช่วยฉีโม่ทำงาน? เตรียมจะเปิดบริษัทเครื่องประดับขนาดใหญ่ที่ตี้จิง?”
“เมื่อกี้ในโทรศัพท์ ฉันได้ยินว่า คุณจะตั้งบริษัทที่จงเทียนซิงเฉิง และจะซื้ออาคารสำนักงานทั้งตึก? จริงเหรอคะ?”
หลินอิ่งพูด “แน่นอน”
เมื่อหลินอิ่งยอมรับ ทุกคนในงานก็อดหัวเราะไม่ได้
“ฮาฮา ไอ้นี่ทั้งโม้ทั้งโกหกแบบตาไม่กะพริบเลย”
“โม้ขนาดนี้ ยังทำหน้าเฉยได้อีก นับถือจริงๆ”
“พูดเกินจริงไปไหม? ขี้โม้จริงๆ”
คนในงานต่างหัวเราะพูดจาเสียดสี ไม่เชื่อความสามารถหลินอิ่งเลย
จะซื้ออาคารสำนักงานจงเทียนซิงเฉิง ในมือต้องมีเงินสดหมุนเวียนเท่าไหร่?
พวกเขาที่เรียนจบจากมหาลัยตี้จิง ครอบครัวก็ถือว่าพอมีฐานะ แต่จะทำธุรกิจใหญ่โตขนาดนี้ในตี้จิง ก็มีแค่นิ่งเสี่ยวชิงเท่านั้นที่ทำได้
ส่วนหลินอิ่ง? ถ้าเขามีความสามารถจริงๆ ทำไมถึงมีชื่อเสียงว่าลูกเขยไร้น้ำยาในเมืองตุงไห่ได้?
ภรรยาตัวเองไปร่วมงานเลี้ยงรุ่นยังนั่งส่วนแท็กซี่มา ส่วนเขากลับพาบอดี้การ์ดขับรถหรูมา ฝืนเกินไปไหม แค่นี้ก็เห็นได้ว่า คนคนนี้ปลอมขนาดไหน?
“ฉีโม่ สามีเธอหลินอิ่งพูดโกหกต่อหน้าคนอื่นขนาดนี้ เธอเชื่อเหรอ?” นิ่งเสี่ยวชิงมองจางฉีโม่อย่างสนุก
“ฉันเชื่อเขา” จางฉีโม่พูดสีหน้าจริงจัง
เธอรู้ หลินอิ่งไม่เคยทำอะไรที่ไม่มั่นใจ
“เห้อ ฉีโม่ เธอนี่โง่จริงๆ จงเทียนซิงเฉินเป็นสถานที่แบบไหนหลินอิ่งคงไม่รู้เรื่องเลย ฉีโม่ ฉันพูดตามตรง ผู้ชายแบบนี้ฉันเห็นมาเยอะแล้ว นอกจากล่อลวงหลอกผู้หญิงแล้ว ไม่มีความสามารถอย่างอื่นเลย” นิ่งเสี่ยวชิงพูดอย่างไม่เกรงใจ “เธอต้องเบิกตากว้างหน่อย ดูให้ชัดเจนว่ามันไอ้น้ำยาขนาดไหน”
พูดจบ นิ่งเสี่ยวชิงมองหลินอิ่งอย่างยโสโอหัง พูดว่า “หลินอิ่ง นายก็ไม่ต้องอวดดีขี้โม้หรอก นายเป็นยังไงฉันไปสืบมาหมดแล้ว นายยอมรับว่าตัวเองไร้น้ำยายากมากเหรอ?”