ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 283 ไอ้แซ่หลิน นายแสดงต่อไป
บทที่ 283 ไอ้แซ่หลิน นายแสดงต่อไป
หลินอิ่งหัวเราะเย็นชา “เธอสืบมาหมดแล้ว? เธอรู้ว่าฉันเป็นใคร?”
“ฉันรู้แน่นอน นายก็แค่ลูกเขยเกาะเมียกิน ทำงานเป็นผู้ช่วยที่บริษัทฉีโม่? ได้ข่าวว่ายังหลอกล่อผู้หญิงอื่นข้างนอก” นิ่งเสี่ยวชิงพูดสีหน้าดูถูก
“นายไม่แค่ไร้ความสามารถ นิสัยมีปัญหา เป็นความอับอายของผู้ชายด้วยกันเองด้วย” นิ่งเสี่ยวชิงพูด
เธอต้องให้หลินอิ่งก้มหัวต่อหน้าเธอ ยอมรับว่าตัวเองไร้น้ำยา
หลินอิ่งส่ายหน้า ไม่อธิบาย
“เป็นอะไร เสี่ยวชิงพูดแทงใจดำเหรอ? หาข้ออ้างไม่ได้แล้วเหรอ? ฉันไม่เคยได้ยินผู้ชายมีความสามารถคนไหนไปเป็นผู้ช่วยให้เมียตัวเอง” ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดเสียดสี
“ไร้ความสามารถไม่ว่า ยังแสดงขนาดนี้ ยังอยากเปิดบริษัทเครื่องประดับที่ตี้จิงอีก นายก็แค่ยอมรับมาตรงๆว่าเกาะฉีโม่กิน แค่นี้ก็จบ” หญิงสาวคนหนึ่งพูด
“คนแบบนี้ก็แค่ขี้โม้อวดดี แล้วยังหน้าด้านอีก”
เห็นท่าทางหลินอิ่งแล้ว ทุกคนในงานยิ่งไม่พอใจ
ไอ้ไร้น้ำยา ควรก้มหัวต่อหน้าพวกเขาที่มีหน้ามีตาในสังคมเหนือกว่า อย่างเคารพ ยังมาโม้ต่อหน้าพวกเขาอีก ปากแข็ง
“เห็นนายแบบนี้ ไม่พอใจเหรอ” นิ่งเสี่ยวชิงหัวเราะเย็นชาพูด “งั้นก็ได้ ไป ฉีโม่ พวกเราเข้าไปกินข้าวในภัตตาคารหลงเถิงกัน ฉันจองห้องอาหารไว้แล้ว”
“ในงานเลี้ยง ฉันจะแนะนำคนดังในวงการธุรกิจตี้จิงให้ฉีโม่รู้จัก มีคนหนึ่งเป็นนักลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในจงเทียนซิงเฉิง ถึงเวลาก็ทักทายหน่อย ทุกคนก็จะได้รู้ ว่าหลินอิ่งโกหกหรือเปล่า” นิ่งเสี่ยวชิงพูดด้วยนำเสียงเยาะเย้ย
“เสี่ยวชิงรู้จักคนกว้างขวาง แม้แต่นักลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของจงเทียนซิงเฉิงยังเชิญมาได้”
“ฮาฮา เสี่ยวชิงนี่เก่งจริงๆ งานเลี้ยงรุ่นที่ครั้ง ก็แนะนำคนใหญ่คนโตให้พวกเรารู้จัก ทำให้เพื่อนร่วมห้องอย่างพวกเรามีโอกาสรวยไปด้วย ใจดีจริงๆ”
“ฉีโม่ ไป พวกเราไปพร้อมกัน วันนี้ต้องช่วยเธอเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของหลินอิ่งคนนี้ให้ได้ คนอย่างเขาอยู่ข้างเธอ ฉันยังรู้สึกขยะแขยง หน้าไม่อาย”
พอนิ่งเสี่ยวชิงพูด ทุกคนก็เริ่มสนทนากันขึ้นมา
จางฉีโม่สีหน้าไม่ค่อยดี ในใจก็รู้สึกโมโห มองไปที่หลินอิ่ง
หลินอิ่งสีหน้าเรียบเฉย พูดว่า “ฉีโม่ ไปด้วยกันเถอะ กินข้าวเท่านั้น”
ตามนั้น นิ่งเสี่ยวชิงพาเพื่อนร่วมห้องทุกคน เดินเข้าไปในโรงแรมหลงเถิง หลินอิ่งกับจางฉีโม่เดินตามอยู่ข้างหลังช้าๆ
ภายในโรงแรมหลงเถิง ร้านอาหารชั้นสาม ถูกนิ่งเสี่ยวชิงจองไว้ทั้งชั้น
ห้องอาหารชั้นนี้ตกแต่งสวยหรู เป็นแบบตะวันตกไฟสีเหลือง โต๊ะเก้าอี้อุปกรณ์ต่างๆก็คัดสรรอย่างดี บรรยากาศรอบด้านสวยหรู
นิ่งเสี่ยวชิงนั่งในที่นั่งตรงกลาง เธอดีดนิ้ว ก็มีพนักงานหญิงสองคนเดินมา
“หลุยส์สิบสาม พุดดิ้ง คาเวียร์ ตับเป็ด……คนละชุด” นิ่งเสี่ยวชิงพูดชื่ออาหารอย่างถนัด
พูดจบ นิ่งเสี่ยวชิงก็โยนเมนู พูดเสียงดัง “ทุกคนอยากกินอะไรสั่งตามสบาย ไม่ต้องเกรงใจ”
“เสี่ยวชิงใจดีจริงๆ”
“มีแค่เสี่ยวชิงเท่านั้นที่ใจป้ำขนาดนี้ จองห้องอาหารโรงแรมหลงเฉิงทั้งชั้นได้อย่างง่ายดาย จะกินข้าวที่โรงแรมหลงเถิงต้องจองล่วงหน้าทั้งนั้น”
ทุกคนต่างพูดยกยอกันขึ้นมา
นิ่งเสี่ยวชิงสีหน้าพอใจ นี่ก็คือผลลัพธ์ที่เธออยากได้ เป็นจุดศูนย์กลางของทุกคน จัดงานเลี้ยงรุ่นแบบนี้ก็เพื่อจะได้รับความพอใจและรู้สึกอยู่เหนือกว่าคนอื่น
ไม่นาน พนักงานก็เข็นอาหารเข้ามา อาหารที่จัดเตรียมอย่างประณีตก็จัดขึ้นโต๊ะ
นิ่งเสี่ยวชิงถือแก้วไวน์จีบไวน์ไปคำหนึ่ง มองไปที่หลินอิ่ง พูดว่า “หลินอิ่ง นายบอกว่าคุยที่จงเทียนซิงเฉิงเรียบร้อยแล้วไม่ใช่เหรอ เตรียมจะซื้ออาคารสำนักงานไม่ใช่เหรอ? ฉันก็มีกิจกรรมอยู่ที่จงเทียนซิงเฉิง อาคารที่นายซื้ออยู่ไหน? ราคาเท่าไหร่?”
หลินอิ่งมองนิ่งเสี่ยวชิง พูดว่า “ลูกน้องเป็นคนไปจัดการ ผมไม่รู้ว่าราคาเท่าไหร่”
“ฮาฮา” นิ่งเสี่ยวชิงอดหัวเราะไม่ได้ ไวน์ในปากพ่นออกมาเล็กน้อย
“นายมาพูดตลกเหรอ? หลินอิ่ง” ผู้หญิงคนหนึ่งหัวเราะพูด
“ลูกน้องไปจัดการ ไม่รู้ราคา? นายเก่งแค่ไหนกัน? ธุรกิจราคาร้อยล้านไม่ถามแม้แต่น้อย ให้ลูกน้องไปจัดการ?” ผู้ชายคนหนึ่งหัวเราะพูด ไม่เชื่อคำพูดของหลินอิ่งแม้แต่น้อย
“นับถือนับถือ นายนี่แสดงเก่งจริงๆ ฉันเกือบเชื่อแล้วเนี่ย” มีผู้ชายอีกคนพูดขึ้นอีกด้วยน้ำเสียงดูถูก
หลินอิ่งไม่อยากอธิบาย ยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มเอง
เขาไม่รู้ว่าสำนักงานที่จงเทียนซิงเฉิงว่าราคาเท่าไหร่จริง เพราะว่าไม่ได้ใส่ใจ
“ก็ได้ หลินอิ่ง นายพูดไปเถอะ ฉันเชื่อแล้ว” นิ่งเสี่ยวชิงพูดหยอกล้อ “นายไม่รู้ว่าราคาเท่าไหร่ ถ้าอย่างนั้น ช่วยบอกฉันหน่อย นายหาบริษัทไหน หาใครไปช่วยเจรจาที่จงเทียนซิงเฉิง?”
“ไม่รู้” หลินอิ่งตอบเสียงเรียบ
หลินอิ่งแค่พูดกับถังฮุยเท่านั้น เรื่องแค่นี้ ถังฮุยไม่กล้าเอามาทำให้หลินอิ่งวุ่นวาย
“ไม่รู้?” นิ่งเสี่ยวชิงเกือบเอามือปิดปากหัวเราะ เธอรู้สึกว่าหลินอิ่งน่าขำมาก
มีใครที่ไหนแสดงถึงขนาดนี้? โดนทุกคนเปิดโปงขนาดนี้แล้ว ยังจะแสดงต่ออีก?
“พอแล้ว หลินอิ่ง เอาเป็นว่าที่นายพูดเป็นความจริงละกัน” นิ่งเสี่ยวชิงพูดเสียดสี “ถ้าอย่างนั้น หลินอิ่ง นายบอกว่าจะช่วยหลินอิ่งเปิดบริษัทเครื่องประดับที่ตี้จิง นายหาโรงงานผลิตหรือยัง แหล่งวัตถุดิบพวกนี้ด้วย? นายรู้ไหมว่าเปิดบริษัทเครื่องประดับที่ตี้จิงต้องใช้เงินทุนเท่าไหร่? แล้วเตรียมเปิดกิจการเมื่อไหร่?”
ล้อเล่นอะไร เปิดบริษัทเครื่องประดับขนาดใหญ่ที่ตี้จิง ต้องมีทรัพยากรเยอะขนาดไหน และเงินทุนมหาศาล
อย่าว่าแต่เขาหลินอิ่งไร้น้ำยาเลย แม้แต่เธอนิ่งเสี่ยวชิงที่มีนิ่งซื่อตี้จิงหนุนหลัง อยากเปิดบริษัทเครื่องประดับที่ตี้จิง ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
หลินอิ่งพูด “ตอนเปิดกิจการเธอมาชมได้”
“เหอะเหอะ เข้าชม?” นิ่งเสี่ยวชิงหัวเราะ “ได้เลย ฉีโม่ ตอนบริษัทเปิดกิจการ เธอต้องเชิญฉันไปร่วมงานนะ ฉันจะส่งของขวัญชิ้นใหญ่ให้”
“ใช่แล้ว วันนี้ฉันเชิญคนใหญ่คนโตในวงการธุรกิจมาด้วย เป็นคนมีผลกระทบในเขตจงเทียน จงเทียนซิงเฉิงเขาก็เป็นคนลงทุน” นิ่งเสี่ยวชิงพูด
“นักธุรกิจท่านนี้ชื่อถูซาน หลินอิ่ง น่าจะเคยได้ยินชื่อเขาใช่ไหม?” นิ่งเสี่ยวชิงถามด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
“ถูซาน? ไม่รู้จัก” หลินอิ่งพูด
นิ่งเสี่ยวชิงพูด “ไม่รู้จัก? ถ้าอย่างนั้นคุณเจรจาเรื่องธุรกิจใหญ่โตที่จงเทียนซิงเฉิงได้ยังไง?”
หลินอิ่งพูดเสียงเรียบ “ผมคุยธุรกิจที่เขตจงเทียน ต้องถามอะไรเขาเหรอ?”
“น่าเชื่อถือจริงๆ แม้แต่ประธานถูยังไม่อยู่ในสายตาเลย” นิ่งเสี่ยวชิงหัวเราะเย็นชา “ไอ้แซ่หลิน นายแสดงต่อไป”
“ฉันจะดูนายว่าจะแสดงไปถึงเมื่อไหร่ เดี๋ยวถูซานประธานถูมาแล้ว ฉันจะดูว่านายจะแสดงต่อยังไง”
นิ่งเสี่ยวชิงพูดสีหน้าเยาะเย้ย “ฉันจะให้ประธานถูตามนายด้วยตัวเอง นายซื้ออาคารไหนจากเขากันแน่”
นายคนนี้โม้เก่งจริง แต่งเรื่องโม้เก่งจนหาที่เปรียบไม่ได้ คนไร้น้ำยาแต่งเรื่องจนตัวเองเป็นคนใหญ่โต
นิ่งเสี่ยวชิงสีหน้าได้ใจ วันนี้ต้องทำให้หลินอิ่งขายหน้าให้ได้ เดี๋ยวก็ได้ให้สองผัวเมียนี้ขายหน้าแน่นอน