ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 346 คุณต้องมีเหตุผล?
“ท่าน คือใคร? ทำไมถึงได้มีแรงมหาศาลขนาดนี้…..” หวูชิงเชียนสีหน้าทรมาน มองหลินอิ่งด้วยความตกใจ พูดจาติดๆขัดๆ
ความสามารถเก่งกาจระดับหลินอิ่ง เกินขอบเขตความรู้ของหวูชิงเชียน ไม่เคยคิดแม้แต่น้อย ประเทศหลุงจะมีวิชาเก่งกาจขนาดนี้
หลินอิ่งสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้อธิบาย
อะไรเทควันโดเกาหลี ไอกิโดของประเทศต้าเหอ ล้วนเป็นการดัดแปลงไปจากศิลปะการต่อสู้โบราณของประเทศหลุง เทคนิคแค่นี้ ยังกล้าเอาออกมาโชว์
คนนี้อะไรปรมาจารย์หวู เกรงว่าแม้แต่หัวหน้าทหารลับตระกูลนิ่งอย่างเจียงกู่จือ กลับกล้ามาโชว์วิชาการต่อสู้ต่อหน้าเขา? แค่คิดก็รู้สึกตลก
“อีกหน่อยยังกล้ามาอวดดีที่ประเทศหลุง ผมจะทำลายประเพณีวิชาเทควันโดของพวกคุณ” หลินอิ่งพูดเสียงเย็นชา
พูดจบ หลินอิ่งก็เหยียบเท้าไปที่หน้าอกหวูชิงเชียน ถีบจนเข่าเขาลื่นไปกับพื้น ลอยไปไกลสิบกว่าเมตร ไปชนกับกำแพงอย่างหนัก เสียงดังกึกก้อง ชนจนกำแพงแตก
“อู๊ว อ๊าก”
หวูชิงเชียนร้องเสียงดัง โดนถีบจนหายใจหอบ เลือดซึมจากเข่า ร่างสั่นหดตัวอยู่ที่มุมห้อง สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ไม่มีท่าทางมั่นใจเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว ถูกหลินอิ่งต่อยจนกลัวไปหมดแล้ว
ถูกหลินอิ่งทั้งต่อยและถีบ ทุกคนที่ดูอยู่ต่างดูจนตะลึง
นี่มันปรมาจารย์เทควันโดสายดำระดับ9 ทั่วไปแล้วเทควันโดสายดำสู้กับคนธรรมดา คนเดียวก็สู้หลายคนได้
แต่หลินอิ่ง กลับเหมือนสู้กับหมาโง่ตัวเดียว ทำจนปรมาจารย์เทควันโดกระอักเลือด
เก่งกาจมากไปไหม?
คราวนี้ แม้แต่บอดี้การ์ดสิบกว่าคนที่เผียวซิ่วชวนพามา ต่างก็สีหน้าตะลึง ต่างมีหลินอิ่งด้วยสีหน้าหวาดกลัว ไม่กล้าเข้าใกล้
ปรมาจารย์อย่างหวูชิงเชียน สามารถล้มบอดี้การ์ดอย่างพวกเขาได้ทั้งกลุ่ม กลับไม่ได้แตะต้องตัวเด็กหนุ่มคนนี้แม้แต่น้อย ก็ถูกต่อยจนกระอักเลือด
คนอย่างพวกเขา จะไปกล้าหาเรื่องได้ยังไง
หลินอิ่งมองไปที่เผียวซิ่วชวนอย่างเรียบเฉย พูดว่า “นี่ก็คือปรมาจารย์เทควันโดของเกาหลีที่พวกคุณโม้? แค่นี้?”
เผียวซิ่วชวนสีหน้าแดงก่ำ เมื่อกี้ยังโม้มากมายต่อหน้าหลินอิ่ง ใช้เทควันโดเกาหลีมาดูถูกวิชาการต่อสู้ของประเทศหลุง คิดไม่ถึงว่ากลับถูกเขาซ้อมเหมือนหมา
“ถึงแม้แกจะสู้ชนะปรมาจารย์หวูได้แล้วไง? จะมีประโยชน์อะไร?” เผียวซิ่วชวนพูดเสียงเรียบ “กล้ามีเรื่องกับชีซิงกรุ๊ปของเรา เรื่องราวใหญ่โตขึ้นมา ลำพังแค่วิชาการต่อสู้แค่นี้ของแกจะทำอะไรได้?”
“ถ้าฉันไม่ได้เห็นแก่หน้าของตระกูลนิ่ง จะจัดคนเก็บแกตอนนี้เลย”
“นิ่งจองอู่ ตระกูลนิ่งของพวกแกถ้ายังทำพฤติกรรมแบบนี้ ถ้าอย่างนั้น การร่วมงานระหว่างชีซิงกรุ๊ปของเราก็ต้องยุติลง รับรองว่าตระกูลนิ่งต้องสูญเสียมหาศาลแน่นอน” เผียวซิ่วชวนพูดข่มขู่
นิ่งจองอู่มองไปที่หลินอิ่งสายตาลังเล พูดว่า “ประธานหลิน ตระกูลนิ่งของเรากับชีซิงกรุ๊ป มีการร่วมงานโครงการใหญ่เรื่องอะไหล่เครื่องบิน ถ้าหากยกเลิกการร่วมงาน คาดว่าน่าจะเสียหายเป็นพันล้าน……”
“ถูกต้อง แกก็เป็นคนตระกูลนิ่ง คิดให้ดี หรืออยากมีปัญหากับเงิน?” เผียวซิ่วชวนพูดอย่างเชื่องช้า พูดถึงเรื่องธุรกิจ “ประเทศหลุงของพวกคุณมีคำโบราณว่า ในโลกนี้ทุกอย่างล้วนมีผลประโยชน์ นี่มันเป็นการลงทุนตัวเลขระดับพันล้าน ผลประโยชน์ดีขนาดนี้ ฉันว่าแกคงไม่อยากทิ้งมันไปแบบนี้หรอกนะ?”
เมื่อคนที่พามาถูกหลินอิ่งทำร้ายอย่างไม่มีทางต่อสู้ ความมั่นใจของเผียวซิ่วชวนก็ลดลงไปบ้าง จึงใช้วิธีการเจรจามาล่อ
ถ้าหากอยู่ในประเทศเกาหลี ตามพฤติกรรมการทำงานของเผียวซิ่วชวนแล้ว ใครที่กล้าทำร้ายน้องชายตัวเอง ก็ใช้เส้นสายเรียกคนจากกระทรวงยุติธรรมมาได้ทันที จัดตำรวจพกอาวุธมา จับตัวหลินอิ่งไปแล้ว ขังไว้ในคุกทรมานจนตาย
แต่ว่า ที่นี่คือประเทศหลุง ยังเป็นถิ่นของตระกูลนิ่งด้วย ฝีมือของหลินอิ่งยังเก่งกาจขนาดนี้ ถ้าหากยังสู้กับหลินอิ่งต่อ เขาเองก็คงจัดการไม่ได้
สถานการณ์ตรงหน้า ช่วยน้องชายไม่ได้แล้ว รอมีโอกาสเมื่อไหร่ค่อยกลับมาแก้แค้น
ฟังคำพูดของเผียวซิ่วชวน สีหน้าของหลินอิ่งนิ่งเฉย ไม่กระทบแม้แต่น้อย
“คุณกับน้องชายผมคงมีเรื่องเข้าใจผิดกัน ผมคิดว่าเราเจรจากันได้” เผียวซิ่วชวนเห็นหลินอิ่งไม่ได้ขัดแย้ง คิดว่าหลินอิ่งถูกเงินดึงดูดแล้ว จึงพูดขึ้นมาอย่างเชื่องช้า
“น้องชายผมเกิดมาสมองก็ไม่ค่อยดี คุณเป็นคนเก่งของตระกูลนิ่ง คงไม่คิดติดใจอะไรกับเขาหรอกนะ?” เผียวซิ่วชวนพูดช้าๆ “อีกอย่างผู้นำตระกูลนิ่งหลายคนก็สนิทกับผมดี ก่อนหน้านี้ผู้นำตระกูลนิ่งของพวกคุณ นิ่งจองเต้ายังคุยเรื่องแผนการการร่วมงานกับผมอยู่เลย”
“เอาอย่างนี้ เรื่องนี้ผมยอมถอยหนึ่งก้าว คุณทำร้ายน้องชายผม ผมไม่เอาความ” เผียวซิ่วชวนพูดถ่อม ในแบบของนักธุรกิจ “แต่คุณก็ต้องมีเหตุผลหน่อย ไว้หน้าชีซิงกรุ๊ปหน่อย ก็ชดใช้ค่าเสียหายสองร้อยล้าน ให้น้องชายผมดีใจหน่อย เรื่องนี้ก็เป็นอันจบกัน”
“สองร้อยล้าน? มีเหตุผล?” หลินอิ่งหัวเราะเย็นชา
คุณชายชีซิงกรุ๊ปสองคนหาเรื่องเขา อยากลงมือกับฉีโม่ ตอนนี้กลัวแล้ว อยากถอย? ยังอยากให้เขาชดใช้ค่าเสียหาย ไว้หน้าพวกเขาให้ถอนตัว?
“พี่ ไหนๆพี่ก็พูดแบบนี้แล้ว งั้นก็ให้เขาชดใช้เงินสองร้อยล้านให้ผมไปเล่น เรื่องนี้ผมก็จะยกโทษให้เขา” เผียวจื้อจางพูด
เผียวซิ่วชวนรู้สึกขายหน้า เขาให้หลินอิ่งชดใช้เงิน เพื่อตัวเองจะได้ไม่เสียหน้ามากเกินไป จะทำให้ชีซิงกรุ๊ปขายหน้าไม่ได้ อีกหน่อยค่อยหาโอกาสแก้แค้น
แต่น้องชายโง่เขลาของเขา ไร้ประโยชน์สิ้นดี บอกว่าให้หลินอิ่งเอาเงินให้เขาไปเล่น?
เผียวซิ่วชวนรู้สึกเอือมระอา น้องชายคนนี้พยุงยังไงก็ไม่ขึ้นแล้ว นอกจากกินเที่ยวแล้วทำอะไรไม่เป็นเลย แต่ไม่ว่ายังไง ก็เกี่ยวกับชื่อเสียงของชีซิงกรุ๊ป จะขายหน้าไม่ได้
“ว่ายังไง? ถอยคนละก้าว? ประเทศหลุงของพวกคุณมีคำโบราณว่า ทุกอย่างเหลือหนทางไว้ เพื่อพบกันในอนาคต” เผียวซิ่วชวนมองหลินอิ่ง พูดอย่างจริงจัง
เขาคิดไปเองว่า เรื่องนี้จัดการได้อย่างสมเหตุสมผลแล้ว ขอเงินสองร้อยล้าน พอดีไม่มากไม่น้อย
สำหรับตระกูลนิ่งและชีซิงกรุ๊ปแล้ว ตัวเลขนี้ไม่มากและไม่น้อย
ถ้าหลินอิ่งรู้เรื่อง ก็ควรพยักหน้า ต่อหน้าบริษัทระดับโลกอย่างชีซิงกรุ๊ป ควรทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก
ส่วนหลินอิ่งทำร้ายน้องชายตัวเอง ชดใช้เงินสองร้อยล้านเพื่อขอโทษ ด้วยสถานการณ์แล้วก็พอไปได้ ไม่ขายหน้า
“อยากมีเหตุผลใช่ไหม?” หลินอิ่งพูดเสียงเรียบ “ได้ ประเทศหลุงของเราต้องมีมารยาทต่อผู้อื่น เหตุผลของวันนี้ เดี๋ยวผมเล่าให้คุณฟังเอง”
“นิ่งจองอู่ โอนเงินสองร้อยล้านให้เขา” หลินอิ่งพูดเสียงเรียบ
นิ่งจองอู่ตะลึง ไม่รู้ว่าประธานหลินจะทำอะไร แต่ก็ไม่กล้าถาม รีบเปิดเช็คธนาคารใบหนึ่ง ส่งให้บอดี้การ์ดของเผียวซิ่วชวน
เผียวซิ่วชวนรับเช็คมา ยิ้มขึ้นที่มุมปาก
หลินอิ่งต่อสู้เก่งแล้วยังไง? มีตระกูลนิ่งอยู่เบื้องหลังแล้วยังไง? ต่อหน้าชีซิงกรุ๊ปอย่างพวกเขา ก็ต้องก้มหัวอย่างเชื่อฟัง ชดใช้เงินเพื่อขอโทษ?
“ดีมาก ตระกูลนิ่งยังรู้จักคิดอยู่ เรื่องนี้ก็เป็นอันจบเท่านี้ ผมจะไม่เอาความอีก” เผียวซิ่วชวนพูดอย่างมั่นใจ “ผมไปแล้ว น้องชายผมต้องส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล”
พูดไป เผียวซิ่วชวนก็หันตัวกลับ สายตาเปลี่ยนเป็นอย่างโหดเหี้ยม
เรื่องนี้ไม่จบแค่นี้แน่ แค่จบชั่วคราวก่อน รอกลับไปแล้วค่อยไปสืบว่าผู้ชายที่ลงมือกับน้องชายเป็นใครในตระกูลนิ่งกันแน่ ค่อยจัดคนมาจัดการกับเขา
“ผมให้คุณไปได้แล้วเหรอ?” หลินอิ่งพูดเสียงเรียบ
“ออ?” เผียวซิ่วชวนหันกลับมา ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ไม่ทราบว่ายังมีเรื่องอะไรอีก?”
“เหตุผลยังพูดไม่จบเลย คุณจะไปได้ยังไง?” หลินอิ่งยิ้มเย็นชา
“ผมต่อยน้องชายคุณ ชดใช้เงินสองร้อยล้าน” หลินอิ่งพูดน้ำเสียงเย็นชา “แล้วน้องชายคุณทำลายอารมณ์การกินข้าวของผมกับภรรยา เรื่องนี้ จะทำยังไง?”
“หมายความว่ายังไง?” เผียวซิ่วชวนพูดเย็นชา สายตาโมโห
เขารู้สึกว่าหลินอิ่งพูดจาน่าตลก ทำลายอารมณ์กินข้าวของเขากับเมีย? ยังมีแบบนี้ด้วยเหรอ?
ปัง
หลินอิ่งขยับตัว ลงทันกะทันหัน ดึงหัวของเผียวซิ่วชวน เหวี่ยงลงบนโต๊ะ จากนั้นก็ถีบเขาเหมือนหมา ล้มอยู่บนโต๊ะ
“แก แกจะทำอะไร?” เผียวซิ่วชวนสีหน้าตกใจ
ไม่รู้ว่าทำไมหลินอิ่งลงมือกะทันหัน นี่เขาจะทำอะไร?