ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 348 ปิดถนนเส้นนี้?
เผียวซิ่วชวนขอร้องหลินอิ่งไม่หยุด แว่นที่ใส่อยู่ก็แตกแล้ว ตัวสั่นไปทั้งร่าง สภาพซมซาน
ภาพนี้ ทุกคนในร้านต่างดูด้วยความตกใจ พวกเขาคิดไม่ถึง ว่าคุณชายชีซิงกรุ๊ปทั้งคน ศักดิ์ศรีสูงส่งในประเทศเกาหลีไม่เคยกลัวใครอย่างเผียวซิ่วชวน กลับถูกคนทำร้ายจนสภาพซมซาน เหมือนหมาเร่ร่อนน่าสงสารกระดิกหางร้องขอชีวิต
นิ่งจองอู่กับลูกสาวรู้สึกน่าทึ่ง ประธานหลิน เก่งกาจมากจริงๆ
พวกเขาสองคนไม่รู้อำนาจความสามารถที่แท้จริงของประธานหลินว่าเป็นยังไง แต่วันนี้ได้เห็นด้วยตาตัวเองว่าประธานหลินเหยียดหยามชีซิงกรุ๊ป รู้สึกตะลึงมาก
ความกล้าหาญระดับนี้ ในตี้จิงจะมีกี่คน?
มิน่า ครั้งที่นายท่านนิ่งไท่จี๋ถอนตัว ถึงขอร้องให้ประธานหลินมาดูแลตระกูลนิ่งแทน กิจกรรมอันใหญ่โตของตระกูลนิ่งแห่งตี้จิง ส่งมอบให้ประธานหลิน
บุคลิกอันหาที่เปรียบไม่ได้อย่างประธานหลิน ตระกูลนิ่งแห่งตี้จิงจะมีใครเทียบได้?
จางฉีโม่ดูอยู่ข้างๆ สีหน้าเป็นห่วง พูดเสียงเบา “หลินอิ่ง คนเกาหลีคนนี้เบื้องหลังใหญ่โต เกรงว่าจะมีปัญหาใหญ่…..”
หลินอิ่งมองจางฉีโม่แล้วยิ้ม “ฉีโม่ คุณไม่ต้องเป็นห่วง แค่ชีซิงกรุ๊ป ไม่อยู่ในสายตาผมอยู่แล้ว วันนี้ตั้งใจจะกินข้าวเป็นเพื่อนคุณ พวกเขาทำให้คุณอารมณ์ไม่ดี ผมก็จะทำให้พวกเขา จะอารมณ์ดีไม่ได้ทั้งชาติ”
ได้ยินแล้ว จางฉีโม่รู้สึกกังวลไปด้วย ในใจก็รู้สึกตื้นตันไปด้วย
เพราะว่า หลินอิ่งพูดแล้ว เผียวซิ่วชวนสองพี่น้องรบกวนเวลากินข้าวของเขาและภรรยา ทำให้ตัวเองอารมณ์ไม่ดี
ซึ่งหมายความว่า ในใจหลินอิ่งให้ความสำคัญกับเธอมาก
เพราะว่าภรรยาไม่พอใจ ก็ต่อยคุณชายของบริษัทระดับโลกจนต้องคุกเข่าขอร้อง สามีแบบนี้ ยังมีอะไรให้พูดอีก?
“ผมผิดไปแล้ว ไม่ควรรบกวนเวลากินข้าวอันมีค่าของคุณและภรรยา ผิดไปแล้วจริงๆ อย่าฆ่าผมเลย” เผียวซิ่วชวนตกใจจนกลัวไปหมดแล้ว ขอร้องด้วยสีหน้าซีดขาว “เงินห้าแสนล้านผมไม่มีสิทธิ์ใช้ได้ ให้ผมโทรศัพท์หน่อย ผมให้พ่อผมจัดการให้”
หลินอิ่งหัวเราะ พูดว่า “ผมจะให้โอกาสหนึ่งครั้ง”
พ่อของเผียวซิ่วชวน ผู้มีอำนาจสูงสุดของชีซิงกรุ๊ป มีความสามารถในการระดมเงินทุนห้าแสนล้านได้
แต่ว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะชดใช้เงินห้าแสนล้าน เพราะลูกชายถูกทำร้าย
หลินอิ่งให้เผียวซิ่วชวนโทรศัพท์ ก็เพราะอยากดู ทัศนคติของชีซิงกรุ๊ปว่าเป็นยังไง
เผียวซิ่วชวนรู้สึกโล่งใจ ได้รับความยินยอมจากหลินอิ่ง จึงสั่งให้บอดี้การ์ดโทรหาพ่อของเขา
“คุณชายใหญ่ เบอร์ท่านประธานโทรติดแล้วครับ” บอดี้การ์ดเกาหลีคนหนึ่งเดินมาด้วยสีหน้าตื่นเต้น ในมือถือโทรศัพท์
เผียวซิ่วชวนร่างสั่น รับโทรศัพท์มาด้วยความตื่นเต้น ต่อหน้าหลินอิ่ง
บลาบลาบลา…….
เผียวซิ่วชวนพูดภาษาเกาหลีด้วยเสียงสั่น สื่อสารกับชายวัยกลางคนด้วยภาษาเกาหลีในโทรศัพท์
สามสิบวินาทีผ่านไป โทรศัพท์ถูกวางสาย
เผียวซิ่วชวนมองหลินอิ่งด้วยสีหน้ายิ้ม พูดว่า “พ่อผมยินยอมแล้ว บอกว่าขอเวลาเขาจะระดมเงิน เมื่อเตรียมเงินเสร็จแล้ว ชีซิงกรุ๊ปของเราจะรีบส่งเงินมาที่ตี้จิงประเทศหลุง……”
“ยินยอมแล้ว?” หลินอิ่งยิ้มอย่างเย็นชา
เพี๊ยะ
หลินอิ่งยกมือตบเข้าที่หน้าของเผียวซิ่วชวนอย่างแรง ตบจนเขากระเด็นตีลังกา ล้มลงกับพื้นกระอักเลือด กล้ามเนื้อใบหน้ากระตุก สายตากลายเป็นโหดเหี้ยม ตอนแรกใบหน้าที่ยังดูหล่อเหลา กลายเป็นน่าเกลียด
“ฉันตกลงว่าจะชดใช้เงินแล้ว แกจะเอายังไงอีก?” เผียวซิ่วชวนถามอย่างโมโห
ปัง
หลินอิ่งเดินเข้าไปใช้เท้าเหยียบบนหน้าของเผียวซิ่วชวน รองเท้าเหยียบอยู่บนหัวเขา เหยียบจนเขากระอักเลือดไม่หยุด
“คิดว่าผมฟังภาษาเกาหลีไม่ออกเหรอ?” หลินอิ่งพูดและหัวเราะอย่างเย็นชา
เขารู้ภาษาต่างประเทศไม่น้อยกว่าสามร้อย
เผียวซิ่วชวนพูดในโทรศัพท์ บอกกับพ่อของเขาว่า เขาถูกคนทำร้าย ให้พ่อเขาใช้ความสัมพันธ์ในตี้จิง ยังแจ้งตำแหน่งเขตตี้เจียง
นี่มันโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ ยังพูดอะไรยินยอมชดใช้เงิน? น่าตลกสิ้นดี
“ดูแล้ว คุณก็ยังไม่ยอมใช่ไหม? ให้พ่อหาคนมาช่วย?” หลินอิ่งพูดเสียงเรียบ
“ฉัน……” เผียวซิ่วชวนสีหน้าเจ็บปวด กัดฟันแน่น
ในใจเขาไม่ยอมแน่ เป็นถึงคุณชายชีซิงกรุ๊ป ถูกดูถูกเหยียดหยามขนาดนี้ที่ประเทศหลุง ขายหน้าสิ้นดี จะไปพอใจได้ยังไง?
ตอนแรกอยากหลอกหลินอิ่ง แล้วค่อยหาคนจัดการหลินอิ่ง แต่คิดไม่ถึง หลินอิ่งจะฟังภาษาเกาหลีเป็น
ติ๊ดติ๊ดติ๊ด
เวลาเดียวกัน โทรศัพท์ของเผียวซิ่วชวนดังขึ้น
หลินอิ่งรับโทรศัพท์ พูดอย่างเปิดอก “ลูกชายคุณถูกผมต่อย คุณจะส่งคนมาช่วยเขา?”
“คุณเป็นใคร? คนของตระกูลนิ่ง? กล้าทำลูกชายผม คุณรู้ไหมว่าผมคือใคร?” ทางโทรศัพท์ เป็นเสียงของผู้ชายวัยกลางคนที่กระฉับกระเฉง พูดภาษาประเทศหลุงได้อย่างชัดเจน น้ำเสียงเหมือนคนมีอำนาจ
“แน่นอนผมรู้ว่าคุณเป็นใคร ประธานของชีซิงกรุ๊ป” หลินอิ่งพูดอย่างเย็นชา “เหอะ ต่อยลูกชายคุณนั่นแหละ”
ในโทรศัพท์เงียบ จากนั้น ก็มีเสียงเย็นชาพูดขึ้น “ปล่อยลูกชายผมเดี๋ยวนี้ ผมเผียวจินฮุนใช้ชื่อเสียงเป็นประกัน จะไม่เอาเรื่องคุณอีก ไม่อย่างนั้น ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชายของผมทั้งสองคน เป็นอะไรแม้แต่นิดเดียว ผมจะทำให้คุณเสียใจที่เกิดมาบนโลกนี้”
“เผียวจินฮุน คุณคิดว่าตัวเองใหญ่โตมากเหรอ? ห่างกันข้ามฟ้าข้ามทะเล โทรศัพท์สายเดียว ก็เพ้อฝันจะให้คนอื่นยอม?” หลินอิ่งส่ายหัวพูด
“ไอ้หนุ่ม อวดเก่งเกินไปแล้ว” เผียวจินฮุนพูดเสียงเย็นชา “คุณคงยังไม่รู้ ภายในไม่กี่นาทีนี้ ถนนที่คุณอยู่ถูกปิดกั้นไว้แล้ว เพื่อนผมที่อยู่ตี้จิงไปถึงแล้ว……”
หลินอิ่งหัวเราะส่ายหัว เสียงติ๊ดตัดสายไป
ชีซิงกรุ๊ป เส้นสายใหญ่โตจริงๆ เผียวจินฮุนอยู่ไกลถึงเกาหลี แค่โทรศัพท์สายเดียวก็สามารถใช้อำนาจในตี้จิงได้ ยังปิดกั้นถนนทั้งสาย
ต้องรอดูว่า คนที่เรียกมาคือใคร
“นิ่งจองอู่ ทางที่ดีคุยกับเพื่อนคนนี้ของคุณหน่อย อย่าทำเรื่องให้มันใหญ่โตกว่านี้ พ่อผมโมโหแล้ว ถ้าเขายังไม่รีบหยุดตอนนี้ ความโมโหของชีซิงกรุ๊ปของเรา ไม่ใช่สิ่งที่พวกคุณจะทนรับได้” เผียวซิ่วชวนพูดเสียงเย็นชา
เมื่อพ่อของเขาใช้อำนาจในตี้จิงแล้ว ความมั่นใจและยโสของเขาก็กลับคืนมา คำพูดน้ำเสียงก็เริ่มแข็งขึ้น