ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 373 เรื่องต้องทำทีละขั้นทีละตอน
หวู่เฟยดูลังเล บอกตามตรง เขาไม่เข้าใจความตั้งใจของคริสคืออะไร
แต่ว่า คริสเป็นคนที่สุขุมเสมอมา จะไม่พูดเล่นแบบนี้
“คริส นายมีเงินมากมายขนาดนั้นเลยหรอ? หรือว่า นายสามารถทำตามสัญญาที่นายให้กับฉันได้?” หวู่เฟยพูดอย่างเคร่งขรึม
“ฉันไม่สามารถทำได้” คริสพูดด้วยรอยยิ้ม
“แต่ว่าประธานหลินที่อยู่เบื้องหลังของฉัน สามารถทำได้”
คริสยืนขึ้นในขณะที่พูด หลินอิ่งก็ได้เดินมาจากฉากหลัง แล้วนั่งลงอย่างสง่าผ่าเผย
“ประธานหลิน? สวัสดีครับ ประธานหลิน”หวู่เฟยมองไปยังหลินอิ่งด้วยความเคร่งขรึม
หลินอิ่งชิมกาแฟหนึ่งคำแล้วพูดว่า คุณหวู ถ้าหากคุณคิดว่าโปรเจ็คของคริสเป็นไปได้ ผมจะจัดเงินทุนให้ทันที
สายตาของหวู่เฟยเป็นประกาย ราวกับว่ามีความรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
“ประธานหลิน อสังหาริมทรัพย์ผองเฟยกรุ๊ปเป็นกิจการที่ผมดำเนินการมาหลายปี ถ้าหากว่าคุณต้องการที่จะซื้อกิจการเต็มรูปแบบ ในด้านราคานั้น ผมว่าต้องกลับไปคิดวิเคราะห์ดูก่อน”หวู่เฟยพูดอย่างเคร่งขรึม
หลินอิ่งยิ้มตรงมุมปาก ลองคิดวิเคราะห์ดูก่อน ?
นี่คือไม่พอใจที่ฉันให้ราคาที่ต่ำเกินไป?
“คนที่ชัดเจนไม่พูดลับหลัง อสังหาริมทรัพย์ผองเฟยของนายกำลังถูกโม่เก๋อติงของลาตินกรุ๊ปกดขี่ และทนรับกับความกดดันไม่ไหวแล้ว ตลาดหุ้นกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่แย่ที่สุด”หลินอิ่งพูดอย่างเฉยเมย “สำหรับนายแล้ว ก็เหมือนกับมันเทศที่ร้อนมือ นายก็รีบร้อนที่จะปล่อยมืออยู่แล้วใช่มั้ย? ท้ายที่สุดไม่มีเงินทุนมากพอที่จะบังคับให้ดำเนินการต่อไปได้อีกแล้ว ในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า อสังหาริมทรัพย์ผองเฟยจะไม่มีมูลค่า!”
หวู่เฟยดูประหลาดใจ นี่เป็นความลับทางการค้าขั้นสูงของตัวเอง ที่เห็นภายนอกอสังหาริมทรัพย์ผองเฟยยังคงดำเนินกิจการตามปกติ แต่ในความเป็นจริงมันใกล้จะล้มละลายแล้ว
เขาเคยคิดที่จะขายอสังหาริมทรัพย์ผองเฟยออกไป แต่คิดไม่ถึงว่า ประธานหลินคนนี้ จะรู้ทุกอย่างของเขาแล้ว
“ประธานหลินก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในวงการธุรกิจด้วย ผมก็จะไม่พูดอ้อมค้อมแล้ว โปรเจ็คชุดนี้ของคริสโดยทั่วไปแล้ว เพิ่มอีกหนึ่งพันล้าน นี่เป็นขีดจำกัดของฉัน ถ้าหากว่าประธานหลินคุณตกลง ผมสามารถเซ็นสัญญาได้ทันที และให้คนของผมไปส่งมอบงานให้”หวู่เฟยพูดอย่างเคร่งขรึม
“โปรเจ็คนี้ที่ตกลงกันเอาไว้ จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีก”หลินอิ่งพูดอย่างเฉยเมย
“ฉันสามารถเปิดเผยข้อมูลให้คุณได้หนึ่งเรื่อง มูลค่ามากกว่าหนึ่งพันล้าน”
ในขณะที่พูดหลินอิ่งดีดนิ้ว คริสยืนถุงเอกสารให้ หวู่เฟยรับถุงเอกสารมาอย่างที่ลังเล มองอย่างละเอียด จากนั้นก็มีเหงื่อเย็นผุดขึ้นเต็มหน้าผาก
“ได้! ผมจะเซ็นทันที! ประธานหลิน ผมขอบคุณในการมาของคุณ คุณก็คือผู้มีพระคุณของผม!” หวู่เฟยยืนขึ้นอย่างเคร่งขรึม
“คืนนี้ฉันจะต้องออกจากเมืองก่าง ยังมีธุระที่ต้องจัดการอีก ประธานหลินคุณวางใจได้เลย อสังหาริมทรัพย์ผองเฟย ผมจะจัดการส่งมอบงานทั้งหมดให้เรียบร้อย”
“นายเป็นคนฉลาดคนหนึ่ง” หลินอิ่งยังคงรอยยิ้มไว้แล้วพูด
“ขอบคุณคุณมาก!” หวู่เฟยจับมือของหลินอิ่งด้วยความตื่นเต้น ดูท่าทางราวกับโดนไฟรน เดินออกจากห้อง แล้วรีบลงไปพร้อมกับเลขาและทีมงานธุรกิจ
“ประธานหลิน คุณคาดเดาถูกราวกับเทพเจ้าจริงๆ ครั้งนี้โม่เก๋อติงทำให้หวู่เฟยกลัวแล้ว คุณเปิดเผยแผนปฏิบัติการและข้อมูลของโม่เก๋อติง เขาก็กลัวแทบตาย” คริสยกนิ้วโป้งขึ้นมา และพูดอย่างประจบประแจง
“ทางด้านบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์จื่อจิน เจรจาเป็นยังไงบ้าง?”หลินอิ่งพูดอย่างเฉยเมย
“ทางด้านบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์จื่อจินเป็นไปได้ยากมาก บริษัทของพวกเขากำลังอยู่ในช่วงจุดสูงสุด กำไรของบริษัทพุ่งขึ้นในทุกวัน คงจะเป็นเรื่องยากถ้าจะซื้อ“ คริสพูดอย่างเคร่งขรึม
หลินอิ่งพยักหน้าและพูดอย่างเคร่งขรึม “คืนนี้นายไปเจรจากับบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ อีกเดี๋ยวฉันยังมีเรื่องที่ต้องจัดการอีก”
ซื้ออสังหาริมทรัพย์ผองเฟยเต็มรูปแบบ และบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ นี่คือก้าวแรกในการที่จะยืนอยู่ในวงการอย่างในเมืองก่างอย่างมั่นคง
โครงสร้างของสองธุรกิจนี้ใหญ่มาก อยู่ในสิบอันดับแรกของโครงสร้างการจัดอันดับในวงการธุรกิจในเมืองก่าง
อสังหาริมทรัพย์ผองเฟยมีพาณิชย์พลาซ่าที่มากกว่าสิบสาขา อสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์
บริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์จื่อจินยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย ในบริษัทมีดาราสาวสวยสิบกว่าคน ยิ่งไม่ต้องพูดเลยนักแสดงหญิงและแสดงชายชั้นนำ เรียกได้ว่าเป็นวงการบันเทิงขนาดเล็ก เป็นวงการบันเทิงชั้นนำอย่างแน่นอน
หลังจากที่ได้บริษัททั้งสองนี้แล้ว คริสก็จะมีเวทีทางฝั่งนี้แล้ว เขามีอำนาจที่สามารถต่อกรกับโม่เก๋อติงในเมืองก่าง แช่งชิงอำนาจการควบคุมดูแลลาตินกรุ๊ปในเมืองก่าง
เอาโม่เก๋อติงอยู่ หลังจากที่คริสเข้าควบคุมลาตินกรุ๊ปในเมืองก่าง เขาก็จะสามารถใช้ลาตินกรุ๊ปเป็นเวทีของเขาได้ ในวงการธุรกิจ การเผชิญหน้ากันแบบตัวต่อตัว ทำลายธุรกิจการค้าของจี้ฉงซานให้เป็นหลุม
ถ้าไม่วางแผนไว้แบบนี้ ไม่มีพื้นฐานด้านธุรกิจในเมืองก่างได้เลย ถึงแม้ว่าจะใช้เงินทั้งหมดในตี้จิง จะใช้เงินหลายพันล้านในคราวเดียว ก็ไร้ประโยชน์
ใช้เงินในเมืองก่าง ก็เท่ากับว่าส่งเงินให้จี้ฉงซาน
ในเมืองก่าง ถ้าคุณอยากจะทำธุรกิจอะไร ยังไงก็หนีไม่พ้นจี้ฉงซานคนนี้
ในเมืองก่างได้รับการดูแลจัดการของจี้ฉงซานมายาวนานราวกับเหล็ก วงการธุรกิจในเมืองก่าง เขาจะเล่นยังไงก็ได้
จะโค่นอาณาจักรธุรกิจของเขา ต้องสลายตัวเข้าไปในเมืองก่าง
จะจัดการจี้ฉงซาน ก็ต้องเลี่ยงเขาในเมืองก่าง และปักธงลงใหม่
หลินอิ่งเป็นคนเลือกธงนี้เอง ก็คือลาตินกรุ๊ปในเมืองก่าง!
หลังจากที่ออกคำสั่งให้คริสแล้ว หลินอิ่งเดินออกไปจากห้อง “ดรีมคริสตัล” ในร้านอาหารผองเฟย
“นี่? หลินอิ่ง ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่?”
หลังจากเดินได้ไม่กี่ก้าว ทันใดนั้น ก็มีเสียงผู้หญิงที่คุ้นเคยดังขึ้น
หลินอิ่งขมวดคิ้ว และมองไปด้วยสายตาที่เย็นชา
เห็นแค่ บนโต๊ะคริสตัลหนึ่งในร้านอาหาร มีหนุมสาวที่แต่งตัวแฟชั่นหลายคนนั่งอยู่
“ลู่จิ้ง คนนี้คือใคร? เธอรู้จักมั้ย? คงจะไม่ใช่แฟนหนุ่มของเธอใช่มั้ย?” หญิงสาวคนหนึ่งพูดล้อเล่น มองไปยังหลินอิ่งแล้วกลอกตาไปมา
“ถ้าหากว่าเป็นเพื่อนของเธอ ให้เขาแนะนำตัวสักหน่อย แล้วมานั่งดื่มกันสักแก้ว” ชายหนุ่มที่แต่งตัวดีคนหนึ่งพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“ไม่ๆๆ!” พูดติดต่อกันหลายครั้ง มองหลินอิ่งด้วยท่าทางขี้เล่น “พวกเธอกำลังพูดถึงเพื่อนแบบไหน ฉันจะมีเพื่อนที่ไร้ประโยชน์อย่างเขาได้อย่างไร?”
“เขานะหรอ ก็คือเรื่องตลกที่ฉันพูดกับพวกเธอเมื่อกี้! เขาชื่อหลินอิ่ง เป็นไอ้พวกไร้ประโยชน์ที่มีชื่อเสียง ในเมืองชิงหยูน!” ลู่จิ้งพูดอย่างเย้ยหยัน “พี่สาวของฉันก็โชคร้ายเหมือนกัน มีสามีที่ไร้ค่าเช่นนี้”
“ออ ลู่จิ้ง บังเอิญขนาดนี้เลยหรอ? คนนี้คือพี่เขยที่ไร้ค่าที่เธอพูดถึงหรอ?” วัยรุ่นคนหนึ่งพูดด้วยความแปลกใจ มองไปที่หลินอิ่งอย่างดูถูก
“เหมือนกับที่เล่ามาเลย เป็นไอ้คนจนจริงๆด้วย ฉันดูแล้ว เป็นถึงลูกผู้ชาย ออกมาข้างนอกแม้แต่นาฬิกาดีๆก็ยังไม่มีใส่ และกุญแจรถก็ไม่มี นี่มันจะล้าหลังเกินไปแล้วนะ” หญิงสาวคนหนึ่งพูดอย่างเยาะเย้ย
“ว้าย น่าเสียดายจังเลย ลู่จิ้ง เธอเคยให้ฉันดูรูปของจางฉีโม่พี่สาวของเธอ สวยมาก สวยไม่แพ้ใครเลย! ทำไมถึงมาแต่งงานกับคนไร้ประโยชน์อย่างนี้?”
ชายหนุ่มคนหนึ่งตบขาถอนหายใจแล้วพูดว่า ในมือถือโทรศัพท์ของลู่จิ้งไว้ หรี่ตามองหน้าจอโทรศัพท์ เป็นภาพถ่ายของจางฉีโม่ที่ถ่ายตอนท่องเที่ยว