ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 377 ฉันหาหยังสวนเจิง
“นาย! นายอยากจะทำอะไร? ประธานหยัง นายยังไม่มาห้ามคนของนาย!”หลุ่ยหวนคำราม
หลังจำที่เขาได้ฟังเรื่องราวจากลูกชายแล้ว รู้ว่าหลินอิ่งเป็นลูกเขยไร้ค่าที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิงและมาจากมณฑลบ้านนอก แค่มีความสัมพันธ์กับประธานหยังก็เท่านั้น
คิดไม่ถึงว่า ยังกล้าลงมือกับเขา? ไม่รู้จักอยู่หรือตาย!
ป๊าบ!
หลินอิ่งตบลงบนใบหน้าของหลุ่ยหวนหนึ่งที ตบจนฟันของเขาหลุดออกจากปากหลายซี่
“ลูกชายของนายไม่รู้ความ คนแก่อย่างนาย ก็ไม่รู้ความ?”
“นายและลูกชายของนาย หนึ่งคำสองคำก็หลินอิ่งเป็นลูกเขยไม่ได้เรื่อง” หลินอิ่งพูดด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “ถ้าอย่างนั้นวันนี้ ให้หลินอิ่งสองคำนี้ ทับพวกนายเอาไว้ตลอดชีวิตจนไม่สามารถเงยหัวได้!”
เมื่อพูดจบ หลินอิ่งเอามือไขว้หลังแล้วหันหลังกลับ ทิ้งคำไว้หนึ่งประโยคอย่างเย็นชา
“หยังเสียง ทำให้พวกเขาสองคนหายไปจากเมืองก่างตลอดไป”
“ครับ!”
หยังเสียงท่าทางเย็นชา เดินไปดึงหลุ่ยหวนอย่างกะทันหัน
“ไอ้โง่อย่างพวกนายสองคน รู้ไหมว่าประธานหลินเป็นใครไหม? ฉันจะบอกอะไรให้นาย ประธานหลินเป็นหัวหน้าใหญ่ที่เพิ่งจะซื้อร้านอาหารผองเฟย”
เมื่อได้ยินคำพูดของหยังเสียง สายตาของหลุ่ยหวนและหลุ่ยซานกวน เต็มไปด้วยความตกใจและความสิ้นหวัง
เป็นคนใหญ่คนโตที่ซื้อผองเฟยกรุ๊ป? จะเป็นไปได้ยังไงที่พวกเขาจะสามารถมีปัญหาด้วยได้!
……
หลังจากนั้นสิบนาที
ทางประตูของร้านอาหารผองเฟย ฮาเดสขับรถเบนท์ลี่ย์สีดำมา หลินอิ่งนั่งอยู่เบาะหลังของรถ และลดกระจกรถลงครึ่งหนึ่ง
หยังเสียงเดินมา ก้มหัวลงข้างหน้าต่างและรายงานด้วยความเคารพ
“ประธานหลิน ผมได้จัดการเตรียมคนส่งหลุ่ยหวนสองพ่อลูกไปยังแอฟริกาไปเป็นทาสในเหมือง รับรองว่าพวกเขาไม่มีโอกาสที่จะพลิกผันได้ตลอดชีวิต” หยังเสียงพูดอย่างเคร่งขรึม “และบริษัทของพวกเขา ผมได้ให้ทีมธุรกิจและทนายความไปจัดการชำระบัญชีแล้ว”
“ส่งไปแอฟริกาไปเป็นทาสในเหมือง?” หลินอิ่งมีความสนใจ หยังเสียงคนนี้ขึ้นมา ทำงานได้ไม่เลวเลย
“ประธานหลิน เรื่องนี้ต้องคือผมเรียนรู้มาจากเพื่อนนามสกุลจูที่ชอบดื่มด้วยกัน รับมือกับพวกคนที่มีตาหามีแววไม่ วิธีนี้ใช้ได้มาก”หยังเสียงพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
“นอกจากนี้ ประธานหลิน เมื่อกี้ประธานหวู่โทรมา ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรให้ผมรับคำสั่งจากคุณได้เลย การส่งมอบงานของผองเฟยกรุ๊ป เสร็จสมบูรณ์แล้ว คุณสามารถเข้าสำนักงานประธานได้ตลอดเวลา” หยังเสียงพูด
หลินอิ่งพยักหน้าแล้วพูดว่า “กิจการทั้งหมดของผองเฟยกรุ๊ป คุณมีหน้าที่บริหารงานชั่วคราว”
“ครับ! ประธานหลิน! ผมสัญญาว่าจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด”หยังเสียงพูดอย่างตื่นเต้น
กระจกรถเลื่อนขึ้นไป ฮาเดสสตาร์ทรถและขับไปยังถนนที่มีรถพลุ่งพล่าน
หยังเสียงมองรถเบนท์ลี่ย์ที่จากไป ในใจรู้สึกตื่นเต้น รู้ว่าครั้งนี้เขาทำได้ดีต่อหน้าประธานหลิน ครั้งนี้ได้รับรางวัลใหญ่แล้ว ให้อำนาจการบริหารผองเฟยกรุ๊ปแก่เขา!
หลินอิ่งนั่งอยู่เบาะหลังของรถและหลับตาพักผ่อน
หยังเสียงเป็นคนที่มีชีวิตชีวา บริหารผองเฟยกรุ๊ปคงไม่ใช่ปัญหา
ทางด้านบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์จื่อจิน การเจรจาของคริสในคืนนี้ก็จะมีผลสรุปออกมา
หมากตัวแรกก็ได้วางลงในเมืองก่างอย่างมั่นคงแล้ว รอที่เหลือทั้งหมดเข้าที่เข้าทาง กำจัดโม่เก๋อติงและเข้าควบคุมลาตินกรุ๊ปในเมืองก่าง
วางงานในมือ ได้เวลาออกไปตามหา อดีตองครักษ์มังกรดำแห่งเมืองก่าง……
หลินอิ่งลืมตาขึ้นมาช้าๆ และออกคำสั่งให้ฮาเดส “ไปเขตหยังเจีย”
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง
ฮาเดสขับรถไปในถนนที่แคบและยาวออกไป
หลินอิ่งลงจากรถ สายตามองไปยังรอบๆ
ถนนเส้นนี้เป็นถนนที่เก่าแก่และทรุดโทรมมาก ตึกรามบ้านช่องข้างถนนยังเป็นแบบสมัยศตวรรษที่แล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านที่มีหกถึงเจ็ดชั้น
และไม่ไกล แค่มองไปก็จะเห็นตึกสูงๆหลากหลายสไตล์
เนื่องจาก ถนนเก่าแก่แห่งนี้ปฏิเสธที่จะให้นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์เข้ามาพัฒนา และไม่มีใครกล้ามาบังคับให้รื้อถอนสถานที่แห่งนี้
ที่นี่ก็คือเขตหยังเจีย ที่ตั้งของหอบรรพบุรุษตระกูลหยัง
หอบรรพบุรุษตระกูลหยัง นอกจากนี้ยังเป็นองครักษ์มังกรที่ทรงพลังในแก๊งมังกรแห่งเมืองก่าง แท่นบูชาหลักขององครักษ์มังกรดำ
หลินอิ่งมาถึงหอบรรพบุรุษตระกูลหยัง พบว่าวัดถูกกักกัน มีทีมก่อสร้างกำลังขุดดิน ข้างนอกวัดมีคำสั่งรื้อถอนแปะอยู่ สิ่งแวดล้อมยังเหมือนเดิมแต่คนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
หลินอิ่งพาฮาเดส มาถึงร้านขายซุปเล็กๆร้านหนึ่ง เจ้าของร้านเป็นป้าวัยกลางคนหนึ่ง กำลังยุ่งอยู่กับซุปหวานในหม้อที่อยู่ตรงหน้า
สั่งซุปหวานมาสองถ้วย หลินอิ่งดื่มคำหนึ่ง และถามอย่างสบายๆ “คุณป้า เพราะอะไรถึงต้องรื้อถอนหอบรรพบุรุษตระกูลหยัง? ไม่ใช่ว่าในเขตหยังเจียยังมีคนที่ชื่อว่าหยังสวนเจิงเคยพูดเอาไว้ว่า ไม่ว่าใครก็ตามไม่มีสิทธิ์มารื้อถอนวัดแห่งนี้ไม่ใช่หรอ? คุณป้ารู้เรื่องนี้ไหม?
ในปีนั้นได้เกิดแก๊งมังกรที่สร้างอำนาจในเมืองก่าง คือสำนักมังกรดำ หัวหน้าสำนักก็คือหยังสวนเจิง
สำนักอู่เหมินสิบสองของแก๊งมังกร ล้วนถูกซ่อนอยู่ในเมือง
เป็นถึงขั้นหัวหน้าของสำนัก ต้องมีข้อมูลไม่น้อยแน่เลย
ครั้งนี้หลินอิ่งมาหาหยังสวนเจิงโดยเฉพาะ เป็นเพราะว่า คนนี้ถือเป็นลูกศิษย์ที่อยู่ในรายชื่อของอาจารย์ ดูแลลูกศิษย์อย่างเขาตั้งแต่เล็กจนโต เขาเคารพอาจารย์ของเขาเป็นอย่างมาก และไม่ทางหักหลังเขาอย่างแน่นอน
ตอนเด็ก หลินอิ่งยังค่อยติดตามอาจารย์ และยังเคยเจอกับหยังสวนเจิงยังเจอกันโดยบังเอิญ
หาหยังสวนเจิงเจอ บางทีก็อาจจะได้รู้ เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นกับแก๊งมังกร ถึงกับทำให้มีการแย่งชิงตำแหน่งหัวหน้าไป
“ไอ่หยา ต้องรู้จักหยังสวนเจิงอยู่แล้ว เป็นคนที่มีชื่อเสียงในเขตหยังเจีย การรื้อถอนวัดนี้เริ่มขึ้นเมื่อครึ่งปีที่แล้ว” ป้าเจ้าของร้านพูด “ได้ยินมาว่าเป็นคนในครอบครัวของหยังสวนเจิงเองที่ติดต่อกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายวัด ฉันไม่รู้รายละเอียดของสถานการณ์ที่แน่ชัด
“ถ้าอย่างนั้นคุณรู้จักที่อยู่ของหยังสวนเจิงไหม?” หลินอิ่งถามอย่างนิ่งเรียบ
“ก็อยู่ข้างในสุดของซอยนั้น วิลล่าที่ใหญ่ที่สุดหลังนั้น ก็คือบ้านของพวกเขา” คุณป้าเจ้าของร้านพูด
จ่ายเงินเสร็จ หลินอิ่งยืนขึ้นและเดินจากไป เดินไปสุดซอย
ในตรอกของถนนสายเก่านี้ มีการสร้างวิลล่าในสไตล์สวนที่หรูหราและไม่ธรรมดา
ป้อมยามตรงทางเข้าของประตู มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคาบบุหรี่ในปากลกำลังเล่นโทรศัพท์อยู่
“ฉันมาหาหยังสวนเจิง”หลินอิ่งพูดอย่างเฉยเมย
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ในป้อมยาม ปากคาบบุหรี่ไว้ เงยหน้าขึ้นเหลือบมองหลินอิ่ง สายตาราวกับมองคนโง่ “หยังสวนเจิงตายไปกี่ปีแล้ว นายมาหาความอับโชคใช่ไหม?”
“ลูกหลานของหยังสวนเจิงล่ะ?” หลินอิ่งถามด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์
“คุณเป็นใคร? คุณอยากจะหาใครก็หาใคร?” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพูดอย่างไม่พอใจ “ที่นี่คือคฤหาสน์ของตระกูลสวี ห้ามบุคคลภายนอกเข้ามาเด็ดขาด บอกให้คุณ อย่ามาสร้างปัญหาที่นี่”
“ให้เจ้าของคฤหาสน์ออกมาพบกับผม” หลินอิ่งพูดอย่างเฉยเมย
“นี่ นายจะไม่จบไม่สิ้นใช่ไหม? แม่งเอ้ย ระวังกู……”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพูดอย่างหมดความอดทน ลุกขึ้นยืนกำลังเดินไปไล่หลินอิ่ง
ฮาเดสเดินไปยังหน้าไม่กี่ก้าว สีหน้าของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูหวาดผวา กลัวจนถอยหลังไปหลายก้าว
“ใคร? มาหาหยังสวนเจิง?”
ในเวลานี้ ประตูสีแดงในสวนของวิลล่าเปิดออก ผู้หญิงเจ้าเสน่ห์คนหนึ่งเดินออกมา จ้องมองไปยังหลินอิ่ง
“หยังสวนเจิงตายไปหลายปีแล้ว คนในบ้านของเขาก็ตายหมดแล้ว ถูกตัวเขาไอ้อาภัพอับโชคคนนี้ทำให้ตาย!” หญิงสาวเจ้าเสน่ห์พูดอย่างเกรี้ยวกราด “นายอยากหาไอ้คนโชคไม่ดีคนนั้น ก็ไปหาที่อื่น ไม่ต้องมาหาที่หน้าบ้านฉันช่างอับโชคจริงๆเลย!”
“ในบ้านไม่มีคนอื่นแล้ว?” หลินอิ่งขมวดคิ้ว “ถ้าอย่างนั้นเธอเป็นอะไรกับหยังสวนเจิง?”
“ฉันเป็นอะไรกับเขา แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย!”หญิงสาวเจ้าเสน่ห์หมดความอดทน และพูดสาปแช่ง“ต้องการหาหยังสวนเจิง นายลงไปหาเขาสิ? ช่างอับโชคจริงๆ!”
“คุณลุง คุณมาหาพ่อของหนูหรอ?”
ในเวลานี้ มีเด็กหญิงที่สวมกระโปรงเก่าๆเดินออกมาจากประตู สาวน้อยที่เปียผมหางม้า สกปรกและท่าทางน่าสงสาร จ้องมองหลินอิ่งด้วยแววตาที่คาดหวัง
“เธอคือลูกสาวของหยังสวนเจิง?”หลินอิ่งถามด้ายความสงสัย
“หนูชื่อหยังสู้สู้ หยังสวนเจิงคือพ่อของหนู” สาวน้อยพูด
“หุบปาก! ฉันสอนเธอว่ายังไง? อย่าคุยกับคนนอก! ถ้าพูดอีกจะโดนตบปาก!”
หญิงสาวผู้มีเสน่ห์ดุสาวน้อยผมหางม้าอย่างโกรธจัด คว้าตัวเธอแล้วลากเข้าไปในวิลล่า
“ปิดประตู! ใครก็ตามที่มาหาหยังสวนเจิงไอ้คนตายคนนั้น ไล่มันไม่ออกไปให้หมด!”