ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 384 ให้นามบัตรคุณหนึ่งใบ แล้วรีบไสหัวไป
“ใช่แล้ว ประธานหลิน บริษัทวั่นซานของจี้ฉงซาน ช่วงนี้ก็พอมีความเคลื่อนไหวบ้าง”
คริสพูดอย่างจริงจัง “สองวันก่อน บริษัทวั่นซานลงมือกับกลุ่มเภสัชกรรมตระกูลฉู่แห่งเมืองก่าง ใช้เงินทุนหนัก ทำลายหุ้นของกลุ่มเภสัชกรรมตระกูลฉู่จนพังในชั่ววินาทีเลยทีเดียว อีกอย่าง จี้ฉงซานยังใช้นามของประธานสหพันธ์ธุรกิจเมืองก่าง ใช้อำนาจ ปิดล็อกกิจการผลิตยา ห้ามทุกบริษัทร่วมงานกับกลุ่มเภสัชกรรมตระกูลฉู่แห่งเตียนหนาน หากบริษัทที่ไม่ให้ความร่วมมือ จะถูกการร่วมกันคว่ำบาตรจากสหพันธ์ธุรกิจเมืองก่าง”
“จากการสำรวจของผม ก่อนหน้านี้ จี้ฉงซานกับบริษัทฉู่ซื่อไม่เคยมีเรื่องผิดใจอะไรกัน ต่างไม่กระทบกัน พฤติกรรมครั้งนี้กะทันหันมาก” คริสพูดเพิ่มเติม
“ออ? จี้ฉงซานลงมือกับบริษัทฉู่ซื่อแล้ว?” หลินอิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าเรื่องนี้ค่อนข้างแปลกใจ
ตอนที่เพิ่งลงจากเครื่องบินมาเมืองก่าง เพิ่งได้ทักทายฉู่สงซานประธานของบริษัทฉู่ซื่อ
ปรากฏว่าเพิ่งไม่นาน จี้ฉงซานก็ลงมือกับบริษัทฉู่ซื่อแล้ว?
ต้องรู้ว่า บริษัทฉู่ซื่อไม่ใช่บริษัทเล็กๆ นั่นเป็นกิจการของตระกูลฉูซึ่งเป็นตระกูลราชาแห่งยาของเตียนหนาน ปกติทำอะไรก็ค่อนข้างถ่อมตน ร่ำรวยอย่างเงียบๆ จี้ฉงซานไม่มีเหตุผลที่จะไปทำบริษัทฉู่ซื่อ
วันนี้ เขาใช้ฐานะราชาแห่งเมืองก่าง ลงมือจัดการกับบริษัทฉู่ซื่อ นั่นไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรเลย นี่ไม่ใช้พฤติกรรมการทำงานของจิ้งจอกพันปีอย่างจี้ฉงซาน
หรือว่า? จี้ฉงซานรู้ข่าวของคืนนั้น รู้ว่าเขามาถึงเมืองก่างแล้ว เข้าใจผิดคิดว่าฉูสงซานเป็นหมากของเขาในเมืองก่าง?
“คริส สั่งลงไป คอยสังเกตสงครามตลาดหุ้นของบริษัทฉู่ซื่อกับบริษัทวั่นซาน อีกอย่าง ความเคลื่อนไหวส่วนตัวของฉูสงซาน” หลินอิ่งพูดอย่างจริงจัง
เขาตัดสินใจ หาโอกาสไปพบหน้าคุยกับฉูสงซาน
“ครับ ผมจะรีบไปจัดการ” คริสพูดอย่างเคารพ
ระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน อย่างไม่รู้ตัว ฮาเดสก็ขับรถเข้ามาจอดในอาคารสุ่ยจินแล้ว
อาคารสุ่ยจิน ที่นี่คืออาคารหลักของเขตหยู้ติ่งแห่งเมืองก่าง
อาคารสูงแปดสิบกว่าชั้น ใช้วัตถุดิบคริสตัลที่ใช้เทคนิคเทคโนโลยีพิเศษในการสร้าง ปูเต็มแปดสิบกว่าชั้น อาคารทั้งอาคารเหมือนหอคริสตัล แสงสะท้อนตระการตา
ในค่ำคืนภายใต้แสงราตรี อาคารสุ่ยจินก็เหมือนดวงดาวที่สว่างที่สุดในเมืองก่าง สว่างไสวดึงดูดสายตา แสดงความสง่างามและความหรูหรา
สถานที่นี้ ยังเป็นอาคารสำนักงานของลาตินกรุ๊ปในเมืองก่าง ช่างงดงามตระการตา
แม้แต่ตัวแทนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างคริส อาคารสำนักงานใหญ่ของเขาที่คาบสมุทรมลายูยังเปรียบไม่ได้
ใต้อาคารผู้คนไปๆมาๆ มีรถหรูระดับโลกจอดอยู่เป็นร้อยคัน ดูแล้วหรูหราน่าตะลึง
ตู๊ดตู๊ด
ฮาเดสกลับรถในลานจอดรถ กำลังจะจอดเข้าในที่จอดรถ
ทันใดนั้น ด้านหลังรถมีเสียงกดแตรดังขึ้น รถFerrariสีชมพูคันหนึ่งพุ่งออกมา หัวรถก็พุ่งเข้าไปในที่จอดรถ ขวางทางรถไว้
“ประธานหลิน มีคนแย่งที่จอดรถของเรา จะเหยียบคันเร่งไหม ผมมั่นใจว่าชนรถเขาให้แบนแน่นอน” ฮาเดสพูด
หลินอิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย กำลังจะพูดอะไร
“พวกโง่นี่ขับรถกันยังไง? ไม่มีตาหรือไง?”
เสียงของผู้หญิงที่หยิ่งยโสคนหนึ่งดังขึ้น
เลื่อนกระจกลงมา หลินอิ่งมองไป เห็นสาวสวยเซ็กซี่ในชุดกระโปรงดำคนหนึ่งลงมาจากรถFerrariสีชมพู สีหน้าไม่พอใจ ท่าทางหยิ่งยโส ชี้หน้าด่าพวกเขา
“นี่คือที่จอดรถของฉัน พวกนายออกมาเดี๋ยวนี้ ขับออกไป” หญิงสาวในชุดกระโปรงพูดจายโส ท่าทางเหมือนควรจะเป็นเช่นนั้น
“คำพูดของคุณหนี ไม่ได้ยินหรือไง? ที่จอดรถตรงนี้คุณหนีเห็นก่อน รีบถอยออกมา”
เวลานี้ บอดี้การ์ดชุดสูทหน้าตาเคร่งขรึมเดินออกมา ต่อว่าอย่างโมโห
“ทางที่ดีพวกนายเจียมตัวหน่อยนะ แย่งที่จอดรถกับคุณหนี? พวกนายคู่ควรไหม?”
ที่จอดรถยังมีคู่ไม่คู่ควร? หลินอิ่งรู้สึกน่าสนใจ เอียงหน้ามองทั้งสองคน
สาวชุดกระโปรงดวงตาสดใส ท่าทางไม่ธรรมดา ผิวขาวหน้าตาดี รูปร่างก็ดีมาก เมื่อเทียบกับหน้าตาเน็ตไอดอลแล้วก็สวยกว่าเยอะ แต่ว่า ด้านบุคลิกก็ต่างกันเยอะ เห็นได้ชัดว่าทำมาทั้งหน้า หน้าตาเค้าโครงมีร่องรอยศัลยกรรม ไม่ธรรมชาติ
“ไอ้บ้านนอก มองอะไร? ไม่เคยเห็นสาวสวยหรือไง?” คุณหนีพูด สีหน้าไม่พอใจ พูดอย่างหยิ่งยโส “นั่งรถLincolnสีดำเชยขนาดนี้ รถโบราณของศตวรรษก่อนแล้วมั้ง? ไม่รู้จริงๆ ว่าเอาหน้าจากไหน มีหน้ามาจอดรถใต้อาคารสุ่ยจิง?”
“อย่าบังคับให้คุณหนีโมโห ดูท่าทางนายสองคนก็เชยขนาดนั้น ยังอยากแย่งที่จอดรถของคุณหนี?”
บอดี้การ์ดชุดสูทข้างกายก็พูดอย่างอวดดีตาม “พวกแกไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของคุณหนีหรือไง? คนชื่อเสียงโด่งดังในวงการบันเทิงเมืองก่าง เป็นดาราดังในวงการนักร้อง”
“พวกคุณเป็นของบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ไหน?” คริสสีหน้าจริงจัง พูดเสียงเรียบ
“ออ? นี่ยังมาแกล้ง ถามว่าฉันเป็นของบริษัทไหนอีก?” คุณหนีพูดด้วยสีหน้าดูถูก “ฉันอยู่บริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์จื่อจิน อะไร ท่าทางเชยบ้านนอกอย่างพวกแก ยังอยากหาเถ้าแก่บริษัทฉันคุยเหรอ? คู่ควรเหรอ?”
“พอแล้ว ฉันรีบ ยังต้องไปงานเลี้ยง ถ้าอย่างนั้นฉันก็แสดงความเมตตากับพวกแกละกัน ให้ลายเซ็นพวกแกก็ได้ จากนั้นก็รีบขับรถโบราณคันนี้ รีบไสหัวออกไป” คุณหนี ท่าทางยโสโอหัง สั่งบอดี้การ์ดให้เขากระดาษปากกามาให้เซ็นชื่อ
คริสขมวดคิ้ว ผู้หญิงคนนี้ยังเป็นดาราของบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์จื่อจิน? หยิ่งขึ้นสวรรค์ไปแล้ว
คริสมองไปทางหลินอิ่ง ขอคำสั่งการ
หลินอิ่งส่งสายตาให้คริสทั้งสองคน ฮาเดสเหยียบคันเร่ง เสียงดังโคร่ง รถพุ่งออกไป เหมือนเสียดุร้ายพุ่งชน เข้าไปจอด แล้วชนรถFerrariสีชมพูคันนั้นกระเด็นไปไกลสิบเมตร ชนจนรถแบน
“แก แกกล้า กล้าเตะต้องรถสุดรักของฉัน ไอ้บ้านนอกอย่างพวกแกมีปัญญาชดใช้เหรอ” คุณหนีสีหน้าไม่พอใจ จ้องหน้าหลินอิ่งสีหน้าเย็นชา ด่าอย่างโมโห
“โทรหาผู้จัดการลาตินกรุ๊ป ให้เขามาจัดการกับไอ้พวกบ้านนอกนี้หน่อย” คุณหนีพูดอย่างโมโห ท่าทางหาเรื่อง
“ครับ คุณหนี ผมโทรหาผู้จัดการถูเดี๋ยวนี้” บอดี้การ์ดชุดสูทต้องหน้าหลินอิ่งเย็นชา พูดอย่างอวดดี “พวกบ้านนอก กล้าเตะต้องรถของคุณหนี รู้ไหมว่ารถคุณหนีราคาเท่าไหร่? นี่มันรุ่นจำนวนจำกัด ที่นี่คืออาคารสุ่ยจิน คุณหนีกับประธานถูของลาตินกรุ๊ปเป็นเพื่อนกัน เดี๋ยวก็ให้ประธานถูพาคนมา จัดการพวกบ้านนอกอย่างพวกแก”
“คริส เอานามบัตรให้เขาใบหนึ่ง ค่าซ่อมรถ ผมจ่าย”
หลินอิ่งทิ้งคำพูดไว้ หันตัวเดินไปทางลิฟต์
คริสมองหน้าคุณหนียิ้มอย่างเย็นชา โยนนามบัตรไว้ตรงหน้าคุณหนี จากนั้นก็เดินตามหลินอิ่ง