ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 388 เวทีมวยที่เงินเดิมพันหนึ่งพันล้าน
“ถูกต้อง คือเขา ชื่อหลินอิ่ง ลูกเขยไร้น้ำยาในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่ง คิดว่าตัวเองมีวิชากังฟู มีคริสคอยช่วย ก็กล้าลงมือโหดเหี้ยมกับผม” เซียวจวงพูด
“หลินอิ่ง แกจะต้องชดใช้กับเรื่องโง่ที่แกทำลงไป อย่างเจ็บปวด” ชายชุดจีนโบราณพูดเสียงเย็นชา “ได้ยินว่า แกกับประธานโม่เก๋อติงจะขึ้นเวทีมวย? ดีมาก เซียวซื่อกรุ๊ปของพวกเราก็จะส่งคนเข้าร่วม แกกล้ารับคำท้าไหม?”
“แกมันไอ้ไร้น้ำยา ไม่กล้ารับ? แกก็คิดว่าตัวเองวิชาสูงส่งไม่ใช่เหรอ?” เซียวจวงพูดอย่างดูถูก “กังฟูแกแค่นั้น ในงานใหญ่โตแบบนี้ ไม่พอดูด้วยซ้ำ”
“นั่งบนรถเข็นแล้ว ยังไม่รู้จักเจียมตัวอีก?” หลินอิ่งฝืนยิ้ม “ผมทำคุณพิการได้หนึ่งครั้ง ก็ทำครั้งที่สองได้เช่นกัน”
น่าสนใจ เซียวจวงคนนี้ยังไม่ตายใจที่จะหาตัวเองเพื่อแก้แค้น หาคริสเพื่อจะลอบฆ่า เขายังไม่มีเวลาเพื่อไปคิดบัญชีกับเซียวซื่อ เขากลับร่วมมือกับโม่เก๋อติง เข้ามารนหาที่เอง?
พอดีเลย จัดการยกรังเลย
“เหอะ แกไม่มีโอกาสเหมือนตอนอยู่เมืองชิงหยูนแล้ว” เซียวจวงสายตาเย็นชา กำหมัดไว้แน่น
ครั้งที่แล้วที่เมืองชิงหยูนหลินอิ่งทำให้เขาพิการ เซียวจวงหลังจากนั่งบนรถเข็นแล้ว สภาพจิตใจก็ย่ำแย่ ไม่มีวันยอมแน่ หลังเกิดเรื่องแล้วก็คิดไม่หยุด หาวิธีเพื่อจะแก้แค้นหลินอิ่ง
ระหว่างที่เซียวจวงกำลังคิด ในเมืองชิงหยูน ก็เพราะว่าเขาไม่มีลากฐาน ไม่ได้พาคนมีฝีมือไปด้วย ตอนแรกอยากใช้อำนาจของคริส แต่กลับถูกคริสหักหลัง เป็นเพราะแบบนี้ถึงสู้กับลูกเขยไร้น้ำยาในเมืองเล็กๆอย่างหลินอิ่งไม่ได้
เรือล่มในหนองอย่างสิ้นเชิง
คิดดูคุณชายใหญ่แห่งเซียวซื่อกรุ๊ปประเทศMอย่างเขา ปะทะกันซึ่งๆหน้า หลินอิ่งเอาอะไรมาสู้กับเขา?
ในเมืองก่าง เซียวซื่อกรุ๊ปมีสำนักงานสาขาอยู่ที่นี่ มีความสัมพันธ์กว้างขวาง และยังได้ร่วมมือกับผู้มีอำนาจอย่างโม่เก๋อติง เขามั่นใจว่าจัดการหลินอิ่งกับคริสให้ตายได้แน่
……..
สิบนาทีผ่านไป
ชั้นหกสิบอาคารสุ่ยจิน เป็นห้องจัดงานขนาดใหญ่ ถูกออกแบบใหม่เปลี่ยนให้เป็นเหมือนห้องใต้ดิน
ตำแหน่งตรงกลาง ถูกทำเป็นเวทีขนาดใหญ่ เหมือนกับแท่นบูชาโบราณ บนเวทียังมีร่องรอยคราบเลือดอยู่
รอบข้าง เป็นโต๊ะวงกลมหรูหรา ยังทำเป็นห้องรับรอง คล้ายกับสนามต่อสู้โบราณ
หลินอิ่งเดินเข้าไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย เข้าไปนั่งในที่นั่งแถวหนึ่ง ข้างหลังเป็นคริสและฮาเดส
เดินเข้าไป เขาก็ได้กลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้นจนแสบจมูก ในสนามเต็มไปด้วยกลิ่นอายคล้ายสนามรบ
วินาทีนี้ บนเวทีมีชายเอเชียกับชายผิวดำยอดฝีมือทั้งสองกำลังต่อสู้กัน ทั้งสองคนสู้กันจนเสื้อผ้าฉีกขาด เผยกล้ามเนื้ออันบึกบึน เนื้อตัวเต็มไปด้วยคราบเลือด เหงื่อเต็มหน้าผาก สายตาเต็มไปด้วยความหวังแห่งชัยชนะ เหมือนสัตว์ดุร้ายสองตัว
“ราชามวยเถื่อนแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่อยลงไปหนักๆเลย พนันไปตั้งสองล้าน”
“เอามันให้ตายเลย จัดการไอ้ดำนั่นให้ตายไปเลย”
บนที่นั่งเป็นชายหญิงที่แต่งกายสุภาพมีระเบียบ ต่างตะโกนออกมาเสียงดัง เหมือนกับนักพนันที่ตาแดงจากการแพ้พนัน สายตาเต็มไปด้วยความโลภ
“เอื๊อกอ๊าก”
ราชามวยเถื่อนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คนนั้น ถูกยอดฝีมือผิวดำต่อยจนกระเด็น จากนั้นก็ถูกหมัดต่อยเข้าที่ท้อง ต่อยจนกระอักเลือด เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด ขาดใจไปทันที
มีชายชุดดำสีหน้าเย็นชาเดินขึ้นบนเวที ดึงตัวคนที่แพ้ออกไป
“แม่ง ราชามวยเถื่อนบ้าอะไร ซวยจริงๆ ถูกซ้อมจนตายแล้ว?”
“สะใจ สะใจมาก กำไรแล้ว ฉันบอกแล้ว ไอ้ผิวดำนี้มาจากแก๊งมาเฟียต่างประเทศ เก่งมาก ฉันพนันไปห้าล้าน”
“แม่งเอ้ย นี่มันยิ่งกว่าแข่งรถ เล่นกับพวกนางแบบสนุกกว่าเยอะเลย รอฉันกลับไป จะให้พ่อฉันช่วยฉันหายอดฝีมือคนหนึ่งมาแข่งบ้าง แม่งสะใจมาก”
เวทีความเป็นความตายผ่านไปหนึ่งคู่ ในสนามเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องเฮฮา
หนุ่มสาวกลุ่มหนึ่ง สายตาจ้องไม่กะพริบ แม้แต่ลมหายใจเร็วผิดปกติ
หลินอิ่งกวาดตามองไป คนที่นั่งอยู่ ล้วนเป็นผู้คนที่มีอำนาจเงินทองในเมืองก่างหรือไม่ก็พวกคุณชายเจ้าชู้ เอาการต่อสู้แบบความเป็นความตายมาเป็นกิจกรรมบันเทิง
การต่อสู้ที่โหดเหี้ยมด้วยความเป็นความตาย และการพนันที่น่าตื่นเต้น
แน่นอน เวทีความเป็นความตายแบบนี้ สำหรับเหล่าลูกหลานเศรษฐีที่เลี้ยงดูมาอย่างดีและตามใจนั้น ไม่เห็นแม้แต่เลือด และพวกเถ้าแก่ที่นั่งอยู่แต่ในออฟฟิศเป็นเวลานาน ล้วนมีแรงดึงดูดอย่างสูง
“เป็นอะไร? คุณหลิน คุณคงไม่ใช่ไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้หรอกนะ? ตกใจแล้วเหรอ?”
ดาราสาวสวยแห่งเมืองก่างหนีซิงจ้องหน้าหลินอิ่ง พูดจาเสียดสี
“ฮาฮา คุณหลิน ถ้าตอนนี้รู้สึกกลัวแล้ว ก็ยอมแพ้ได้” โม่เก๋อติงสีหน้าหยอกล้อ พูดด้วยวาจากวนประสาท “เพราะว่า คุณก็แค่คนไร้น้ำยาที่เกาะผู้หญิงกิน เวทีสำหรับชายแท้แบบนี้ คุณต้องไม่เคยผ่านมันมาแน่นอน”
โม่เก๋อติงหลังจากได้พูดกับเซียวจวงแล้ว เขาถึงรู้ว่า ที่แท้คนประเทศหลุงอันลึกลับที่อยู่ข้างกายคริสนั้น เป็นแค่ลูกเขยไร้น้ำยาที่มาจากเมืองเล็กๆเท่านั้น?
ทำให้โม่เก๋อติงหัวเราะจนหยุดไม่ได้ ก่อนหน้านี้หลินอิ่งยังทำให้เขาตกลงจนอึ้งไป ที่แท้เป็นแค่คนไร้น้ำยา?
คาดว่า หลินอิ่งคงมีกังฟูอยู่บ้าง ติดตามเถ้าแก่ใหญ่เป็นลูกน้อง ตอนแรกยังคิดว่าหลินอิ่งเป็นนายทุนใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังคริส ดูแล้ว เขามองผิดไปแล้ว
“เหอะเหอะ ไอ้แซ่หลิน การต่อสู้บนเวทีที่แกคิดเป็นยังไงเหรอ? นึกว่าเป็นการต่อสู้แบบอาชีพแบบต่อยไปถีบมาเหรอ?” เซียวจวงพูดอย่างเย็นชา สายตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
“จะบอกแกให้ นี่ล้วนเซ็นสัญญาชีวิตไว้แล้ว ขึ้นไปเวทีนี้แล้ว ก็คือต้องสู้ให้ตายถึงลงจากเวทีได้ บนเวทีจะมีคนมีชีวิตลงมาเพียงคนเดียว” เซียวจวงพูดอย่างเย็นชา “แกมันแค่ไอ้ไร้น้ำยาที่พวกเยอะแล้วรังแกคน กล้าขึ้นไปสู้ตัวต่อตัวไหม? หือ?”
โม่เก๋อติงกับเซียวจวงนั่งด้วยกัน ต่างก็มองมาด้วยสายตาเยาะเย้ย
หลินอิ่งยิ้มไม่พูดอะไร อายุสิบกว่าปีเขาอยู่ต่างประเทศ เดินออกมาจากท่ามกลางศพและกองเลือด สถานการณ์แบบนี้ จะถือว่าเป็นอะไร?
“ทุกท่าน ผมคือเซียวจวงแห่งเซียวซื่อกรุ๊ป มีเรื่องสำคัญจะแจ้งให้ทุกท่านทราบ”
เวลานี้ บอดี้การ์ดข้างกายเซียวจวงยื่นไมค์มา เขาพูดกับทุกคนในงานสีหน้าได้ใจ
“ผมตัดสินใจ ลงเงินหนึ่งพันล้าน เพื่อพนันการแข่งขันหนึ่งยกบนเวที”
“คู่แข่งพนัน ก็คือหลินอิ่งที่นั่งอยู่ฝั่งโน้น นัดนี้ผมกับประธานโม่เก๋อติงลงเงินหนึ่งพันล้าน พนันกันหนึ่งต่อหนึ่ง ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าร่วม”
พูดจบ เซียวจวงก็มองหลินอิ่งอย่างหยอกล้อ
“คุณชายเซียวกับประธานโม่นี่ไม่ธรรมดาจริงๆ เล่นใหญ่ขนาดนี้ หนึ่งพันล้านเพื่อพนันมวยหนึ่งยก? นี่จะเล่นใหญ่ไปไหม”
“โอ้โห? โม่เก๋อติงกับประธานโม่เก๋อติงเปิดเกมพนันแข่งขัน? อัตราการพนันหนึ่งต่อหนึ่ง นี่ไม่ใช่ให้ทุกคนเก็บเงินเหรอ? ใครจะไปสู้กับคุณชายเซียวกับประธานโม่ร่วมมือกัน?”
“อะไรหลินอิ่ง? ฉันอยู่เมืองก่างยังไม่เคยได้ยินเลย ใจกล้าขนาดนี้ กล้าเล่นเวทีมวยกับคุณชายเซียวและประธานโม่? นี่มันรนหาที่ตายชัดๆ?”
“ใช่แล้ว คุณชายเซียว คุณบอกแล้วว่าเขาเป็นลูกเขยไร้น้ำยา ไอ้คนจน หนึ่งพันล้านจะไปมีเงินเล่นได้ยังไง?” หนีซิงก็พูดจาเสียดสีตาม
เซียวจวงสีหน้าได้ใจ มองไปที่หลินอิ่ง พูดว่า “คุณหนีถามแกแล้วว่ามีปัญญาเล่นไหม? ถูกผู้หญิงคนหนึ่งดูถูกแบบนี้แล้ว ดูเหมือนคุณจะพิสูจน์ตัวเองได้ยากนะ?”
“หนึ่งพันล้าน?” หลินอิ่งส่ายหัว “คุณเล่นน้อยเกินไป”