ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 389 เดิมพันชีวิตคุณ!
“เล่นน้อยเกินไป? อย่าทำผมตลกตายเลย” เซียวจวงพูดจาหัวเราะเยาะ “แกจะไปมีเงินเท่าไหร่? มาทำตัวรวยต่อหน้าฉัน? แกก็แค่พึ่งพวกคริสเท่านั้น มีเงินเล็กน้อย? ก็คิดว่าตัวเองเป็นคุณชายร่ำรวย?”
“เงินสดหมุนเวียนหนึ่งพันล้าน เกรงว่าแม้แต่คริสก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ” เซียวจวงพูดจาได้ใจ
“แน่นอน ถ้าแกเอาเงินออกมาไม่ได้ แกสามารถเอาแขนขาแกมาเดิมพันได้”
“คุณชายเซียว กับชีวิตต่ำต้อยของมันเหรอ? คู่ควรกับเงินพันล้าน?” หนีซิงประจบคุณชายเซียว พูดจาเสียดสีหลินอิ่ง
“คุณจะพนันกันใช่ไหม?” หลินอิ่งสีหน้าเฉยชา
“ถ้าคุณชนะ ผมให้คุณห้าพันล้าน” หลินอิ่งพูดอย่างสบายใจ “ถ้าคุณแพ้ เอาชีวิตคุณมา”
ได้ยินแล้ว เซียวจวงสีหน้าตกใจ จากนั้นก็ยิ้มอย่างดูถูก
“แกมีห้าพันล้านเหรอ? ยังให้ฉันห้าพันล้าน? เดิมพันชีวิตฉัน?” เซียวจวงพูดจาเยาะเย้ย
กับหลินอิ่งลูกเขยไร้น้ำยาที่ถูกพ่อตาแม่ยายดูถูก จะไปมีเงินเท่าไหร่? ก็แค่มีวิชากังฟูนิดหน่อย แล้วมีความสัมพันธ์กับคริสเท่านั้น?
“โม้จนขึ้นสวรรค์ไปแล้ว ห้าพันล้าน แกคิดว่าแกเป็นใคร? ยังมาตอแหลต่อหน้าคุณชายเซียว?” หนีซิงพูดด้วยสีหน้าเหยียดหยาม “โม้ใครจะโม้ไม่เป็น? ฉันยังพูดได้ว่าฉันออกหนึ่งหมื่นล้าน?”
เปิดปากก็บอกห้าพันล้าน ล้อเล่นอะไร?
ต้องรู้ว่า เขาเป็นคุณชายเซียวจวง เป็นถึงคุณชายใหญ่เซียวซื่อกรุ๊ปแห่งประเทศM สามารถเอาเงินสดหมุนเวียนออกมาได้ถึงสองพันล้าน ก็เก่งมากแล้ว
สำหรับหลินอิ่งคนนี้? ได้ยินคุณชายเซียวบอกว่าเป็นลูกเขยไร้น้ำยาจากบ้านนอก คิดว่าตัวเองได้เข้าไปอยู่กับคริส ก็คือคนใหญ่โตแล้ว?
“แสดงเก่งนักหรือ? ห้าพันล้าน? คงไม่มีความคิดเกี่ยวกับเงินซินะ? คิดว่าตัวเองเป็นมหาเศรษฐีเมืองก่างเหรอ?”
“แม่งเอ้ย ไม่เคยเห็นคนหน้าด้านขนาดนี้ คุณชายเซียวเขาบอกพนันหนึ่งพันล้าน นั่นมันเงินสดเห็นๆ มันก็เริ่มโม้ละ คนตระกูลจี้แห่งเมืองก่าง ก็เอาเงินสดหมุนเวียนห้าพันล้านออกมาไม่ได้?”
“ไอ้หนุ่มแซ่หลิน แกไม่กล้ารับคำท้าของคุณชายเซียวก็พูดมาตามตรง ยังไปโม้อะไรห้าพันล้าน ยอมแพ้โดยดี อย่ามาทำเรื่องขายหน้าที่นี่”
จากคำพูดที่หลินอิ่งพูดไป แขกในงานต่างก็โต้แย้งกัน ใบหน้าทุกคนต่างยิ้มอย่างดูถูก คิดว่าหลินอิ่งโม้
หลินอิ่งหัวเราะเย็นชา ดีดนิ้ว
“คริส เซ็นสัญญากับเขา”
คริสเดินออกมาสีหน้าเคร่งเครียด มองไปทางด้านพวกคุณชายเซียว พูดจริงจัง “ผมอยู่ที่เมืองก่าง เป็นผู้ครองกรรมสิทธิ์ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ผองเฟย จุดนี้ โม่เก๋อติงน่าจะรู้ดี”
“อาคารพาณิชย์และอาคารสำนักงานต่างๆที่อยู่ในนามของบริษัทผองเฟยทั้งหมด รวมกันแล้วมูลค่าเกินห้าพันล้านแน่นอน”
“ตอนนี้ ฉันโทรหาฝ่ายการตลาดและทีมทนายมาได้ตลอดเวลา เพื่อเดินขั้นตอนกฎหมาย”
“นี่……” สีหน้าเซียวจวงเป็นไปด้วยความตะลึง คิดไม่ถึงว่าหลินอิ่งจะมีทรัพย์สินขนาดนี้?
“ประธานโม่ มัน มันเอาบริษัทผองเฟยเมืองก่างมาพนันกับผมได้จริงหรือ?” เซียวจวงมองโม่เก๋อจิงอย่างไม่อยากเชื่อ ถามด้วยเสียงเบา
โม่เก๋อติงสีหน้าเคร่งเครียด พยักหน้า พูดเสียงเบา “หลายวันก่อน คริสรับซื้อบริษัทผองเฟยเมืองก่างจริง แต่ผมคิดไม่ถึง ไอ้หนุ่มแซ่หลินนั่น จะทำให้คริสเอาบริษัทผองเฟยออกมาเดิมพันได้อย่างง่ายดาย”
ต้องรู้ว่า บริษัทผองเฟยเมืองก่าง เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ ร้านอาหาร และกิจการอื่นๆมากมาย โครงสร้างใหญ่มาก มูลค่าในตลาดเกินหมื่นล้าน
ตอนแรกโม่เก๋อเฟยอยากทำให้บริษัทผองเฟยล้มละลาย ทุ่มแรงทุ่มทุนไปตั้งมากมาย ใช้เงินหมุนเวียนจากสำนักงานใหญ่ลาตินกรุ๊ปมากมาย ถึงทำให้บริษัทผองเฟยล้ม ทำให้หวู่เฟยต้องหนีไปจากเมืองก่าง
เค้กชิ้นใหญ่นี้กำลังจะเข้าปากแล้ว ปรากฏว่า กลับถูกคริสดักเล่นกลางทาง ไม่รู้ไปเอาเงินมากมายมาจากไหนรับซื้อบริษัทผองเฟยไปทันที
“หลินอิ่งคนนี้ เป็นที่คุณพูดจริงเหรอ คือลูกเขยไร้น้ำยาจากบ้านนอก?” โม่เก๋อติงถามอย่างสงสัย
สถานการณ์ตอนนี้ไม่ค่อยถูก เขาไม่เข้าใจ หลินอิ่งเอาความมั่นใจมาจากไหน?
“ใช่ ผมมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ หลินอิ่งเป็นลูกเขยไร้น้ำยาจากเมืองตงไห่จริง ไม่มีความสามารถอะไรเลย ผมยังเคยพบกับพ่อตาแม่ยายเขาด้วยตัวเอง แม้แต่คนที่บ้านก็เห็นมันเป็นคนไร้น้ำยา” เซียวจวงพูดจริงจัง
โม่เก๋อติงครุ่นคิด รู้สึกว่าดูหลินอิ่งไม่ค่อยเข้าใจ
“ทำไม? ไม่กล้ารับ?” หลินอิ่งหัวเราะเย็นชามองไปที่เซียวจวง “คุณจะแก้แค้นไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ผมให้โอกาสแล้ว ผมทำขาคุณพิการ คุณกลับไม่กล้ารับ?”
“พนันเงิน ก็สู้ไม่ได้ พนันชีวิต ก็ไม่กล้า ถ้าอย่างนั้น เอาความมั่นใจมาจากไหน ยังมาหอนต่อหน้าผม?”
“แก”
เซียวจวงสีหน้าโมโห นั่งอยู่บนรถเข็นโกรธจนตัวสั่น
หลินอิ่งแสดงท่าทางมั่นใจ ทำให้เขารู้สึกกังวล คิดถึงตอนที่อยู่เมืองชิงหยูนที่ถูกหลินอิ่งจัดการอย่างน่ากลัว
“โอ้โห สถานการณ์รุนแรงขนาดนี้? ถึงกับเอาบริษัทผองเฟยมาเดิมพัน? คุณชายเซียว คุณจะทนไอ้หลินอิ่งที่ไร้ชื่อเสียงคนนี้ได้หรือ?”
“ใช่แล้ว คุณชายเซียว พนันกับเขาเลย มันต้องแพ้แน่นอน สั่งสอนมันให้สาสมไปเลย”
“คุณชายเซียวคงไม่ได้กลัวหรอกมั้ง? ดูท่าทางแล้ว คุณชายเซียวไม่ค่อยมั่นใจแล้ว ไม่กล้าเดิมพันชีวิต”
คราวนี้ ในสนามก็พูดกันขึ้นมาอย่างเมามัน ต่างคนต่างโต้แย้งกันขึ้นมา
ใบหน้าเซียวจวงทั้งกลัวทั้งโกรธ ถูกพูดจนรู้สึกอับอายมาก
“คุณชายเซียว คุณวางใจ มีผมอยู่ ไม่แพ้แน่นอน” ชายชุดจีนโบราณพูดจริงจัง
มีคำพูดนี้แล้ว เซียวจวงก็รู้สึกโล่งใจ จ้องหน้าหลินอิ่งด้วยสีหน้าอาฆาต พูดว่า “ได้ ฉันก็อยากดู ว่าแกจะมีความสามารถแค่ไหนกัน ฉันรับคำท้าพนันกับแก ฉันจะคอยดูว่าถ้าแกแพ้แล้ว จะไปพูดยังไงกับนายทุนที่อยู่เบื้องหลังแก”
ไม่ว่าหลินอิ่งจะเล่นสนุกอะไร เขาไม่มีวันเชื่อแน่ ลูกเขยไร้น้ำยาเพียงคนเดียว จะมีปัญญาเอาชนะยอดฝีมือที่เขาพามาได้
ครั้งนี้ เขาพายอดฝีมือสูงสุดของตระกูลเซียวซื่อกรุ๊ปแห่งประเทศM
กำลังพูดอยู่ ชายชุดจีนข้างกายเซียวจวง ขยับร่าง เหมือนดั่งสายลม ชิ๊วเดียวก็ถึงบนเวที สายตาจ้องหลินอิ่งอย่างยั่วยุ
“ว้าว นี่มันยอดฝีมือจริงๆ นี่มันวิชาตัวเบาใช่ไหม? สุดยอดเกินไปแล้ว?”
“ล้อเล่นอะไร นี่มันยอดฝีมือที่คนเขาเรียกกันว่าแก๊งเสือเขตใต้ บนเวลาใต้ดินเมืองก่าง ไม่รู้ว่าฆ่าคนโหดทั้งในและต่างประเทศมาเท่าไหร่แล้ว”
“เหอะเหอะ มีเกมสนุกให้ดูแล้ว ฉันสงสัย ไอ้หลินอิ่งนั่น จะให้ใครออกไปต่อสู้”
จากที่ชายชุดจีนขึ้นไปบนเวทีแล้ว เสียงร้องดังขึ้นในสนาม เห็นได้ชัดว่าเคยเห็นความสามารถของยอดฝีมือท่านนี้แล้ว
หลินอิ่งยิ้มแต่ไม่พูด มองไปที่โม่เก๋อติง พูดเสียงเรียบ “เมื่อกี้คุณก็พูดจาโอ้อวดบอกจะขึ้นเวทีกับผมไม่ใช่เหรอ? คนที่แพ้ไสหัวออกจากเมืองก่างตลอดไป เรียกคนของคุณขึ้นไปได้”
“แก แกหมายความว่ายังไง” โม่เก๋อติงถามด้วยสีหน้าสงสัย
หลินอิ่งมุมปากมีแววความโหดร้าย
“ความหมายของผมคือ เรียกคนของพวกคุณขึ้นไปให้หมด คนเดียว ไม่พอฆ่า