ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 392 จะเล่นโหดก็เล่นเป็นเพื่อนให้ถึงที่สุด
“ไอ้คนประเทศหลุงหน้าโง่ แกยังคิดอยากเอาชีวิตฉันในถิ่นของฉันเหรอ? เหอะเหอะ ถึงแม้แกจะมีความสามารถดั่งเทวดา วันนี้ก็แกฆ่าฉันไม่ได้” โม่เก๋อติงมองดูหมอกควันในห้อง หัวเราะอย่างโหดเหี้ยม
โม่เก๋อติงทำการเตรียมตัวไว้อย่างครบถ้วน ในถิ่นของเขามีชุดทหารรับจ้างพร้อมอาวุธซ่อนตัวอยู่แล้ว
เขาคาดการณ์ไว้แล้ว มือปืนธรรมดาอาจทำอะไรยอดฝีมืออย่างหลินอิ่งไม่ได้ จึงเรียกกลุ่มทหารหน่อยรบพิเศษพร้อมอาวุธสงครามมา
“ประธานโม่ คุณจัดเตรียมอย่างรอบขอบเลย ถึงฝีมือหลินอิ่งจะเก่งกาจแค่ไหน คราวนี้ก็ไม่มีวิธีแล้ว” เซียวจวงสีหน้าเหมือนคนรอดชีวิตใจภัยร้าย โล่งใจไปทันที พูดด้วยสีหน้าดีใจ
มีอาวุธแข็งแกร่งขนาดนี้ หลินอิ่งวิชาสูงส่งแล้วจะทำอะไรได้อีก? จะฝ่าอาวุธเหล่านี้ไปได้ไหม?
“ประธานหลิน ท่านเป็นอะไรไหม? คราวนี้จะทำยังไง?”
ท่ามกลางหมอกควัน เป็นเสียงของคริสที่กังวล
“ในเมื่อพวกเขาอยากเล่นโหด งั้นก็เล่นเป็นเพื่อนพวกเขาถึงที่สุด” หลินอิ่งพูดด้วยสีหน้าเย็นชา
“ฮาเดส พาคริสหลบไปก่อน ออกไปแล้ว รีบเรียกคนมา” หลินอิ่งพูดเสียงเย็นชา
“ครับ ประธานหลิน ก่อนผมมาจัดคนรออยู่บริเวณใกล้เคียงอาคารสุ่ยจินแล้ว ไม่นานก็มาถึง ท่านไม่ไปกับพวกเราเหรอครับ?”
คริสถามอย่างลังเล
“ไม่มีใครติดของผมได้” หลินอิ่งพูดเสียงเรียบเฉย “วันนี้พวกเขาเดิมพันชีวิตแพ้แล้ว ก็ต้องเอาชีวิตไว้ที่นี่”
คริสได้ยินเจตนาฆ่าอย่างแรงกล้า จากน้ำเสียงอันเรียบเฉยของหลินอิ่ง
เขาไม่ได้พูดอะไรอีก จากการปกป้องของฮาเดส หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรเรียกคนมาช่วย และรีบวิ่งหนีออกไปในช่องทางฉุกเฉิน
“เหอะเหอะ ไอ้หน้าโง่นี่ สถานการณ์แบบนี้แล้ว ยังบอกว่าจะเอาชีวิตพวกเราอีก?” เซียวจวงถูกบอดี้การ์ดยกไปบนแท่นสูง พูดด้วยเสียงหัวเราะเย็นชา
“สถานการณ์พูดยาก ทหารรับจ้างกลุ่มนี้อาจจะเอาชีวิตเขาไม่ได้ ฝีมือการต่อสู้ของหลินอิ่งคนนี้มันเกินขอบเขตของคนธรรมดาแล้ว พวกเรารีบหนีก่อน” โม่เก๋อติงพูดเรียบเฉย
แค่เห็นความสามารถของหลินอิ่งบนเวทีแล้ว ในใจโม่เก๋อติงก็ไม่มีความมั่นใจที่จะสามารถฆ่าล้างหลินอิ่งได้แล้ว
ไม่นาน จากการปกป้องติดตามของกลุ่มทหารรับจ้าง โม่เก๋อติงกับเซียวจวงรีบวิ่งไปช่องทางออกฉุกเฉิน
พวกเขาทั้งสองรู้สึกกลัวมาก ต้องรักษาระยะห่างร้อยเมตรกับคนอย่างหลินอิ่ง ไร้ซึ่งความปลอดภัย รู้สึกว่าอาจจะถูกหลินอิ่งฆ่าทิ้งได้ตลอดเวลา
“ยังอยากหนีไหม?”
เวลานี้เอง ร่างอันกำยำของหลินอิ่ง ก็เดินออกมาจากท่ามกลางหมอกควัน มองไปทางที่โม่เก๋อติงทั้งสองคนหนีไปด้วยสายตาเย็นชา
“Fuck ยังกล้ามาให้เห็นหน้าอีก ฆ่ามันให้ตาย”
หัวหน้าทหารรับจ้างมองหลินอิ่งสีหน้าโหดเหี้ยม ยกมือขึ้นโบก
ปังปังปัง
ทันใดนั้น กระสุนกราดยิง
ทหารรับจ้างทั้งหมดยกปืนกลมือขึ้นมา จ่อไปที่หลินอิ่งแล้วก็เริ่มกราดยิง เปรี้ยงปร้าง โต๊ะคริสตัลแตกกระจายไปทั่วทิศทาง บนพื้นมีปลอกกระสุนตกอยู่นับไม่ถ้วน
“เอื้อก”
เสียงกรีดร้องเสียงดัง เห็นเพียงทหารรับจ้างถือปืนคนหนึ่งกรีดร้องออกมาเสียงดัง ถูกหลินอิ่งที่ปรากฏตัวกะทันหันบีบคอไว้ จากนั้นก็ยึดปืน
“มันอยู่นั่น ยิงเลย เอามันให้ตาย”
เสียงฮวั๊ก กลุ่มทหารรับจ้างรู้ตัว ต่างก็หันปืนไปทางที่หลินอิ่งยืนอยู่ กำลังจะเริ่มยิงปืน
ปังปังปัง
“เอื้อก”
“อ้าก”
ทันใดนั้น หลินอิ่งสีหน้าเรียบเฉย ถือปืนด้วยมือข้างเดียว กราดยิงกระสุน แสงกระสุนกระจัดกระจาย
ไม่เสียกระสุนแม้แต่นัดเดียว
กระสุนทุกนัดล้วนมีเลือดกระจาย ยิงเข้าหัวทุกนัด ทำให้เสื้อกันกระสุนของพวกเขาไร้ประโยชน์
ทหารรับจ้างล้มลงทีละคน
หนึ่งนาที ทหารรับจ้างมืออาชีพพร้อมอาวุธเพียบพร้อมสามสิบกว่าคน ต่างก็ตายภายใต้ปืนของหลินอิ่งจนหมด
พวกเขาจนถึงวินาทีที่ตาย ก็ไม่อยากเชื่อ มีคนจะเล่นปืนได้เก่งกาจถึงเพียงนี้
เหลือไว้เพียงหัวหน้าทหารรับจ้างคนเดียว มือที่ถือปืนถูกยิงจนเป็นหลุม ตัวสั่นไปทั้งร่าง มองหลินอิ่งที่เดินเข้ามาทีละก้าวด้วยสายตาหวาดกลัว
“ไม่ อย่าฆ่าฉันนะ”
คนประเทศหลุงคนนี้ ปีศาจชัดๆ
“เส้นทางหลบหนีที่โม่เก๋อติงเตรียมไว้อยู่ไหน?” หลินอิ่งถามอย่างเย็นชา
“โม่เก๋อติง มี มีลิฟต์นิรภัยส่วนตัว อยู่ตรงสุดทาง มีประตูนิรภัยบานหนึ่งปิดกั้นลิฟต์ไว้ เป็นวัสดุกันกระสุน คุณ คุณเปิดไม่ได้หรอก” หัวหน้าทหารรับจ้างพูดอย่างกล้าๆกลัวๆ เกือบถูกหลินอิ่งทำให้กลัวจนโง่ไปแล้ว
ปัง
นัดเดียวระเบิดหัว หลินอิ่งทิ้งปืน ปัดคราบฝุ่นบนไหล่ เดินไปทางออกฉุกเฉินด้วยสายตาเย็นชา
เวลานี้ อาคารสุ่ยจิน ลิฟต์นิรภัยส่วนตัวในทางออกฉุกเฉิน
โม่เก๋อติงและเซียวจวงเหงื่อท่วมหัวทั้งสองคน ยืนหายใจหอบอยู่ในลิฟต์ ท่าทางยังคงหวาดกลัว
“บ้าเอ้ย ไอ้หลินอิ่งนั่นน่ากลัวจริงๆ” โม่เก๋อติงหายใจหอบ พูดไปด้วยความหวาดกลัว “ฉันยังไม่เคยเห็นคนที่น่ากลัวขนาดนี้มาก่อน เก่งกาจมาก ในมือมีกลุ่มทหารรับจ้าง ฉันยังไม่มั่นใจว่าจะชนะได้”
โม่เก๋อติงก็ถือว่าเป็นคนเห็นอะไรมามากแล้ว มักนำกองทหารรับจ้างไปขายอาวุธสงครามในพื้นที่เขตสงคราม ทำธุรกิจค้าขายอาวุธสงคราม เครื่องบินระเบิดอาวุธปืน มีอะไรที่ไม่เคยเห็น?
แต่วันนี้ ในถิ่นของตัวเองกับแผนการที่ตัวเองวางไว้ กลับโดนคนประเทศหลุงคนเดียวไล่ฆ่ามือเปล่า? ถูกไล่ล่าจนหวาดกลัวไปหมดแล้ว
ทรหดมากจริงๆ
“นั่นมันปีศาจ สัตว์ประหลาด ผมก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน ไอ้หลินอิ่งนี่มันจะร้ายกาจขนาดนี้” เซียวจวงเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก พูดอย่างช้าๆ “ตอนแรกก็คิดว่าเป็นแค่ลูกเขยไร้น้ำยาคนเดียว มีวิชากังฟูนิดหน่อยแล้วก็รู้จักกับคริส ไม่เคยคิดว่ามันจะมีวิชาสูงส่งเป็นยอดฝีมือระดับนี้”
“ยังดีที่ฉันเตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว ตอนนี้ในห้องเวทีมวย กราดยิงไม่ยั้งแบบนั้น หลินอิ่งมันคงรับไม่ไหวแน่นอน อย่างน้อยก็คงรีบวิ่งหนี ถ้าพวกเราโชคดีหน่อย ทหารรับจ้างอาจจะฆ่ามันแล้ว” โม่เก๋อติงพูด
“ยังดีที่ประธานโม่คิดแผนการรอบคอบ” เซียวจวงรีบประจบ พูดด้วยสายตาโหดเหี้ยม “ไอ้หลินอิ่งนั่น คิดว่าตัวเองไร้คู่ต่อสู้ ครั้งนี้มันเปิดเผยความสามารถมันแล้ว ถึงแม้ทหารรับจ้างจะฆ่ามันไม่ได้ ให้มันหนีไปได้ รอพวกเราหาโอกาส เตรียมตัวให้พร้อม ค่อยหาวิธีกำจัดมัน”
“พูดได้ดี ไม่ว่ายังไง ครั้งนี้ พวกเราชนะแล้ว อย่างน้อยก็รู้แล้วว่าหลินอิ่งคนนี้ จะไปปะทะกับมันแบบนี้ไม่ได้” โม่เก๋อติงพูดด้วยรอยยิ้มเย็นชา
“ขอแค่จัดการวางแผนอย่างรอบคอบ ในเมืองก่าง พวกเราก็สามารถทำให้มันตายทั้งเป็นได้ อยากตายก็ตายไม่ได้”
เซียวจวงหัวเราะอย่างโหดเหี้ยม สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างประหลาดใจ เงยหน้าขึ้นมองด้านบน “อือ? ทำไมด้านบนลิฟต์มีแสง?”
โม่เก๋อติงยิ้ม พูดว่า “คุณชายเซียว วางใจเถอะ อยากกังวลใจไปเลย นี่มันลิฟต์นิรภัยที่ฉันทุ่มเงินสร้างขึ้นเอง แม้แต่แผ่นดินไหว8ริกเตอร์ก็รักษาความมั่นคงได้ไม่กระทบ ลงจอดได้อย่างปลอดภัย อีกอย่างลิฟต์นี้ปิดแน่น ด้านนอกทำด้วยโลหะพิเศษหนึ่งชั้น ระเบิดC4ก็กระทบอะไรไม่ได้
ปัง
ลิฟต์ที่กำลังเคลื่อนไหว โลหะด้านบนระเบิดออกกะทันหัน ร่างอันเบาหวิวในชุดดำ อยู่ด้านบน มองพวกเขาสองคนด้วยสายตาเย็นชา
“อ้าก หลินอิ่ง”
“แก แกตามมาได้ยังไง? เป็นไปได้ยังไง”
โม่เก๋อติงและเซียวจวงตะโกนร้องออกมาเหมือนหมูถูกฆ่า ตกใจจนหน้าซีด เหมือนเห็นยมทูตที่มาตามล่าชีวิตยืนอยู่ตรงหน้า
ใช่แล้ว วินาทีนี้ ใบหน้าของหลินอิ่ง สำหรับพวกเขาแล้ว ก็คือยมทูต