ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 396 ก่อตั้งสหพันธ์ธุรกิจเมืองก่างปิดกั้นหลินซื่อกรุ๊ป
“ออ? หลินอิ่งยึดลาตินกรุ๊ปแล้วเหรอ” เหวินเทียนเฟิ่งใบหน้ายิ้มแย้ม ยกไวน์ขึ้นมาจีบ ท่าทางไม่ใส่ใจ
จี้ฉงซานพูด “ใช่ เป็นเหตุการณ์ที่ผมไม่ได้คาดคิดเหมือนกัน หลินอิ่งจะลงมือรวดเร็ว โหดเหี้ยมขนาดนี้”
“ลาตินกรุ๊ปเมืองก่างเป็นบริษัทนายทุนต่างชาติ ดังนั้น ไม่ได้อยู่ในความสัมพันธ์ธุรกิจที่ผมบริษัทในเมืองก่าง และนี่เป็นอันตรายที่ซ่อนอยู่อย่างใหญ่หลวงเลย” จี้ฉงซานพูดจริงจัง
ลาตินกรุ๊ปเมืองก่างมีผลกระทบอย่างมหาศาลในเมืองก่าง กระทบต่อทุกกิจการ และกลับพัฒนาได้ใหญ่โตภายใต้สายตาจี้ฉงซาน นี่ก็เป็นเพราะว่า เบื้องหลังเป็นสำนักงานใหญ่ลาตินกรุ๊ป และอยู่ร่วมกับจี้ฉงซานโดยไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน
มิฉะนั้น จากอำนาจอย่างเด็ดขาดของจี้ฉงซานในเมืองก่าง ทำลายลาตินกรุ๊ปเมืองก่างไปตั้งนานแล้ว
ตอนแรกทั้งสองต่างอยู่อย่างสงบสุข
แต่ว่า วันนี้ลาตินกรุ๊ปเมืองก่างกลับถูกหลินอิ่งแย่งไปกะทันหัน สืบทอดทรัพยากรทางธุรกิจไปด้วย
หากหลินอิ่งเอาเรื่องนี้มาหาเรื่อง ต้องสร้างผลกระทบและความเสียหายต่อเขาอย่างมหาศาล
เหวินเทียนเฟิ่งพูดอย่างใจเย็น “นายท่านจี้ ก็แค่สาขาเล็กๆสาขาเดียวของลาตินกรุ๊ปเท่านั้น ต้องตื่นตระหนกขนาดนี้เลยหรือ?”
“ขอแค่หลินอิ่งยังอยู่เมืองก่าง นั่นยังไม่ใช่สมบัติในมือเรา? ถึงแม้เขาจะแย่งลาตินกรุ๊ปไปแล้วยังไง อย่างมากก็สร้างความเสียหายเศรษฐกิจให้คุณบ้างเท่านั้น ไม่ได้กระทบต่อรากฐานของคุณในเมืองก่าง”
จี้ฉงซานพูด “ความเสียหายทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่เล็กๆน้อยๆ หลินอิ่งใช้ลาตินกรุ๊ปเมืองก่างเป็นเครื่องมือ นำเงินทุนมาจากตี้จิงจำนวนมหาศาลลงทุนในตลาดเมืองก่าง สร้างผลกระทบอย่างมหาศาลต่อทุกบริษัทของผม”
“หลินอิ่งอยู่เมืองก่างนานเท่าไหร่ ความเสียหายของผมก็มากเท่านั้น บัญชีนี้ ต้องชำระยังไง?”
ตอนแรกจี้ฉงซานคิดว่าถึงแม้หลินอิ่งจะมีกิจการใหญ่โตในตี้จิง มาเมืองก่างมือเปล่า คงทำอะไรเขาไม่ได้
แต่วันนี้ หลินอิ่งเปิดตลาดและเข้าสู่ตลาดเมืองก่างเรียบร้อยแล้ว สร้างความวุ่นวายในวงการธุรกิจ ทีมการตลาดทำการควบคุม จ่อจงโจมตีธุรกิจของเขา ทุกวันสำหรับเขา นั่นเป็นความเสียหายวันละร้อยล้าน
เหวินเทียนเฟิ่งยิ้ม พูดว่า “นายท่านจี้ บัญชีในใจคุณชำระได้แน่นอน ทางด้านหลินอิ่งก็แค่เป็นวิธีการทำใช้อารมณ์ชั่ววูบ อีกอย่าง จะมาทำสงครามธุรกิจกับคุณที่เมืองก่าง นั่นมันไม่ใช่วิธีการเอาความเสียหายเข้าแลกเหรอ?”
“คุณวางใจเถอะ ความเสียหายของบริษัทคุณที่เกิดขึ้นทุกวัน ฉันจะรับผิดชอบเอง” เหวินเทียนเฟิ่งพูดเสียงเรียบ
“นายหญิงเหวิน คุณเข้าใจความหมายของผมผิดแล้ว ผมไม่ได้ติดใจกับคุณเรื่องความเสียหาย” จี้ฉงซานพูดสีหน้าเคร่งเครียด
“สูญเสียสมบัตินิดหน่อย ทำสงครามการค้าระยะยาวกับหลินอิ่ง ผมยังพอมีความมั่นใจอยู่”
“ออ? เป็นแบบนี้จริงหรือ?” เหวินเทียนเฟิ่งมองจี้ฉงซานสีหน้าล้อเล่น
ทายทุนนิยมที่เห็นเงินสำคัญยิ่งชีวิตอย่างจี้ฉงซาน บอกว่าไม่ใส่ใจค่าเสียหายวันร้อยล้าน ช่างเป็นคำพูดที่ตลกที่สุด
จี้ฉงซานพูด “ผมแค่รู้สึกว่าเรื่องมันไม่ได้ง่ายแค่นี้ พวกเราจะให้หลินอิ่งสร้างความเดือดร้อนในเมืองก่างต่อไปแบบนี้ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการเลี้ยงเสือไว้ในบ้าน”
เหวินเทียนเฟิ่งพูดอย่างเรียบเฉย “นายท่านจี้ ขอแค่คุณไม่เอาตัวเองไปให้หลินอิ่งเชือดถึงที่ ในเมืองก่าง เขาจะทำอะไรคุณได้?”
“ตอนแรก หลินอิ่งฆ่าล้างตระกูลเหวิน แย่งกิจการอันใหญ่โตของตระกูลเหวินในตี้จิงไป ฉันยังทนความแค้นนี้ไว้ได้เลย” เหวินเทียนเฟิ่งพูดด้วยสายตาโหดเหี้ยม “เพื่อวางแผนแย่งชิงกิจการของตระกูลฉี ฉันอดทนมาสิบกว่าปี ครั้งนี้หลินอิ่งฆ่าล้างตระกูลเหวิน ฉันก็ทนความแค้นไว้”
“นายท่านจี้ ความเสียหายแค่นี้ คุณก็ทนไม่ไหวแล้วเหรอ? หรือว่า แม้แต่สิบวันครึ่งเดือน คุณก็ทนไม่ไหวแล้วเหรอ?” เหวินเทียนเฟิ่งถาม
จี้ฉงซานสีหน้าไม่เปลี่ยน พูดว่า “นายหญิงเหวิน คุณต้องเชื่อการตัดสินใจของผม หลินอิ่งคนนี้ ไม่ช้าก็เร็วต้องพลิกแผ่นดินเมืองก่างแน่นอน เขามีความสามารถนี้ ถ้าถึงเวลา ถึงฆ่าล้างหลินอิ่ง กระบวนการธุรกิจเมืองก่างต้องล่มสลายแน่นอน นั่นมันเป็นความเสียหายที่ชดใช้กันไม่ได้”
เหวินเทียนเฟิ่งขมวดคิ้ว จีบไวน์ไปคำหนึ่ง ค่อยๆครุ่นคิด
ถึงระดับพวกเขาแล้ว จำนวนเงินมันไม่ได้สำคัญขนาดนั้นแล้ว เป็นเพียงแค่เครื่องมืออย่างหนึ่งเท่านั้น
สิ่งที่ห่วงคือสถานการณ์ใหญ่
สถานการณ์ใหญ่โดยรวมของเมืองก่าง หรือพูดได้ว่าระบบการเงิน อยู่ในมือของจี้ฉงซาน ไม่ว่าเงินเท่าไหร่ก็เทียบไม่ได้
หลินอิ่งมีความสามารถมาก นี่คือสิ่งที่จี้ฉงซานยอมรับไม่ได้
“นายท่านจี้ เรื่องมันยังไม่ถึงขั้นนั้น ฉันเคยบอกแล้ว ความเสียหายที่คุณทำสงครามการเงินกับหลินอิ่ง ฉันจะจ่ายให้ทั้งหมด” เหวินเทียนเฟิ่งพูดสีหน้าจริงจัง “กลับไปฉันจะส่งทีมการตลาดของฉันเข้าช่วย ไม่ให้คุณเสียหายฟรีๆหรอก”
พูดถึงตรงนี้ สีหน้าเหวินเทียนเฟิ่งก็เคร่งเครียดขึ้นมา “แต่ว่า คุณต้องเข้าใจในจุดหนึ่ง หลินอิ่ง ไม่ได้จัดการง่ายขนาดนี้ ไม่อย่างนั้น ทำไมฉันต้องอ้อมไกลขนาดนั้น ล่อเขามาที่เมืองก่าง?”
“ก่อนที่จะมั่นใจว่าสามารถฆ่าหลินอิ่งได้ ห้ามทำอะไรวู่วาม” หวินเทียนเฟิ่งพูดเสียงเรียบ “คุณต้องรู้ว่า ไม่มีคนมีชีวิต สามารถปกปิดความลับต่อหน้าหลินอิ่งได้”
“โอกาส มีเพียงครั้งเดียว”
จี้ฉงซานแววตากะพริบ อย่างพูดแต่ลังเล แล้วพยักหน้า
“นายท่านจี้ เราสองคนต่างเป็นมือซ้ายมือขวาของผู้ใหญ่ท่านนั้น คุณคงรู้จักวิธีการทำงานของท่านนะ” เหวินเทียนเฟิ่งพูดอย่างจริงจัง “สำหรับเรื่องการรับมือกับหลินอิ่ง ไม่ต้องห่วงผลลัพธ์ใดๆ ถ้าหากคุณยังมัวแต่คิดเล็กคิดน้อย เกรงว่าจะอธิบายไม่ได้นะ”
“ไม่ นายหญิงเหวิน อย่าเข้าใจผมผิด” จี้ฉงซานพูดอย่างจริงจัง
หลังจากผู้ถึงผู้ใหญ่ท่านนั้นแล้ว สีหน้าจี้ฉงซานก็เปลี่ยนไป เหงื่อท่วมหัว เสมือนมีแรงกดดันในใจอย่างมาก
“คุณรู้ดีก็พอ” เหวินเทียนเฟิ่งพูดอย่างใจเย็น “คุณทำผลงานให้ดี ให้ข้างบนเขาเข้าใจว่าคุณมีใจจะทำงาน”
ได้ยินแล้ว จี้ฉงซานแววตากะพริบ เข้าใจความหมายของเหวินเทียนเฟิ่ง
ไปตี้จิงล่อหลินอิ่ง จับตัวหยูจื๋อเฉิง เขาเป็นเพียงเหยื่อล่อเท่านั้น ให้ความร่วมมือกับแผนการเท่านั้น คนที่วางแผนทั้งหมดนี้ คือเหวินเทียนเฟิ่ง
วันนี้มาถึงเมืองก่าง เขา ต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว
“เอาแบบนี้ นายหญิงเหวิน ผมจะใช้นามของประธานสหพันธ์ธุรกิจเมืองก่าง จะจัดตั้งกลุ่มสหพันธ์ธุรกิจเมืองก่างเดี๋ยวนี้ จะทำการร่วมมือกันเพื่อต่อต้านบริษัทของหลินอิ่ง” จี้ฉงซานพูดด้วยเสียงจริงจัง “ไม่ถึงเจ็ดวัน ผมจะทำให้มันกลับไปอยู่ในสภาพเดิม”
“ถ้าเช่นนั้นก็ต้องมีฝีมือของนายท่านจี้แล้ว” เหวินเทียนเฟิ่งยิ้มพูด “รอฟังข่าวดีจากนายท่านจี้”
……
เมืองก่าง เขตเชียงเจียง
ฮาเดสขับรถไปยังถนนเส้นหนึ่งที่เจริญรุ่งเรือง ละแวกนี้เป็นอาคารตลาดหลักทรัพย์และพาณิชย์พลาซ่าที่ผู้คนมากมาย
จอดรถในคอนโดแห่งหนึ่ง ดวงตาคมลึกของหลินอิ่ง มองไปทีหนึ่ง สั่งให้ฮาเดสรออยู่ข้างล่าง ขึ้นไปในคอนโดคนเดียว
เขามาหาคนคนหนึ่งโดยเฉพาะ
สิ่งสำคัญที่หยังสวนเจิงเก็บไว้
หยังสวนเจิงเป็นเจ้าสำนักมังกรดำ บอกได้ว่า เคยเป็นราชายามค่ำคืนแห่งเมืองก่าง
ในอดีต แก๊งมังกรเกิดการเปลี่ยนแปลง ก่อนที่เขาไปหาอาจารย์กู้ต้า สั่งเสียคนที่ไว้ใจที่สุดหลายคนที่อยู่ข้างกาย อำลาโลกชั่วคราว รอจนวันที่ผู้สืบทอดเจ้าสำนักกลับมา จึงออกสู่โลกอีกครั้ง
ส่วนที่อยู่ในการติดต่อองค์มังกรดำที่หลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่คน เก็บไว้ในจดหมายหินดำ
วันนี้ฆ่าล้างโม่เก๋อติงแล้ว ชูธงในแวดวงธุรกิจเมืองก่างเรียบร้อยแล้ว หลินอิ่งมีเวลาว่าง ก็ต้องจัดการเรื่องในที่ลับเป็นเรื่องธรรมดา
ลำพังข่าวสารของลูกน้องคริสที่ได้มา ยังมีความสามารถไม่พอที่จะขุดคุ้ยจี้ฉงซานได้
ส่วนองค์มังกรดำทีมนี้ที่อยู่ในเมืองก่าง ต้องมีความสามารถนี้แน่นอน