ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 416 เมืองก่าง กระแสคลื่นโหมซัดสาด
หยินต้าชิวแววตาตะลึง ภายใต้แรงกดกันของหลินอิ่ง ถึงกับเหงื่อท่วมหัว สั่นไปทั้งตัว
จากนั้น สีหน้าของเขาก็ดูเอือมระอา ก้มหัวอันหยิ่งยโสของเขาลง
“ประธานหลิน ขอโทษ……”
“ใช่ ผมไม่มีสิทธิ์คุยข้อเสนอกับคุณ”
หยินต้าชิวก้มหน้ารับผิด
“เป็นเพราะสอนลูกได้ไม่ดี ถึงได้ให้ไอ้ลูกไม่รักหยินจุนไปหาเรื่องคุณ ผมจะไปหักมือมันเดี๋ยวนี้ หวังว่าประธานหลินจะไม่เอาเรื่อง” หยินต้าชิวกัดฟันแน่น ก้มหน้า พูดด้วยเลือดตกใน
หยินต้าชิวไม่กล้าขัดใจหลินอิ่ง
หรือพูดได้ว่า เขาไม่มีทางเลือก
ในใจเขารู้ดี ว่านี่คือโอกาสครั้งเดียวที่หลินอิ่งให้เขา
ไม่เช่นนั้น หลินอิ่งต้องโมโหร้ายแน่ อย่าบอกว่าหักมือหนึ่งข้างเลย จะฆ่าล้างตระกูลหยินของพวกเขา ก็เป็นเรื่องที่ทำได้แค่คำสั่งเดียว
ครอบครัวของเขา ต้านทานอำนาจของหลินอิ่งไม่ได้แม้แต่น้อย ก็เป็นแค่ฝูงมดในสายตาของหลินอิ่งเท่านั้น แค่ยกเท้าก็เหยียบจนตายได้
“ไม่ พ่อ พ่อจะไปฟังเขาจริงเหรอ จะหักมือผมเหรอ?” หลินยุนพูดด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ
“หยินจุน นี่ถือเป็นบุญคุณของประธานหลินแล้วที่ให้หนทางกับครอบครัวเรา เพื่อครอบครัวของเรา ลูกก็เสียสละหน่อยนะ” หยินต้าชิวมองไปที่หยินจุน พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“พ่อ พ่อมีผมเป็นลูกชายเพียงคนเดียวนะ ผมไม่อยากกลายเป็นคนพิการนะ”
หยินจุนตกใจจนหน้าซีด ถอยหลังไปเรื่อยๆ พูดอย่างต่อต้าน
เขาไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
พ่อบังเกิดเกล้าของตัวเอง กลับหันไปช่วยไอ้หลินอิ่งนั่น จะมาหักมือตัวเอง?
หรือว่า หลินอิ่งจะมีความสามารถล้นฟ้าจริง?
แค่คำเดียว บีบจนพ่อของเขาต้องมาหักมือของเขา?
พ่อยังพูดอีกว่า นี่เป็นความเมตตาของหลินอิ่งแล้ว? ไม่อย่างนั้นตระกูลหยินจะถูกฆ่าล้างตระกูล?
“พ่อ พ่อ พ่อทำแบบนี้ไม่ได้นะ น้องเขาทำอะไรผิด ถึงต้องทำกันขนาดนี้? เขาก็แค่มีปัญหากับไอ้แซ่หลินนั่นนิดหน่อย? พ่อเป็นถึงนักธุรกิจชื่อดังแห่งเมืองก่าง มีอำนาจเงินทอง ทำไมต้องไปกลัวไอ้เด็กกระจอกคนเดียว?” หยินปิงเดินเข้าไปขัดขวาง พูดด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ
ในสายตาพวกเขา พ่อของพวกเขา หยินต้าชิว
เป็นถึงผู้มีอำนาจใหญ่โตระดับต้นๆแห่งเมืองก่าง รองประธานสมาคมธุรกิจเมืองก่าง
มาเฟียใหญ่แห่งโลกแห่งความมืดเขตเชียงเจียง เหล่าหัวหน้าแก๊งในโลกแห่งความมืดต่างต้องไว้หน้าและเคารพเขา
แต่ว่า กลับถูกตนบีบจนต้องทำร้ายลูกชายตัวเอง? ยังทำด้วยความเต็มใจ?
“หุบปาก หยินจุนต้องมีจุดจบแบบนี้ ก็เพราะเธอคอยตามใจ” หยินต้าชิวสีหน้าโมโห จ้องหยินปิงเย็นชา “เธอกล้าพูดอะไรไร้สาระอีกคำเดียว พ่อจะจัดการเธอด้วย”
พูดจบ หยินต้าชิวก็โบกมือ “กดตัวไอ้ลูกโง่คนนี้ไว้”
ทันใดนั้น บอดี้การ์ดหลายนายเข้าไปกดตัวหยินจุนไว้ กดตัวเขาไว้บนโต๊ะ
“ปิดปากมันไว้ ยกแขนมันขึ้น”
หยินต้าชิวถอนหายใจ สั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา
บอดี้การ์ดเอาผ้าเช็ดโต๊ะสีขาวผืนหนึ่ง มาอุดปากของหยินจุนไว้
“อืออือออ”
หยินจุนถูกบอดี้การ์ดหลายนายกดตัวไว้บนโต๊ะ พยายามขัดขืน มองดูบอดี้การ์ดอีกหลายนายหยิบกระบองเหล็กออกมา ในสายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ปัง ปัง ปัง
บอดี้การ์ดสองนาย ในมือถือกระบองเหล็ก ทุบไปที่แขนของหยินยุ่น ครั้งแล้วครั้งเล่า ทุบจนเสียงดังสนั่น
“อ๊ากอ๊ากอ๊าก”
หยินจุนสีหน้าซีด กรอกตาขาว ร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด กระตุกไปทั้งตัว เจ็บปวดจนหมดสติไป
แขนข้างหนึ่งของเขา ถูกฟาดจนคดงอจนเปลี่ยนรูป เลือดไหลออกมา
ตั๊บ
หยินจุนร่างอ่อนเหมือนไร้กระดูก ล้มลงไปกับพื้น สีหน้าซีดขาว น้ำตาไหลพรากไม่หยุด จ้องหน้าหลินอิ่ง ในแววตานั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
น่ากลัวเหลือเกิน
ผู้ชายคนนี้
ความสามารถที่เขามี กดทับทุกสิ่งที่เขามีได้อย่างง่ายดาย
เพราะอะไร ถึงไปทำให้เขาขุ่นเคือง……
ในใจหยินจุนมีความรู้สึกเสียใจอย่างล้นหลาม จากนั้น ก็หมดสติเป็นลมไป
“ประธานหลิน ท่าน ท่านอภัยให้ตระกูลหยินของเราได้หรือยังครับ?” หยินต้าชิวสีหน้าหวาดกลัว ถามอย่างระมัดระวัง
หลินอิ่งสีหน้าเรียบเฉย พูดว่า “คริส เซ็นสัญญาให้เขาหนึ่งฉบับ”
“ครับ ประธานหลิน”
คริสพยักหน้าอย่างเคารพ ดีดนิ้วทันที เลขาธุรการที่ติดตามอยู่ข้างกาย ก็ยื่นเอกสารสัญญาที่เตรียมมาให้อย่างรวดเร็ว
คริสหยิบปากกาจากกระเป๋าเสื้อ เซ็นชื่อลงไปในเอกสาร แล้วให้เลขานำสัญญายื่นให้หยินต้าชิว
“ขอบคุณประธานหลิน บุญคุณของประธานหลิน ขอบคุณมากครับ”
หยินต้าชิวถือสัญญาฉบับนี้ไว้ด้วยความรู้สึกตื้นตัน ตั้งใจอ่านอย่างละเอียด
สีหน้าเขาแดงก่ำ ทั้งดีใจทั้งเศร้า
คำพูดประโยชน์เดียวของหลินอิ่ง ให้ลูกน้องเซ็นชื่อเท่านั้น ก็มีมูลค่าหลายร้อยล้าน
นี่ก็คือผู้มีอำนาจที่แท้จริง แค่ชั่วพริบตาเดียว ก็ตัดสิบชีวิตของคนมากมาย
มีสัญญาฉบับนี้แล้ว หยินต้าชิวก็สามารถต่อชีวิตได้แล้ว รักษากิจการของครอบครัวไว้ ไม่ต้องให้ถึงขั้นครอบครัวแตกแยกล้มละลาย..
“ประธานฉู่ เรื่องทางด้านสมาคมธุรกิจเมืองก่าง ก็ให้คุณจัดการเลย ส่วนรายละเอียด คุณไปคุยกับหยินต้าชิว” หลินอิ่งพูดอย่างเรียบเฉย “ผมยังมีธุระ ต้องกลับไปก่อน”
“คุณหลิน เรื่องทางสมาคมธุรกิจเมืองก่าง ผมจะจัดการให้เรียบร้อยเอง” ฉู่สงซานพูดอย่างจริงจัง “เชิญท่านกลับได้ครับ”
หลินอิ่งพยักหน้า เดินออกจากโรงแรมเชียงเจียง
“ประธานหลิน เดินทางปลอดภัย” หยินต้าชิวพูดจาอย่างเคารพและอ่อนน้อม
หยินต้าชิวรู้ดี สถานการณ์วันนี้ เขาถือว่าอยู่เรือลำเดียวกับหลินอิ่งแล้ว
หลินอิ่งสามารถช่วยชีวิตเขาได้ เช่นเดียวกันกับสามารถเหยียบเขาให้ตายได้
สิ่งที่เขาทำได้ ก็คือทำตามให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ กับเรื่องที่หลินอิ่งมอบหมายให้ฉู่สงซานทำ
หลินอิ่งออกจากโรงแรมเชียงเจียง ฮาเดสและคริสติดตามอยู่ข้างหลัง
เรื่องที่ควรคุยกับฉู่สงซาน คุยกันเรียบร้อยแล้ว
วางแผนเรียบร้อยแล้ว
รอเพียงทางด้านเย่เฮย มารายงานข่าว
หลังจากหลินอิ่งจากไปแล้ว
หยินต้าชิวที่อยู่ในงาน ยังรู้สึกหวาดกลัวในใจ ขนลุกเต็มตัว เหมือนดั่งกลับมาจากนรก
เขาอยู่ในเมืองก่างครึ่งค่อนชีวิต ไม่ว่าธุรกิจหรือโลกแห่งความมืด ยังไม่เคยได้เห็นเด็กหนุ่มคนหสนึ่งที่มีบุคลิกน่ากลัวขนาดนี้
ระหว่างคำพูดที่เรียบง่าย ทำให้คนรู้สึกสิ้นหวังไร้ที่พึ่ง
“พ่อ พ่อทำแขนน้องพิการไปหนึ่งข้าง แลกมากับสัญญาหนึ่งฉบับ มันคุ้มค่าไหม?” หยินปิงถามอย่างระมัดระวัง
“คุ้มค่าแน่นอน ลูกไม่เข้าใจ” หยินต้าชิวพูดอย่างจริงจัง “น้องชายเธอไม่เสียแขนข้างนี้ ตระกูลหยินก็ต้องจบ เธอเข้าใจไหม? พวกเธอควรที่จะไปขอบคุณประธานหลิน ประธานหลินเป็นคนสูงส่ง”
……
เวลาเดียวกัน
สนามบินซิงหวนเมืองก่าง
เครื่องบินส่วนตัวลำหนึ่งจอดเทียบอยู่กลางสนามบิน
ชายหนุ่มชุดสูทสีขาวค่อยๆเดินลงจากเครื่อง โดยมีบอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งเข้าแถวรออยู่
สถานที่ไม่ไกลนัก มีขบวนรถจอดอยู่เป็นแถว มีชายหนุ่มสีหน้าเย็นชาแต่ละนายยืนรออยู่ ล้วนมารับเที่ยวบินนี้
“ยินดีต้อนรับคุณชายจ้าวมาเยือนเมืองก่าง”
ภายในสนามบิน เสียงดังดั่งคลื่นซัดแรง
ชายหนุ่มถอดแว่นกันแดดออก เผยหน้าตาอันหล่อเหลา สายตาเฉียบคมดั่งใบมีด ท่าทางสง่าไม่ธรรมดา
“เหล่าหม่า จับตาดูตำแหน่งของหลินอิ่งในเมืองก่างได้หรือยัง?” จ้าวเฉิงเฉียนถามเสียงเรียบ ท่าทางมีอำนาจ