ซุปเปอร์เจ้าสำราญ - บทที่ 430 อยากได้เงินเท่าไหร่หยิบเองเลย
“หมายความว่ายังไง? นายปิดสัญญาณทั้งอาคาร นานอยากทำอะไร?”
รองหัวหน้าสมาคมมองหลินอิ่งด้วยสีหน้าหวาดกลัว ในใจรู้สึกไม่ดี
สีหน้าของทุกคนที่นั่งในนี้ ต่างก็หวาดกลัวสงสัย
คราวนี้ คนหน้าโหดเข้ามาเยอะขนาดนี้ ท่าทางแบบนี้ ทำพวกเขาชะงักกันทุกคน
จากสายตาของพวกเขา ก็ต้องดูออกอยู่แล้ว คนที่หลินอิ่งพามากลุ่มนี้ แต่ละคนก็คือนักฆ่าโหดมือเปื้อนเลือดกันทั้งนั้น
หลินอิ่งสีหน้าเรียบเฉย นั่งพิงเก้าอี้ ดีดนิ้วดัง
ทันใดนั้น มีทีมงานการตลาดกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา ในมือต่างถือกระเป๋าสีเงินทุกคน
ฮวั๊ก
กระเป๋าสีเงินกว่าสี่สิบใบโยนไว้บนโต๊ะประชุม
คั๊กคั๊ก
ทีมงานการตลาดเปิดกระเป๋าออกอย่างถนัด ข้างในเป็นธนบัตรสีเขียวเต็มกระเป๋า
ในกระเป๋าทุกใบมีเงินดอลลาร์เป็นก้อนๆวางอยู่ในกระเป๋า
ตรงหน้าของสมาชิกทุกคนวางกระเป๋าเงินดอลลาร์สองใบ ทุกใบอย่างน้อยห้าสิบล้าน
เงินสดหนึ่งร้อยล้าน วางอยู่ตรงหน้าแบบนี้ ผลกระทบแรงขนาดไหน ไม่บอกก็รู้
“คำพูดไร้สาระผมไม่อยากพูดกับพวกคุณแล้ว” หลินอิ่งพูดเสียงเรียบ “อยากได้เงินเท่าไหร่ พวกคุณหยิบเอง”
“คนที่สนับสนุนเรื่องนี้ เอาเงินออกไปได้ ที่ลานจอดรถยังมีเงินอีกสองคันรถ เงินสดสองพันล้าน”
“พวกคุณคิดว่าตัวเองสามารถทำงานได้มากแค่ไหน ก็ไปเอาเอง ถ้าคิดว่าน้อยไป ค่อยมาเอากับผม”
หลินอิ่งพูดจบ
ทันใดนั้น ในห้องประชุมเงียบสงบ
ทุกคนที่นั่งในนี้ กลืนน้ำลาย ในสายตาเต็มไปด้วยความโลภ
พวกเขาตะลึงกับความกล้าในการจ่ายเงินของหลินอิ่ง
พวกเขาต่างก็เป็นอภิมหาเศรษฐีแห่งเมืองก่าง ทรัพย์สินกว่าพันล้าน แต่ก็ต้องตะลึงกับความใจป้ำของหลินอิ่ง
เงินสดพันล้าน บอกเอามาแจกคนก็แจกแบบนี้ ความใจกล้าของหลินอิ่ง ทำให้พวกเขาอึ้งไม่เบา
ทำงานทุ่มเทมากเกินไปแล้ว
“นี่……คุณหลิน เรื่องที่คุณเสนอนี้ มันยากที่จะให้พวกเราสนับสนุน” รองหัวหน้าหนีสีหน้าเปลี่ยนไป ไม่กล้าดูถูกหลินอิ่งแล้ว คำนำหน้าที่เรียกก็เปลี่ยนไป พูดอย่างระมัดระวัง “คุณหลินคุณอยากคุยธุรกิจอะไร ก็คุยได้ แต่ว่า จะให้พวกเราล้มตำแหน่งหัวหน้าของคุณท่านจี้ เกรงว่าจะยากเกินไป……”
“ใช่ คุณหลิน หรือไม่คุณเปลี่ยนข้อเสนออื่น จากความจริงใจของคุณ อยากจะเข้าร่วมสมาคมธุรกิจเมืองก่างไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” รองหัวหน้าสมาคมโจ๋ปรับแว่นตา พูดอย่างเชื่องช้า “แต่ว่าจะล้มตำแหน่งคุณท่านจี้ พูดตามตรง ไม่ใช่พวกเราไม่ไว้หน้าคุณ แต่ว่าเรื่องนี้มันเป็นไปไม่ได้”
ทุกคนที่นั่งต่างก็ถูกเงินที่หลินอิ่งเอามาดึงดูด แต่ก็ยังเกรงกลัวต่ออำนาจของจี้ฉงซาน ไม่กล้าสนับสนุนข้อเสนอของหลินอิ่ง
เพราะว่า นั่นคืออภิมหาเศรษฐีแห่งเมืองก่างจี้ฉงซาน
ถึงแม้พวกเขาจะเอาเงินของหลินอิ่ง สนับสนุนเรื่องที่หลินอิ่งเสนอปฏิเสธตำแหน่งหัวหน้าสมาคมเมืองก่างของจี้ฉงซาน
แต่ว่า รับเงินนี้ไปก็ต้องมีชีวิตใช้
กลับไปแล้วต้องถูกจี้ฉงซานเอาให้ตายแน่
“เหอะ ค่อนข้างน่าสนใจ หลินอิ่ง ฉันนึกขึ้นได้แล้ว คุณก็คือเถ้าแก่ที่อยู่เบื้องหลังหลินซื่อกรุ๊ป นายทุนใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังคริส?”
ทันใดนั้น รองหัวหน้าหลี่ที่ไม่พูดสักคำ หัวเราะเย็นชาพูดขึ้นมา จ้องหลินอิ่งสายตาเย็นชา
“คุณรู้ไหม หลินซื่อกรุ๊ปของคุณผิดระเบียบธุรกิจเมืองก่าง และอยู่ในบัญชีดำของสมาคมธุรกิจเมืองก่างเราแล้ว ถูกต่อต้านแล้ว” รองหัวหน้าหลี่ค่อยๆพูด “คุณยังกล้ามาเจรจาธุรกิจในเมืองก่างอีก? ทำไม? กลัวจนเต้นแร้งเต้นกาแล้วเหรอ กลัวสมาคมของพวกเราทำให้ล้มละลาย?”
หลินอิ่งขมวดคิ้ว สายตาเย็นชามองไปที่รองหัวหน้าหลี่
“ประธานหลิน รองหัวหน้าสมาคมหลี่ท่านนี้ เป็นคนที่จี้ฉงซานจัดไว้ในสมาคมเมืองก่าง เป็นเลขาคนสำคัญรับผิดชอบด้านธุรการการเงินทั้งหมดของจี้ฉงซาน” หยินต้าชิวพูดแนะนำอยู่ข้างหลินอิ่ง
หลินอิ่งพยักหน้า มุมปากยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา
“คุณคิดว่า ลำพังคุณ สามารถต่อต้านหลินซื่อกรุ๊ปของผมได้?” หลินอิ่งมองรองหัวหน้าสมาคมหลี่อย่างเรียบเฉย
หัวหน้าสมาคมหลี่หัวเราะเย็นชา ท่าทางไม่ใส่ใจ
“ทุกท่าน ผมเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้แล้ว คุณหลินท่านนี้ ก็คือประธานของหลินซื่อกรุ๊ปที่ก่อนหน้านี้สมาคมของพวกเราประกาศปิดกั้น” หัวหน้าสมาคมหลี่พูดด้วยสีหน้าสนุก “คุณหลินท่านนี้ ไม่มีธุรกิจอะไรทำในเมืองก่างแล้ว บริษัทของเขาในตลาดหุ้นเสียหายวันละเป็นร้อยล้าน พวกคุณรู้ไหมว่านี่เป็นเพราะอะไร?”
“คุณหลิน คุณไม่รู้ใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นผมมาบอกคุณ” หัวหน้าสมาคมหลี่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“เพราะว่าคุณต่อต้านกับคุณท่านจี้อย่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง คุณท่านจี้ให้ผมควบคุมตลาดหุ้น บริษัทของคุณ จากการควบคุมของผม สูญเสียเงินทุนทุกวันวันละเป็นร้อยล้าน”
“ออ?” หลินอิ่งมองรองหัวหน้าสมาคมหลี่อย่างสนใจ “เสียหายวันละร้อยล้าน ผมกล้าเล่น ถ้าอย่างนั้นจี้ฉงซานที่อยู่เบื้องหลังคุณ เขากล้าเล่นไหม?”
ดูแล้ว รองหัวหน้าสมาคมหลี่ ก็คือคนสำคัญที่ช่วยจี้ฉงซานควบคุมธุรกิจ
ส่วนเขาเองให้คริสจ่อจงธุรกิจทั้งหมดของจี้ฉงซาน สงครามการเงินของทั้งสองฝ่าย ต่างก็เสียหายอย่างรุนแรง เสียหายร้อยล้านทั้งสองฝ่าย สิ่งที่สู้กันก็คือพื้นฐาน ดูว่าใครทนรับความพ่ายแพ้ไม่ได้ ออกจากเมืองก่างก่อน
“คุณรู้ไหม? ในเมืองก่าง ไม่มีใครมีเงินกว่าคุณท่านจี้?” รองหัวหน้าสมาคมจี้พูดอย่างเย็นชา
“คนที่ใกล้ล้มละลาย วิ่งมาอวดรวยอะไรที่สมาคมธุรกิจเมืองก่าง? คุณคิดว่าเอาเงินแค่นี้มา ก็สามารถซื้อสมาชิกทั้งหมดในสมาคมธุรกิจได้เหรอ?”
“อยากล้มคุณท่านจี้? คุณสามารถเสนอราคานี้ได้ คุณท่านจี้ก็ออกได้”
“ในฐานะตัวแทนของคุณท่านจี้ในสมาคม ผมขอแจ้งให้ทุกท่านทราบ เงินของหลินอิ่ง พวกคุณรับได้หรือไม่ ในใจพวกคุณรู้ดี”
หัวหน้าสมาคมหลี่สีหน้าเคร่งขรึม ท่าทางมั่นใจแจ้งเตือนทุกคนในนี้
ทันใดนั้น ทุกคนที่นั่งในห้องประชุม สีหน้าต่างก็ครุ่นคิดอย่างเคร่งเครียด
พวกเขารู้เหตุผลที่หลินอิ่งมาแล้ว
พูดตามตรง พวกเขาไม่เห็นดีกับเรื่องที่หลินอิ่งจะต่อต้านกับจี้ฉงซาน
“คุณหลิน หัวหน้าสมาคมหลี่พูดถูก คุณให้เงินเท่าไหร่ก็ไม่มีประโยชน์ คุณมีปัญญาออกเงิน คุณท่านจี้ก็มีปัญญา เพราะฉะนั้น คุณก็อย่าคิดว่าพวกเราจะถูกคุณซื้อได้ง่ายๆ” รองหัวหน้าสมาคมหนีพูด “อีกอย่าง พฤติกรรมของคุณตลกสิ้นดี ยังเอาบอดี้การ์ดทั้งกลุ่มมาหาเรื่องที่สมาคมอีก ทุกคนในนี้มีใครไม่ใช่คนใหญ่โตมีชื่อเสียง? ใช้อำนาจข่มขู่ ไม่มีประโยชน์”
“ใช่แล้ว คุณหลิน พฤติกรรมของคุณทำให้ผมสงสัยในปัญญาสมองของคุณ” รองหัวหน้าสมาคมหลี่พูดจาหัวเราะเยาะ “เอาเงินสดมารับซื้อคนในสมาคม? ยังเรียกทีมบอดี้การ์ดมายึดสถานที่? คุณคิดว่าเป็นเรื่องเด็กเล่นเหรอ?”
“เหอะเหอะ การกระทำต่ำต้อยแบบนี้ ใช้ในสถานที่อื่นอาจจะมีประโยชน์ ใช้วิธีนี้ในสมาคมเมืองก่าง มันเป็นเรื่องตลกสิ้นดี เท่าที่ฉันดูแล้ว นายก็แค่หมดหนทางแล้ว หมดปัญญาสู้กับคุณท่านจี้แล้ว ถึงได้รีบร้อนจนใช้วิธีแบบนี้?”
หลังจากรู้เรื่องราวความเป็นมาแล้ว ในใจพวกเขาก็มีเพียงแค่ความดูถูก
หลินอิ่งเอาเงินออกมามากมายขนาดนี้แล้วยังไง? เงิน? ทุกคนในนี้มีใครขาดบ้าง?
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่า หลินอิ่งจะต่อต้านจี้ฉงซาน ใช้วิธีการแบบนี้ ก็อยากล้มอภิมหาเศรษฐีเมืองก่าง ตลกสิ้นดี
“ออ? รองหัวหน้าสมาคมหลี่ คุณไม่ขาดเงินใช่ไหม?” หลินอิ่งพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “คุณคิดว่าวิธีของผมตลก?”
“หรือว่าไม่ตลกเหรอ? พูดตามตรง วิธีการของคุณ ไม่มีแม้แต่สิทธิ์ในการเป็นคู่ต่อสู้กับคุณท่านจี้เลย” หัวหน้าสมาคมหลี่พูดอย่างเย็นชา
หลินอิ่งพยักหน้า ไม่ได้พูดมาก ดีดนิ้วดังส่งสัญญาณให้ฮาเดส
ปัง
ฮาเดสพุ่งเข้าไป ตบหน้ารองหัวหน้าสมาคมหลี่ กดตัวเขาไว้บนโต๊ะขยับไม่ได้
“แก ไอ้แซ่หลิน แกอยากทำอะไร?”
ปัง
ฮาเดสสีหน้าโหดเหี้ยม หยิบปืนDesert Eagleออกมาจี้อยู่บนขมับของรองหัวหน้าหลี่ ลั่นไกทันที
เลือดสาดกระจาย รองหัวหน้าสมาคมหลี่ไร้ลมหายใจทันที ล้มนอนอยู่บนโต๊ะ
“พวกคุณคิดว่า ผมมาเพื่อถามความเห็นของพวกคุณเหรอ?” หลินอิ่งมองหน้าทุกคนด้วยสีหน้าเฉยชา พูดเสียงเรียบ
ทันใดนั้น ทุกคนที่นั่งในนี้ ตัวสั่น สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่ละคนตัวสั่นไม่กล้าพูดอะไรแม้แต่คำเดียว
พวกเขาทุกคนตกใจหัวใจเต้นแรง แม้แต่วิญญาณยังสั่น มองไปที่หลินอิ่ง เหมือนกับกำลังมองอสูรร้ายตัวหนึ่ง